สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวในพันทิปทุกคนนี่เป็นทริปที่ 2 ที่เราตั้งใจจะนำเสนอมากๆ
ขออภัยหากภาพไม่สวยเท่าไหร่ไม่ถนัดแลนด์สเคปเอามากๆ บอกไว้ก่อนเลยว่ากระทู้นี้รูปเยอะค่ะ
นี่คิดมาแล้วถ้ากล้องแบตไม่หมดซะก่อนน่าจะมีรูปเยอะกว่านี้ อิอิ
รอบนี้เราจะพาไปเที่ยว "ทวาย" ค่ะ อาจจะไม่ละเอียดเท่ากับตอนที่ทำรีวิวกัมพูชาก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เรื่องของเรื่องคือหลังจากที่เราทำเวิร์คช็อปเสร็จ แฟนรุ่นพี่เราก็พูดขึ้นมาว่า
"พีชแกไปทวายกับพี่มั๊ย 3 วัน 2 คืน พี่ไปดูตลาดถ้าแกไปก็ไม่ได้เสียค่าห้องเพิ่ม
ยังไงพี่ต้องนอนคนเดียวอยู่แล้วส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วงมีคนออกทุนให้"
แหมมมมมม ชวนขนาดนี้ก็ไม่ปฏิเสธค่ะไปดิ่คะ!!
ก้มดูนาฬิกามีเวลาเตรียมตัว 14 ช.ม.
ในใจอะคิดไปละว่ามีเวลาเตรียมตัวน้อยจัง ตอนไปกัมพูชาใช้เวลาเตรียมตัวอยู่เดือนนึง
เราเป็นคนโรคจิตอะที่เวลาจะไปไหนต้องหาข้อมูลเยอะๆ เอาไว้ก่อนได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ก็อีกเรื่องนึงแต่ขอให้รู้
ไปรอบนี้มีเวลาเตรียมตัวแค่ 14 ช.ม. ข้อมูลอะไรก็ไม่ได้หา รีวิวก็น้อยเลยไม่รู้ว่าสภาพภูมิอากาศเป็นยังไง
ช่วงนี้เป็นฤดูไหน คนทวายกินอะไร มีอะไรที่ไม่ควรพลาด...
รอบนี้บอกเลยว่าไม่ได้มีข้อมูลอะไรเลยสักอย่างเดียว แต่ก็เอาเหอะ ไปตายเอาดาบหน้าละกัน!!!
=================================================================
“แทว” ชื่อจริงของทวาย
ทวาย เป็นสำเนียงไทยที่ออกเสียงเพี้ยนจากคำท้องถิ่นว่า DAWEI “ทแว” ปัจจุบันทางการพม่ากำหนดให้สะกดเป็นฝรั่งตามเสียงที่ถูกต้องของท้องถิ่นว่า Tavoy สมัยรัชกาลที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ รับรู้และออกเสียงถูกต้องว่า ทแว มีพยานในนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย ของพระยาตรัง แต่เป็นโคลงดั้น (บท 33) ว่า
เสร็จเศิกสมแคล่วได้ แดนเวียง ทแวนา
ชมอนงค์ดนู นับร้อย
นิราศฯเรื่องนี้ พระยาตรังแต่งพรรณนาเมื่อตามเสด็จ ร.1 ยกทัพไปตีเมืองทวาย พ.ศ. 2330
ในอดีตเมืองทวายเคยเป็นส่วนหนึ่งของสยามแต่เนื่องด้วยอยู่ในชัยภูมิที่ติดกับพม่าจึงถูก "พม่าลากไป ไทยลากมา" อยู่บ่อยครั้ง
