โดยส่วนตัวตั้งแต่ได้ยินข่าว Suicide Squad ก็ไม่ได้สนใจไรมากนัก(นอกจาก 3 นักแสดงนำที่น่าสนใจ) หน้าตานักแสดงคนอื่นๆก็ออกแนวเกรดบี "แต่" เมื่อข่าวออกมาเรื่อยๆ กลับรู้สึกว่า น่าดูมากขึ้น ด้วยโปสเตอร์และตัวอย่างหนังที่มีดีไซน์สุดแนว มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ยิ่งหนังใกล้เข้าก็ยิ่งรู้สึกอยากดูมากไปใหญ่ จากที่ตอนแรกกะว่าจะรอดูกระแสก่อน ค่อยดู(เพราะยังเข็ดๆกับเรื่องก่อน) แต่สุดท้าย ถึงแม้กระแสเกินครึ่งจะไม่ค่อยชอบ ก็คงต้องขอไปพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนละนะ
หนังเริ่มต้นโดยการเล่าที่มาของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งความนานก็แล้วแต่ว่าตัวไหนเด่นมากเด่นน้อย ซึ่งเอาตรงๆนะ แอบน่าเบื่อเหมือนกัน มันดูไม่ค่อยต่อเนื่อง เหมือนตัดแปะๆ เล่ามันทื่อๆเลย คือนั่งโต๊ะกินข้าวแล้วก็เล่าเป็นฉากๆ ทีละคนๆ (ง่ายดีจัง) แล้วฉากเปิดบางคนก็ไม่ได้น่าสนใจ หรือรู้สึกถึงความเก่งอะไร แต่ก็ทนๆไป กะว่า ถึงแก่นหลักของเรื่องก็คงจะโอเคขึ้น
แต่ที่ไหนได้ พอถึงเนื้อเรื่องหลักกลับรู้สึกด้อยลงกว่าเดิมอีก เอาจริงๆบทหนังมันไม่ได้ดีอะไรซักเท่าไร แต่มันก็ยังพอรับได้ ส่วนตัวคิดว่า ผู้กำกับเล่าเรื่องนี้ได้ "ไม่สนุก" เลยซะมากกว่า จังหวะการต่อเนื่องของแต่ละฉากมันไม่ลื่นไหลเลย รู้สึกติดๆขัดๆตลอด โดยเฉพาะเมื่อมี โจ๊กเกอร์ ปรากฎตัวขึ้นมา
สำหรับ โจ๊กเกอร์ เวอร์ชั่นนี้ ขอไม่เอาไปเปรียบกับเวอร์ชั่นอื่นเลยนะ เอาแค่ภาคนี้เท่านั้น ขอบอกเลยว่า ดูล้นๆเกินๆ แบบเหมือน ตั้งใจมากไป (แนว วอนนาบี) ไร้เสน่ห์ และ ไม่น่าจดจำเลยซักกะฉาก คือลุคมันเท่นะ หล่อ การแต่งตัวทุกอย่างคือ ดูดี แต่ว่า "การกระทำ" มันดูไร้ที่ไปที่มา ดูไม่มีเหตุผล ดูเหมือนหัวหน้าแก๊งบ้าๆที่ไม่รู้ว่า มันมีดีอะไร เดี๋ยวก็มา เดี๋ยวก็ไป มาก็มากากๆ บางฉากก็โคตรจงใจ(ฉากเอามีดมาวางเรียงๆกัน แล้วนอนหัวเราะเงี้ยะ คือไร ว่างเหรอเอามีดมาเรียงเล่น) สำหรับผม โจ๊กเกอร์ มันตัวประกอบที่แต่งตัวเก่งเท่านั้นแหละ
เนื่องจากตัวละครมันเยอะมาก ผู้กำกับ(เขียนบทเองด้วย) ก็คงพยายามเกลี่ยให้ความสำคัญไปถึงทุกคนให้เยอะที่สุด แต่ว่านำ้หนักมันก็ไปที่ วิลสมิธ กับ ฮาร์ลีย์ ควิน มากซะจน เวลาไปเล่าตัวละครอื่นแล้วมันเหมือนไม่กลมกล่อมเท่าไร
