สวัสดีค่ะสมาชิกชาว Pantip และชาว BlogGang ที่น่ารักทุกคน
Happy New Year 2016!!! (บทสัมภาษณ์ ณ วันที่ 11 มกราคม 2559)
วันนี้ทีมงานมารอเสิร์ฟความสนุกสนาน ไปกับรายการใหม่เอี่ยมแกะกล่องต้อนรับปีใหม่กันค่า นั่นคือรายการ
"BlogGang Hang Girls"
โดยเราจะขอพาทุกท่านมาร่วมเปิดเวทีเม้าท์กับเหล่า Blogger จากเว็บไซต์ BlogGang.com เป็นแขกรับเชิญสุดพิเศษ พร้อมด้วยพิธีกรอารมณ์ดีสามสาวสามสไตล์สุดแซ่บ ที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะและถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่า Blogger โดยจะมาร่วมพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกันค่ะ
ถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นปีใหม่ไปแล้ว แต่ว่าก็ยังลัลล้าปาร์ตี้กันได้นะคะ อิอิ โดยเราจะพาทุกท่านไปปาร์ตี้กับนางฟ้าสาวสวยที่การันตีได้ว่า ในวงการ Beauty Blogger ไม่น่าจะมีใครที่ไม่รู้จักเธอคนนี้ค่ะ นั่นคือ....พี่วิสุดสวยจาก Blog :
beauty4ties.bloggang.com ค่า
เห็นครั้งแรกนี่ยอมเลย สวยกลบมวลมหาประชาชน ณ ที่แห่งนั้นกันเลยทีเดียวค่ะ น้ำตาจะไหล ซึ่งนอกจากจะสวยและอารมณ์ดี คุยเก่งแล้ว ฝีมือการแต่งหน้าของพี่วิก็ไม่เป็นสองรองใครแน่นอนค่ะ ดูสิ...ครบเครื่องจริงๆ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เดี๋ยวจะหาว่าเราโม้อีก ไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ อิอิ
สาวๆ เค้าแอบเม้าท์อะไรกันบ้างนะ ตามกันมาเลยจ้า
ก่อนที่พี่วิจะพาพวกเรามาเริ่มต้นกับการเนรมิตใบหน้า ก็ต้องมาเทียบสีรองพื้นให้กับนางแบบกันก่อนนะคะ โดยพี่วิได้เทียบสีจากใบหน้าไปถึงลำคอ เพื่อไม่ให้หน้าลอยเกินไปค่ะ
พิธีกร : เราจะมีการป้องกันหน้าเทาได้ยังไงบ้างคะ
พี่วิ : เรื่องหน้าเทาเนี่ยมันหลายจุดมากเลยนะคะ ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ แล้วก็หรือแม้แต่ skincare ก่อนที่เราจะใช้ ซึ่งบางคนจะคิดว่ามันเป็นที่ make up ตัวกันแดดก็มีส่วนที่ทำให้หน้าเราเทาได้ ถ้าเกิดมันมีความมันเกินไป มันก็จะเกิด effect กับตัวแป้ง