เมื่ออดีตมะริดและตะนาวศรีเป็นเมืองที่สำคัญเนื่องจากมีการขนส่งสินค้าขึ้นจากทางเรือเพื่อส่งมาขายที่เมืองไทยจึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากทำให้ไทยและพม่าพยายามยื้อแย่งกันอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงปลายรัชสมัยสมเด็กพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อังกฤษได้เริ่มขยายอาณาเขตเข้ายึดหัวเมืองชายฝั่งของพม่ารวมถึงมะริด ตะนาวศรีและทวาย หลังจากนั้นทางการอังกฤษจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่เพื่อทำแผนที่และดูสภาพภูมิประเทศ ทรัพยากรและขอบเขตของเมืองที่ตนยึดได้
=================================================================
เราออกจากจุดนัดประมาณ 9 โมงเช้าค่ะอย่างที่บอกไปว่าทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้เน้นการท่องเที่ยวเพราะพี่ๆ เขาต้องการไปดูตลาดเพื่อทำธุรกิจ
ในเรื่องของค่าใช้จ่ายแบบปลีกย่อยเราขอไม่ลงดีเทลทุกอย่างนะคะ ขอลงเฉพาะที่รู้อย่างเดียว
ก็บอกแล้วว่าทริปนี้ฟรีจะเอาอะไรกับตัวแถมอย่างพีชละค่ะ อิอิ
เราไปถึงด่านบ้านน้ำพุร้อนประมาณ 10-11 โมง พี่ก็ขอบัตรประชาชนเพื่อไปทำเรื่องขอผ่านด่านชั่วคราว
หนังสือผ่านแดนถ้าจำไม่ผิดเสียค่าขอ 40 บาทต่อคนค่ะ (ก็บอกแล้วว่าไม่ได้จ่ายเองใครจะไปจำด๊ายยยย)
สามารถอยู่ในเมืองทวายได้ 7 วัน หลังจากทำเอกสารเสร็จแล้วก็ต้องเดินไปประทับเอกสารที่ด่านขาออก
หลังจากนั้นไปทำเรื่องเข้าทวายอีกเหมือนว่าเสียเงินอีกคนละ 100 บาทนะคะ
ใครจะเอารถยนต์เข้าไปก็ต้องทำเอกสารขอเอารถเข้าไปใช้แล้วก็ต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นทะเบียนพม่าค่ะถึงสามารถเข้าไปถึงทวายได้
แต่ของเราไม่ได้ทำเอกสารขอเปลี่ยนทะเบียนเนื่องจากเพื่อนร่วมทริปเราเขาทำธุรกิจอยู่ที่นั่นและมีรถทะเบียนพม่าอยู่แล้วค่ะ
ก่อนเข้าไปแวะและเงินตรงปั๊มน้ำมันที่เลยด่านมานิดนึงก่อน ตรงนี้ได้เรตดีค่ะ 33 Ks/1 บาทไทยถ้าไปแลกข้างในจะได้น้อยกว่านี้หน่อย
เราแลกไป 10,000 บาท / 330,000 Ks
ส่วนเรื่องโทรศัพท์ถ้าอยากใช้อินเตอร์เน็ตค่อยไปซื้อซิมเอาค่ะมี 3 ยี่ห้อจากไทย
(อันนี้บอกเลยว่าไม่ชัวร์นะคะเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ หากผิดพลาดยังไงแจ้งได้นะคะจะได้แก้ไขค่ะ)
Oredoo > TrueMove
MPT > AIS
TELENOR > DTAC
ทวายมีร้านขายโทรศัพท์เยอะมากจะเห็นช็อปที่ขายโทรศัพท์แบรนด์ SAMSUNG OPPO และ HUAWEI ค่ะ
ระหว่างเดินทางเราจะเจอด่านของกะเหรี่ยงอยู่ประมาณ 3-4 จุดค่ะแถวๆ ชายแดนอยู่ในความดูแลของกลุ่ม KNU (The Karen National Union)
