[CR] Why go to Aberdeen? นั่นสิ...ไปทำไรที่อเบอร์ดีน?

why go Aberdeen? จริงๆตั้งใจจะเขียนแบบนี้ เพราะเป็นประโยคคำถามแรกที่ได้รับจากลุงคนหนึ่งซึ่งมากับลูกสาว
ตอนขึ้นรถไฟที่สถานี Carlisle แต่ว่า...ไหนๆก็ลง Pantip แล้ว เอาให้ถูกไวยากรณ์เลยแล้วกัน
.
.
.
มันเริ่มต้นจาก plan เล็กๆที่ต้องการเดินทางไป scotland แรกเริ่มเดิมที 23kmx รู้ว่าจะไปนางชวนไป inverness นี่ก็ทำการกูเกิ้ลเลยจ้า
ดูแล้วก็แบบเห่ยยย ดีนะแกป่าๆ ธรรมชาติๆ ไปๆ อยากไป isle of skye อยากไปถ่ายรูป นู่นนี่ก็ว่าไป

Route แรกที่ตั้งใจไปเลยจึงออกมาเป็นเช่นนี้



Birmingham > Haymarket(Edinburgh) > Inverness > Haymarket(Edinburgh) > Birmingham



เห็นอะไรซ้ำๆมั้ย? ไปทำไมที่ haymarket ตั้ง 2 รอบ คือจากที่หาดู (มันอาจจะมีวิธีเดินทางที่ดีกว่านี้อะนะ แต่จากที่หาดูสำหรับเราว่าอันนี้สะดวกสุด)
เราจะต้องไปเปลี่ยนจาก virgin train เป็น scot rail ที่ haymarket เพื่อต่อไป inverness


แต่ แต่ แต่ แต่ช้าแต่...สุดท้ายนกค่ะ พับ inverness เก็บใส่กระเป๋าด้วยระยะเวลาไม่พอ (กะว่าไป 2 วัน 1 คืนไง โหดไปอี๊กกกก)
งั้นไปไหนดี Glasglow? ก็สวยนะแกก แต่เมืองไปอะ คนเยอะแน่เลย เสิร์ชไปเสิร์ชมา Aberdeen ก็น่าสนใจดีนะ



📌โอเค...ปักหมุด


คำเตือน รูปน้อย พล่ามเยอะ!!!


ปักหมุด 📌 แล้วยังไง ปักหมุดแล้วก็เริ่มวางแผนเลย อย่างที่บอกจริงๆทริปนี้เป็นทริป scotland ที่หลักๆที่ไปคือ edinburgh
ส่วน aberdeen นั้นเป็นของแถม...เพราะฉะนั้นเวลาที่มีใน aberdeen จึงน้อยนิด หลักๆดั้นด้นไปก็เที่ยวได้แค่เดินวนเมืองไปมา
ชมเมือง ชมคน เปลี่ยนที่กิน ที่นอนไรงี้


เป็นการเที่ยวกึ่งชะโงกทัวร์ค่ะ
.
.
.
จุดเริ่มต้นอยู่ที่ Birmingham ทำการ booking online ตั๋วรถไฟของ virgin train

(รถไฟเดินทางของอังกฤษมีหลายเจ้ามากกกก แต่หลักๆที่เราใช้จะเป็น virgin train ซึ่งที่รู้คือเป็นของเอกชน กับ london midland ที่เป็นของรัฐบาล)

Route



Birmingham > Haymarket(edinburgh) > Aberdeen > Haymarket(edinburgh) > Birmingham



คือซื้อตั๋ว 2 ช่วง


ช่วงแรก round trip birmingham <> haymarket
ช่วงสอง round trip haymarket <> aberdeen



ทำไมไม่ซื้อทีเดียว? คือถ้า book แบบ birmingham <> aberdeen เลยมันลำบากเข้าใจใช่มั้ย แบบขาไปเราลง aberdeen
แต่ขากลับขึ้นจาก edinburgh งี้ ตั๋วแพงไปอี๊กกก #เสียงสูง

จากการลองจิ้มเส้นทางวนไปวนมานั้นได้ข้อสรุปว่า จองแบบนี้ถูกสุด และต่อรถไฟน้อยสุด


หลักในการจองตั๋วรถไฟเรามี 2 อย่างง่ายๆ

1. ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในช่วงเวลาที่ต้องการ อาจ flexible ได้บ้าง ถ้าราคามันต่างกันมาจริงๆ
2. เปลี่ยนสถานีน้อยที่สุด คือเหนื่อย คือเมารถ ไม่ว่าจะรถยนต์ รถไฟ หรือมอไซค์ เพราะงั้นเมื่อขึ้นแล้วมีความต้องการหลับยาวค่ะ
ต่อให้น้อยที่สุดค่ะ เพื่อความสบายในการหลับ
หลังจากกำหนดเงื่อนไขใดๆเรียบร้อย ก็ได้ตั๋วรอบ 6 โมงเช้าไป edinburgh และต้องต่อไป aberdeen ใดๆจะถึง aberdeen ไม่น่าเกินบ่าย2โมง

และความพีคมันอยู่ตรงนี้ค่ะ!!!!