ขั้นต่อไปคือการลงรองพื้นค่ะ ซึ่งเมื่อเทียบสีรองพื้นแล้ว มันเหมือนกับผิวเกินไป พี่วิเล่าว่า 'ข้อดีคือมันไม่โดด พี่อยากให้มันดูสว่างขึ้นมาอีกนิดนึง เพราะว่าถึงแม้ว่าจะเป็นธีมปาร์ตี้ มันก็ต้องดูสว่าง ทำช่วงกลางของหน้าให้ดูสว่างขึ้นกว่า และจากด้านข้างจะ shade ให้มันเข้มๆ ขึ้น'
ในระหว่างที่พี่วิกำลังเพลินกับการแต่งแต้มใบหน้าไปทีละนิด พิธีกรของพวกเราก็เริ่มทำหน้าที่ยิงคำถามไปเรื่อยๆ ค่ะ
พิธีกร : พี่วิเริ่มมาเป็น Beauty Blogger ได้ยังไงคะ
พี่วิ : เริ่มต้นคือเป็นคนรักสวยรักงาม พูดมาก
ซึ่งหลักๆ ของ Blogger สายนี้คือต้องรักสวยรักงามอยู่แล้วแหละ ชอบแต่งตัว ขอบแต่งหน้า และก็ต้องเป็นคนชอบเล่า แต่ว่า
"งานเขียนถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายมาก เพราะต้องคิดว่าเขียนยังไงถึงจะให้มีคนตามอ่าน"
พี่วิ : ความเป็น BlogGang ดีตรงที่ว่า สำหรับผู้ใหญ่อย่างพี่ ในเรื่องเครื่องมือในการใช้งานบนเว็บไซต์ เราจะไม่ค่อยรู้หรอก เพราะว่าเราไม่ใช่สายไอที คนบ้านๆ ธรรมดาอย่างเราพี่ว่าสามารถเข้ามาเขียน Blog ได้ไม่ยาก เนื่องจากมันมี Theme มีรูปแบบให้เราหมดแล้ว อย่างเช่น category ด้านข้าง เราสามารถเพิ่มเติมเองได้ มันง่าย ถ้าเราไปใช้งานที่อื่น บางที่เหมือนต้องจ้างคนมาทำ
พิธีกร : แสดงว่าเสน่ห์ของ BlogGang คือเขียนง่าย ใช้งานง่าย
พี่วิ : ใช่ค่ะ มันสำเร็จรูปแล้วและมี Theme ให้เราเลือกด้วย
พิธีกร : มันก็เลยเหมือนช่วยลดแรงในการเขียนใช่ไหมคะ เอาเวลาที่มีไปคิดสร้างสรรค์งานเขียนของเรา เพราะอุปกรณ์เครื่องมือต่างใน BlogGang มีให้อยู่แล้ว
พี่วิ : ใช่ค่ะ
ไอ้หยะ!!!...พิธีกรชงมาขนาดนี้ จะรออะไรคะ ปรบมือรัวๆเลยจ้า
พิธีกร : beauty4tie นี่มันมาจากอะไรคะ
พี่วิ : มาจากอายุค่ะ คือเริ่มต้นตอนที่พี่วิเขียน Blog ครั้งแรกคือ 40 พอดี แล้วตอนนั้นเราก็มีความรู้สึกว่า เอ๊ะ! จะทำยังไงให้คนจดจำชื่อของเราได้ง่าย หรือ search หาง่าย หรือ เข้าตรงสู่คนที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่พอเขียนไปจริงๆ พอเราเข้าไปดู คนที่ติดตามเรามีตั้งแต่น้องๆ หลานๆ สัก 10 กว่าๆ ก็มีนะ 18 ก็มีแล้ว แล้วไปเกาะๆ กันอยู่ประมาณ 25-30 ประมาณนี้นะคะ แต่ในวัยใกล้ๆกันจริงๆ เนี่ยไม่ค่อยเข้ามานะ (หัวเราะ) ไม่รู้ทำไม ก็เลยอันนี้แหละเป็นจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าอยากตั้งชื่อนี้ให้มันตรงกับ target ในตอนแรกที่เรามอง