และกองกำลังย่อย KNLA (Karen National Liberation Army)
แวะละออเพื่อพักกินข้าวเที่ยงและเปลี่ยนรถและรับล่ามไปด้วยค่ะ
ดูสภาพถนนค่ะ เป็นแบบเนี๊ยประมาณ 100 กม.นิดๆ โหยไม่อยากจะบอกว่ากลับมาเจ็บก้นอยู่วันนึงเต็มๆ
วิวระหว่างทาง
ขับรถไปสักพักฝนตกคิดแล้วโชคดีมากที่เลือกใช้ 4WD ค่ะ
ส่วนตัวเห็นควายเยอะๆ แล้วค่อนข้างตื่นเต้น เราเป็นเด็กต่างจังหวัดนะแต่ไม่เคยเห็นควายเป็นฝูงใหญ่ขนาดนี้
เราเดินทางเลาะตามแม่น้ำตะนาวศรีไปเรื่อยๆ เลยนะคะจะเจอวิวสวยๆ หลายจุดแต่ก็นะไม่ได้ไปเองเลยไม่ได้จอดรถถ่ายรูปมาค่ะ
ระหว่างเดินทางเราได้ยินเสียงดังเหมือนมีอะไรสักอย่างหลดแล้วสะบัดใส่ตัวถังรถตลอดเวลาเลยจอดเช็คดู
สรุปว่าเป็นชุดแต่งของรถหลุดค่ะ ทางมันคงสะเทือนมากทำให้น็อตค่อยๆ คลายตัวออกจนหลุด
เราก็ขับรถไปเรื่อยๆ อีกไม่กี่ ก.ม.ก็จะถึงหมู่บ้านมิตตา (Myitta) เมื่อถึงหมู่บ้านเราก็แวะร้านซ่อมรถ
ล่ามของเราชื่อพี่บังแกเป็นพม่าเชื้อสายมุสลิมแกก็ลงไปคุยจัดการให้เสร็จสรรพพร้อมเดินทางต่อค่ะ
ตื่นเต้น...ได้พบการใช้วัวเทียมเกวียนในหมู่บ้าน ไม่เคยเห็นจริงๆ
เราถึงตัวเมืองทวายประมาณ 5 โมงกว่าๆ เกือบ 6 โมง เวลาของพม่าช้ากว่าไทย 30 นาที
ป้ายจราจรนี่ชอบมากดูมีดีเทลเก๋มาก สื่อสารชัดเจน
มีข้อควรจำอย่างหนึ่งค่ะที่ทวายคุณตำรวจซีเรียสเรื่องการขับรถทับเส้นกลางถนนมากๆ
เราไปถึงแล้วคนขับรถของเราขับรถทับเส้นขาวเจอตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ตามเลยค่ะ
แต่ก็เจรจากันคุณตำรวจเห็นเป็นต่างชาติก็อนุโลมให้โชคดีไป
แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันขัดแย้งกัน...
ในขณะที่เขาซีเรียสเรื่องการห้ามขับรถทับเส้นกลางแต่พี่แกไม่ซีเรียสเรื่องยูเทิร์น
อยากเลี้ยวตรงไหนก็เลี้ยวไป =*=
คนที่นี่เวลาจะแซงเขาจะบีบแตร 1 ปิ๊นเป็นสัญญาณให้รู้กันว่าฉันจะแซงแล้วนะ
เราจะได้ยินเสียงแตรตลอดเวลาแต่ไม่น่ารำคาญค่ะ
เขาบีบแค่น้อยๆ ไม่ได้บีบกันบ้าระห่ำแบบบ้านเรา
เมื่อไปถึงเราก็ไปหาที่พักที่หาข้อมูลมาชื่อโรงแรม Shew Maung Than ตั้งอยู่บนถนน Pakokku Kyaung
คือมาโรงแรมนี้ประทับใจมาก ค่าห้องพัก 1200 บาทคุยไปคุยมาพี่เค้าใจดีลดให้เหลือ 600 บาทต่อคืน
พี่เขาบอก
"แต่ไม่มีทีวีนะ"
โอ๊ยสบายมากดูไปก็ไม่รู้เรื่อง
"ไม่มีตู้เย็นนะ"
ไม่เป็นไรไม่ซีเรียส
โอเคไปดูห้อง เปิดเข้าไป ผ่าง!!!
