ปัญหาใหญ่สำหรับหลายคนเมือต้องไปเที่ยวยุโรป อยากได้รูปสวยๆแต่งตัวไม่เอ้าท์ ไม่ดูเป็นตัวประหลาด
เมื่อทุกอย่างลงตัวภาระสุดท้ายก็คือการจัดกระเป๋าเดินทาง ทริปยุโรป12วัน แบบเดินทางเอง หรือ backpack นั่นแหล่ะ
ตัวอย่างที่เล่าสู่กันฟังในครั้งนี้พวกเรา 8 คนเดินทางกันเองในกลุ่มเพื่อน ตามไปอ่านบันทึกการเดินแบบแอบเมาท์ได้ที่
http://ppantip.com/topic/35453302
backpack ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ แบบคุ้มค่าเงิน
จริงๆแล้วไม่มีจุดยืนอะไรที่ชัดเจนการแต่งกายของแต่ละคนก็ต้องตามสไตล์ของตนเองเป็นที่ตั้ง เพียงแค่เรารู้จักเลือก
เลือกยังไง
ว่ากันด้วยทริปที่พวกเรา แสร้งว่าเป็น backpacker
1. ถามตัวเองก่อนไปไหน เดินทางยังไง
ตอบ: อันนี้สำคัญถ้าคุณไปกับทัวร์คุณจะเอารองเท้า10คู่ กระเป๋าเปลี่ยนทุกวัน หรือจะเอาชุดไปเผื่อเลือกแค่ไหนก็ได้
เพราะไม่ต้องลากระเป๋าเอง เต็มที่ก็แค่เข็นขึ้นลงจากรถบัส แต่!! ถ้าคุณเดินทางเอง วางแผนให้ดีค่ะ ขึ้นรถ ลงเรือ รถไฟ รถบัส
ไม่ควรทำตัวให้เกะกะเป็นภาระให้กับผู้โดยสารอื่นๆด้วยเพราะเป็นการเดินทางสาธารณะ กระเป๋าเดินทางขนาดมาตรฐาน แข็งแรง
มีล้อที่ใช้การได้ครบ 4 ล้อ เพราะถนนในยุโรปส่วนใหญ่เป็นหินหรืออิฐบล็อค ช่องใส่ประเป๋าเดินทางบนรถสาธารณะก็มีขนาดจำกัด
2. อะไรบ้างที่เรียกว่าจำเป็น
ตอบ : ในที่นี้จะไม่พูดถึงของใช้ตามเช็คลิสต์เดินทางต่างประเทศทั่วไปนะคะเพราะหาได้ตาม google มากมาย
มาเข้าเรื่องการแต่งตัวค่ะ จะสวยแค่ไหนสิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะลืมถ้าเที่ยวยุโรปหน้าร้อน คือ
" ครีมกันแดด แว่นกันแดด หมวก ผ้าพันคอ รองเท้าที่ใส่สบายที่สุดใน9โลก กระเป๋าที่ใส่ accessories ในแต่ละวัน "
2.1 เพราะอะไร : ก็แหมมมมม พระอาทิตย์ตก4ทุ่มนี่คะ เวลาขึ้นเขาก็ใกล้ชิดพระอาทิตย์ซะขนาดนั้น เหรียมกันยันปลายเล็บ
2.2 ผ้าพันคอเอาไปทำไมไหนบอกหน้าร้อน : จำเป็นค่ะ เวลาอากาศเย็นเอามาห่มกันลมได้ เวลาร้อนเอามาคลุมกันแดดเผา
เดินทางบนรถไฟก็หยิบมาม้วนๆหนุนคอได้
2.3 ครีมกันแดดแค่ไหนดี : ทีแรกก็ทาแค่ปกติ แต่พอเจอของจริงเข้าให้ทาตั้งแต่ปลายเล็บมือจนถึงปลายเล็บเท้าเถอะค่ะ