ในระหว่างที่เม้าท์กันสนุกสนาน พี่วิก็เริ่มลงรองพื้นนางแบบผิวเข้มของเราใกล้เสร็จแล้วค่ะ ซึ่งก็หนีไม่พ้นที่พิธีกรจะเริ่มแซวกันเอง
พี่วิ : ปกติจะไม่ค่อยใช้เวลามากนะคะ (หัวเราะ) จริงๆ สาวผิวแทน ผิวน้ำผึ้ง ผิวเข้มเนี่ย แต่งหน้าออกมาสวยกว่าคนขาวนะ เพราะว่าจะดูคม shape ของสีออกมาแล้วจะดูสวยกว่า คนผิวขาวส่วนใหญ่จะออกมาดูหน้าแบนๆ ในเรื่องของ shading จะหนักมาก เพราะเขาพื้นเดียว ผิวสีเนี่ยถ้าลงไปนิดหน่อยก็ดูมีแสงเงาแล้ว
พี่วิ : จริงๆ เนี่ยคือลดทอนขั้นตอนมากๆ ไม่อย่างนั้นจะใช้เวลาเยอะมาก ไม่ๆ คือเราต้องเตรียมผิวทีแรกก่อน ซึ่งอันนี้ไม่ได้เตรียมผิวก่อน ซึ่งจะเห็นในเรื่องของรูขุมขนอยู่บ้าง จริงๆถ้าเราเอาแบบว่าแต่งเต็มที่เอาสวยเป๊ะๆ ต้องเริ่มตั้งแต่เตรียมผิวครั้งแรกเลย
พิธีกร : แสดงว่าการบำรุงก็สำคัญใช่ไหมคะ
พี่วิ : จริงๆ หน้าตอนนี้ก็ไม่ได้ถือดีมากนะ ยังมีผู้หญิงในวัยที่สูงกว่าพี่ ผิวดีกว่าพี่มากเยอะนะคะ แต่ว่าก่อนหน้าที่พี่วิจะมาเขียน Blog เนี่ย สภาพหน้าแย่มาก แต่ว่าเพิ่งมาใส่ใจตัวเองหนักๆ ก็ตอน 35 แล้วนะ คนก็จะถามว่า 'พี่วิ ถ้ามาดูแลตัวเองตอนสัก 30 ทันไหม' ทันนะ แต่อาจจะแบบว่าไม่ได้เป๊ะเหมือนคนที่เค้าดูแลตั้งแต่เด็กๆอ่ะ ถ้าเค้าดูแลบำรุงตัวเองตั้งแต่ 10 กว่าๆ 20 กว่าๆ อะไรแบบนี้มันก็จะอิ่ม สวย
พิธีกร : มีเพื่อนๆ เข้ามาถามคำถามใน Blog เยอะไหมคะ
พี่วิ : จริงๆใน Blog จะมีคนเข้ามาถามพี่วิบ้างบางส่วนนะคะ แต่จะมีอีก channel หนึ่ง ที่เหมือนโต้ตอบได้เลย อย่างเช่น Facebook Fanpage คนจะคุยกับเราได้เรียลไทม์กว่า แต่ทีนี้ใน Blog บางที เขาเข้ามาแล้วเราไม่เห็น แต่ถ้าเห็นเราจะลิสต์ตอบทันที
พิธีกร : พี่วิเริ่มต้นการแต่งหน้ายังไงคะ นอกจากรัก ชอบธรรมดา ยังไปศึกษาเพิ่มเติมหรือขวนขวายด้วยตัวเองยังไงคะ
พี่วิ : เราสามารถขวนขวายได้ด้วยตัวเอง จริงๆแล้ว คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าเราไปเรียนมา แต่เราไม่ได้เรียนมาเลย ดูจากใน youtube ดูจาก howto ของทุกๆ คนเนี่ยแหละค่ะ แล้วมาฝึกเอง เพราะฉะนั้น...
"จะบอกเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ที่ยังแต่งหน้าไม่เป็น ก็จะบอกเลยว่าเราสามารถเรียนรู้เองได้จากตัวอย่างที่พี่ๆ เขียนใน Blog หรือ youtube แล้วเราค่อยๆ มาฝึกให้เหมาะกับทรงหน้าของเรา"
พิธีกร : เข้าไปอ่านใน Blog ของพี่วิมีความรู้สึกว่าอ่านแล้วอยากตาม อยากอ่านได้เรื่อยๆ อ่านได้อีก แล้วมีเกี่ยวกับเรื่องแพ้ด้วย
พี่วิ : ใช่ค่ะ สมัยแรกๆ ก่อนที่เราเริ่มเขียน Blog เวลาเราใช้ครีม เราก็จะชอบคำโปรย คำโปรยจะดึงดูดใจ ขาวเนียนอะไรงี้ แล้วแบบเราก็ต้องอินเทรนด์ด้วย พอใช้แล้ว บางที effect มันไม่เกิดในระยะเวลาสั้นๆ บางทีเลิกใช้แล้วถึงเกิดก็มี แล้วแบบหน้าพังมากก็จะมีในเรื่องของการรักษาด้วย สิวอุดตัน สิวอักเสบ ที่ตัวเองเป็นหนักๆสาหัส แล้วก็รักษายังไง รวมไปถึง ณ วันที่หน้าพังจัดๆ แล้วก็ต้องไปงาน ตอนนั้นมีไปเป็นวิทยากรเรื่องการแต่งหน้า แล้วแบบว่าหน้าตัวเองยังแย่อยู่เลย คือแบบว่ารอยสิว คือสิวอุดตันกับสิวอักเสบขึ้นนี่ไม่มีที่ว่างเลย แบบเต็มที่มากๆ วันนั้นก็ต้องโบ๊ะเก็บหมดเลย ยอมรับว่ามันอาจจะต้องดูหนานิดนึง แต่ก็ยังดีกว่าที่ทุกคนเห็นริ้วรอยของการที่เราแพ้
หลังจากที่หน้าเป๊ะแล้ว เรามาต่อกันที่คิ้วเลยค่า
พี่วิ : จริงๆจะบอกว่าคิวปลิง คิวเล็ก คิ้วโก่ง อะไรงี้ค่ะ มันอยู่ที่ทรงหน้าเราด้วยแหละ จริงๆสามารถทำได้ทุกคน หรือว่าอยู่ในเรื่องของ make up ลุคนั้นๆที่เราต้องการอะไร อย่างนี้อยากให้หน้าเค้าดูเด่นใช่ไหมคะ เราก็แบบว่าถ้าคิวปลิง คิ้วอาจจะเด่นกว่าหน้าเค้า ได้ทรงอยู่แล้ว
หลังจากการประดิดประดอยคิ้วให้สวยงาม กรีดอายไลเนอร์ให้ดูเด่นแล้ว อย่าลืมมาลงแป้งกันค่ะ ซึ่งเวลาลงแป้งไม่ควรปาดนะคะ สุดท้ายคือการทาลิปสติกค่ะ โดยพี่วิก็เริ่มทำการลงสีแดงให้ทั่ว และจบด้วยการลงสีดำตรงมุมปากทั้งสองข้าง และเกลี่ยโดยใช้แปรงสำหรับทาลิปสติก เป็นอันจบค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ นางฟ้าก็มีเพิ่มมาอีกคนแล้วค่ะ ฝีมือพี่วิเนี่ยไม่ธรรมดาเลยทีเดียว บอกได้คำเดียวว่า...เริ่ด! เห็นแล้วก็คันไม้คันมืออยากจะจับแปรงมาเนรมิตใบหน้าตัวเองให้สวยแบบนี้บ้างจัง แอบอิจฉาเบาๆ
ในที่สุดก็จบไปแล้วค่ะกับบทสัมภาษณ์ เทคนิคการแต่งหน้าดีๆ และแรงบันดาลใจจากพี่วิ สำหรับท่านใดที่สนใจเทคนิคดีๆอื่นๆของพี่วิ สามารถติดตามได้ที่ Blog :