อื้มโอเคคือมันก็ไม่แย่อะนึกออกป่ะคะอารมณ์เหมือนโรงแรมจิ้งหรีดในหนังที่บ้านเราอะ ฮ่าๆๆๆ
พี่หันมาถาม
"แกโอเคป่ะวะพีช"
"โอ๊ยสบายขอแค่มีที่ซุกหัวนอนก็พอ"
ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีความจุกจิกอะไรเลย
ไปถึงมันก็เย็นย่ำแล้วเริ่มหิวซิคะอาหารคงย่อยเร็วจากแรงเหวี่ยงเมื่อตอนเดินทาง
พี่บังเลยพาเราไปกินอาหารที่ Food Center แถวๆ ทางที่จะไปมอมะกัน
ระหว่างทางเราจะเห็นป้ายโครงการ DDPC อยู่ตามถนนแม้กระทั่ง Food Center ที่เราไปก็เป็นของ DDPC เช่นกัน
DDPC ย่อมาจาก Dawei Development Public Company คือเป็นการรวมสมาชิกสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมตะนาวศรี
ร่วมกับส่วนราชการจัดตั้งเป็นบริษัทที่รวมนักธุรกิจอุตสาหกรรมของทวายและมะริดเป็นบริษัทเดียวกัน
ในการที่จะติดต่อค้าขายกับนักธุรกิจจากกาญจนบุรีและในประเทศไทยค่ะ
(ข้อมูลจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1348287723)
Food Center ค่ะ
ดูภาพแบบพาโนราม่าบ้าง
มีสนามเด็กเล่นด้วยนะคะ
พอไปถึงพี่บังบอกว่าสั่งอาหารเลยแล้วพนักงานก็ยื่นเมนูมาให้ เปิดมา ผ่าง!!!!
ไม่มีภาษาอังกฤษมีแต่ภาษาพม่า พี่บังก็เร่งให้สั่งเลยกางเมนูแล้วถามพี่บังว่า
"แล้วหนูจะสั่งยังไงล่ะพี่!!" แกก็ขำ แต่บังเอิญมีเมนู 2 เล่มค่ะอีกเล่มมีภาพเลยจำใจต้องกินเคบับแทนที่จะได้ลองอาหารพม่า
อันนี้เป็นเคบับแบบไม่มีแป้งห่อ
มาทั้งทีก็ต้องสั่ง Myanmar Beer ค่ะพลาดได้ไง หุหุ
อยากจะบอกว่าเบียร์ถูกมากกกกกกกกกกกกกกกกก
คิดเป็นเงินไทยตกแก้วละเกือบๆ 20 บาทโอยยยตายแล้ววววววสายเบียร์ไม่ควรพลาดบอกเลย
ที่นี่ถึงจะดูไม่ทันสมัยแต่เวลาสั่งอาหารนี่ไม่ได้ใช้มือจดนะคะ แท็ปเล็ตจ้าจิ้มๆ กันเลยสะดวกมากอ้อมี WIFI นะคะ
แจ้งพนักงานได้แล้วเขาจะใส่ USER NAME และ PASSWORD ให้เราค่ะ
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างก็คือไม่ว่าเราจะทำอะไรพนักงานจะรีบกรูกันมาบริการให้ค่ะ
ที่บอกว่ากรูกันมาคือมาที 3-4 คนแย่งกันวิ่งมาอะค่ะประทับใจ
นั่งกินนั่งคุยสักพักใหญ่ก็กลับที่พักไปอาบน้ำให้สดชื่นแล้วเราจะเดินดูเมืองทวายตอนกลางคืนกันต่อ
มิงกะลาบา "ทวาย" | เที่ยวทวายในวันฝนพรำ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวในพันทิปทุกคนนี่เป็นทริปที่ 2 ที่เราตั้งใจจะนำเสนอมากๆ
ขออภัยหากภาพไม่สวยเท่าไหร่ไม่ถนัดแลนด์สเคปเอามากๆ บอกไว้ก่อนเลยว่ากระทู้นี้รูปเยอะค่ะ
นี่คิดมาแล้วถ้ากล้องแบตไม่หมดซะก่อนน่าจะมีรูปเยอะกว่านี้ อิอิ
รอบนี้เราจะพาไปเที่ยว "ทวาย" ค่ะ อาจจะไม่ละเอียดเท่ากับตอนที่ทำรีวิวกัมพูชาก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เรื่องของเรื่องคือหลังจากที่เราทำเวิร์คช็อปเสร็จ แฟนรุ่นพี่เราก็พูดขึ้นมาว่า
"พีชแกไปทวายกับพี่มั๊ย 3 วัน 2 คืน พี่ไปดูตลาดถ้าแกไปก็ไม่ได้เสียค่าห้องเพิ่ม
ยังไงพี่ต้องนอนคนเดียวอยู่แล้วส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วงมีคนออกทุนให้"
แหมมมมมม ชวนขนาดนี้ก็ไม่ปฏิเสธค่ะไปดิ่คะ!!
