จาก ครั้งที่ไปตะลุยแดนอินเดียกับลูกชาย
http://ppantip.com/topic/34361311
ปีนี้ก็ได้ส่งลูกชายไปเรียนเรียบร้อยแล้ว
กระทู้นี้ก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ วันที่พาเขา ไปส่งที่โรงเรียน
รู้เขารู้เรา รบ100 ครั้ง ชนะ100 ครั้ง
ซื้อมาให้อ่านก่อนเดินทาง ฟูจิบอกว่าสนุกมาก
เวลาเขาไปเจออะไร เขามักจะมาบอกว่า เหมือนในหนังสือจริงๆ ด้วยครับ
การเดินทางครั้งนี้คุณพ่อมาด้วย
ก็ต้องไล่ซื้อของที่เราไม่ได้เอามา
ไปกันหลายที่ ทั้ง Garuda mall MG road commercial street
ของกระจุก กระจิก บางอย่างรู้สึกหาซื้อยากมาก
ผงซักฟอก กล่องใหญ่ๆ แบบบ้านเราไม่มีเลย รองเท้าแตะ ก็ไม่ค่อยเห็น
สุดท้าย เลยได้ของเข้า โรงเรียน มาไม่ครบ
เรายังคงไปกินร้านอาหารที่ มาครั้งที่แล้ว
เพราะติดใจในรสชาติ และราคา
ร้าน Truffle
ที่ bishop boy เขาจะบังคับเรื่องรองเท้า ว่ารองเท้า นร ต้องใส่แบบไหน ยี่ห้ออะไร
รองเท้าพละ ต้องใส่แบบไหน ยี่ห้ออะไร
วันที่เรามาตระเวณ ซื้อรองเท้า
เราก็จะพบพี่แขก ที่ร้านอย่างหนาแน่น ทั้งปริมาณคน และปริมาณ กลิ่น


สู้เขานะ ขอ ป๊ะป๊า หม่าม๊า รอข้างนอกนะครับ 55555
มาถึงวันที่เข้าไปส่งที่ โรงเรียน พ่อแม่ มีความตื่นเต้นมากมาย
บรรยากาศ โรงเรียนสวยมากๆ
หนที่แล้วที่มา ดันเป็นวันหยุดเลยไม่ได้เข้า โรงเรียน
ที่นี่ เป็น โรงเรียนเก่า 150 ปี บรรยากาศร่มรื่น อาคารต่างๆ สวยมาก
โบสถ์ เล็กภายใน โรงเรียน
ที่โรงเรียนจะแบ่งเด็กๆ เป็นบ้าน เหมือน แฮรี่ พอร์เตอร์เลย
เด็กแต่ละบ้าน ก็จะมีสีประจำบ้าน
เวลาใส่ชุดพละ ก็จะแยกสีของบ้านตัวเอง
อันนี้คือบ้านของฟูจิ
สีประจำตัวคือ เขียวดำ
ให้อารมณ์ เหมือนโดน คัดสรร กันมา

นี่หอพัก เด็กเล็ก ฟูจิไป ป.5 ถือว่าเป็น จูเนียร์
บรรยากาศภายในห้องพัก
ใครมาถึงก่อน ก็จะได้เลือกเตียง
เลือกล็อคเกอร์ก่อน
ฟูจิได้เลือกตู้ที่ติดกับเตียงตัวเอง


555555
หลังจากจัดของเรียบร้อย
ก็ต้องขอร้องให้ลองชุดให้ดู
หน้าตาเต็มใจมากมาย
หลังจากที่ส่งเข้าหอ เรียบร้อย
เราก็เดินทางกลับ กันเลย ไม่ได้อยู่ต่อ เพราะวันรุ่งขึ้นก็ต้องกลับไปทำงาน
บรรยากาศ ของโรงเรียน ทำให้ความกังวัลใจ หายไปเยอะ
เพราะมันไม่ได้ดูน่ากลัว แบบที่เราคิด