ฉากแอ๊คชั่นเกือบดีเลยแหละ บางฉากนี้บิ๊วได้อารมณ์อยู่นะ ได้เท่ ได้สะใจเหมือนกัน แต่คิดว่า น่าจะทำได้ดีกว่านี้อ่ะ เหมือนมันยังไม่สุด บวกกับเนื้อเรื่องที่เดาทางได้(โคตร)ง่าย มันเลยพอเดาได้ว่า แอ๊คชั่นต่อไปมันจะประมาณไหน สรุปยังไง ราวๆนั้น
สิ่งที่ชอบมากและถือว่าดีที่สุดในหนังคือ ฮาร์ลีย์ ควิน ที่มีบุคลิกที่มีเสน่ห์แบบไม่อยากละสายตาเลยล่ะ (แต่ก็งงสเกลระดับพลังของเธอนะ) คืออารมณ์คุณเธอมันเดาทางยาก เรียกว่าทุกฉากที่เธอโผล่ถือว่าหนังดูน่าสนใจขึ้นทันที พูดได้เลยว่า ถ้าไม่มีเธอคนนี้ ผมคงหลับไปนานแล้ว
อีกคนที่ถือว่าตามมาตราฐานและช่วยหนังได้อีกคนก็คือ วิล สมิธ ที่ถึงแม้จะดูเหมือนเล่นเป็นสไตล์เฮียเค้าแบบเดิมๆ แต่มันก็เหมาะอยู่นะ ผมไม่รู้หรอกว่าในคอมมิค นิสัยเดธช็อตเป็นไง แต่ในเรื่องนี้ถือว่าโอเคเลย เก่งและมีแนวทางของตัวเองชัดเจนดี (แต่แอ๊คชั่นเฮียสามารถทำได้ดีกว่านี้อีกนะ)
ส่วนนักแสดงที่ไม่ชอบที่สุด รำคาญที่สุด ก็ป้า วิโอล่า หรือรับบทเป็นอะแมนด้า ผู้เสนอให้มีโครงการ suicide squad ขึ้นมานี่แหละ (เข้าใจว่าตัวละครนี้ จะคล้ายๆ นิค ฟิวรี่ เวอร์ชั่นผู้หญิง) คือป้าครับ ผมนี่แอบเบื่อการแสดงของป้าตั้งแต่ต้นเรื่องละนะ ที่มานั่งเล่าที่มาแต่ละคน(อันนี้ยังรับได้) แต่ตลอดทั้งเรื่อง ป้าเล่นเป็นหน้าเดียวเหรอ น้ำเสียงราบเรียบ หน้านิ่งแบบเดิมๆ จนคิดว่า "นี่โดนสะกดจิตมาเหรอ เดี๋ยวตอนท้ายเฉลยใช่ไหม" คนหรือหุ่นยนต์วะ นึกว่าปริ้นหน้ามาแปะนะเนี่ย น่ารำคาญสุดละตัวนี้ ฮ่าๆ (แม่มดอีกคนนึง สวยน่ารักนะ ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอก พอเป็นแม่มดเท่านั้นแหละ ยืนพูดเฉยๆไม่ได้เหรอไง ต้องเต้นไปมาด้วยเหรอ ฮ่าๆ)
อ๋อ อีกอย่างที่ชอบมากคือ CG ที่สวยมากกกก แม่มด กับ พวกพลังต่างๆคือ สวยงาม อย่างกับหลุดมาจากในเกมที่เคยเล่นเลย สวยจริงจัง มีดีไซน์ที่ดีเลยแหละ อย่างที่บอกไปว่าหนังเรื่องนี้มีดีไซน์ที่สวยและเจ๋งมากๆๆๆ แต่น่าเสียดายที่มันกลับทำออกมาได้ไม่สนุกอะไรเท่าไรเล๊ย
เรื่องนี้น่าจะเป็นหนังที่มีเพลงประกอบเยอะใช้ได้เลยนะ เพราะใส่เข้ามาถี่มาก แต่มันก็ไม่ได้สื่ออะไร เหมือนแบบ ผู้กำกับชอบเพลงนี้แหละ เลยใส่เข้ามาไปงั้นๆ (ไม่เหมือน GOTG ที่อันนั้นเพลงมันมีความหมายของมันอยู่และมาในจังหวะที่โอเคกว่า)
โดยสรุปละกันนะ แฟน DC หรือหนังฮีโร่ ก็คงจะไปดูกันอยู่แล้ว แต่สำหรับคอหนังแอ๊คชั่น ก็พอดูได้อยู่นะ ผมว่ามันก็สนุกอยู่ในระดับนึง แบบไม่ได้น่าเบื่อมาก เทคนิค CG สวยดี แอ๊คชั่นมีเยอะพอมควรเลย เล่าเรื่องไม่งงอะไรมาก แต่จะงงตรงที่ "ใส่ไอนี่มาทำไม" มากกว่า ฮ่าๆ แต่ก็ไม่ได้มีไรให้จดจำเลยซักกะฉาก จบแล้วจบกัน พูดแล้วก็น่าเสียดาย มีวัตถุดิบชั้นดีอยู่ขนาดนี้แล้ว แต่ผู้กำกับดันเล่าได้ไม่สนุกซะงั้น เฮ้อ