ก้มดูนาฬิกามีเวลาเตรียมตัว 14 ช.ม.
ในใจอะคิดไปละว่ามีเวลาเตรียมตัวน้อยจัง ตอนไปกัมพูชาใช้เวลาเตรียมตัวอยู่เดือนนึง
เราเป็นคนโรคจิตอะที่เวลาจะไปไหนต้องหาข้อมูลเยอะๆ เอาไว้ก่อนได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ก็อีกเรื่องนึงแต่ขอให้รู้
ไปรอบนี้มีเวลาเตรียมตัวแค่ 14 ช.ม. ข้อมูลอะไรก็ไม่ได้หา รีวิวก็น้อยเลยไม่รู้ว่าสภาพภูมิอากาศเป็นยังไง
ช่วงนี้เป็นฤดูไหน คนทวายกินอะไร มีอะไรที่ไม่ควรพลาด...
รอบนี้บอกเลยว่าไม่ได้มีข้อมูลอะไรเลยสักอย่างเดียว แต่ก็เอาเหอะ ไปตายเอาดาบหน้าละกัน!!!
=================================================================
“แทว” ชื่อจริงของทวาย
ทวาย เป็นสำเนียงไทยที่ออกเสียงเพี้ยนจากคำท้องถิ่นว่า DAWEI “ทแว” ปัจจุบันทางการพม่ากำหนดให้สะกดเป็นฝรั่งตามเสียงที่ถูกต้องของท้องถิ่นว่า Tavoy สมัยรัชกาลที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ รับรู้และออกเสียงถูกต้องว่า ทแว มีพยานในนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย ของพระยาตรัง แต่เป็นโคลงดั้น (บท 33) ว่า
เสร็จเศิกสมแคล่วได้ แดนเวียง ทแวนา
ชมอนงค์ดนู นับร้อย
นิราศฯเรื่องนี้ พระยาตรังแต่งพรรณนาเมื่อตามเสด็จ ร.1 ยกทัพไปตีเมืองทวาย พ.ศ. 2330
ในอดีตเมืองทวายเคยเป็นส่วนหนึ่งของสยามแต่เนื่องด้วยอยู่ในชัยภูมิที่ติดกับพม่าจึงถูก "พม่าลากไป ไทยลากมา" อยู่บ่อยครั้ง
เมื่ออดีตมะริดและตะนาวศรีเป็นเมืองที่สำคัญเนื่องจากมีการขนส่งสินค้าขึ้นจากทางเรือเพื่อส่งมาขายที่เมืองไทยจึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากทำให้ไทยและพม่าพยายามยื้อแย่งกันอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงปลายรัชสมัยสมเด็กพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อังกฤษได้เริ่มขยายอาณาเขตเข้ายึดหัวเมืองชายฝั่งของพม่ารวมถึงมะริด ตะนาวศรีและทวาย หลังจากนั้นทางการอังกฤษจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่เพื่อทำแผนที่และดูสภาพภูมิประเทศ ทรัพยากรและขอบเขตของเมืองที่ตนยึดได้
=================================================================
เราออกจากจุดนัดประมาณ 9 โมงเช้าค่ะอย่างที่บอกไปว่าทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้เน้นการท่องเที่ยวเพราะพี่ๆ เขาต้องการไปดูตลาดเพื่อทำธุรกิจ
ในเรื่องของค่าใช้จ่ายแบบปลีกย่อยเราขอไม่ลงดีเทลทุกอย่างนะคะ ขอลงเฉพาะที่รู้อย่างเดียว
ก็บอกแล้วว่าทริปนี้ฟรีจะเอาอะไรกับตัวแถมอย่างพีชละค่ะ อิอิ
เราไปถึงด่านบ้านน้ำพุร้อนประมาณ 10-11 โมง พี่ก็ขอบัตรประชาชนเพื่อไปทำเรื่องขอผ่านด่านชั่วคราว
หนังสือผ่านแดนถ้าจำไม่ผิดเสียค่าขอ 40 บาทต่อคนค่ะ (ก็บอกแล้วว่าไม่ได้จ่ายเองใครจะไปจำด๊ายยยย)
สามารถอยู่ในเมืองทวายได้ 7 วัน หลังจากทำเอกสารเสร็จแล้วก็ต้องเดินไปประทับเอกสารที่ด่านขาออก