ถึงแม้จะไม่ร้อนแบบไทยอากาศเย็นสบายแต่หน้าร้อนที่ยุโรปท้องฟ้าเปิดไม่มีเมฆเลย ฟ้าสวยค่ะ แต่เราเกรียม
2.4 หมวกไม่ใส่ก็ได้มั้งเดี๋ยวผมเสียทรง : อันนี้แล้วแต่ค่ะ เพียงแต่เราเองอยากเซฟไว้อีกชั้นนอกครีมกันแดดแล้วขอหมวกอีกที
จะว่าไปก็เป็นพร็อพใส่เก๋เพื่อให้รูปดูเก๋นะคะ พอดีเราเป็นคนชอบสะสมหมวกอยู่แล้วด้วยงานนี้เลยสนุกมือเลยเปลี่ยนทุกวัน
2.5 แว่นกันแดดลืมเอาไป : ก็ไม่เป็นไรค่ะแต่บางทีเราต้องไปบนยอดเขาหรือตามทุ่งดอกไม้ หรือเจอหิมะมันขาวแสบตา
แว่นจะช่วยในการมองเห็นเพื่อเดินได้อย่างไม่พลาดไม่ลื่นได้ดีเช่นรองเท้า แถมไม่ต้องหรี่ตา ให้เกิดตีนกาอีกด้วยเวลาแสงจ้า
2.6 รองเท้ากี่คู่ดีล่ะ : เอาที่สบายใจเลยจร้า ส่วนตัวเราเองเลือกคู่ที่ใส่แล้วคิดว่าสบายที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมิวายไปซื้อใหม่อยู่ดี
บางคนอยากสวยลงทุนซื้อคู่ใหม่ไม่ว่ากันค่ะแต่กรุณาใส่เดินในไทยจนชินซัก 10 วนมาก่อนในชีวิตประจำวันนะคะไม่ต้องกลัวมันเก่า
เพราะบางคนก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ารองเท้าดีๆมันช่วยให้เราเที่ยวสนุกได้ยังไง ในทริปนี้เพื่อ่นร่วมทริปยอมโยนหลุยส์คู่นะหลายหมื่น
แล้วหนมาใส่รองเท้าผ้าใบค่ะ นอกจากจะทำให้เราเที่ยวสนุก ลุยได้เต็มที่ ยังช่วยลดอาการเมื่อยล้า ปวดขา ปวดเท้า สนุกขึ้นเยอะ
จะห่วงอะไรรองเท้าผ้าใบสมัยนี้ เริ่ดซะไม่มี ตามแฟชั่น ตามเทรนด์กันแต่ชอบเลย จริงๆเราก็งอกรองเท้ามาอีก 4 คู่เพราะกิเลส
เลยเป็นการ mix & match ให้เข้ากับเสื้อผ้าไปเลยซะงั้น บางวันก็อากาศแห้ง บางทีก็มีฝนตก โอ๊ยสารพัดจะเจอ
รองเท้าที่เรามั่นใจตอบโจทย์ได้ดีในตัวของมันเองค่ะ อย่าลากแตะนะคะดาวขอร้อง ไม่สุภาพค่ะแม้จะใส่เฉพาะตอนนั่งเครื่องก็เเถอะ
สรุป ถ้าจะให้แนะนำเอาไป 2 คู่สลับกันใส่เผื่อมันสุดจะทนก็เปลี่ยนได้ แต่ถุงเท้าเอาไปให้ครบวันเวลาจัดกระเป๋ากลัวเยอะก็ให้
ยัดไว้ในรองเท้าอีกคู่ที่เราเอาไปเผื่อได้เลยค่ะ ประหยัดพื้นที่
2.7 กระเป๋าหิ้วหรือสะพายดี : เลือกใบที่คิดว่าไม่เป็นภาระสำหรับตัวเอง และใส่อขงใช้ต่างๆในแต่ละวันที่เดินทางได้พอ(ในข้อ2.1-2.6)
ในทริปเรามีตั้งแต่หิ้ว Hermes , Louis limited , MCM limited , ไปจนถึงกระเป๋าเป้เรียบๆ จะยังไงก็ได้ใช้อะไรอยู่ก็เอาใบนั้นไป
แต่!
ถ้าไม่คิดอะไรมากกรุณาเลือกกระเป๋าที่ปลอดภัยต่อมิจฉาชีพด้วย ไม่ล่อตาล่อใจ มีระบบเซฟตี้ที่ดี เช่น มีกระเป๋าสำหรับใส่บัตรเครดิต
แบบป้องกัน skimmer จำเป็นนะคะสำหรรับคนที่มีวงเงินในบัตรค่อนข้างสูง คงไม่สนุกถ้าบัตรอยู่กับตัวแต่ไม่มีวงเงินเหลือแล้ว
หาซื้อได้ตามห้างชั้นนำในไทย แผนกที่เกี่ยวกับการเดินทางแล้วบอกเค้าว่าหากระเป๋าแบบป้องกัน skimming(การขโมยข้อมูลบัตรฯ)
เป้ดีๆสำหรับการเดินทางจะมีลวดสลิงเล็กๆไว้กันกระชากหรือตัดสายด้วยค่ะ มีซิปล็อคชั้นดี มีช่องใส่เงินที่ล้วงลำบากสำหรับโจร
ส่วนตัวเราใช้เป้ที่เราชอบค่ะใส่ได้เยอะดีพวกพร๊อพเยอะ 5555 แถมดีเวลาไปซื้อของไม่อยากหิ้วก็ยัดใส่เป้สะพายหลังเลยง่ายๆ
เดินเที่ยวแล้วมาหิ้วถุงเป็นยายเพิ้งก็ไม่งามน๊า ของก็อยากได้ก็คงต้องวิธีนี้แหล่ะ อีกทั้งเป้จะช่วยกระจายน้ำหนักไม่ทำให้ปวดหลัง
เหมือนการสะพายกระเป๋าแล้วปวดไหล่ข้างเดียว แต่เพื่อนชั้นเธอหิ้ว birkin ได้ตลอด 12 วันเลยคร๊า -_-'
3. แต่งแบบไหนถึงจะดูไม่เวิ่นเว้อ
ตอบ : ก่อนอื่นเช็คสภาพอากาศว่าโดยเฉลี่ยกี่องศา แนะนำให้พิมพ์สถานที่ที่เราจะไปแล้วเข้าไปดูใน instragram เพระาจะมีนักท่องเที่ยว
หรือผู้คนในแถบนั้นโพสต์และแชร์รูปอัพเดทตลอดเวลา ทำให้เรารู้ว่าใน3-4วันข้างหน้าที่เราจะไปก็คงประมาณนี้แหล่ะ ไม่ต้องแบคเสื้อโค้ท
ขนมิ้งค์ไป หรือ จะเอากางเกงยีส์ขาสั้นไปดี อีกอย่างก็สร้างความคุ้นเคยให้ตัวเองว่าโดยปกติชาวบ้านที่ไปย่านนั้นเค้าแต่งตัวกันสไตล์ไหน
บางคนอาจจะคิดว่าใส่บูทดูสวยแต่พอสถานที่ๆคุณไปเค้าใส่ผ้าใบกันหมด ก็พลอยทำให้หมดความมั่นใจไปอีก แต่ถ้ามั่นมากก็ไม่ว่ากันค่ะ
ประเด็นคือ เลือกเสื้อผ้าที่เราใส่แล้วมั่นใจ ชอบในแนวของเรา เป็นตัวของตัวเอง แต่เลือกเนื้อผ้าที่ไม่ต้องห่วงยับหรือหนาจนเกินไป เพราะ
จะทำให้เวลาจัดกระเป๋าแล้วเปลืองพื้นที่ เลือกใส่เสื้อผ้าเรียบๆ เพื่อให้การถ่ายภาพไม่แย่งซีนกันระหว่างฉากและวิวสวยๆกับเสื้อผ้าของคุณ
และยังมีข้อดีตรงที่เพิ่มพร๊อพลงไปได้อีก ทำให้ดูมีดีเทลในการแต่งตัวได้ วันไหนมีแพลนไว้อย่างไรแต่งให้เหมาะกับการเดินทางและสถานที่
เลือกสีสดๆเวลาอยู่กลางธรรมชาติถ่ายรูปแล้วเด่นดีค่ะ ^_^
+เอิ่มมมจะไปขึ้นเขา
ก็เตรียมหมวก แว่น ใส่กางเกง เสื้อกันลม (เสื้อแขนยาวผ้าร่มบางๆที่กันน้ำด้วยก็จะยิ่งดี เพราะฝนตกประปรายเสมอ)