ปล.แบทแมน กับ เดอะ แฟลช ไม่ต้องมีก็ได้นะ ฮ่าๆ
[CR] Suicide Squad = เนี่ยะ ก็ทำหนังซะอย่างเนี้ย ไม่ต้องไปว่านักวิจารณ์เค้าหรอกครับ
หนังเริ่มต้นโดยการเล่าที่มาของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งความนานก็แล้วแต่ว่าตัวไหนเด่นมากเด่นน้อย ซึ่งเอาตรงๆนะ แอบน่าเบื่อเหมือนกัน มันดูไม่ค่อยต่อเนื่อง เหมือนตัดแปะๆ เล่ามันทื่อๆเลย คือนั่งโต๊ะกินข้าวแล้วก็เล่าเป็นฉากๆ ทีละคนๆ (ง่ายดีจัง) แล้วฉากเปิดบางคนก็ไม่ได้น่าสนใจ หรือรู้สึกถึงความเก่งอะไร แต่ก็ทนๆไป กะว่า ถึงแก่นหลักของเรื่องก็คงจะโอเคขึ้น
แต่ที่ไหนได้ พอถึงเนื้อเรื่องหลักกลับรู้สึกด้อยลงกว่าเดิมอีก เอาจริงๆบทหนังมันไม่ได้ดีอะไรซักเท่าไร แต่มันก็ยังพอรับได้ ส่วนตัวคิดว่า ผู้กำกับเล่าเรื่องนี้ได้ "ไม่สนุก" เลยซะมากกว่า จังหวะการต่อเนื่องของแต่ละฉากมันไม่ลื่นไหลเลย รู้สึกติดๆขัดๆตลอด โดยเฉพาะเมื่อมี โจ๊กเกอร์ ปรากฎตัวขึ้นมา
สำหรับ โจ๊กเกอร์ เวอร์ชั่นนี้ ขอไม่เอาไปเปรียบกับเวอร์ชั่นอื่นเลยนะ เอาแค่ภาคนี้เท่านั้น ขอบอกเลยว่า ดูล้นๆเกินๆ แบบเหมือน ตั้งใจมากไป (แนว วอนนาบี) ไร้เสน่ห์ และ ไม่น่าจดจำเลยซักกะฉาก คือลุคมันเท่นะ หล่อ การแต่งตัวทุกอย่างคือ ดูดี แต่ว่า "การกระทำ" มันดูไร้ที่ไปที่มา ดูไม่มีเหตุผล ดูเหมือนหัวหน้าแก๊งบ้าๆที่ไม่รู้ว่า มันมีดีอะไร เดี๋ยวก็มา เดี๋ยวก็ไป มาก็มากากๆ บางฉากก็โคตรจงใจ(ฉากเอามีดมาวางเรียงๆกัน แล้วนอนหัวเราะเงี้ยะ คือไร ว่างเหรอเอามีดมาเรียงเล่น) สำหรับผม โจ๊กเกอร์ มันตัวประกอบที่แต่งตัวเก่งเท่านั้นแหละ
เนื่องจากตัวละครมันเยอะมาก ผู้กำกับ(เขียนบทเองด้วย) ก็คงพยายามเกลี่ยให้ความสำคัญไปถึงทุกคนให้เยอะที่สุด แต่ว่านำ้หนักมันก็ไปที่ วิลสมิธ กับ ฮาร์ลีย์ ควิน มากซะจน เวลาไปเล่าตัวละครอื่นแล้วมันเหมือนไม่กลมกล่อมเท่าไร
ฉากแอ๊คชั่นเกือบดีเลยแหละ บางฉากนี้บิ๊วได้อารมณ์อยู่นะ ได้เท่ ได้สะใจเหมือนกัน แต่คิดว่า น่าจะทำได้ดีกว่านี้อ่ะ เหมือนมันยังไม่สุด บวกกับเนื้อเรื่องที่เดาทางได้(โคตร)ง่าย มันเลยพอเดาได้ว่า แอ๊คชั่นต่อไปมันจะประมาณไหน สรุปยังไง ราวๆนั้น