หลังจากนั้นไปทำเรื่องเข้าทวายอีกเหมือนว่าเสียเงินอีกคนละ 100 บาทนะคะ
ใครจะเอารถยนต์เข้าไปก็ต้องทำเอกสารขอเอารถเข้าไปใช้แล้วก็ต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นทะเบียนพม่าค่ะถึงสามารถเข้าไปถึงทวายได้
แต่ของเราไม่ได้ทำเอกสารขอเปลี่ยนทะเบียนเนื่องจากเพื่อนร่วมทริปเราเขาทำธุรกิจอยู่ที่นั่นและมีรถทะเบียนพม่าอยู่แล้วค่ะ
ก่อนเข้าไปแวะและเงินตรงปั๊มน้ำมันที่เลยด่านมานิดนึงก่อน ตรงนี้ได้เรตดีค่ะ 33 Ks/1 บาทไทยถ้าไปแลกข้างในจะได้น้อยกว่านี้หน่อย
เราแลกไป 10,000 บาท / 330,000 Ks
ส่วนเรื่องโทรศัพท์ถ้าอยากใช้อินเตอร์เน็ตค่อยไปซื้อซิมเอาค่ะมี 3 ยี่ห้อจากไทย
(อันนี้บอกเลยว่าไม่ชัวร์นะคะเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ หากผิดพลาดยังไงแจ้งได้นะคะจะได้แก้ไขค่ะ)
Oredoo > TrueMove
MPT > AIS
TELENOR > DTAC
ทวายมีร้านขายโทรศัพท์เยอะมากจะเห็นช็อปที่ขายโทรศัพท์แบรนด์ SAMSUNG OPPO และ HUAWEI ค่ะ
ระหว่างเดินทางเราจะเจอด่านของกะเหรี่ยงอยู่ประมาณ 3-4 จุดค่ะแถวๆ ชายแดนอยู่ในความดูแลของกลุ่ม KNU (The Karen National Union)
และกองกำลังย่อย KNLA (Karen National Liberation Army)
แวะละออเพื่อพักกินข้าวเที่ยงและเปลี่ยนรถและรับล่ามไปด้วยค่ะ
ดูสภาพถนนค่ะ เป็นแบบเนี๊ยประมาณ 100 กม.นิดๆ โหยไม่อยากจะบอกว่ากลับมาเจ็บก้นอยู่วันนึงเต็มๆ
วิวระหว่างทาง
ขับรถไปสักพักฝนตกคิดแล้วโชคดีมากที่เลือกใช้ 4WD ค่ะ
ส่วนตัวเห็นควายเยอะๆ แล้วค่อนข้างตื่นเต้น เราเป็นเด็กต่างจังหวัดนะแต่ไม่เคยเห็นควายเป็นฝูงใหญ่ขนาดนี้
เราเดินทางเลาะตามแม่น้ำตะนาวศรีไปเรื่อยๆ เลยนะคะจะเจอวิวสวยๆ หลายจุดแต่ก็นะไม่ได้ไปเองเลยไม่ได้จอดรถถ่ายรูปมาค่ะ
ระหว่างเดินทางเราได้ยินเสียงดังเหมือนมีอะไรสักอย่างหลดแล้วสะบัดใส่ตัวถังรถตลอดเวลาเลยจอดเช็คดู
สรุปว่าเป็นชุดแต่งของรถหลุดค่ะ ทางมันคงสะเทือนมากทำให้น็อตค่อยๆ คลายตัวออกจนหลุด
เราก็ขับรถไปเรื่อยๆ อีกไม่กี่ ก.ม.ก็จะถึงหมู่บ้านมิตตา (Myitta) เมื่อถึงหมู่บ้านเราก็แวะร้านซ่อมรถ
ล่ามของเราชื่อพี่บังแกเป็นพม่าเชื้อสายมุสลิมแกก็ลงไปคุยจัดการให้เสร็จสรรพพร้อมเดินทางต่อค่ะ
ตื่นเต้น...ได้พบการใช้วัวเทียมเกวียนในหมู่บ้าน ไม่เคยเห็นจริงๆ
เราถึงตัวเมืองทวายประมาณ 5 โมงกว่าๆ เกือบ 6 โมง เวลาของพม่าช้ากว่าไทย 30 นาที
ป้ายจราจรนี่ชอบมากดูมีดีเทลเก๋มาก สื่อสารชัดเจน
มีข้อควรจำอย่างหนึ่งค่ะที่ทวายคุณตำรวจซีเรียสเรื่องการขับรถทับเส้นกลางถนนมากๆ
เราไปถึงแล้วคนขับรถของเราขับรถทับเส้นขาวเจอตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ตามเลยค่ะ
แต่ก็เจรจากันคุณตำรวจเห็นเป็นต่างชาติก็อนุโลมให้โชคดีไป
แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันขัดแย้งกัน...
