หมายเหตุ: กระทู้นี้อัพใหม่เพื่อให้ถูกประเภทตามกฎของพันทิป ต้องขอโทษในความผิดพลาด และความไม่สะดวกด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกๆท่าน
วันนี้มี่มีงานวิเคราะห์ส่วนผสม Skincare เติมน้ำที่น่าสนใจมาฝากค่ะ
มาเริ่มกันด้วยคำถามที่ว่า
"ทำไมต้องเติมน้ำให้ผิว???"
นั่นก็เพราะว่า น้ำเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของผิว ถ้าผิวมีน้ำในระดับที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ผิวเราก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะน้ำจำเป็นต่อการทำงานของผิวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ การสร้างโปรตีน ไขมันและสารต่างๆมาทดแทนส่วนที่เสียไป และการซ่อมแซมตัวเองของผิว
ผิวที่มีน้ำจะนุ่มฟู เต่งตึง และทำให้ริ้วรอยเล็กๆบนผิวถูกความเต่งตึงนั้นอำพรางให้หายไปค่ะ
การเติมน้ำถือว่าค่อนข้างสำคัญ และควรทำเป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวเลยค่ะ
ว่าแล้วก็มาดูโฉมหน้าของผู้เข้าประกวดวันนี้ดีกว่าค่ะ
จาก 20 ตัวนี้ บอกตามตรงว่า มี่เคยใช้แค่ 8 ตัวนะคะ ส่วนที่เหลือเป็นตัวที่มี่เห็นว่าน่าสนใจค่ะ
สำหรับส่วนผสมที่ให้ผลเติมน้ำได้มีหลายกลุ่มนะคะ
จริงๆแล้วในเนื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เรามีพวกตัวทำละลาย อย่าง Glycerin หรือ พวก Glycol พวกนี้ก็ทำหน้าที่เป็นสารเติมน้ำให้ผิวได้แล้วค่ะ เพราะสารพวกนี้มีคุณสมบัติดูดน้ำเข้าหาตัวเอง เราเรียกกันว่า "Humectant"
ถ้าเราไม่นับกลุ่ม Humectant นี้ สารอื่นๆที่มีคุณสมบัติเติมน้ำให้ผิวจะมีอยู่ด้วยกัน 5 กลุ่มหลักๆ และก็จะมีพวกปกิณกะ ที่ไม่อยู่ในกลุ่มพวกนี้ เช่น วิตามินบี 5 และ urea เป็นต้นค่ะ
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ประสิทธิภาพของสารเติมน้ำพวกนี้มีจำกัดค่ะ เพราะความสามารถจะขึ้นกับปริมาณความชื้นในอากาศ ถ้าอากาศแห้งมากๆ เช่น ในหน้าหนาว อาจจะไม่ได้ผล หรือ อาจจะแย่กว่าเดิมก็ได้ เพราะสารไปดูดน้ำออกมาจากในผิวแทน
และ ผลิตภัณฑ์เติมน้ำควรใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ตัวอื่นๆ ที่มีสารเคลือบผิว คอยเคลือบปกป้องไว้ไม่ให้น้ำที่อุตส่าห์ดูดมาระเหยหายไปในอากาศค่ะ
เกณฑ์ในการให้คะแนนวันนี้ เราจะแบ่งเป็น 3 หัวข้อ รวม 15 คะแนนค่ะ
1. สารเติมน้ำ มีคะแนนเต็มที่ 5 คะแนน
2. สารบำรุงอื่นๆ มีคะแนนเต็มที่ 5 คะแนน
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ มีคะแนนเต็มที่ 5 คะแนน
การวิเคราะห์ส่วนผสมนี้เป็นวิเคราะห์จากส่วนผสม โดยไม่คำนึงถึงเทคโนโลยีที่ใช้ เพราะส่วนผสมไม่สามารถบอกระดับขั้นของเทคโนโลยีได้ค่ะ ตัวไหนจะเป็นอย่างไรวันนี้มาแนะนำให้ค่ะ ส่วนดีหรือไม่ดี คงต้องตัดสินใจเอานะคะ มี่คงไม่ฟันธงให้ค่ะ
แล้วก็
1. การตอบสนองต่อเครื่องสำอางของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน บางคนใช้ได้แล้วหน้าปัง แต่บางคนใช้แล้วหน้าพังก็มี การดูส่วนผสมเป็นเพียงแนวทางเฉยๆค่ะ
2. การแพ้/อุดตัน/ระคายเคือง คาดเดาไม่ได้ ดังนั้นคำถามว่า แพ้ไหม อุดตันไหม เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้นะคะ