เช็คนิดนึงจะมีฝนมั้ย เอาร่มพับติดกระเป๋าไปซะหน่อยเชื่อเถอะว่ามีประโยชน์ยิ่งนัก
+เอิ่มมมเขาสูงมากมั้ย มีหิมะรึเปล่า
เผื่อพ้าพันคอ และเสื้อกันลมไปด้วยนะคะ รองเท้าเลือกที่เกาะพื้นกันลื่นได้ดี ล้มบนหิมะเจ็บตัวฟรีแถมอายเค้าอีกนะเธอ
+เอิ่มมจะไปเดินเก๋ในเมือง
ก็ใส่ชุดสวยที่อยากจะใส่ กระโปรงได้ เยอะได้ แต่ไม่ใส่เสื้อลายก็จะดี ส่วนใหญ่เค้าใส่สีเรียบๆพื้นๆกัน มั่นมากก็ใส่ลายพร้อยล้ำนำเทรนด์
+เอิ่มมจะขึ้นเครื่อง
เลือกเสื้อและกางเกงหรือกระโปรงที่ไม่อึดอัดแต่ยังดูดี อย่าลืมว่าลงจากเครื่องแล้วไม่ค่อยเปลี่ยนชุดกันหรอกใส่ชุดเดิมเที่ยวต่อกันเลย
ครั้นจะใส่อะลังเป๊ะปังก็อึดอัดชะมัด นอนลำบากก็พักผ่อนไม่พอเที่ยวไม่สนุก ถ่ายรูปจะพลอยฟ้าพลอยฝนหน้าไม่งามอีก
ส่วนตัวเราเลือกใส่ประโปรงยาวกับเสื้อยืดทุกครั้ง เพราะรู้สึกสบายตัวกว่าใส่ยีนส์ (ปกติคนเราใส่ยีนส์นอนจะหลับลงมั้ยนะ)
วันเดินทางออกจากไทย
วันเดินทางกลับจากสวิสเซอร์แลนด์
สำคัญเหนือทุกสิ่งทุกอย่างคืออะไร "ไม่ใส่ของลอกเลียนแบบ หรือใช้ของ copyค่ะ"
จะทุนมากทุนน้อยมันห้ามกันไม่ได้ ขอแค่เลือกใช้เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรืออื่นๆ เช่น นาฬิกา แว่น หมวก ไม่ใช้ของปลอม
เรื่องลิขสิทธิ์ที่นี้ให้เป็นอันดับต้นเลยค่ะ เวลาคุณโดนจับปรับแพงกว่าของที่คุณนำเข้ามาหลายเท่าตัว ยังไม่เท่าอายคนอื่นน๊าาาาา
เราเลือกของที่สวยงามดูดีแบบไม่ต้องแบรนด์เนมก็จ๋าก็ได้ค่ะ อาจจะเรียกว่าไม่มีแบรนด์เลยก็ได้ สบายใจกว่าใส่ของก๊อปนะ
พอเป็นพิธีง่ายๆสำหรับสาวๆที่คิดหนัก ปวดหัวกับการเตรียมเสื้อผ้าไปเที่ยวนอก แบบสบายๆค่ะ
ว่างๆตามมาอ่าน จะลงการแต่งตัวแบบตัวพ่อให้ดู เพื่อนในทริปนี่แหล่ะพ่อยอดเน็ตไอดอลชื่อดัง เสื้อผ้าแต่ละวันเท่ากับเงินเดือน
ทั้งเดือน หรือบางวันพ่อเจ้าประคุณก็เท่ากับเงินเดือนทั้งปีไปเลย
"เอาที่น้องสบายใจเลยค่ะ" คำพูดที่พูดติดปากเสมอเวลาอยู่ในกลุ่ม 5555
Day 1-2-3 เยอรมัน ออสเตรีย Munich , Autria innsbruck , Nordkette
Day 4-5-6
สวิสเซอร์แลนด์ Zurich ,Bern ,Thun , Grindelwald , Titlis , Engstligenalp , Gurten , Barenpark (เท่าที่จำชื่อได้)
Day 7-8-9-10-11-12
สวิสเซอร์แลนด์ Zurich ,Bern ,Thun , Grindelwald , Titlis , Engstligenalp , Gurten , Barenpark ,Adelboden (เท่าที่จำชื่อได้)
