มีคนเคยบอกว่า ถ้าคิดถึงอะไรให้เดินทางไปตามหาสิ่งนั้น ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เกิดจากฉัน คิดถึง (เขา) เลยต้องออกเดินทางเพื่อไปตามหา เขา หลายคนคงคิดว่า เอะ!! บนยอดดอยนั้นมีอะไรดีทำไมวันหยุดแบบนี้กลับไม่นอนพักผ่อนอยู่บ้าน หรือไปเดินห้างหาอะไรทานชิวๆ แต่กลับต้องมาลำบากเดินขึ้นเขาตั้ง 11 กิโล บ้าไปแล้วหรอ เอาล่ะเราจะมาดูเฉลยกัน โดยที่ดอยหลวงตากตั้งอยู่ที่ เทศบาลตำบลทุ่งกระเชาะ อ.บ้านตาก จ.ตาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ วนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข จุดสูงสุดอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,175 m เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมปีนี้เป็นปีที่ 3 ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้มากๆ แม้แต่ทางเดินซึ่งถ้าไม่มี จนท. นำ อาจมีหลงแน่นอน (เรามีหลงด้วยและก่อนถึงจุดกางเต้น อิอิ)
วันแรกแห่งการเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้พวกเรากลุ่มกลุกฝุ่นนัดรวมตัวกันที่ บิ๊กซีสะพานควาย และตกลงกันว่าล้อจะหมุนออกจากกรุงเทพประมาณ 20.00 (แต่เอาเข้าจริงก็เรตหน่อยๆ) โดยพาหนะที่ใช้เดินทางในครั้งนี้เป็นรถตู้ (ซึ่งเราคิดว่าการเดินทางแบบนี้สะดวกสุดแว้ว)
วันที่สองแห่งการพิชิตยอดดอยหลวงตาก
พวกเรากลุ่มคลุกฝุ่นมาถึงวนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข ประมาณ 6.00 พอมาถึงก็ทำภาระกิจส่วนตัว กินข้าว และจัดกระเป๋า โดยของใช้แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนกองกลาง (เต้น น้ำบางส่วน อาหาร) อันนี้ให้ลูกหาบแบกขึ้นไป และส่วนต่อมา คือ ของใช้ส่วนตัว และน้ำที่เอาไว้ทาน อันนี้แบกขึ้นไปเอง เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมเราก็นั่งรถบรรทุกของชาวบ้านเพื่อไปเริ่มเดินทางตรงจุดเดินเท้า ซึ่งระยะทางในการเดินก็ประมาณ 11 กิโล ซึ่งเราเองใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมง (ขอบอกฝนตกด้วยล่ะ ถ้าคิดจาไปเดินอย่าลืมเสื้อกันฝนนะค่ะ)
แวะถ่ายรูปกะป้ายสักนิดก่อนขึ้น
เดินมาสักนิดเจอลำธารน้อยๆ ให้เราได้เล่นน้ำกันชื่นใจด้วยละ (ขาลงเราแอบเล่นน้ำด้วย สดชื่นมากมาย)
ทางเดินขึ้นดอยก็มีทางราบสลับกับทางชันบ้าง (แต่ทางจะชันเป็นส่วนใหญ่)
เจอเจ้าถิ่นของที่นี้ด้วย (ขี้วัวเยอาะมาก ระหว่างทางก็เดินดูกันดีๆนะ)
ความสวยงานของธรรมชาติระหว่างทาง
เดินขึ้นมาสักพักเพื่อหาที่แวะทานข้าว เห็นบรรยากาศแบบนี้หายเหนื่อยเลยทันที
ในที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั้นเราเดินมาถึงยอดดอยหลวงตากแว้ว
เป็นยังไงล่ะขึ้นมาและเจอบรรยากาศแบบนี้ ฟินเลยใช่ไหมค่ะ ขอบอกเราหายเหนื่อยเลยอ่ะ ยืนมองหมอกแบบ ฟินๆ
ยังไม่หมดนะค่ะ เราต้องเดินไปขึ้นดอยที่อยู่ติดๆ กันด้วยค่ะ ซึ่งจุดเด่นของอีกฝากคือ
ต้นสนเดียวดาย แต่เราไม่รู้ง่ะทำไมถึงชื่อนี้
ต้นสนเดียวดาย (แต่เราเที่ยวครั้งนี้ไม่เดียวดายนะ เพื่อนๆ ร่วมทริปน่ารักมาก)
ความสวยงามของธรรมชาติ
วันสุดท้ายแห่งความสุข
เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน พอเช้ามาก็ยังมีฝนตกแบบบางๆ อยู่จึงทำให้ไม่เห็นแสงแรกของวัน แต่เราก็เห็นเป็นหมอกนะค่ะ ถึงแม้จะไม่ใช่ทะเลหมอกเลยก็ตาม แต่ก็ทำให้ฟินได้ เราขอบอกว่าตื่นมาก่อนลงต้องปีนขึ้นไปยอดดอยอีกครั้งนะ และถ้าเป็นไปได้ไปเยี่ยม ต้นมนเดียวดาย ก่อนกลับ เราว่าบรรยายกาศตอนเช้าและตอนเย็นมัน ฟินกันคนละแบบ โดยที่ขาลงเราใช้เวลาประมาณ 3 ชัวโมง (มีแอบเล่นน้ำกันด้วยนะ) และแล้วทริปนี้ก็จบลงด้วยความสุข และเฮาฮากันไปแต่กลับมาเราระบมไปทั้งตัวงะ แต่ถือว่าคุ้มม