หลังจากนั้น เราก็ได้มีการคุยโทรศัพท์กัน ทุกครั้งที่มีคนไทยเข้าไป
เขาจะให้ฟูจิยืมโทรศัพท์ call line กลับมา
และทุกวันเสาร์ จะได้โทรศัพท์จาก ครู
วันอาทิตย์ เป็นวันหยุด แต่ไม่ได้โทรศัพท์
จากวันที่ไปส่ง ถึงตอนนี้ก็ 2 เดือนกว่าแล้ว
ฟูจิมีความสุขดี
แต่ ก็ไม่ใช่อะไรๆ ก็ดี
เด็กอินเดีย ขี้ขโมยมากกกกกกก
บางคนบอก เด็กหอก็งี้แระ ที่ไหนก็เป็น
บางทีเราก็รับไม่ได้ อะไรจะต้องขโมยกันขนาดนี้
แต่ผปค ที่ลูกเขาอยู่มาก่อนเรา ก็ได้แต่บอกว่า
ลูกเราจะได้ฝึกการรักษาของส่วนตัว เขาจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ
มีคนบอกว่า การที่จะส่งลูกไปเรียนไกลๆ
ไม่ต้องห่วงว่าเด็กจะอยู่ได้ไหม
ให้ห่วงว่า พ่อแม่ จะทนคิดถึงได้รึเปล่า อันนี้จริงเลย
คิดถึงทุกวัน แต่พอได้คุยแล้วเห็นความเปลี่ยนไปของเขา
ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดูรู้จักรักษาของ (ถึงแม้ทุกวันนี้ก็ยังมีของหาย)
ภาษาอังกฤษ ดีขึ้น (ได้ยินเสียงเขาคุยกับเพื่อน เวลาโทรมา)
แค่นี้ก็สบายใจแล้ว
ขอให้คุณพระไทย
เทพแห่งอินเดีย คุ้มครองนะครับ
ตั้งใจเรียนนะตี๋น้อย
โรตีบอย ส่งลูกชายไปแดนอินเดีย
http://ppantip.com/topic/34361311
ปีนี้ก็ได้ส่งลูกชายไปเรียนเรียบร้อยแล้ว
กระทู้นี้ก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ วันที่พาเขา ไปส่งที่โรงเรียน
รู้เขารู้เรา รบ100 ครั้ง ชนะ100 ครั้ง
ซื้อมาให้อ่านก่อนเดินทาง ฟูจิบอกว่าสนุกมาก
เวลาเขาไปเจออะไร เขามักจะมาบอกว่า เหมือนในหนังสือจริงๆ ด้วยครับ
การเดินทางครั้งนี้คุณพ่อมาด้วย
ก็ต้องไล่ซื้อของที่เราไม่ได้เอามา
ไปกันหลายที่ ทั้ง Garuda mall MG road commercial street
ของกระจุก กระจิก บางอย่างรู้สึกหาซื้อยากมาก
ผงซักฟอก กล่องใหญ่ๆ แบบบ้านเราไม่มีเลย รองเท้าแตะ ก็ไม่ค่อยเห็น
สุดท้าย เลยได้ของเข้า โรงเรียน มาไม่ครบ
เรายังคงไปกินร้านอาหารที่ มาครั้งที่แล้ว
เพราะติดใจในรสชาติ และราคา
ร้าน Truffle
ที่ bishop boy เขาจะบังคับเรื่องรองเท้า ว่ารองเท้า นร ต้องใส่แบบไหน ยี่ห้ออะไร
รองเท้าพละ ต้องใส่แบบไหน ยี่ห้ออะไร
วันที่เรามาตระเวณ ซื้อรองเท้า
เราก็จะพบพี่แขก ที่ร้านอย่างหนาแน่น ทั้งปริมาณคน และปริมาณ กลิ่น