รถไฟออกจาก Birmingham New street ประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ บ้านป้าอยู่ stourport ซึ่งห่างจาก Birmingham ประมาณ 1 ชั่วโมง

รถไฟออก 6เช้า หมายความว่าต้องออกจากบ้านประมาณตี 5 รถไฟไม่มีแน่ๆ เพราะเที่ยวแรกเข้า bitmingham
คือประมาณ 7 โมง ทำไงละ #นั่งแท็กซี่วนไปค่ะ

หลังจากจองรถไฟ จองที่พักเสร็จ คืนนั้นก็โทรหาแท็กซี่เลยค่ะ ใช้บริการ Terry's taxi (งานโฆษณาก็มา)
เค้าก็อุตส่าห์รับนะโทรตอนเกือบๆ4ทุ่ม บอกต้องการแท็กซี่ไป birmingham ตอนประมาณตี5

สรุปคืนนั้น...กว่าจะเคลียร์ทุกอย่าง เข้านอนก็ตี1 กว่า



ตี 5 คนของลุงแทรี่ก็มาค่ะ...มาพร้อมกับรถ 5 ที่นั่ง ด้วยความรีบพอรถมา พ่อก็ยกกระเป๋าขึ้นใส่ท้ายรถทันที
นี่เดินไปถามลุงคนขับว่ามันจะพอสำหรับ 6 คนเหรอ (ทริปนี้ไปกัน 7 คนค่ะ เรา พ่อ แม่ อา อาเขบ และป้า)
แกก็ทำหน้างง จนป้าเราต้องมาคุยและบอกว่าคุยกับทาง terry ตั้งแต่ตอนจองแล้วว่ามี 6 คน เท่านั้นละ
แกบอก 5 minutes แล้วขึ้นรถจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกระเป๋าหลังรถ

ไม่เกิน 5 นาทีจริงๆค่ะ แกกลับมาพร้อมรถตู้พาไปส่งที่สถานีรถไฟ
.
.
.
ความพีคของวันกำลังจะมาแล้วววว...

อย่างที่รู้ว่าจองตั๋วไว้ 2 ช่วง เพระฉะนั้นเที่ยวแรกที่ต้องไปคือ birmingham > haymarket (edinburgh) น่าจะสักประมาณ 5-6 ชั่วโมง
เพราะงั้นไม่มีปัญหา...เตรียมนอนยาวๆค่ะ

หลังจากขึ้นรถไฟ สองข้างทางไม่สามารถบรรยายได้จริงๆว่าเป็นยังไง หลับวนไปอี๊กกก รู้สึกตัวอีกทีตอนป้าปลุก
พร้อมบอกว่า เราต้องลงสถานีนี้นะ หันไปมองป้าย preston หื้มมม ที่ไหน???

สรุปคือ มีรถไฟตกรางทำให้รถไฟไม่สามารถไปต่อได้ ต้องนั่ง coach ต่อไปอีกที ซึ่งทาง virgin train จัดให้
(มารู้ทีหลังว่าจริงๆเราสามารถ claim ค่าเสียเวลาได้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะแกก)

มันคือความทรมานอะ นึกสภาพอากาศตอนนั้นออกมั้ย คือถึงมันจะอุ่นขึ้นมาหน่อยแต่มันก็หนาว คนล้านแปดจากรถไฟ
มาต่อแถวรอขึ้น coach คือรอชั่วโมงกว่าได้ ถึงได้ขึ้นรถ ระหว่างรอมีความคิ้วทือเล็กๆน้อยอยากเล่า

หนุ่มน้อย(คาดว่า) high school มากับหมาจ้าา ละเค้าก็ให้ขึ้น coach ด้วยนะ ความน่ารักของที่นี่ เขาถือว่าสัตว์เป็น customer ของเขาเหมือนกัน
(ซึ่งหมายความว่า นางพาหมามาด้วย หมาก็จ่ายค่า seat นาจา)

เข้าเรื่อง... ก็ขึ้น coach ไม่มีอะไรเล่านอกจาก หลับและฝนตก! เวรของกรรม อิผี! ปกติก็หนาวแล้วมั้ย ฝนตกอีก
หลังจากเกือบๆ 2 ชั่วโมงผ่านไป coach ก็มาส่งที่ carlisle ค่ะ จุดนั้นบอกเลยว่า งอแงแล้ว ในใจคือไม่ไปแล้ว หนาว ไม่ไหว
scotland ต้องหนาวกว่านี้แน่ ไม่ไปแล้ว แบบลงมาแล้วมีฝน ลมจะแรงไปไหน นี่โค้ช สเวตเตอร์ ฮีทเทคละนะ ไม่ช่วยเลยเหรอ
แต่สุดท้ายก็ต้องไปต่อค่ะ