สิ่งที่ชอบมากและถือว่าดีที่สุดในหนังคือ ฮาร์ลีย์ ควิน ที่มีบุคลิกที่มีเสน่ห์แบบไม่อยากละสายตาเลยล่ะ (แต่ก็งงสเกลระดับพลังของเธอนะ) คืออารมณ์คุณเธอมันเดาทางยาก เรียกว่าทุกฉากที่เธอโผล่ถือว่าหนังดูน่าสนใจขึ้นทันที พูดได้เลยว่า ถ้าไม่มีเธอคนนี้ ผมคงหลับไปนานแล้ว
อีกคนที่ถือว่าตามมาตราฐานและช่วยหนังได้อีกคนก็คือ วิล สมิธ ที่ถึงแม้จะดูเหมือนเล่นเป็นสไตล์เฮียเค้าแบบเดิมๆ แต่มันก็เหมาะอยู่นะ ผมไม่รู้หรอกว่าในคอมมิค นิสัยเดธช็อตเป็นไง แต่ในเรื่องนี้ถือว่าโอเคเลย เก่งและมีแนวทางของตัวเองชัดเจนดี (แต่แอ๊คชั่นเฮียสามารถทำได้ดีกว่านี้อีกนะ)
ส่วนนักแสดงที่ไม่ชอบที่สุด รำคาญที่สุด ก็ป้า วิโอล่า หรือรับบทเป็นอะแมนด้า ผู้เสนอให้มีโครงการ suicide squad ขึ้นมานี่แหละ (เข้าใจว่าตัวละครนี้ จะคล้ายๆ นิค ฟิวรี่ เวอร์ชั่นผู้หญิง) คือป้าครับ ผมนี่แอบเบื่อการแสดงของป้าตั้งแต่ต้นเรื่องละนะ ที่มานั่งเล่าที่มาแต่ละคน(อันนี้ยังรับได้) แต่ตลอดทั้งเรื่อง ป้าเล่นเป็นหน้าเดียวเหรอ น้ำเสียงราบเรียบ หน้านิ่งแบบเดิมๆ จนคิดว่า "นี่โดนสะกดจิตมาเหรอ เดี๋ยวตอนท้ายเฉลยใช่ไหม" คนหรือหุ่นยนต์วะ นึกว่าปริ้นหน้ามาแปะนะเนี่ย น่ารำคาญสุดละตัวนี้ ฮ่าๆ (แม่มดอีกคนนึง สวยน่ารักนะ ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอก พอเป็นแม่มดเท่านั้นแหละ ยืนพูดเฉยๆไม่ได้เหรอไง ต้องเต้นไปมาด้วยเหรอ ฮ่าๆ)
อ๋อ อีกอย่างที่ชอบมากคือ CG ที่สวยมากกกก แม่มด กับ พวกพลังต่างๆคือ สวยงาม อย่างกับหลุดมาจากในเกมที่เคยเล่นเลย สวยจริงจัง มีดีไซน์ที่ดีเลยแหละ อย่างที่บอกไปว่าหนังเรื่องนี้มีดีไซน์ที่สวยและเจ๋งมากๆๆๆ แต่น่าเสียดายที่มันกลับทำออกมาได้ไม่สนุกอะไรเท่าไรเล๊ย
เรื่องนี้น่าจะเป็นหนังที่มีเพลงประกอบเยอะใช้ได้เลยนะ เพราะใส่เข้ามาถี่มาก แต่มันก็ไม่ได้สื่ออะไร เหมือนแบบ ผู้กำกับชอบเพลงนี้แหละ เลยใส่เข้ามาไปงั้นๆ (ไม่เหมือน GOTG ที่อันนั้นเพลงมันมีความหมายของมันอยู่และมาในจังหวะที่โอเคกว่า)
โดยสรุปละกันนะ แฟน DC หรือหนังฮีโร่ ก็คงจะไปดูกันอยู่แล้ว แต่สำหรับคอหนังแอ๊คชั่น ก็พอดูได้อยู่นะ ผมว่ามันก็สนุกอยู่ในระดับนึง แบบไม่ได้น่าเบื่อมาก เทคนิค CG สวยดี แอ๊คชั่นมีเยอะพอมควรเลย เล่าเรื่องไม่งงอะไรมาก แต่จะงงตรงที่ "ใส่ไอนี่มาทำไม" มากกว่า ฮ่าๆ แต่ก็ไม่ได้มีไรให้จดจำเลยซักกะฉาก จบแล้วจบกัน พูดแล้วก็น่าเสียดาย มีวัตถุดิบชั้นดีอยู่ขนาดนี้แล้ว แต่ผู้กำกับดันเล่าได้ไม่สนุกซะงั้น เฮ้อ
ปล.แบทแมน กับ เดอะ แฟลช ไม่ต้องมีก็ได้นะ ฮ่าๆ