เมื่อวันอาทิตย์ (31 ก.ค.59) เฟซบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มนี้มีเครือข่ายในโรงเรียน บริษัท ธนาคาร และสื่อมวลชนจำนวนมาก เพื่อใช้ฟอกเงินและประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม
สถานทูตตุรกีฯระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีพยายามเปิดโปงและระงับการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ที่สำคัญมีการเข้ามาดำเนินการในประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นสมาคมเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับตุรกี และยืนยันว่า กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นผู้แทนของเอกชนตุรกี และไม่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล ดังนั้น การทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ จึงขอให้สมาคมเอกชน และหอการค้าของไทยติดต่อกับสำนักงานส่งเสริมการค้าของสถานทูตโดยตรง
อย่างไรก็ตาม สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี ออกแถลงการณ์ตอบโต้ยืนยันว่า สมาคมไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายตามที่ถูกกล่าวหา และเป็นสมาคมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายของไทย จึงไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากรัฐบาลตุรกี อีกทั้งได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้ามาโดยตลอด โดยนายบินาลี ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของตุรกี ได้ร่วมทำพิธีเปิดสมาคมเมื่อปี 2550 ด้วย
ด้านนายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ให้ความเห็นว่า สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี เป็นสมาชิกหอการค้าร่วมต่างประเทศ เพราะเขาจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ถูกต้องตามกฎหมายไทย ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทำรัฐประหารตุรกีนั้น เป็นเรื่องภายในของประเทศตุรกี ซึ่งหอการค้าต่างประเทศไม่สามารถทำอะไรได้
http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378511452/
สถานทูตตุรกีกล่าวหา"สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี" เอี่ยวทำรัฐประหาร
สถานทูตตุรกีฯระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีพยายามเปิดโปงและระงับการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ที่สำคัญมีการเข้ามาดำเนินการในประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นสมาคมเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับตุรกี และยืนยันว่า กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นผู้แทนของเอกชนตุรกี และไม่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล ดังนั้น การทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ จึงขอให้สมาคมเอกชน และหอการค้าของไทยติดต่อกับสำนักงานส่งเสริมการค้าของสถานทูตโดยตรง
อย่างไรก็ตาม สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี ออกแถลงการณ์ตอบโต้ยืนยันว่า สมาคมไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายตามที่ถูกกล่าวหา และเป็นสมาคมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายของไทย จึงไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากรัฐบาลตุรกี อีกทั้งได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้ามาโดยตลอด โดยนายบินาลี ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของตุรกี ได้ร่วมทำพิธีเปิดสมาคมเมื่อปี 2550 ด้วย
ด้านนายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย ให้ความเห็นว่า สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี เป็นสมาชิกหอการค้าร่วมต่างประเทศ เพราะเขาจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ถูกต้องตามกฎหมายไทย ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทำรัฐประหารตุรกีนั้น เป็นเรื่องภายในของประเทศตุรกี ซึ่งหอการค้าต่างประเทศไม่สามารถทำอะไรได้
http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378511452/