3. ส่วนผสมบางชุดที่มีสารสีแดง ไม่ได้แปลว่าจะไม่ดีเสมอไป เพราะการตอบสนองขึ้นกับความเข้มข้นด้วย ถ้าเค้าใส่น้อยๆก็คือดี แต่เค้าใส่มากๆก็อาจจะมีผลข้างเคียง ไม่ใช่ว่าเห็นสารสีแดงและจะ Ban ไปเลยนะคะ
4. ขอสงวนลิขสิทธิ์ทุกกรณีในบทความ ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด
5. ผู้เขียนมีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้
6. ผู้เขียนไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชื่นชม หรือ Discredit ผลิตภัณฑ์ไหน
7. ผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ
8. การให้คะแนนเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล
ว่าแล้วก็ดูคะแนนในภาพรวมของแต่ละตัวกันก่อนเลยนะคะ
ก่อนไปชมรายละเอียด
ฝากกระทู้เก่าๆ และฝากเพจด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แผลเป็น
http://ppantip.com/topic/32135282
Eye cream ภาค 1
http://ppantip.com/topic/32311549
Eye cream ภาค 2
http://ppantip.com/topic/32635443
Sleeping pack
http://ppantip.com/topic/33057224
Essence
http://ppantip.com/topic/32794605
Barrier cream
http://ppantip.com/topic/33431569
Whitening
http://ppantip.com/topic/33661639
คุมมัน
http://ppantip.com/topic/33945560
กันแดด
http://ppantip.com/topic/34440826
ชะลอวัย ลดริ้วรอย
http://ppantip.com/topic/35121595
แฟนเพจ
https://www.facebook.com/PinkCosmetIS
แวะไปคุยกันได้นะคะ
อารัมภบทมาเยอะแยะ พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่าาา
ตัวนี้เป็น Hyaluron Toner ของยี่ห้อ I จากฝั่งเกาหลีค่ะ
ในส่วนของสารเติมน้ำหลักๆ มี 2 ตัว คือ Sodium hyaluronate กับ Trehalose ค่ะ
ว่ากันด้วย Trehalose นางเป็นน้ำตาลชนิดพิเศษ ที่เติมน้ำและเก็บน้ำให้ผิวได้ค่อนข้างดีค่ะ
เสริมมาด้วยสารบำรุงอีกนิดหน่อย มีสารสกัดจาก Acerola กับดอกชบา ที่น่าจะให้ผลด้าน Whitening ได้ด้วย สารสกัดจาก Portulaca ที่เด่นเรื่องการสมานผิวค่ะ สารสกัดจากผลไม้ยังมีน้ำตาลที่ช่วยเรื่องดูดน้ำให้ผิวได้ด้วยค่ะ
สารอื่นๆไม่ได้มีตัวไหนมีปัญหาอะไรกับผิวนะคะ
ให้คะแนนกันค่ะ
1. สารเติมน้ำ ให้ไป 4 คะแนนค่ะ เพราะมี hya กับ น้ำตาล trehalsoe แต่ด้วยความที่ว่า เราไม่ค่อยเจอผลิตภัณฑ์ที่ใส่ Hya มาในลำดับก่อนพวก solvent ก็เลยขอให้เยอะหน่อยนะคะ
2. สารบำรุงอื่นๆ ให้ผลด้าน Antioxidant, Whitening และเรื่องของการลดการอักเสบในผิว แต่เหมือนยังดูน้อยชนิดไป ถ้าเทียบกับบางแบรนด์ เอาไป 4 คะแนน
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เลยขอให้ 5 ฟลาสก์
ตัวที่สอง
น้ำตบอำพันของทางญี่ปุ่นที่โด่งดังอยู่พักหนึ่งในบ้านเรา
ส่วนของสารเติมน้ำหลักเป็นกลุ่มน้ำตาล ร่วมกับ Hyaluron 2 ชนิด collagen และ placenta เสริมมาด้วยไขมัน และสารบำรุงอีกนิดหน่อย
ส่วนผงอำพันกับสารสกัดอำพันมี่ไม่แน่ใจในกลไกการออกฤทธิ์นะคะ
ให้คะแนนค่ะ
1. สารเติมน้ำ มีอยู่ค่อนข้างหลายตัวมากค่ะ ทั้ง Hya collagen placenta และน้ำตาลตัวเล็กๆ เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ ถ้าไม่ได้ดูที่อำพัน ที่น่าสนใจคือ สารสกัดจาก Pueraria ที่ช่วยให้ผิวนุ่มฟู เสริมด้วยสารสกัดจากอโล กุหลาบ และ สาหร่าย กับ Chlorella ที่น่าจะเป็น Antioxidant โดยรวมจึงถือว่า ทำมาได้ค่อนข้างโอเคค่ะ เอาไป 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ได้มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เลยเอาไป 5 ฟลาสก์ เช่นกัน
ตัวที่สาม
น้ำตบไฮยาตัวที่ดังที่สุด และเหมือนจะเป็นเจ้าแรกสุด (คหสต) คิดว่าไม่มีใครไม่น่ารู้จักค่ะ
ส่วนผสมของสารเติมน้ำเป็น Hya 3 ชนิดที่มีขนาดแตกต่างกันให้ผลบำรุงผิวที่หลายระดับความตื้นลึก
แต่สารบำรุงอื่นๆยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมมา เรียกได้ว่าเน้นเติมน้ำล้วนๆ
ให้คะแนน
1. สารเติมน้ำ มี Hya 3 ชนิด เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ ไม่มี เลยได้ไป 0
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไรเลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
ตัวที่สี่
Toner เติมน้ำจากยี่ห้อ B ผู้ผลิต Cleansing water อันโด่งดัง
ใช้สารในกลุ่มน้ำตาลเป็นสารเติมน้ำ ซึ่งสารกลุ่มน้ำตาลอย่าง Rhamnose ยังมีผลดีในเรื่องลดการอักเสบ และ Fructooligosaccharide ยังเป็น Prebiotic ที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์บนผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงได้อีก
1. สารเติมน้ำ เป็นสารกลุ่มน้ำตาลตัวเล็ก กับ Fructooligosaccharide ที่ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย ให้ผลเติมน้ำได้หลายระดับ และสารสกัดจากผลแอปเปิ้ลเองก็เติมน้ำให้ผิวได้ ขอให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มี Allantoin ช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง มีวิตามินบี 3 ที่ให้ผลได้หลายอย่าง และตัวน้ำตาลที่ใส่มาเองก็มีประโยชน์พิเศษ แต่ยังอยากได้ Antioxidant เพิ่มซักหน่อย เลยขอให้ไป 4 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไรเลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
ตัวที่ห้า
โทนเนอร์เติมน้ำ ยี่ห้อ M ของเกาหลี
มีส่วนประกอบของน้ำแร่ น้ำทะเล และน้ำกุหลาบ เสริมมาด้วยสารสกัดจากผลไม้และพืชหลายชนิด อาศัยวิตามินบี 5 กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ (AHA) และ น้ำตาลเป็นตัวเติมน้ำให้ผิว
ให้คะแนน
1. สารเติมน้ำ อาศัย สารสกัดจากผลไม้ น้ำกุหลาบ น้ำแร่ วิตามินบี 5 กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ และ Biosaccharide gum-1 ซึ่งนอกจากเติมน้ำยังให้ผลเกี่ยวกับด้านการอักเสบในผิวได้อีก ให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มีส่วนของสารสกัดจากผัก ผลไม้ และพืช ให้ผลโดยรวมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น Whitening ลดการอักเสบ และ Antioxidant และยังมีไขมัน Squalane อยู่ด้วย จึงขอให้ไป 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
ตัวที่หก
แบรนด์ A เป็นแบรนด์ดังอีกแบรนด์ของเกาหลี ในเครือเดียวกับแบรนด์ M เมื่อกี๊ แบรนด์นี้ดูเหมือนจะเน้นไปที่นักศึกษาและวัยรุ่น เพราะราคาส่วนใหญ่ค่อนข้างถูก
ตัวนี้มี่แปลส่วนผสมมาจากหน้าเวบไซต์ของเขาอีกทีค่ะ อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ เพราะ google แปลมันไม่ได้เป๊ะมาก ยังต้องมานั่งเดาต่ออีกนิดหน่อย
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของสารสกัด ทั้งสารสกัดจากธัญพืช ผลไม้ สมุนไพร ดอกไม้ และชาเขียว จึงให้ผลบำรุงผิวได้ครบถ้วนรอบด้าน
ให้คะแนน
1. สารเติมน้ำ เป็นสารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ร่วมกับน้ำตาล ขอให้ 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มีส่วนของสารสกัดพืชอยู่ค่อนข้างเยอะ ให้ผลโดยรวมรอบด้าน ทั้ง Antioxidant, Whitening, ชะลอวัย ลดการอักเสบ กระชับรูขุมขน และฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาจจะให้ผลเรื่องสิวก็ได้ค่ะ ขอให้ 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ในส่วนผสมมี Alcohol ที่อาจจะระคายเคืองผิวได้ในบางคน จึงขอให้ 4 ฟลาสก์
ในส่วนของส่วนผสมที่เรียกว่าโดดเด่น คงเป็น สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว “
Tremella fuciformis extract” ซึ่งผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าเป็น Hyaluron จากพืชเลยทีเดียว และให้ผลเก็บน้ำให้ผิวได้ยาวนาน
ตัวที่ 7
Moisture prep ของยี่ห้อ B ที่โด่งดังด้าน Primer กับ ผลิตภัณฑ์กลุ่มคิ้ว
นางก็มี Skincare หลายตัวค่ะ มี่ได้ข้อมูลส่วนผสมมาจากเวบ Drugstore นะคะ
ตัวนี้อาศัยส่วนผสมของสารสกัดจากยีสต์ ว่านหางจรเข้ ไฮยา และ Biosaccharide gum-1 เป็นตัวเติมน้ำ
แต่ลำดับส่วนผสมดูแล้วค่อนข้างกวนใจนิดนึง แบบว่า สารบำรุงส่วนใหญ่คือมาหลังน้ำหอม ถ้าไม่ใส่น้ำหอมเยอะ ก็คือใส่สารบำรุงมาน้อยนั่นเอง
ให้คะแนนค่ะ
1. สารเติมน้ำ หลักๆเป็น Biosaccharide gum-1 ที่ให้ผลดีเรื่องการอักเสบ และไฮยา เสริมด้วยพวกสารสกัดจากยีสต์ และว่านหางจระเข้ ขอให้ 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มีพวกสารสกัดจากข้าวโอ้ต ให้ผลดีในเรื่องการอักเสบ ลดการระคายเคืองผิว ยีสต์ กับ
Artemisia capillaris extract ให้ผลทั้งด้านผิวขาว และลดการอักเสบ ยีสต์และว่านหางจระเข้ ก็ถือว่ามากันเยอะดีค่ะ ให้ไป 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ มีส่วนผสมของ Alcohol ที่อาจจะทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายผิว และ Sodium lauryl sulfate ที่มีความระคายเคืองสูง ไม่น่าเหมาะเอามาใส่ Skincare เท่าใดนัก (คหสต.) เลยขอให้ 3 ฟลาสก์
เนื้อที่หมดแล้วค่ะ
ตัวที่ 8 - 20 จะต่อใน rep นะคะ
[CR] [Cosmetic ingredients review] มหกรรมวิเคราะห์ส่วนผสม Skincare เติมน้ำ (Hydrating skincare) นานาชาติ 20 แบรนด์ 20 ชิ้น
สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งที่น่ารักทุกๆท่าน
วันนี้มี่มีงานวิเคราะห์ส่วนผสม Skincare เติมน้ำที่น่าสนใจมาฝากค่ะ
มาเริ่มกันด้วยคำถามที่ว่า "ทำไมต้องเติมน้ำให้ผิว???"
นั่นก็เพราะว่า น้ำเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของผิว ถ้าผิวมีน้ำในระดับที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ผิวเราก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะน้ำจำเป็นต่อการทำงานของผิวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ การสร้างโปรตีน ไขมันและสารต่างๆมาทดแทนส่วนที่เสียไป และการซ่อมแซมตัวเองของผิว
ผิวที่มีน้ำจะนุ่มฟู เต่งตึง และทำให้ริ้วรอยเล็กๆบนผิวถูกความเต่งตึงนั้นอำพรางให้หายไปค่ะ
การเติมน้ำถือว่าค่อนข้างสำคัญ และควรทำเป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวเลยค่ะ
ว่าแล้วก็มาดูโฉมหน้าของผู้เข้าประกวดวันนี้ดีกว่าค่ะ
จาก 20 ตัวนี้ บอกตามตรงว่า มี่เคยใช้แค่ 8 ตัวนะคะ ส่วนที่เหลือเป็นตัวที่มี่เห็นว่าน่าสนใจค่ะ
สำหรับส่วนผสมที่ให้ผลเติมน้ำได้มีหลายกลุ่มนะคะ
จริงๆแล้วในเนื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เรามีพวกตัวทำละลาย อย่าง Glycerin หรือ พวก Glycol พวกนี้ก็ทำหน้าที่เป็นสารเติมน้ำให้ผิวได้แล้วค่ะ เพราะสารพวกนี้มีคุณสมบัติดูดน้ำเข้าหาตัวเอง เราเรียกกันว่า "Humectant"
ถ้าเราไม่นับกลุ่ม Humectant นี้ สารอื่นๆที่มีคุณสมบัติเติมน้ำให้ผิวจะมีอยู่ด้วยกัน 5 กลุ่มหลักๆ และก็จะมีพวกปกิณกะ ที่ไม่อยู่ในกลุ่มพวกนี้ เช่น วิตามินบี 5 และ urea เป็นต้นค่ะ
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ประสิทธิภาพของสารเติมน้ำพวกนี้มีจำกัดค่ะ เพราะความสามารถจะขึ้นกับปริมาณความชื้นในอากาศ ถ้าอากาศแห้งมากๆ เช่น ในหน้าหนาว อาจจะไม่ได้ผล หรือ อาจจะแย่กว่าเดิมก็ได้ เพราะสารไปดูดน้ำออกมาจากในผิวแทน
และ ผลิตภัณฑ์เติมน้ำควรใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ตัวอื่นๆ ที่มีสารเคลือบผิว คอยเคลือบปกป้องไว้ไม่ให้น้ำที่อุตส่าห์ดูดมาระเหยหายไปในอากาศค่ะ
เกณฑ์ในการให้คะแนนวันนี้ เราจะแบ่งเป็น 3 หัวข้อ รวม 15 คะแนนค่ะ
1. สารเติมน้ำ มีคะแนนเต็มที่ 5 คะแนน
2. สารบำรุงอื่นๆ มีคะแนนเต็มที่ 5 คะแนน
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ มีคะแนนเต็มที่ 5 คะแนน
การวิเคราะห์ส่วนผสมนี้เป็นวิเคราะห์จากส่วนผสม โดยไม่คำนึงถึงเทคโนโลยีที่ใช้ เพราะส่วนผสมไม่สามารถบอกระดับขั้นของเทคโนโลยีได้ค่ะ ตัวไหนจะเป็นอย่างไรวันนี้มาแนะนำให้ค่ะ ส่วนดีหรือไม่ดี คงต้องตัดสินใจเอานะคะ มี่คงไม่ฟันธงให้ค่ะ
แล้วก็
1. การตอบสนองต่อเครื่องสำอางของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน บางคนใช้ได้แล้วหน้าปัง แต่บางคนใช้แล้วหน้าพังก็มี การดูส่วนผสมเป็นเพียงแนวทางเฉยๆค่ะ
2. การแพ้/อุดตัน/ระคายเคือง คาดเดาไม่ได้ ดังนั้นคำถามว่า แพ้ไหม อุดตันไหม เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้นะคะ
3. ส่วนผสมบางชุดที่มีสารสีแดง ไม่ได้แปลว่าจะไม่ดีเสมอไป เพราะการตอบสนองขึ้นกับความเข้มข้นด้วย ถ้าเค้าใส่น้อยๆก็คือดี แต่เค้าใส่มากๆก็อาจจะมีผลข้างเคียง ไม่ใช่ว่าเห็นสารสีแดงและจะ Ban ไปเลยนะคะ
4. ขอสงวนลิขสิทธิ์ทุกกรณีในบทความ ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด
5. ผู้เขียนมีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้
6. ผู้เขียนไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชื่นชม หรือ Discredit ผลิตภัณฑ์ไหน
7. ผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอางใดๆ
8. การให้คะแนนเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล
ว่าแล้วก็ดูคะแนนในภาพรวมของแต่ละตัวกันก่อนเลยนะคะ
ก่อนไปชมรายละเอียด
ฝากกระทู้เก่าๆ และฝากเพจด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แวะไปคุยกันได้นะคะ
อารัมภบทมาเยอะแยะ พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่าาา
ตัวนี้เป็น Hyaluron Toner ของยี่ห้อ I จากฝั่งเกาหลีค่ะ
ในส่วนของสารเติมน้ำหลักๆ มี 2 ตัว คือ Sodium hyaluronate กับ Trehalose ค่ะ
ว่ากันด้วย Trehalose นางเป็นน้ำตาลชนิดพิเศษ ที่เติมน้ำและเก็บน้ำให้ผิวได้ค่อนข้างดีค่ะ
เสริมมาด้วยสารบำรุงอีกนิดหน่อย มีสารสกัดจาก Acerola กับดอกชบา ที่น่าจะให้ผลด้าน Whitening ได้ด้วย สารสกัดจาก Portulaca ที่เด่นเรื่องการสมานผิวค่ะ สารสกัดจากผลไม้ยังมีน้ำตาลที่ช่วยเรื่องดูดน้ำให้ผิวได้ด้วยค่ะ
สารอื่นๆไม่ได้มีตัวไหนมีปัญหาอะไรกับผิวนะคะ
ให้คะแนนกันค่ะ
1. สารเติมน้ำ ให้ไป 4 คะแนนค่ะ เพราะมี hya กับ น้ำตาล trehalsoe แต่ด้วยความที่ว่า เราไม่ค่อยเจอผลิตภัณฑ์ที่ใส่ Hya มาในลำดับก่อนพวก solvent ก็เลยขอให้เยอะหน่อยนะคะ
2. สารบำรุงอื่นๆ ให้ผลด้าน Antioxidant, Whitening และเรื่องของการลดการอักเสบในผิว แต่เหมือนยังดูน้อยชนิดไป ถ้าเทียบกับบางแบรนด์ เอาไป 4 คะแนน
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เลยขอให้ 5 ฟลาสก์
ตัวที่สอง
น้ำตบอำพันของทางญี่ปุ่นที่โด่งดังอยู่พักหนึ่งในบ้านเรา
ส่วนของสารเติมน้ำหลักเป็นกลุ่มน้ำตาล ร่วมกับ Hyaluron 2 ชนิด collagen และ placenta เสริมมาด้วยไขมัน และสารบำรุงอีกนิดหน่อย
ส่วนผงอำพันกับสารสกัดอำพันมี่ไม่แน่ใจในกลไกการออกฤทธิ์นะคะ
ให้คะแนนค่ะ
1. สารเติมน้ำ มีอยู่ค่อนข้างหลายตัวมากค่ะ ทั้ง Hya collagen placenta และน้ำตาลตัวเล็กๆ เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ ถ้าไม่ได้ดูที่อำพัน ที่น่าสนใจคือ สารสกัดจาก Pueraria ที่ช่วยให้ผิวนุ่มฟู เสริมด้วยสารสกัดจากอโล กุหลาบ และ สาหร่าย กับ Chlorella ที่น่าจะเป็น Antioxidant โดยรวมจึงถือว่า ทำมาได้ค่อนข้างโอเคค่ะ เอาไป 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ได้มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เลยเอาไป 5 ฟลาสก์ เช่นกัน