beauty4ties.bloggang.com ค่ะ และช่องทางอื่นๆ ได้ในชื่อ beauty4ties ค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพสวยๆจากพี่วิและนางแบบของเราค่า
ครั้งหน้าจะเป็น Blogger ท่านใด ติดตามชมกันด้วยนะคะ
BlogGang Hang Girls EP1 :: ชวนทำความรู้จัก "พี่วิ" Beauty Blogger สาวสวยในสไตล์ 40+ ::
สวัสดีค่ะสมาชิกชาว Pantip และชาว BlogGang ที่น่ารักทุกคน
Happy New Year 2016!!! (บทสัมภาษณ์ ณ วันที่ 11 มกราคม 2559)
วันนี้ทีมงานมารอเสิร์ฟความสนุกสนาน ไปกับรายการใหม่เอี่ยมแกะกล่องต้อนรับปีใหม่กันค่า นั่นคือรายการ "BlogGang Hang Girls"
โดยเราจะขอพาทุกท่านมาร่วมเปิดเวทีเม้าท์กับเหล่า Blogger จากเว็บไซต์ BlogGang.com เป็นแขกรับเชิญสุดพิเศษ พร้อมด้วยพิธีกรอารมณ์ดีสามสาวสามสไตล์สุดแซ่บ ที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะและถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่า Blogger โดยจะมาร่วมพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกันค่ะ
ถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นปีใหม่ไปแล้ว แต่ว่าก็ยังลัลล้าปาร์ตี้กันได้นะคะ อิอิ โดยเราจะพาทุกท่านไปปาร์ตี้กับนางฟ้าสาวสวยที่การันตีได้ว่า ในวงการ Beauty Blogger ไม่น่าจะมีใครที่ไม่รู้จักเธอคนนี้ค่ะ นั่นคือ....พี่วิสุดสวยจาก Blog : beauty4ties.bloggang.com ค่า
เห็นครั้งแรกนี่ยอมเลย สวยกลบมวลมหาประชาชน ณ ที่แห่งนั้นกันเลยทีเดียวค่ะ น้ำตาจะไหล ซึ่งนอกจากจะสวยและอารมณ์ดี คุยเก่งแล้ว ฝีมือการแต่งหน้าของพี่วิก็ไม่เป็นสองรองใครแน่นอนค่ะ ดูสิ...ครบเครื่องจริงๆ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เดี๋ยวจะหาว่าเราโม้อีก ไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ อิอิ
สาวๆ เค้าแอบเม้าท์อะไรกันบ้างนะ ตามกันมาเลยจ้า
ก่อนที่พี่วิจะพาพวกเรามาเริ่มต้นกับการเนรมิตใบหน้า ก็ต้องมาเทียบสีรองพื้นให้กับนางแบบกันก่อนนะคะ โดยพี่วิได้เทียบสีจากใบหน้าไปถึงลำคอ เพื่อไม่ให้หน้าลอยเกินไปค่ะ
พิธีกร : เราจะมีการป้องกันหน้าเทาได้ยังไงบ้างคะ
พี่วิ : เรื่องหน้าเทาเนี่ยมันหลายจุดมากเลยนะคะ ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ แล้วก็หรือแม้แต่ skincare ก่อนที่เราจะใช้ ซึ่งบางคนจะคิดว่ามันเป็นที่ make up ตัวกันแดดก็มีส่วนที่ทำให้หน้าเราเทาได้ ถ้าเกิดมันมีความมันเกินไป มันก็จะเกิด effect กับตัวแป้ง
ขั้นต่อไปคือการลงรองพื้นค่ะ ซึ่งเมื่อเทียบสีรองพื้นแล้ว มันเหมือนกับผิวเกินไป พี่วิเล่าว่า 'ข้อดีคือมันไม่โดด พี่อยากให้มันดูสว่างขึ้นมาอีกนิดนึง เพราะว่าถึงแม้ว่าจะเป็นธีมปาร์ตี้ มันก็ต้องดูสว่าง ทำช่วงกลางของหน้าให้ดูสว่างขึ้นกว่า และจากด้านข้างจะ shade ให้มันเข้มๆ ขึ้น'
ในระหว่างที่พี่วิกำลังเพลินกับการแต่งแต้มใบหน้าไปทีละนิด พิธีกรของพวกเราก็เริ่มทำหน้าที่ยิงคำถามไปเรื่อยๆ ค่ะ
พิธีกร : พี่วิเริ่มมาเป็น Beauty Blogger ได้ยังไงคะ
พี่วิ : เริ่มต้นคือเป็นคนรักสวยรักงาม พูดมาก
ซึ่งหลักๆ ของ Blogger สายนี้คือต้องรักสวยรักงามอยู่แล้วแหละ ชอบแต่งตัว ขอบแต่งหน้า และก็ต้องเป็นคนชอบเล่า แต่ว่า "งานเขียนถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายมาก เพราะต้องคิดว่าเขียนยังไงถึงจะให้มีคนตามอ่าน"
พี่วิ : ความเป็น BlogGang ดีตรงที่ว่า สำหรับผู้ใหญ่อย่างพี่ ในเรื่องเครื่องมือในการใช้งานบนเว็บไซต์ เราจะไม่ค่อยรู้หรอก เพราะว่าเราไม่ใช่สายไอที คนบ้านๆ ธรรมดาอย่างเราพี่ว่าสามารถเข้ามาเขียน Blog ได้ไม่ยาก เนื่องจากมันมี Theme มีรูปแบบให้เราหมดแล้ว อย่างเช่น category ด้านข้าง เราสามารถเพิ่มเติมเองได้ มันง่าย ถ้าเราไปใช้งานที่อื่น บางที่เหมือนต้องจ้างคนมาทำ
พิธีกร : แสดงว่าเสน่ห์ของ BlogGang คือเขียนง่าย ใช้งานง่าย
พี่วิ : ใช่ค่ะ มันสำเร็จรูปแล้วและมี Theme ให้เราเลือกด้วย
พิธีกร : มันก็เลยเหมือนช่วยลดแรงในการเขียนใช่ไหมคะ เอาเวลาที่มีไปคิดสร้างสรรค์งานเขียนของเรา เพราะอุปกรณ์เครื่องมือต่างใน BlogGang มีให้อยู่แล้ว
พี่วิ : ใช่ค่ะ
ไอ้หยะ!!!...พิธีกรชงมาขนาดนี้ จะรออะไรคะ ปรบมือรัวๆเลยจ้า
พิธีกร : beauty4tie นี่มันมาจากอะไรคะ
พี่วิ : มาจากอายุค่ะ คือเริ่มต้นตอนที่พี่วิเขียน Blog ครั้งแรกคือ 40 พอดี แล้วตอนนั้นเราก็มีความรู้สึกว่า เอ๊ะ! จะทำยังไงให้คนจดจำชื่อของเราได้ง่าย หรือ search หาง่าย หรือ เข้าตรงสู่คนที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่พอเขียนไปจริงๆ พอเราเข้าไปดู คนที่ติดตามเรามีตั้งแต่น้องๆ หลานๆ สัก 10 กว่าๆ ก็มีนะ 18 ก็มีแล้ว แล้วไปเกาะๆ กันอยู่ประมาณ 25-30 ประมาณนี้นะคะ แต่ในวัยใกล้ๆกันจริงๆ เนี่ยไม่ค่อยเข้ามานะ (หัวเราะ) ไม่รู้ทำไม ก็เลยอันนี้แหละเป็นจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าอยากตั้งชื่อนี้ให้มันตรงกับ target ในตอนแรกที่เรามอง
