ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ เปรียว sixtyone, คุณดาว Lady Star 919, คุณ โสพิศ ดุจเดือน, คุณ CAN LIVE, คุณ แววตา ใสใส, คุณ แอม วิเชียรฉาย, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณนัน turtle_cheesecake, จารย์จี GTW, คุณ หญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ - บทที่ ๑
http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓
http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔
http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕
http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖
http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗
http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘
http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙
http://ppantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐
http://ppantip.com/topic/35411784
บทที่ ๑๑
http://ppantip.com/topic/35422278
บทที่ ๑๒
http://ppantip.com/topic/35430211
บทที่ ๑๓
http://ppantip.com/topic/35437896
บทที่ ๑๔
เมื่ออาการของคุณสร้อยมีแต่ทรงกับทรุด งานแต่งของรามและไอรีนจึงต้องเลื่อนขึ้นมาอีกสองเดือน และจัดอย่างรีบเร่งไม่ต่างอะไรกับงานของสบโชค จากเดือนสิบเอ็ดคุณหญิงละออบอกว่าเดือนเก้าก็ถือว่าเป็นเดือนดีเช่นกัน
"เดือนหน้านี่ก็เดือนเก้า เดือนเก้าก็เป็นเดือนดีนะพ่อราม คำว่าเก้าเหมือนก้าวหน้า ก็จัดเดือนหน้าเสียเลยจะเป็นไรไป" หล่อนว่า
คราวนี้ไม่ต้องให้ใครดูฤกษ์ให้อีก ในเมื่อถือเอาฤกษ์สะดวกเสียแล้วอย่างนี้ คุณหญิงผู้เป็นแม่ของนายพันโทหนุ่มเลือกวันแต่งด้วยตัวเอง โดยเอาวันศุกร์ข้างขึ้นในเดือนเก้าเป็นวันประกอบพิธี หล่อนถือว่านอกจากเดือนเก้าจะเป็นเดือนดีแล้ว 'วันศุกร์' ซึ่งออกเสียงเหมือนคำว่า 'สุข' ก็เรียกว่าเป็นวันดีได้อีกด้วย อีกทั้งวันนั้นยังเป็นข้างขึ้นเสียอีก ความที่อยากได้ลูกสะใภ้น่าเอ็นดูมาอยู่ด้วยเสียไวๆ โดยไม่สนใจเรื่องอื่น ทุกอย่างจึงลงตัวไปเสียหมด
พอกำหนดวันเรียบร้อย การเตรียมงาน การจัดเตรียมขันหมากและจับจองสถานที่จึงต้องเริ่มกันทันที ในเมื่อมีเวลาเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น
เรื่องการใช้สโมสรนายทหารเป็นที่จัดงานเป็นพระดำริของพระองค์เจ้าศิระผู้ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมในเวลานั้น ทรงมีพระประสงค์จะให้นายทหารใช้สโมสรเป็นสถานที่จัดงานสำคัญกันบ้าง และจะมีงานใดที่เหมาะสมเป็นงานตัวอย่างถ้ามิใช่งานสมรสของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับรองเจ้ากรมเช่นนี้
กำหนดการเดิมที่วางกันไว้คร่าวๆ มีว่าช่วงเช้าขบวนขันหมากจะมาที่บ้านคุณสร้อย และเมื่อหล่อนไม่แข็งแรงนัก จะให้มีผู้คนมาวุ่นวายภายในบ้านกันมากมายหลายคนก็เกรงใจ ขบวนขันหมากจึงจะมีก็เพียงผู้ใหญ่และญาติพี่น้องใกล้ชิดฝ่ายเจ้าบ่าวอีกไม่กี่คน จะทำพิธีรับไหว้และทำบุญกันที่นั่น จากนั้นก็ย้ายไปประกอบพิธีหลั่งน้ำสังข์ที่สโมสรทหารบก งานจัดเลี้ยงแขกก็จะมีขึ้นที่นั่นเช่นกัน ตามด้วยการส่งตัวคู่บ่าวสาวที่บ้านของเจ้าบ่าว สิ่งหนึ่งซึ่งจะไม่มีตามความนิยมคือมโหรีกล่อมหอ ในเมื่อคุณหญิงละออบอกว่าหนวกหู มีไปก็เท่านั้น ไม่ต้องหลับต้องนอนกันเสียเปล่าๆ