ตัวที่สาม
น้ำตบไฮยาตัวที่ดังที่สุด และเหมือนจะเป็นเจ้าแรกสุด (คหสต) คิดว่าไม่มีใครไม่น่ารู้จักค่ะ
ส่วนผสมของสารเติมน้ำเป็น Hya 3 ชนิดที่มีขนาดแตกต่างกันให้ผลบำรุงผิวที่หลายระดับความตื้นลึก
แต่สารบำรุงอื่นๆยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมมา เรียกได้ว่าเน้นเติมน้ำล้วนๆ
ให้คะแนน
1. สารเติมน้ำ มี Hya 3 ชนิด เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ ไม่มี เลยได้ไป 0
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไรเลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
ตัวที่สี่
Toner เติมน้ำจากยี่ห้อ B ผู้ผลิต Cleansing water อันโด่งดัง
ใช้สารในกลุ่มน้ำตาลเป็นสารเติมน้ำ ซึ่งสารกลุ่มน้ำตาลอย่าง Rhamnose ยังมีผลดีในเรื่องลดการอักเสบ และ Fructooligosaccharide ยังเป็น Prebiotic ที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์บนผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงได้อีก
1. สารเติมน้ำ เป็นสารกลุ่มน้ำตาลตัวเล็ก กับ Fructooligosaccharide ที่ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย ให้ผลเติมน้ำได้หลายระดับ และสารสกัดจากผลแอปเปิ้ลเองก็เติมน้ำให้ผิวได้ ขอให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มี Allantoin ช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง มีวิตามินบี 3 ที่ให้ผลได้หลายอย่าง และตัวน้ำตาลที่ใส่มาเองก็มีประโยชน์พิเศษ แต่ยังอยากได้ Antioxidant เพิ่มซักหน่อย เลยขอให้ไป 4 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไรเลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
ตัวที่ห้า
โทนเนอร์เติมน้ำ ยี่ห้อ M ของเกาหลี
มีส่วนประกอบของน้ำแร่ น้ำทะเล และน้ำกุหลาบ เสริมมาด้วยสารสกัดจากผลไม้และพืชหลายชนิด อาศัยวิตามินบี 5 กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ (AHA) และ น้ำตาลเป็นตัวเติมน้ำให้ผิว
ให้คะแนน
1. สารเติมน้ำ อาศัย สารสกัดจากผลไม้ น้ำกุหลาบ น้ำแร่ วิตามินบี 5 กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ และ Biosaccharide gum-1 ซึ่งนอกจากเติมน้ำยังให้ผลเกี่ยวกับด้านการอักเสบในผิวได้อีก ให้ไป 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มีส่วนของสารสกัดจากผัก ผลไม้ และพืช ให้ผลโดยรวมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น Whitening ลดการอักเสบ และ Antioxidant และยังมีไขมัน Squalane อยู่ด้วย จึงขอให้ไป 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ไม่มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เลยขอให้ไป 5 ฟลาสก์