ในระหว่างที่เม้าท์กันสนุกสนาน พี่วิก็เริ่มลงรองพื้นนางแบบผิวเข้มของเราใกล้เสร็จแล้วค่ะ ซึ่งก็หนีไม่พ้นที่พิธีกรจะเริ่มแซวกันเอง
พี่วิ : ปกติจะไม่ค่อยใช้เวลามากนะคะ (หัวเราะ) จริงๆ สาวผิวแทน ผิวน้ำผึ้ง ผิวเข้มเนี่ย แต่งหน้าออกมาสวยกว่าคนขาวนะ เพราะว่าจะดูคม shape ของสีออกมาแล้วจะดูสวยกว่า คนผิวขาวส่วนใหญ่จะออกมาดูหน้าแบนๆ ในเรื่องของ shading จะหนักมาก เพราะเขาพื้นเดียว ผิวสีเนี่ยถ้าลงไปนิดหน่อยก็ดูมีแสงเงาแล้ว
พี่วิ : จริงๆ เนี่ยคือลดทอนขั้นตอนมากๆ ไม่อย่างนั้นจะใช้เวลาเยอะมาก ไม่ๆ คือเราต้องเตรียมผิวทีแรกก่อน ซึ่งอันนี้ไม่ได้เตรียมผิวก่อน ซึ่งจะเห็นในเรื่องของรูขุมขนอยู่บ้าง จริงๆถ้าเราเอาแบบว่าแต่งเต็มที่เอาสวยเป๊ะๆ ต้องเริ่มตั้งแต่เตรียมผิวครั้งแรกเลย
พิธีกร : แสดงว่าการบำรุงก็สำคัญใช่ไหมคะ
พี่วิ : จริงๆ หน้าตอนนี้ก็ไม่ได้ถือดีมากนะ ยังมีผู้หญิงในวัยที่สูงกว่าพี่ ผิวดีกว่าพี่มากเยอะนะคะ แต่ว่าก่อนหน้าที่พี่วิจะมาเขียน Blog เนี่ย สภาพหน้าแย่มาก แต่ว่าเพิ่งมาใส่ใจตัวเองหนักๆ ก็ตอน 35 แล้วนะ คนก็จะถามว่า 'พี่วิ ถ้ามาดูแลตัวเองตอนสัก 30 ทันไหม' ทันนะ แต่อาจจะแบบว่าไม่ได้เป๊ะเหมือนคนที่เค้าดูแลตั้งแต่เด็กๆอ่ะ ถ้าเค้าดูแลบำรุงตัวเองตั้งแต่ 10 กว่าๆ 20 กว่าๆ อะไรแบบนี้มันก็จะอิ่ม สวย
พิธีกร : มีเพื่อนๆ เข้ามาถามคำถามใน Blog เยอะไหมคะ
พี่วิ : จริงๆใน Blog จะมีคนเข้ามาถามพี่วิบ้างบางส่วนนะคะ แต่จะมีอีก channel หนึ่ง ที่เหมือนโต้ตอบได้เลย อย่างเช่น Facebook Fanpage คนจะคุยกับเราได้เรียลไทม์กว่า แต่ทีนี้ใน Blog บางที เขาเข้ามาแล้วเราไม่เห็น แต่ถ้าเห็นเราจะลิสต์ตอบทันที
พิธีกร : พี่วิเริ่มต้นการแต่งหน้ายังไงคะ นอกจากรัก ชอบธรรมดา ยังไปศึกษาเพิ่มเติมหรือขวนขวายด้วยตัวเองยังไงคะ
พี่วิ : เราสามารถขวนขวายได้ด้วยตัวเอง จริงๆแล้ว คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าเราไปเรียนมา แต่เราไม่ได้เรียนมาเลย ดูจากใน youtube ดูจาก howto ของทุกๆ คนเนี่ยแหละค่ะ แล้วมาฝึกเอง เพราะฉะนั้น..."จะบอกเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ที่ยังแต่งหน้าไม่เป็น ก็จะบอกเลยว่าเราสามารถเรียนรู้เองได้จากตัวอย่างที่พี่ๆ เขียนใน Blog หรือ youtube แล้วเราค่อยๆ มาฝึกให้เหมาะกับทรงหน้าของเรา"
พิธีกร : เข้าไปอ่านใน Blog ของพี่วิมีความรู้สึกว่าอ่านแล้วอยากตาม อยากอ่านได้เรื่อยๆ อ่านได้อีก แล้วมีเกี่ยวกับเรื่องแพ้ด้วย
พี่วิ : ใช่ค่ะ สมัยแรกๆ ก่อนที่เราเริ่มเขียน Blog เวลาเราใช้ครีม เราก็จะชอบคำโปรย คำโปรยจะดึงดูดใจ ขาวเนียนอะไรงี้ แล้วแบบเราก็ต้องอินเทรนด์ด้วย พอใช้แล้ว บางที effect มันไม่เกิดในระยะเวลาสั้นๆ บางทีเลิกใช้แล้วถึงเกิดก็มี แล้วแบบหน้าพังมากก็จะมีในเรื่องของการรักษาด้วย สิวอุดตัน สิวอักเสบ ที่ตัวเองเป็นหนักๆสาหัส แล้วก็รักษายังไง รวมไปถึง ณ วันที่หน้าพังจัดๆ แล้วก็ต้องไปงาน ตอนนั้นมีไปเป็นวิทยากรเรื่องการแต่งหน้า แล้วแบบว่าหน้าตัวเองยังแย่อยู่เลย คือแบบว่ารอยสิว คือสิวอุดตันกับสิวอักเสบขึ้นนี่ไม่มีที่ว่างเลย แบบเต็มที่มากๆ วันนั้นก็ต้องโบ๊ะเก็บหมดเลย ยอมรับว่ามันอาจจะต้องดูหนานิดนึง แต่ก็ยังดีกว่าที่ทุกคนเห็นริ้วรอยของการที่เราแพ้
หลังจากที่หน้าเป๊ะแล้ว เรามาต่อกันที่คิ้วเลยค่า
พี่วิ : จริงๆจะบอกว่าคิวปลิง คิวเล็ก คิ้วโก่ง อะไรงี้ค่ะ มันอยู่ที่ทรงหน้าเราด้วยแหละ จริงๆสามารถทำได้ทุกคน หรือว่าอยู่ในเรื่องของ make up ลุคนั้นๆที่เราต้องการอะไร อย่างนี้อยากให้หน้าเค้าดูเด่นใช่ไหมคะ เราก็แบบว่าถ้าคิวปลิง คิ้วอาจจะเด่นกว่าหน้าเค้า ได้ทรงอยู่แล้ว
หลังจากการประดิดประดอยคิ้วให้สวยงาม กรีดอายไลเนอร์ให้ดูเด่นแล้ว อย่าลืมมาลงแป้งกันค่ะ ซึ่งเวลาลงแป้งไม่ควรปาดนะคะ สุดท้ายคือการทาลิปสติกค่ะ โดยพี่วิก็เริ่มทำการลงสีแดงให้ทั่ว และจบด้วยการลงสีดำตรงมุมปากทั้งสองข้าง และเกลี่ยโดยใช้แปรงสำหรับทาลิปสติก เป็นอันจบค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ นางฟ้าก็มีเพิ่มมาอีกคนแล้วค่ะ ฝีมือพี่วิเนี่ยไม่ธรรมดาเลยทีเดียว บอกได้คำเดียวว่า...เริ่ด! เห็นแล้วก็คันไม้คันมืออยากจะจับแปรงมาเนรมิตใบหน้าตัวเองให้สวยแบบนี้บ้างจัง แอบอิจฉาเบาๆ
ในที่สุดก็จบไปแล้วค่ะกับบทสัมภาษณ์ เทคนิคการแต่งหน้าดีๆ และแรงบันดาลใจจากพี่วิ สำหรับท่านใดที่สนใจเทคนิคดีๆอื่นๆของพี่วิ สามารถติดตามได้ที่ Blog : beauty4ties.bloggang.com ค่ะ และช่องทางอื่นๆ ได้ในชื่อ beauty4ties ค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพสวยๆจากพี่วิและนางแบบของเราค่า
ครั้งหน้าจะเป็น Blogger ท่านใด ติดตามชมกันด้วยนะคะ