>>ก่อนไปควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อหารถมารับ-ส่ง จากอุทยานไปจุดเดินเท้า และจากจุดเดินเท้ามาอุทยาน<<
>>ควรติดต่อลูกหาบไว้แต่เนินๆ นะค่ะ เพราะช่วงนี้คนนิยมไปเดินดอยนี้กันมากเดี๋ยวจะไม่ได้ลูกหาบ<<
>>ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางด้วยนะค่ะ เพราะเป็นป่าใหม่อาจหลงได้ เราหลงมาแระ<<
>>ควรนำเสบียง อาหาร น้ำดื่น ขนม ยาต่างๆ ไปให้พร้อมนะค่ะเพราะข้างบนไม่มีอะไรเลย<<
>>สุดท้ายถ้าชอบเดินป่าสไตล์นี้และอยากมีเพื่อนร่วมทางสนุกๆ เชิญได้ที่ "กลุ่มคลุ่กฝุ่น" คนจัดน่ารักมากและมีทริปให้เราเลือกเที่ยวกันมากมาย<<
และเราจะกลับมาเจอกันใหม่ในทริปหน้าน้าา^^
[CR] ฉันคิดถึง (เขา) เลยไปหาเธอ ดอยหลวงตาก
วันแรกแห่งการเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้พวกเรากลุ่มกลุกฝุ่นนัดรวมตัวกันที่ บิ๊กซีสะพานควาย และตกลงกันว่าล้อจะหมุนออกจากกรุงเทพประมาณ 20.00 (แต่เอาเข้าจริงก็เรตหน่อยๆ) โดยพาหนะที่ใช้เดินทางในครั้งนี้เป็นรถตู้ (ซึ่งเราคิดว่าการเดินทางแบบนี้สะดวกสุดแว้ว)
วันที่สองแห่งการพิชิตยอดดอยหลวงตาก
พวกเรากลุ่มคลุกฝุ่นมาถึงวนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข ประมาณ 6.00 พอมาถึงก็ทำภาระกิจส่วนตัว กินข้าว และจัดกระเป๋า โดยของใช้แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนกองกลาง (เต้น น้ำบางส่วน อาหาร) อันนี้ให้ลูกหาบแบกขึ้นไป และส่วนต่อมา คือ ของใช้ส่วนตัว และน้ำที่เอาไว้ทาน อันนี้แบกขึ้นไปเอง เมื่อเราเตรียมทุกอย่างพร้อมเราก็นั่งรถบรรทุกของชาวบ้านเพื่อไปเริ่มเดินทางตรงจุดเดินเท้า ซึ่งระยะทางในการเดินก็ประมาณ 11 กิโล ซึ่งเราเองใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมง (ขอบอกฝนตกด้วยล่ะ ถ้าคิดจาไปเดินอย่าลืมเสื้อกันฝนนะค่ะ)
เดินมาสักนิดเจอลำธารน้อยๆ ให้เราได้เล่นน้ำกันชื่นใจด้วยละ (ขาลงเราแอบเล่นน้ำด้วย สดชื่นมากมาย)
ยังไม่หมดนะค่ะ เราต้องเดินไปขึ้นดอยที่อยู่ติดๆ กันด้วยค่ะ ซึ่งจุดเด่นของอีกฝากคือ ต้นสนเดียวดาย แต่เราไม่รู้ง่ะทำไมถึงชื่อนี้
ต้นสนเดียวดาย (แต่เราเที่ยวครั้งนี้ไม่เดียวดายนะ เพื่อนๆ ร่วมทริปน่ารักมาก)
วันสุดท้ายแห่งความสุข
เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน พอเช้ามาก็ยังมีฝนตกแบบบางๆ อยู่จึงทำให้ไม่เห็นแสงแรกของวัน แต่เราก็เห็นเป็นหมอกนะค่ะ ถึงแม้จะไม่ใช่ทะเลหมอกเลยก็ตาม แต่ก็ทำให้ฟินได้ เราขอบอกว่าตื่นมาก่อนลงต้องปีนขึ้นไปยอดดอยอีกครั้งนะ และถ้าเป็นไปได้ไปเยี่ยม ต้นมนเดียวดาย ก่อนกลับ เราว่าบรรยายกาศตอนเช้าและตอนเย็นมัน ฟินกันคนละแบบ โดยที่ขาลงเราใช้เวลาประมาณ 3 ชัวโมง (มีแอบเล่นน้ำกันด้วยนะ) และแล้วทริปนี้ก็จบลงด้วยความสุข และเฮาฮากันไปแต่กลับมาเราระบมไปทั้งตัวงะ แต่ถือว่าคุ้มม
>>ก่อนไปควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อหารถมารับ-ส่ง จากอุทยานไปจุดเดินเท้า และจากจุดเดินเท้ามาอุทยาน<<
>>ควรติดต่อลูกหาบไว้แต่เนินๆ นะค่ะ เพราะช่วงนี้คนนิยมไปเดินดอยนี้กันมากเดี๋ยวจะไม่ได้ลูกหาบ<<
>>ควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางด้วยนะค่ะ เพราะเป็นป่าใหม่อาจหลงได้ เราหลงมาแระ<<
>>ควรนำเสบียง อาหาร น้ำดื่น ขนม ยาต่างๆ ไปให้พร้อมนะค่ะเพราะข้างบนไม่มีอะไรเลย<<
>>สุดท้ายถ้าชอบเดินป่าสไตล์นี้และอยากมีเพื่อนร่วมทางสนุกๆ เชิญได้ที่ "กลุ่มคลุ่กฝุ่น" คนจัดน่ารักมากและมีทริปให้เราเลือกเที่ยวกันมากมาย<<
และเราจะกลับมาเจอกันใหม่ในทริปหน้าน้าา^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น