แรกๆ เมื่อกำหนดวันแต่งไว้เป็นเดือนสิบเอ็ด แหม่มมาร์กาเร็ตส่งโทรเลขบอกมาว่าจะเดินทางมาร่วมงานด้วย ระยะเวลาจากงานหมั้นถึงงานแต่งห่างกันสี่เดือน มีเวลาจองตั๋วเรือมากมาย แต่เมื่องานจำต้องเลื่อนขึ้นมาอย่างกระทันหันเช่นนี้ รามจึงรีบโทรเลขไปแจ้งให้รู้ หล่อนจึงทำได้เพียงส่งของขวัญมาให้คู่บ่าวสาว และของขวัญนั้นจะมาถึงหลังวันงานผ่านไปแล้ว
แม้จะตระเตรียมกันอย่างเร่งรีบ หากทว่างานแต่งของไอรีนไม่ทุลักทุเลเหมือนของพี่ชาย ในเมื่อฝ่ายเจ้าบ่าวมีทั้งเงินตราและบารมีล้นเหลือ จะเนรมิตอะไรขึ้นมาก็ทำได้ไม่ยาก ในเวลาเดียวกันฝ่ายเจ้าสาวก็แทบไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ในเมื่อรามเองก็เรียกได้ว่าเข้าไปดูแลความเป็นอยู่ภายในครอบครัวพระพินิจนพคุณจนเกือบจะเต็มตัวอยู่แล้วแบบนี้
นายพันโทหนุ่มมีโอกาสพาคุณสร้อยไปตรวจที่โรงศิริราชพยาบาลครั้งหนึ่ง หลังจากที่ช่วยกันคะยั้นคะยอกับสบโชคอยู่พักใหญ่ แต่อย่างมากที่หมอจะทำได้ก็เพียงให้ยาบรรเทาอาการที่หล่อนเป็น และบอก 'ญาติ' ผู้พาคนไข้มาว่าคงทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น ในเมื่อคนป่วยยืนยันว่าหัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยอมรักษาตามแบบแผนของแพทย์สมัยใหม่ ยิ่งเมื่อหมอพูดให้ฟังถึงการฉายแสงซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้รักษาโรคที่หล่อนเป็น บอกว่าวิธีการรักษาแบบนั้นเป็นวิธีสมัยใหม่ และแม้ผู้คนจะยังไม่ใคร่รู้จักกันดีนัก แต่เท่าที่ได้ลองใช้ดู ก็เห็นว่าได้ผลดีทุกราย
เพียงแค่ได้ยิน สร้อยก็ปฏิเสธเสียงแข็งแล้วว่าจะไม่ยอมให้หมอเอา 'แสง' อะไรก็ไม่รู้มา 'ฉาย' เข้าไปในตัวหล่อน ว่ายามากมายที่ได้มาจากคนรู้จักก็ดีพออยู่แล้ว
รามจึงจำต้องพาหล่อนกลับบ้านมากินยาหม้อต่อไปตามเดิม
ในบรรดายาพื้นบ้านที่คุณสร้อยได้มาทั้งหมด ไม่มีของใครดีเด่นจนต้องออกปากชมแล้วชมเล่าเท่ากับยาของคนซึ่งหล่อนเคยสาปส่งว่าชาตินี้อย่าได้มาให้เห็นหน้ากันอีก ตายไปก็จงอย่าได้มาเผาผี ให้เช่าบ้านแล้วไม่พอ ยังแอบตีท้ายครัวพา ‘คนในบ้าน’ หนีไปให้ต้องอับอายเพื่อนบ้านและญาติมิตรด้วยอีก แต่เมื่อยาซึ่งเขาเอามาให้ดูเหมือนจะถูกโรคดีกว่าของคนอื่น หล่อนจึงแทบจะหลงลืมความขุ่นข้องหมองใจที่มีต่อกันเสียเกือบหมดสิ้น
หลวงอุดมโอสถมาเยี่ยมพร้อมอนงค์ในเย็นวันหนึ่ง พอคุณสร้อยเล่าถึงอาการทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นให้ฟัง วันต่อมาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยยาห่อใหญ่ มีสาโทมาด้วยอีกขวด แล้วเป็นคนลงมือปรุงยานั้นด้วยตัวเอง บอกด้วยว่าส่วนผสมซึ่งเป็นสาโทจะช่วยให้หลับสบาย
ปกติสร้อยจะมีอาการปวดในท้องเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่มีอาการ จะเจ็บปวดมากจนนั่งหรือนอนไม่ติด แต่พอลองยาของคุณหลวงเป็นครั้งแรกก็ติดใจ หล่อนไม่เคยลิ่มรสเหล้ามาก่อน ส่วนผสมของเหล้าในยาช่วยให้มึนชา ลดอาการเจ็บปวด และที่สำคัญช่วยให้หลับสบาย