ขึ้นรถไฟ virgin train อีกครั้งที่สถานี Carlisle ที่ๆเจอลุงคนหนึ่งซึ่งมากับลูกสาว ด้วยความที่หอบของกันพะรุงพะรังมาก
นั่ง table seat ค่ะ อีกด้านเป็นลุงกับลูกสาว แกก็มองยิ้มๆให้แล้วก็ถามออกมาพร้อมๆกับขบวนรถไฟที่เคลื่อนตัวว่า


"Where are you going?"


ด้วยความกลัวฝรั่ง...ม่ายช่ายยยย จริงๆคือไม่รู้จะคุยไร นี่ก็ตอบไปสั้นๆว่า Aberdeen แกหัวเราะแล้วถามกลับมาว่า


"Why go aberdeen? Nothing to do there. We're going to Edinburgh" นี่ยิ้มอ่อนให้หนึ่งที ในใจก็คิดว่า
เอออออ...นี่จะไปทำไรอเบอร์ดีนวะ  ตอบแกอ้อมแอ้มไปว่า "I don't know just seacrching on the internet see it's nice then go"

.
.
.
.
.
สรุปวันนั้นกว่าจะถึง aberdeen ก็ประมาณ 4โมงเย็น เลทไปเกือบ 4 ชั่วโมงแน่ะ ยมไปอีก



แล้วอเบอร์ดีนมีอะไรบ้าง?? ยังคงเป็นคำถามจนกระทั่งตอนนี้ที่กลับมาไทยได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว
รับรู้ได้คร่าวๆว่า เป็นเมืองท่าน้ำมัน สังเกตได้จากระหว่างที่เดินไปตามทางเจอบริษัทเกี่ยวกับ Petrolieum เยอะพอสมควร


เดินไปตามเมืองรู้สึกได้ว่าคนไม่เยอะเลย เรียกได้ว่าน้อยเมื่อเทียบกับ edinburgh
(ซึ่งหลังจากไป edinburgh แล้ว รู้สึกอยากกลับไป aberdeen มาก ไม่ชอบความเมือง ความคนเยอะ)


ที่สำคัญ Charity เยอะดีค่ะ!!! สำหรับคนชอบซื้อและไม่ค่อยซีเรียสกับของมือสอง
ร้าน Charity ค่ะ Aberdeen มีหลายร้านอยู่ ของถูกค่ะ จะเป็นของที่คนเอามาบริจาค ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า จาน ชาม รถเข็น บลาๆ
ทุกอย่างเท่าที่จะนึกได้ ซึ่งร้าน Charity จะเอาของพวกนี้มาขาย เพื่อหาเงินเข้ามูลนิธิค่ะ มีหลาย Foundation มาก
(ได้เสื้อหนังมาตัวนึงในราคา 3GBP ค่ะ สภาพดีอยู่เลย)

แต่ก็ต้องดูนะ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ของมีทั้งมือ 1 มือ 2 ปะปนกันไปค่ะ Charity บางทีมีสีย้อมผมขายด้วยนะ

หลังจากเดิน shopping ใน charity เสร็จ (จริงๆคือหนาวอะ เช้ามาหิมะตกซะงั้น หนาวมากๆ เลยต้องเข้าไปหลบใน charity ให้อุ่น)
ก็เดินวนไปที่ union terrace garden เดินเจอยายคนหนึ่ง ไม่รู้ความกะเหรี่ยงสะดุดตาแกหรืออย่างไร
แกเดินเข้ามาชวนคุย ถามว่ามาจากไหน พอรู้ว่าเป็นคนไทยแกยิ่งชวนคุยใหญ่เลยค่ะ พร้อมชวนอยู่ต่อยาวไปถึงเดือน June

แกบอกช่วง June จะสวยมาก เขาจะเอาดอกไม้มาลงที่ union terrace garden
เพราะงั้นใครวางแผนจะไป เรา(เดาเอาว่า)ช่วง June น่าจะเป็นช่วงหนึ่งที่สวยเลยค่า


.
.
.
ปิดท้ายด้วยภาพที่ Union Terrace Garden อย่างที่บอก พล่ามเยอะ รูปน้อย
ขอบคุณที่ติดตามค่า


@uuni.x
















ฝากเพจด้วยนะคะ ยิ้ม Facebook: https://www.facebook.com/uunisex/
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวต่างประเทศ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่