หวังว่าจะช่วยหลายๆคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่วนวิธีจัดกระเป๋ายังไง เดินทางแบบไหน ค่อยว่ากันนะจ๊ะ
เที่ยวยุโรปจะแต่งตัวยังไงดี แค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอ(เรื่องจริงไม่ต้องมะโน)
เมื่อทุกอย่างลงตัวภาระสุดท้ายก็คือการจัดกระเป๋าเดินทาง ทริปยุโรป12วัน แบบเดินทางเอง หรือ backpack นั่นแหล่ะ
ตัวอย่างที่เล่าสู่กันฟังในครั้งนี้พวกเรา 8 คนเดินทางกันเองในกลุ่มเพื่อน ตามไปอ่านบันทึกการเดินแบบแอบเมาท์ได้ที่
http://ppantip.com/topic/35453302
backpack ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ แบบคุ้มค่าเงิน
จริงๆแล้วไม่มีจุดยืนอะไรที่ชัดเจนการแต่งกายของแต่ละคนก็ต้องตามสไตล์ของตนเองเป็นที่ตั้ง เพียงแค่เรารู้จักเลือก
เลือกยังไง
ว่ากันด้วยทริปที่พวกเรา แสร้งว่าเป็น backpacker
1. ถามตัวเองก่อนไปไหน เดินทางยังไง
ตอบ: อันนี้สำคัญถ้าคุณไปกับทัวร์คุณจะเอารองเท้า10คู่ กระเป๋าเปลี่ยนทุกวัน หรือจะเอาชุดไปเผื่อเลือกแค่ไหนก็ได้
เพราะไม่ต้องลากระเป๋าเอง เต็มที่ก็แค่เข็นขึ้นลงจากรถบัส แต่!! ถ้าคุณเดินทางเอง วางแผนให้ดีค่ะ ขึ้นรถ ลงเรือ รถไฟ รถบัส
ไม่ควรทำตัวให้เกะกะเป็นภาระให้กับผู้โดยสารอื่นๆด้วยเพราะเป็นการเดินทางสาธารณะ กระเป๋าเดินทางขนาดมาตรฐาน แข็งแรง
มีล้อที่ใช้การได้ครบ 4 ล้อ เพราะถนนในยุโรปส่วนใหญ่เป็นหินหรืออิฐบล็อค ช่องใส่ประเป๋าเดินทางบนรถสาธารณะก็มีขนาดจำกัด
2. อะไรบ้างที่เรียกว่าจำเป็น
ตอบ : ในที่นี้จะไม่พูดถึงของใช้ตามเช็คลิสต์เดินทางต่างประเทศทั่วไปนะคะเพราะหาได้ตาม google มากมาย
มาเข้าเรื่องการแต่งตัวค่ะ จะสวยแค่ไหนสิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะลืมถ้าเที่ยวยุโรปหน้าร้อน คือ
" ครีมกันแดด แว่นกันแดด หมวก ผ้าพันคอ รองเท้าที่ใส่สบายที่สุดใน9โลก กระเป๋าที่ใส่ accessories ในแต่ละวัน "
2.1 เพราะอะไร : ก็แหมมมมม พระอาทิตย์ตก4ทุ่มนี่คะ เวลาขึ้นเขาก็ใกล้ชิดพระอาทิตย์ซะขนาดนั้น เหรียมกันยันปลายเล็บ
2.2 ผ้าพันคอเอาไปทำไมไหนบอกหน้าร้อน : จำเป็นค่ะ เวลาอากาศเย็นเอามาห่มกันลมได้ เวลาร้อนเอามาคลุมกันแดดเผา
เดินทางบนรถไฟก็หยิบมาม้วนๆหนุนคอได้
2.3 ครีมกันแดดแค่ไหนดี : ทีแรกก็ทาแค่ปกติ แต่พอเจอของจริงเข้าให้ทาตั้งแต่ปลายเล็บมือจนถึงปลายเล็บเท้าเถอะค่ะ
ถึงแม้จะไม่ร้อนแบบไทยอากาศเย็นสบายแต่หน้าร้อนที่ยุโรปท้องฟ้าเปิดไม่มีเมฆเลย ฟ้าสวยค่ะ แต่เราเกรียม
2.4 หมวกไม่ใส่ก็ได้มั้งเดี๋ยวผมเสียทรง : อันนี้แล้วแต่ค่ะ เพียงแต่เราเองอยากเซฟไว้อีกชั้นนอกครีมกันแดดแล้วขอหมวกอีกที
จะว่าไปก็เป็นพร็อพใส่เก๋เพื่อให้รูปดูเก๋นะคะ พอดีเราเป็นคนชอบสะสมหมวกอยู่แล้วด้วยงานนี้เลยสนุกมือเลยเปลี่ยนทุกวัน
2.5 แว่นกันแดดลืมเอาไป : ก็ไม่เป็นไรค่ะแต่บางทีเราต้องไปบนยอดเขาหรือตามทุ่งดอกไม้ หรือเจอหิมะมันขาวแสบตา
แว่นจะช่วยในการมองเห็นเพื่อเดินได้อย่างไม่พลาดไม่ลื่นได้ดีเช่นรองเท้า แถมไม่ต้องหรี่ตา ให้เกิดตีนกาอีกด้วยเวลาแสงจ้า
2.6 รองเท้ากี่คู่ดีล่ะ : เอาที่สบายใจเลยจร้า ส่วนตัวเราเองเลือกคู่ที่ใส่แล้วคิดว่าสบายที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมิวายไปซื้อใหม่อยู่ดี
บางคนอยากสวยลงทุนซื้อคู่ใหม่ไม่ว่ากันค่ะแต่กรุณาใส่เดินในไทยจนชินซัก 10 วนมาก่อนในชีวิตประจำวันนะคะไม่ต้องกลัวมันเก่า
เพราะบางคนก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ารองเท้าดีๆมันช่วยให้เราเที่ยวสนุกได้ยังไง ในทริปนี้เพื่อ่นร่วมทริปยอมโยนหลุยส์คู่นะหลายหมื่น
แล้วหนมาใส่รองเท้าผ้าใบค่ะ นอกจากจะทำให้เราเที่ยวสนุก ลุยได้เต็มที่ ยังช่วยลดอาการเมื่อยล้า ปวดขา ปวดเท้า สนุกขึ้นเยอะ
จะห่วงอะไรรองเท้าผ้าใบสมัยนี้ เริ่ดซะไม่มี ตามแฟชั่น ตามเทรนด์กันแต่ชอบเลย จริงๆเราก็งอกรองเท้ามาอีก 4 คู่เพราะกิเลส
เลยเป็นการ mix & match ให้เข้ากับเสื้อผ้าไปเลยซะงั้น บางวันก็อากาศแห้ง บางทีก็มีฝนตก โอ๊ยสารพัดจะเจอ
รองเท้าที่เรามั่นใจตอบโจทย์ได้ดีในตัวของมันเองค่ะ อย่าลากแตะนะคะดาวขอร้อง ไม่สุภาพค่ะแม้จะใส่เฉพาะตอนนั่งเครื่องก็เเถอะ
สรุป ถ้าจะให้แนะนำเอาไป 2 คู่สลับกันใส่เผื่อมันสุดจะทนก็เปลี่ยนได้ แต่ถุงเท้าเอาไปให้ครบวันเวลาจัดกระเป๋ากลัวเยอะก็ให้
ยัดไว้ในรองเท้าอีกคู่ที่เราเอาไปเผื่อได้เลยค่ะ ประหยัดพื้นที่
2.7 กระเป๋าหิ้วหรือสะพายดี : เลือกใบที่คิดว่าไม่เป็นภาระสำหรับตัวเอง และใส่อขงใช้ต่างๆในแต่ละวันที่เดินทางได้พอ(ในข้อ2.1-2.6)
ในทริปเรามีตั้งแต่หิ้ว Hermes , Louis limited , MCM limited , ไปจนถึงกระเป๋าเป้เรียบๆ จะยังไงก็ได้ใช้อะไรอยู่ก็เอาใบนั้นไป แต่!
ถ้าไม่คิดอะไรมากกรุณาเลือกกระเป๋าที่ปลอดภัยต่อมิจฉาชีพด้วย ไม่ล่อตาล่อใจ มีระบบเซฟตี้ที่ดี เช่น มีกระเป๋าสำหรับใส่บัตรเครดิต
แบบป้องกัน skimmer จำเป็นนะคะสำหรรับคนที่มีวงเงินในบัตรค่อนข้างสูง คงไม่สนุกถ้าบัตรอยู่กับตัวแต่ไม่มีวงเงินเหลือแล้ว
หาซื้อได้ตามห้างชั้นนำในไทย แผนกที่เกี่ยวกับการเดินทางแล้วบอกเค้าว่าหากระเป๋าแบบป้องกัน skimming(การขโมยข้อมูลบัตรฯ)
เป้ดีๆสำหรับการเดินทางจะมีลวดสลิงเล็กๆไว้กันกระชากหรือตัดสายด้วยค่ะ มีซิปล็อคชั้นดี มีช่องใส่เงินที่ล้วงลำบากสำหรับโจร
ส่วนตัวเราใช้เป้ที่เราชอบค่ะใส่ได้เยอะดีพวกพร๊อพเยอะ 5555 แถมดีเวลาไปซื้อของไม่อยากหิ้วก็ยัดใส่เป้สะพายหลังเลยง่ายๆ
เดินเที่ยวแล้วมาหิ้วถุงเป็นยายเพิ้งก็ไม่งามน๊า ของก็อยากได้ก็คงต้องวิธีนี้แหล่ะ อีกทั้งเป้จะช่วยกระจายน้ำหนักไม่ทำให้ปวดหลัง
เหมือนการสะพายกระเป๋าแล้วปวดไหล่ข้างเดียว แต่เพื่อนชั้นเธอหิ้ว birkin ได้ตลอด 12 วันเลยคร๊า -_-'
3. แต่งแบบไหนถึงจะดูไม่เวิ่นเว้อ
ตอบ : ก่อนอื่นเช็คสภาพอากาศว่าโดยเฉลี่ยกี่องศา แนะนำให้พิมพ์สถานที่ที่เราจะไปแล้วเข้าไปดูใน instragram เพระาจะมีนักท่องเที่ยว
หรือผู้คนในแถบนั้นโพสต์และแชร์รูปอัพเดทตลอดเวลา ทำให้เรารู้ว่าใน3-4วันข้างหน้าที่เราจะไปก็คงประมาณนี้แหล่ะ ไม่ต้องแบคเสื้อโค้ท
ขนมิ้งค์ไป หรือ จะเอากางเกงยีส์ขาสั้นไปดี อีกอย่างก็สร้างความคุ้นเคยให้ตัวเองว่าโดยปกติชาวบ้านที่ไปย่านนั้นเค้าแต่งตัวกันสไตล์ไหน
บางคนอาจจะคิดว่าใส่บูทดูสวยแต่พอสถานที่ๆคุณไปเค้าใส่ผ้าใบกันหมด ก็พลอยทำให้หมดความมั่นใจไปอีก แต่ถ้ามั่นมากก็ไม่ว่ากันค่ะ
ประเด็นคือ เลือกเสื้อผ้าที่เราใส่แล้วมั่นใจ ชอบในแนวของเรา เป็นตัวของตัวเอง แต่เลือกเนื้อผ้าที่ไม่ต้องห่วงยับหรือหนาจนเกินไป เพราะ
จะทำให้เวลาจัดกระเป๋าแล้วเปลืองพื้นที่ เลือกใส่เสื้อผ้าเรียบๆ เพื่อให้การถ่ายภาพไม่แย่งซีนกันระหว่างฉากและวิวสวยๆกับเสื้อผ้าของคุณ
และยังมีข้อดีตรงที่เพิ่มพร๊อพลงไปได้อีก ทำให้ดูมีดีเทลในการแต่งตัวได้ วันไหนมีแพลนไว้อย่างไรแต่งให้เหมาะกับการเดินทางและสถานที่
เลือกสีสดๆเวลาอยู่กลางธรรมชาติถ่ายรูปแล้วเด่นดีค่ะ ^_^
+เอิ่มมมจะไปขึ้นเขา
ก็เตรียมหมวก แว่น ใส่กางเกง เสื้อกันลม (เสื้อแขนยาวผ้าร่มบางๆที่กันน้ำด้วยก็จะยิ่งดี เพราะฝนตกประปรายเสมอ)
เช็คนิดนึงจะมีฝนมั้ย เอาร่มพับติดกระเป๋าไปซะหน่อยเชื่อเถอะว่ามีประโยชน์ยิ่งนัก