เมื่อได้พักมากขึ้น อาการทั่วไปก็ดูเหมือนจะดีขึ้นด้วย หล่อนจึงเลิกยาอื่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยาไทยยาฝรั่ง เท่าที่ต้องการในเวลานี้คืออะไรก็ได้ที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมาน และช่วยให้ได้พัก นับแต่ได้ยานั้นมาจึงนอนได้นานๆ นอนได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยทีเดียว
บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๑๔)
ขอบคุณ คุณ เปรียว sixtyone, คุณดาว Lady Star 919, คุณ โสพิศ ดุจเดือน, คุณ CAN LIVE, คุณ แววตา ใสใส, คุณ แอม วิเชียรฉาย, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณนัน turtle_cheesecake, จารย์จี GTW, คุณ หญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ - บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙ http://ppantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐ http://ppantip.com/topic/35411784
บทที่ ๑๑ http://ppantip.com/topic/35422278
บทที่ ๑๒ http://ppantip.com/topic/35430211
บทที่ ๑๓ http://ppantip.com/topic/35437896
เมื่ออาการของคุณสร้อยมีแต่ทรงกับทรุด งานแต่งของรามและไอรีนจึงต้องเลื่อนขึ้นมาอีกสองเดือน และจัดอย่างรีบเร่งไม่ต่างอะไรกับงานของสบโชค จากเดือนสิบเอ็ดคุณหญิงละออบอกว่าเดือนเก้าก็ถือว่าเป็นเดือนดีเช่นกัน
"เดือนหน้านี่ก็เดือนเก้า เดือนเก้าก็เป็นเดือนดีนะพ่อราม คำว่าเก้าเหมือนก้าวหน้า ก็จัดเดือนหน้าเสียเลยจะเป็นไรไป" หล่อนว่า
คราวนี้ไม่ต้องให้ใครดูฤกษ์ให้อีก ในเมื่อถือเอาฤกษ์สะดวกเสียแล้วอย่างนี้ คุณหญิงผู้เป็นแม่ของนายพันโทหนุ่มเลือกวันแต่งด้วยตัวเอง โดยเอาวันศุกร์ข้างขึ้นในเดือนเก้าเป็นวันประกอบพิธี หล่อนถือว่านอกจากเดือนเก้าจะเป็นเดือนดีแล้ว 'วันศุกร์' ซึ่งออกเสียงเหมือนคำว่า 'สุข' ก็เรียกว่าเป็นวันดีได้อีกด้วย อีกทั้งวันนั้นยังเป็นข้างขึ้นเสียอีก ความที่อยากได้ลูกสะใภ้น่าเอ็นดูมาอยู่ด้วยเสียไวๆ โดยไม่สนใจเรื่องอื่น ทุกอย่างจึงลงตัวไปเสียหมด
พอกำหนดวันเรียบร้อย การเตรียมงาน การจัดเตรียมขันหมากและจับจองสถานที่จึงต้องเริ่มกันทันที ในเมื่อมีเวลาเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น
เรื่องการใช้สโมสรนายทหารเป็นที่จัดงานเป็นพระดำริของพระองค์เจ้าศิระผู้ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมในเวลานั้น ทรงมีพระประสงค์จะให้นายทหารใช้สโมสรเป็นสถานที่จัดงานสำคัญกันบ้าง และจะมีงานใดที่เหมาะสมเป็นงานตัวอย่างถ้ามิใช่งานสมรสของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับรองเจ้ากรมเช่นนี้
กำหนดการเดิมที่วางกันไว้คร่าวๆ มีว่าช่วงเช้าขบวนขันหมากจะมาที่บ้านคุณสร้อย และเมื่อหล่อนไม่แข็งแรงนัก จะให้มีผู้คนมาวุ่นวายภายในบ้านกันมากมายหลายคนก็เกรงใจ ขบวนขันหมากจึงจะมีก็เพียงผู้ใหญ่และญาติพี่น้องใกล้ชิดฝ่ายเจ้าบ่าวอีกไม่กี่คน จะทำพิธีรับไหว้และทำบุญกันที่นั่น จากนั้นก็ย้ายไปประกอบพิธีหลั่งน้ำสังข์ที่สโมสรทหารบก งานจัดเลี้ยงแขกก็จะมีขึ้นที่นั่นเช่นกัน ตามด้วยการส่งตัวคู่บ่าวสาวที่บ้านของเจ้าบ่าว สิ่งหนึ่งซึ่งจะไม่มีตามความนิยมคือมโหรีกล่อมหอ ในเมื่อคุณหญิงละออบอกว่าหนวกหู มีไปก็เท่านั้น ไม่ต้องหลับต้องนอนกันเสียเปล่าๆ
