ทำไม Gaming Gear ส่วนใหญ่ไม่คำนึงถึงความทนทานบ้างเลย (ขอระบายอารมณ์)

สวัสดีครับ ผมต้องมาตัดสินใจขอระบายอารมณ์ในพันทิปเนื่องจากผมทนไม่ไหวแล้วกับ Gaming Gear ทั้งหลายแหลก
เนื้อเรื่องค่อนค้างยาว ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง 90% ส่วนอีก 10% ผมจำไม่ได้จึงเนี้อเรื่องอาจจะไม่ถูกต้องหรืออาจจะเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา ในเนื้อเรื่องทั้งหมด ผมต้องตัด "แผ่นรองเมาส์" ออกไปเนื่องจากไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับแผ่นรองเมาส์แม้แต่เรื่องเดียว

กุมภาพันธ์ 2013
ผมได้ซื้อเมาส์ Razer Mamba ในวันตรุษจีน ซึ่งเป็น Gaming Gear ชิ้นแรกของผมด้วยความอยากได้ ทุกอย่างก็โอเคดี

มีนาคม 2013
ในงาน Commart ผมได้ซื้อคีย์บอร์ด Tt eSports Challenger Ultimate ในราคา 2,690 บาท (ประมาณนั้น) มาแต่เนื่องจากมีคีย์บอร์ด SteelSeries 6Gv2 ราคา 4,500 บาท (ประมาณนั้น) ผมก็อยากได้แต่เป็นช่วงที่ยังไม่มีคีย์ไทยออกมา และยังเป็นช่วงที่มีคนใช้คอมผมอยู่บ่อยครั้ง

มิถุนายน 2013
ในงาน Commart ผมได้ซื้อคีย์บอร์ด Razer BlackWidow Ultimate มาในราคา 4,990 บาท (ประมาณนั้น) เพราะเนื่องจากเป็นคีย์บอร์ดที่ดีที่สุดของปี 2013 ซึ่งเกมเมอร์ทั่วโลกควรมี และคีย์บอร์ด Tt eSports Challenger Ultimate เอาไปให้เพื่อนผม

สิงหาคม 2013
ผมได้ซื้อเมาส์อันละ 200 บาทมาเนื่องจากเมาส์ Razer Mamba เริ่มออกอาการเมาส์ดับเบิ้ลคลิกเอง ไม่กี่วันต่อมา ผมก็เอาเมาส์ Mamba ไปเครมที่ร้านที่ซื้อมา แต่โชคร้ายที่พนักงานบอกว่าเมาส์ดับเบิ้ลคลิกเองนั้นอยู่นอกการรับประกัน ซึ่งจะต้องเอาไปซ่อมอย่างเดียว เนื่องจากเป็นเมาส์ที่แพงมากและหายาก ราคาซ่อมคงน่าจะแพงและนานจนผมต้องใช้เมาส์อันละ 200 บาทไปนานๆ

ตุลาคม 2013
ผมได้ซื้อจอย Logitech F710 ราคา 1,100 บาท (ประมาณนั้น) เนื่องจากผมมีเกมที่ต้องใช้จอยอยู่จำนวนมาก

มกราคม 2014
ผมได้ซื้อหูฟัง SteelSeries Siberia มาในราคา 1,600 บาท (ประมาณนั้น) เนื่องจากผมรำคาญจากคนนอนจนผมไม่ได้อรรถรสในการเล่นเกม

กุมภาพันธ์ 2014
ผมได้ซื้อเมาส์ Razer Taipan กับหูฟัง Razer Kraken Pro (ที่ญี่ปุ่น)มา (ลืมราคา) เนื่องจากผมต้องการให้คอมผมมี Gaming Gear ของ Razer ให้ครบ และหูฟัง SteelSeries Siberia ก็เอาไปให้เพื่อนผม

กรกฎาคม 2014
เพื่อนผมบอกผมมาว่าหูฟัง SteelSeries Siberia เสียงหายไปข้างนึง จนใช้ต่อไม่ได้แล้ว โดนที้งกล่อง ต่อมา ปุ่มข้างซ้ายของเมาส์ Razer Taipan เริ่มกดยาก (ปุ่มจม) แต่เมาส์ยังไม่ดับเบิ้ลคลิกเอง

ธันวาคม 2014
เมาส์ Razer Taipan เริ่มออกอาการดับเบิ้ลคลิกเองแล้วเดือนต่อมาก็หนักขึ้นเป็นพิเศษ

กุมภาพันธ์ 2015
ซื้อเมาส์ SteelSeries Sensei Frost Blue มาราคา 2,000 กว่าบาท (ประมาณนั้น)

เมษายน 2015
คีย์บอร์ด Razer BlackWidow Ultimate เริ่มออกอาการปุ่มเบิ้ล โดยเฉพาะ Numpad และตัวเลข

กรกฎาคม 2015
ปุ่ม Middle Click ของเมาส์ SteelSeries Sensei Frost Blue กดยาก (ปุ่มจม) จนยากมากจนต้องเอาไปเครม รอ 1 สัปดาห์ได้ SteelSeries Sensei RAW มาแทน
ตามมาหูฟัง Razer Kraken Pro ยังใช้ได้ดีอยู่แต่ว่าหนังสีเขียวค่อยๆ ลอกออกเป็นสีขาวออกเหลืองตามอายุการใช้งานที่มากเกินไป และยังมีอาการเสียงไม่ออกข้างนึงไม่บ่อยมากนัก

ตุลาคม 2015
งาน Commart ไปซื้อ Razer BlackWidow Chroma สวิตซ์เขียวมาราคา 6,390 บาท โชคร้ายที่ผมกำลังซื้อสวิตซ์ส้มแต่มันไม่ขาย และไม่กี่วันต่อมาผมก็ลงขาย BlackWidow Ultimate ในราคาที่ถูกมากๆ เพราะเป็นคีย์บอร์ดที่ตกรุ่น(เร็ว) หมดประกันและมีคนตั้งขายรุ่นนี้อยู่ในราคาเฉลี่ย 2,000 - 2,500 บาท จึงผมจะต้องตั้งให้ตามชาวบ้าน

ธันวาคม 2015 (ช่วงพีค)
เนื่องจากราคามือสองของ BlackWidow Ultimate ตกลงไปเหลืออยู่ที่ 1,900 - 2400 บาท จึงผมตั้งราคาสุดท้ายไว้ที่ 2,000 บาท จนมีลูกค้าขอซื้อ ผมต่อราคาเหลือ 1,900 บาทและลูกค้ายอมรับซื้อ แต่จู่ๆ ญาติผมได้ห้ามผมขายเพราะต้องการเอาคีย์บอร์ดไปให้ที่ทำงาน จนเกิดปากเสียงกัน และแม่ผมก็ห้ามอีกเพราะขายถูกเกินไป จนผมจะต้องเจรจาทั้ง 2 ว่า คีย์บอร์ดมันตกรุ่นไปแล้วและมีคนขายในราคาถูกมากๆ จนทั้ง 2 ไม่ยอมจนเกิดทะเลาะกัน สุดท้าย ขายไม่ออก

กุมภาพันธ์ 2016
เมาส์ SteelSeries Sensei RAW ไม่เคยเกิดอาการดับเบิ้ลคลิกเอง ในที่สุดก็หมดประกันแล้วค่อยเกิดอาการปุ่ม Middle Click กดยาก (ปุ่มจม) ต้องซื้อใหม่

ต้นเดือนมีนาคม 2016
เกิดทะเลาะกันอีกแล้วตอนดึกก่อนนอนเพราะคีย์บอร์ด BlackWidow Chroma เสียงดังมาก จนผมต้องถูกบังคับเลิกเล่นเกม Dota 2 จนเสียแต้ม+ลงโทษ สุดท้าย โดนทะเลาะกันจนได้

กลางเดือนมีนาคม 2016
ไปซื้อคีย์บอร์ด SteelSeries Apex M800 มาราคา 6,390 บาทเพราะผมไม่ต้องการยี่ห้อ Razer อีกต่อไปแล้ว ให้หันไปเน้นยี่ห้อ SteelSeries อย่างเดียว
ไม่กี่วันต่อมา ผมก็พยายามขาย Razer BlackWidow Chroma เพราะไม่ต้องการ แต่สิ่งสำคัญมากก็คือ กล่อง ถ้าไม่มีกล่องก็หมายถึง ไม่มีประกัน ไม่มีความเชื่อถือ และราคาขายก็ถูกลงเหลือ 4,000 - 4,500 บาท ญาติผมก็ไม่ให้ขายเพราะเป็นเรื่องเสียเงินไปฟรีๆ สุดท้ายเป็นฝีมือญาติผมเป็นผู้ทิ้งกล่อง

เมษายน 2016
ไปซื้อเมาส์ SteelSeries Rival 700 มา ราคา 3,390 บาท แทนเมาส์ Sensei RAW ที่พังๆ

มิถุนายน 2016
ตัวปุ่ม Enter ของ SteelSeries Apex M800 เกิดหัก ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยเอาปุ่มออกมาเพราะคีย์บอร์ดใช้สวิตซ์พิเศษแกะยากจนผมไม่กล้าแกะ แม้ว่าจะกดปุ่ม Enter ได้ตามปกติแต่รำคาญมาก ยังไม่เอาไปเครมตอนนี้

กรกฎาคม 2016
เมาส์ SteelSeries Rival 700 โปรดของผมเกิดดับเบิ้ลคลิกเองแล้ว!!! รำคาญมากแล้วตอนนี้ จนผมกำลังพิจารณาเอาเมาส์นี้ไปเครม ทั้งๆ ที่ใช้ไป 3 เดือน แต่ผมไม่กล้าจะเสียเที่ยว เวลา และเงินเพราะกลัวเครมไม่ผ่าน
ประกอบกับหูฟัง Razer Kraken Pro เสียงไม่ออกทั้ง 2 ข้าง ก็คือ เสีย! ในที่สุด

สิงหาคม 2016
สรุป มาถึงวันนี้จนได้ ผมกำลังซื้อหูฟัง SteelSeries งบ 3,000 บาทอยู่ ด้วยความกดดันจาก Gaming Gear อันก่อนๆ ที่พังง่ายจนไม่กล้าตันสินใจซื้อ

อีกไม่นาน ผมอาจจะต้องหยุดใช้ Gaming Gear เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง (ไม่รวมแผ่นรองเมาส์) หรืออาจจะใช้ต่อก็ได้แต่ผมจะไม่เอาคำว่า Gaming ใช้ยี่ห้อ Razer และ SteelSeries แน่นอน เพราะ Gaming Gear ทั้งหลายแหลกนั้นจะเน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ และไม่เหมาะกับการทำงานในออฟฟิศหรือทั่วไปเพราะความทนทานที่ต่ำกว่า เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟังทั่วไป ดูดิ ใช้เมาส์ไป 3-6 เดือนก็ดับเบิ้ลคลิกเองและ คีย์บอร์ดใช้ไปนานๆ ปุ่มก็ทั้งพังทั้งเบิ้ลอีก หูฟังใช้ไปนานๆ เสียงแม้งก็หายไปข้างนึง

สรุป Gaming Gear แบรนด์ใหญ่ๆ จงใจและเจตนาไม่คำนึงถึงความทนทานจนทำให้เกมเมอร์ซื้อ Gaming Gear แบรนด์ใหญ่ๆ บ่อยขึ้นอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อปี หมายถึงเมื่อมันพังแล้ว(และเครมไม่ได้) ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว สรุปผมต้องเสียเงินกับ Gaming Gear ไปให้แบรนด์ใหญ่ๆ เป็นหมื่นๆ เนี่ยนะ

ตอนนี้ผมยังไม่เคยใช้ Gaming Gear แบรนด์รองๆ อย่าง Logitech, Tt eSport, CM Storm ฯลฯ (อย่างยาวๆ)ได้เพราะยังไม่เคยลองยี่ห้อดังกล่าว  เมื่อผมซื้ออะไรบางอย่างไปแล้ว จะต้อง Cooldown อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปถึงจะซื้ออย่างอื่นได้

แม้ว่าในบ้านไม่เน้นเล่นเกม ในออฟฟิศ หรือในร้านเกม เกือบทั้งหมดเลือกที่จะไม่ใช้ Gaming Gear (แบรนด์ใหญ่ๆ) วันนึง ผมเคยลองจับเมาส์ธรรมดาในบ้านเพื่อน ในออฟฟิศ และร้านเกม ทั้งหมดนั้นไม่เคยเกิดอาการดับเบิ้ลคลิกเอง แม้แต่อันเดียว ทั้งๆ ที่เป็นเมาส์ธรรมดาอายุ 1 ปี+

สรุปอีก จอย Logitech F710 ยังทนอยู่ ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ยกเว้นตอนเปลี่ยนถ่าน

สรุปสุดท้าย พอกันทีกับ Gaming Gear ใช้แล้วก็ไม่คุ้มสำหรับผม จบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ตอนแรกจะพิมพ์เป็นข้อๆ พิมพ์เสร็จละรู้สึกว่ามันเกือบจะสองหน้า A4 แล้วเลยสรุปดีกว่า

1. คุณจะคลั่งอะไรกับสองแบรนด์นี้ขนาดนั้น? ผมเข้าใจกับสองสามชิ้นแรก แต่ชิ้นหลังๆนี่คุณเห็นสภาพชิ้นแรกๆว่ามันพังง่ายขนาดไหน ทำไมยังซื้อมาใช้ต่อ? รีวิวในประเทศเยอะแยะ เวปรีวิวเกมมิ่งพวกนี้ภาษาไทยก็มีเยอะแยะ
2. คุณต้องใจกล้าที่จะเคลม ไม่ใช่หงอเวลาพนักงานปฏิเสธ ถ้ามีใบรับประกันแล้วมันไม่เข้าข่าย(ว่าไม่อยู่นอกประกัน)คุณก็เถียงได้ ผมจำได้ว่า Steelseries นี่เคลมง่ายกว่า Razer เยอะนะ แบรนด์หลังนี่แทบกราบเวลาเคลม
3. ผมไม่รู้สึกว่าคุณเป็นคนใช้เกมมิ่งเกียร์ ผมรู้สึกเหมือนคน "สะสม" เกมมิ่งเกียร์มากกว่า ท่านลองสังเกตุดูว่าเม้าส์เปลี่ยนกันแทบจะรายเดือน ซึ่งผมนึกออกคนที่จะเปลี่ยนได้ถี่ๆขนาดนี้คือ คุณต้องเป็นเจ้าของร้านเกมที่ลูกค้าเต็มบ่อยช่วงปิดเทอม ไม่งั้นไม่มีใครบ้าเปลี่ยนรายเดือนขนาดนี้
4. คุณควรจะนึกออกว่า Logitec เป็นทางเลือกที่ดี ตั้งแต่คุณซื้อตอนตุลา 2013 แล้วผ่านไปปีนึงยังไม่พัง
5. และคุณควรจะรู้ตั้งนานแล้วว่าเกมมิ่งเกียร์ สุดท้ายแล้วมันเน้นขายดีไซน์เป็นหลักครับ ความทนทานไม่ใช่สิ่งที่เค้าคิด

และทั้งหมดทั้งมวล คุณควรจะรู้ตั้งแต่ต้นมานานนมแล้วว่า สุดท้ายเกมมิ่งเกียร์มันก็แค่ของหลอกเอาเงินโดยการเพิ่มดีไซน์ให้มันดูเท่ มันดูสะดวก (Macro) แค่นั้นเอง ความทนทานไม่ใช่เจตนาในการผลิตเกมมิ่งอยู่แล้ว มันหมดยุคของแพงทนของถูกไม่ทนไปนานมากแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่