+เอิ่มมมเขาสูงมากมั้ย มีหิมะรึเปล่า
เผื่อพ้าพันคอ และเสื้อกันลมไปด้วยนะคะ รองเท้าเลือกที่เกาะพื้นกันลื่นได้ดี ล้มบนหิมะเจ็บตัวฟรีแถมอายเค้าอีกนะเธอ
+เอิ่มมจะไปเดินเก๋ในเมือง
ก็ใส่ชุดสวยที่อยากจะใส่ กระโปรงได้ เยอะได้ แต่ไม่ใส่เสื้อลายก็จะดี ส่วนใหญ่เค้าใส่สีเรียบๆพื้นๆกัน มั่นมากก็ใส่ลายพร้อยล้ำนำเทรนด์
+เอิ่มมจะขึ้นเครื่อง
เลือกเสื้อและกางเกงหรือกระโปรงที่ไม่อึดอัดแต่ยังดูดี อย่าลืมว่าลงจากเครื่องแล้วไม่ค่อยเปลี่ยนชุดกันหรอกใส่ชุดเดิมเที่ยวต่อกันเลย
ครั้นจะใส่อะลังเป๊ะปังก็อึดอัดชะมัด นอนลำบากก็พักผ่อนไม่พอเที่ยวไม่สนุก ถ่ายรูปจะพลอยฟ้าพลอยฝนหน้าไม่งามอีก
ส่วนตัวเราเลือกใส่ประโปรงยาวกับเสื้อยืดทุกครั้ง เพราะรู้สึกสบายตัวกว่าใส่ยีนส์ (ปกติคนเราใส่ยีนส์นอนจะหลับลงมั้ยนะ)
วันเดินทางออกจากไทย
วันเดินทางกลับจากสวิสเซอร์แลนด์
สำคัญเหนือทุกสิ่งทุกอย่างคืออะไร "ไม่ใส่ของลอกเลียนแบบ หรือใช้ของ copyค่ะ"
จะทุนมากทุนน้อยมันห้ามกันไม่ได้ ขอแค่เลือกใช้เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรืออื่นๆ เช่น นาฬิกา แว่น หมวก ไม่ใช้ของปลอม
เรื่องลิขสิทธิ์ที่นี้ให้เป็นอันดับต้นเลยค่ะ เวลาคุณโดนจับปรับแพงกว่าของที่คุณนำเข้ามาหลายเท่าตัว ยังไม่เท่าอายคนอื่นน๊าาาาา
เราเลือกของที่สวยงามดูดีแบบไม่ต้องแบรนด์เนมก็จ๋าก็ได้ค่ะ อาจจะเรียกว่าไม่มีแบรนด์เลยก็ได้ สบายใจกว่าใส่ของก๊อปนะ
พอเป็นพิธีง่ายๆสำหรับสาวๆที่คิดหนัก ปวดหัวกับการเตรียมเสื้อผ้าไปเที่ยวนอก แบบสบายๆค่ะ
ว่างๆตามมาอ่าน จะลงการแต่งตัวแบบตัวพ่อให้ดู เพื่อนในทริปนี่แหล่ะพ่อยอดเน็ตไอดอลชื่อดัง เสื้อผ้าแต่ละวันเท่ากับเงินเดือน
ทั้งเดือน หรือบางวันพ่อเจ้าประคุณก็เท่ากับเงินเดือนทั้งปีไปเลย
"เอาที่น้องสบายใจเลยค่ะ" คำพูดที่พูดติดปากเสมอเวลาอยู่ในกลุ่ม 5555
Day 1-2-3 เยอรมัน ออสเตรีย Munich , Autria innsbruck , Nordkette
Day 4-5-6
สวิสเซอร์แลนด์ Zurich ,Bern ,Thun , Grindelwald , Titlis , Engstligenalp , Gurten , Barenpark (เท่าที่จำชื่อได้)
Day 7-8-9-10-11-12
สวิสเซอร์แลนด์ Zurich ,Bern ,Thun , Grindelwald , Titlis , Engstligenalp , Gurten , Barenpark ,Adelboden (เท่าที่จำชื่อได้)
หวังว่าจะช่วยหลายๆคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่วนวิธีจัดกระเป๋ายังไง เดินทางแบบไหน ค่อยว่ากันนะจ๊ะ