แรกๆ เมื่อกำหนดวันแต่งไว้เป็นเดือนสิบเอ็ด แหม่มมาร์กาเร็ตส่งโทรเลขบอกมาว่าจะเดินทางมาร่วมงานด้วย ระยะเวลาจากงานหมั้นถึงงานแต่งห่างกันสี่เดือน มีเวลาจองตั๋วเรือมากมาย แต่เมื่องานจำต้องเลื่อนขึ้นมาอย่างกระทันหันเช่นนี้ รามจึงรีบโทรเลขไปแจ้งให้รู้ หล่อนจึงทำได้เพียงส่งของขวัญมาให้คู่บ่าวสาว และของขวัญนั้นจะมาถึงหลังวันงานผ่านไปแล้ว
แม้จะตระเตรียมกันอย่างเร่งรีบ หากทว่างานแต่งของไอรีนไม่ทุลักทุเลเหมือนของพี่ชาย ในเมื่อฝ่ายเจ้าบ่าวมีทั้งเงินตราและบารมีล้นเหลือ จะเนรมิตอะไรขึ้นมาก็ทำได้ไม่ยาก ในเวลาเดียวกันฝ่ายเจ้าสาวก็แทบไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ในเมื่อรามเองก็เรียกได้ว่าเข้าไปดูแลความเป็นอยู่ภายในครอบครัวพระพินิจนพคุณจนเกือบจะเต็มตัวอยู่แล้วแบบนี้
นายพันโทหนุ่มมีโอกาสพาคุณสร้อยไปตรวจที่โรงศิริราชพยาบาลครั้งหนึ่ง หลังจากที่ช่วยกันคะยั้นคะยอกับสบโชคอยู่พักใหญ่ แต่อย่างมากที่หมอจะทำได้ก็เพียงให้ยาบรรเทาอาการที่หล่อนเป็น และบอก 'ญาติ' ผู้พาคนไข้มาว่าคงทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น ในเมื่อคนป่วยยืนยันว่าหัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยอมรักษาตามแบบแผนของแพทย์สมัยใหม่ ยิ่งเมื่อหมอพูดให้ฟังถึงการฉายแสงซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้รักษาโรคที่หล่อนเป็น บอกว่าวิธีการรักษาแบบนั้นเป็นวิธีสมัยใหม่ และแม้ผู้คนจะยังไม่ใคร่รู้จักกันดีนัก แต่เท่าที่ได้ลองใช้ดู ก็เห็นว่าได้ผลดีทุกราย
เพียงแค่ได้ยิน สร้อยก็ปฏิเสธเสียงแข็งแล้วว่าจะไม่ยอมให้หมอเอา 'แสง' อะไรก็ไม่รู้มา 'ฉาย' เข้าไปในตัวหล่อน ว่ายามากมายที่ได้มาจากคนรู้จักก็ดีพออยู่แล้ว
รามจึงจำต้องพาหล่อนกลับบ้านมากินยาหม้อต่อไปตามเดิม
ในบรรดายาพื้นบ้านที่คุณสร้อยได้มาทั้งหมด ไม่มีของใครดีเด่นจนต้องออกปากชมแล้วชมเล่าเท่ากับยาของคนซึ่งหล่อนเคยสาปส่งว่าชาตินี้อย่าได้มาให้เห็นหน้ากันอีก ตายไปก็จงอย่าได้มาเผาผี ให้เช่าบ้านแล้วไม่พอ ยังแอบตีท้ายครัวพา ‘คนในบ้าน’ หนีไปให้ต้องอับอายเพื่อนบ้านและญาติมิตรด้วยอีก แต่เมื่อยาซึ่งเขาเอามาให้ดูเหมือนจะถูกโรคดีกว่าของคนอื่น หล่อนจึงแทบจะหลงลืมความขุ่นข้องหมองใจที่มีต่อกันเสียเกือบหมดสิ้น
หลวงอุดมโอสถมาเยี่ยมพร้อมอนงค์ในเย็นวันหนึ่ง พอคุณสร้อยเล่าถึงอาการทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นให้ฟัง วันต่อมาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยยาห่อใหญ่ มีสาโทมาด้วยอีกขวด แล้วเป็นคนลงมือปรุงยานั้นด้วยตัวเอง บอกด้วยว่าส่วนผสมซึ่งเป็นสาโทจะช่วยให้หลับสบาย
ปกติสร้อยจะมีอาการปวดในท้องเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่มีอาการ จะเจ็บปวดมากจนนั่งหรือนอนไม่ติด แต่พอลองยาของคุณหลวงเป็นครั้งแรกก็ติดใจ หล่อนไม่เคยลิ่มรสเหล้ามาก่อน ส่วนผสมของเหล้าในยาช่วยให้มึนชา ลดอาการเจ็บปวด และที่สำคัญช่วยให้หลับสบาย
เมื่อได้พักมากขึ้น อาการทั่วไปก็ดูเหมือนจะดีขึ้นด้วย หล่อนจึงเลิกยาอื่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยาไทยยาฝรั่ง เท่าที่ต้องการในเวลานี้คืออะไรก็ได้ที่ช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมาน และช่วยให้ได้พัก นับแต่ได้ยานั้นมาจึงนอนได้นานๆ นอนได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยทีเดียว