คือเราเคยผ่าตัดเข่าเมื่อ 3 ปีก่อน เพราะเอ็นหลังเข่าเราฉีกประมาณเซ็นนึง ซึ่งไม่สามารถสมานเองได้(อันนี้หมอบอกค่ะ) เลยจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเย็บเอ็น ก่อนที่มันจะขาดแล้วใช้การไม่ได้เหมือนเดิม หลังผ่าเสร็จหมอก็แนะนำให้กายภาพ ถ้ามีอาการปวดก็แนะนำให้กินยาสำหรับข้อเข่า เพราะผ่าตัดเราโดนเจาะกระดูกเพื่อส่องกล้อง ทำให้เวลาเดินจะมีอาการปวด เพราะกระดูกอ่อนมันช้ำเนื่องจากการเสียดสีและการลงนน.เวลาเดินค่ะ พอช่วงที่เราเริ่มดีขึ้น เราก็ใช้งานมันมากไปหน่อยจนต้องกลับไปหาหมออีกหลายครั้ง ทุกครั้งหมอก็จะเช็คว่าแผลที่เย็บเอ็นด้านในโอเคเหมือนเดิม เราจะเจ็บตรงแผลผ่าด้านนอกกับตรงกระดูกเป็นส่วนมากเพราะเราไม่ค่อยกินนมกับแคลเซียมเสริม จะกินแต่ยาที่หมอสั่งให้ซื้อมากินเท่านั้น บางครั้งก็ลืมกินบ้าง อาการก็ดีขึ้นอย่างช้าๆ จนผ่านไปปีกว่าเราก็โอเคกลับไปเล่นกีฬาปกติ แต่ก็ยังมีอาการปวดที่หัวเข่าเหมือนเดิม เราก็ปรึกษาหมอว่ายังมีอาการแบบนี้อยู่ ก็โดนหมอว่าด้วยอ่ะค่ะเรื่องการกายภาพเพราะที่ขากล้ามเนื้อน้อยมาก จะทำให้เจ็บได้ง่าย เราก็ทำตามอยู่ช่วงนึง แต่หลังจากนั้นเป็นช่วงที่งานเราเยอะมากเลยไม่ค่อยมีเวลาทำกายภาพ บวกกับลืมกินยาแก้พวกข้อเข่าด้วย(เรียกว่าหยุดยาไปเลยก็ได้) หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยแสดงอาการเท่าไหร่ จะแสดงอาการก็ต่อเมื่อออกกำลังกายหนักๆเท่านั้น จนมาช่วงอาทิตย์ก่อน เรารู้สึกแปลกๆที่ขาเราอีกครั้ง เหมือนหลังเข่ามันตึงหน่อยๆ แล้วแปปๆก็จี๊ดเลย ยืนขาข้างนั้นนานมากไม่ได้ จะรู้สึกจี๊ดที่เส้นขึ้นมา ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราเดินเยอะมาก ใช้ขาเยอะมาก พอปวดก็ลองงอเข่า แบบนั่งงอเข่าดูแล้วก็พักแปปนึงก็หาย แต่มาตอนนี้คือเรายืดขานานๆก็ไม่ได้ด้วยค่ะ จะรู้สึกเจ็บ ตอนเดินก็แรกๆก็ปกติ แต่พอสักพักก็จะเหมือนตึงนิดๆด้วยค่ะ เรากลัวมากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมคือเอ็นฉีก ยิ่งช่วงหลังๆเรายิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้นแต่ไม่เยอะมากนะคะ แค่รู้สึกว่าอาการมันชัดมากขึ้น ตอนแรกคิดว่าเพราะอากาศหนาวขึ้นด้วยรึป่าวที่ทำให้เรามีอาการปวด แต่ยังไงก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ "เลยอยากทราบเบื้องต้นว่า อาการแบบนี้คือขาเราผิดปกติอีกแล้วใช่ไหมคะ?" แล้วอาการมันหนักมากไหมคะ อยากรู้วิธีการรักษาเบื้องต้นก่อน เผื่อว่ามันไม่ร้ายแรงมาก หรือไม่เริ่มร้ายแรงเราจะได้ไม่ไปหาหมออ่ะค่ะ แต่ถ้ามันเริ่มหนักขึ้นถึงขั้นอันตรายเราจะไปเลยค่ะ
อาการแบบนี้ บ่งบอกว่าขาเรายังไม่หายดีใช่ไหมคะ แล้วมีโอกาสเป็นหนักขึ้นไหมคะ?