ตัวที่หก
แบรนด์ A เป็นแบรนด์ดังอีกแบรนด์ของเกาหลี ในเครือเดียวกับแบรนด์ M เมื่อกี๊ แบรนด์นี้ดูเหมือนจะเน้นไปที่นักศึกษาและวัยรุ่น เพราะราคาส่วนใหญ่ค่อนข้างถูก
ตัวนี้มี่แปลส่วนผสมมาจากหน้าเวบไซต์ของเขาอีกทีค่ะ อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ เพราะ google แปลมันไม่ได้เป๊ะมาก ยังต้องมานั่งเดาต่ออีกนิดหน่อย
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของสารสกัด ทั้งสารสกัดจากธัญพืช ผลไม้ สมุนไพร ดอกไม้ และชาเขียว จึงให้ผลบำรุงผิวได้ครบถ้วนรอบด้าน
ให้คะแนน
1. สารเติมน้ำ เป็นสารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ร่วมกับน้ำตาล ขอให้ 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มีส่วนของสารสกัดพืชอยู่ค่อนข้างเยอะ ให้ผลโดยรวมรอบด้าน ทั้ง Antioxidant, Whitening, ชะลอวัย ลดการอักเสบ กระชับรูขุมขน และฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาจจะให้ผลเรื่องสิวก็ได้ค่ะ ขอให้ 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ ในส่วนผสมมี Alcohol ที่อาจจะระคายเคืองผิวได้ในบางคน จึงขอให้ 4 ฟลาสก์
ในส่วนของส่วนผสมที่เรียกว่าโดดเด่น คงเป็น สารสกัดจากเห็ดหูหนูขาว “Tremella fuciformis extract” ซึ่งผู้ผลิตวัตถุดิบเคลมว่าเป็น Hyaluron จากพืชเลยทีเดียว และให้ผลเก็บน้ำให้ผิวได้ยาวนาน
ตัวที่ 7
Moisture prep ของยี่ห้อ B ที่โด่งดังด้าน Primer กับ ผลิตภัณฑ์กลุ่มคิ้ว
นางก็มี Skincare หลายตัวค่ะ มี่ได้ข้อมูลส่วนผสมมาจากเวบ Drugstore นะคะ
ตัวนี้อาศัยส่วนผสมของสารสกัดจากยีสต์ ว่านหางจรเข้ ไฮยา และ Biosaccharide gum-1 เป็นตัวเติมน้ำ
แต่ลำดับส่วนผสมดูแล้วค่อนข้างกวนใจนิดนึง แบบว่า สารบำรุงส่วนใหญ่คือมาหลังน้ำหอม ถ้าไม่ใส่น้ำหอมเยอะ ก็คือใส่สารบำรุงมาน้อยนั่นเอง
ให้คะแนนค่ะ
1. สารเติมน้ำ หลักๆเป็น Biosaccharide gum-1 ที่ให้ผลดีเรื่องการอักเสบ และไฮยา เสริมด้วยพวกสารสกัดจากยีสต์ และว่านหางจระเข้ ขอให้ 5 ฟลาสก์
2. สารบำรุงอื่นๆ มีพวกสารสกัดจากข้าวโอ้ต ให้ผลดีในเรื่องการอักเสบ ลดการระคายเคืองผิว ยีสต์ กับ Artemisia capillaris extract ให้ผลทั้งด้านผิวขาว และลดการอักเสบ ยีสต์และว่านหางจระเข้ ก็ถือว่ามากันเยอะดีค่ะ ให้ไป 5 ฟลาสก์
3. สารองค์ประกอบอื่นๆ มีส่วนผสมของ Alcohol ที่อาจจะทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายผิว และ Sodium lauryl sulfate ที่มีความระคายเคืองสูง ไม่น่าเหมาะเอามาใส่ Skincare เท่าใดนัก (คหสต.) เลยขอให้ 3 ฟลาสก์
เนื้อที่หมดแล้วค่ะ
ตัวที่ 8 - 20 จะต่อใน rep นะคะ