สู้เขานะ ขอ ป๊ะป๊า หม่าม๊า รอข้างนอกนะครับ 55555
มาถึงวันที่เข้าไปส่งที่ โรงเรียน พ่อแม่ มีความตื่นเต้นมากมาย
บรรยากาศ โรงเรียนสวยมากๆ
หนที่แล้วที่มา ดันเป็นวันหยุดเลยไม่ได้เข้า โรงเรียน
ที่นี่ เป็น โรงเรียนเก่า 150 ปี บรรยากาศร่มรื่น อาคารต่างๆ สวยมาก
โบสถ์ เล็กภายใน โรงเรียน
ที่โรงเรียนจะแบ่งเด็กๆ เป็นบ้าน เหมือน แฮรี่ พอร์เตอร์เลย
เด็กแต่ละบ้าน ก็จะมีสีประจำบ้าน
เวลาใส่ชุดพละ ก็จะแยกสีของบ้านตัวเอง
อันนี้คือบ้านของฟูจิ
สีประจำตัวคือ เขียวดำ
ให้อารมณ์ เหมือนโดน คัดสรร กันมา
นี่หอพัก เด็กเล็ก ฟูจิไป ป.5 ถือว่าเป็น จูเนียร์
บรรยากาศภายในห้องพัก
ใครมาถึงก่อน ก็จะได้เลือกเตียง
เลือกล็อคเกอร์ก่อน
ฟูจิได้เลือกตู้ที่ติดกับเตียงตัวเอง
หลังจากจัดของเรียบร้อย
ก็ต้องขอร้องให้ลองชุดให้ดู
หน้าตาเต็มใจมากมาย
หลังจากที่ส่งเข้าหอ เรียบร้อย
เราก็เดินทางกลับ กันเลย ไม่ได้อยู่ต่อ เพราะวันรุ่งขึ้นก็ต้องกลับไปทำงาน
บรรยากาศ ของโรงเรียน ทำให้ความกังวัลใจ หายไปเยอะ
เพราะมันไม่ได้ดูน่ากลัว แบบที่เราคิด
หลังจากนั้น เราก็ได้มีการคุยโทรศัพท์กัน ทุกครั้งที่มีคนไทยเข้าไป
เขาจะให้ฟูจิยืมโทรศัพท์ call line กลับมา
และทุกวันเสาร์ จะได้โทรศัพท์จาก ครู
วันอาทิตย์ เป็นวันหยุด แต่ไม่ได้โทรศัพท์
จากวันที่ไปส่ง ถึงตอนนี้ก็ 2 เดือนกว่าแล้ว
ฟูจิมีความสุขดี
แต่ ก็ไม่ใช่อะไรๆ ก็ดี
เด็กอินเดีย ขี้ขโมยมากกกกกกก
บางคนบอก เด็กหอก็งี้แระ ที่ไหนก็เป็น
บางทีเราก็รับไม่ได้ อะไรจะต้องขโมยกันขนาดนี้
แต่ผปค ที่ลูกเขาอยู่มาก่อนเรา ก็ได้แต่บอกว่า
ลูกเราจะได้ฝึกการรักษาของส่วนตัว เขาจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ
มีคนบอกว่า การที่จะส่งลูกไปเรียนไกลๆ
ไม่ต้องห่วงว่าเด็กจะอยู่ได้ไหม
ให้ห่วงว่า พ่อแม่ จะทนคิดถึงได้รึเปล่า อันนี้จริงเลย
คิดถึงทุกวัน แต่พอได้คุยแล้วเห็นความเปลี่ยนไปของเขา
ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดูรู้จักรักษาของ (ถึงแม้ทุกวันนี้ก็ยังมีของหาย)
ภาษาอังกฤษ ดีขึ้น (ได้ยินเสียงเขาคุยกับเพื่อน เวลาโทรมา)
แค่นี้ก็สบายใจแล้ว
ขอให้คุณพระไทย
เทพแห่งอินเดีย คุ้มครองนะครับ
ตั้งใจเรียนนะตี๋น้อย