ในขณะที่เขาซีเรียสเรื่องการห้ามขับรถทับเส้นกลางแต่พี่แกไม่ซีเรียสเรื่องยูเทิร์น
อยากเลี้ยวตรงไหนก็เลี้ยวไป =*=
คนที่นี่เวลาจะแซงเขาจะบีบแตร 1 ปิ๊นเป็นสัญญาณให้รู้กันว่าฉันจะแซงแล้วนะ
เราจะได้ยินเสียงแตรตลอดเวลาแต่ไม่น่ารำคาญค่ะ
เขาบีบแค่น้อยๆ ไม่ได้บีบกันบ้าระห่ำแบบบ้านเรา
เมื่อไปถึงเราก็ไปหาที่พักที่หาข้อมูลมาชื่อโรงแรม Shew Maung Than ตั้งอยู่บนถนน Pakokku Kyaung
คือมาโรงแรมนี้ประทับใจมาก ค่าห้องพัก 1200 บาทคุยไปคุยมาพี่เค้าใจดีลดให้เหลือ 600 บาทต่อคืน
พี่เขาบอก
"แต่ไม่มีทีวีนะ"
โอ๊ยสบายมากดูไปก็ไม่รู้เรื่อง
"ไม่มีตู้เย็นนะ"
ไม่เป็นไรไม่ซีเรียส
โอเคไปดูห้อง เปิดเข้าไป ผ่าง!!!
อื้มโอเคคือมันก็ไม่แย่อะนึกออกป่ะคะอารมณ์เหมือนโรงแรมจิ้งหรีดในหนังที่บ้านเราอะ ฮ่าๆๆๆ
พี่หันมาถาม
"แกโอเคป่ะวะพีช"
"โอ๊ยสบายขอแค่มีที่ซุกหัวนอนก็พอ"
ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีความจุกจิกอะไรเลย
ไปถึงมันก็เย็นย่ำแล้วเริ่มหิวซิคะอาหารคงย่อยเร็วจากแรงเหวี่ยงเมื่อตอนเดินทาง
พี่บังเลยพาเราไปกินอาหารที่ Food Center แถวๆ ทางที่จะไปมอมะกัน
ระหว่างทางเราจะเห็นป้ายโครงการ DDPC อยู่ตามถนนแม้กระทั่ง Food Center ที่เราไปก็เป็นของ DDPC เช่นกัน
DDPC ย่อมาจาก Dawei Development Public Company คือเป็นการรวมสมาชิกสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมตะนาวศรี
ร่วมกับส่วนราชการจัดตั้งเป็นบริษัทที่รวมนักธุรกิจอุตสาหกรรมของทวายและมะริดเป็นบริษัทเดียวกัน
ในการที่จะติดต่อค้าขายกับนักธุรกิจจากกาญจนบุรีและในประเทศไทยค่ะ
(ข้อมูลจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1348287723)
Food Center ค่ะ
ดูภาพแบบพาโนราม่าบ้าง
มีสนามเด็กเล่นด้วยนะคะ
พอไปถึงพี่บังบอกว่าสั่งอาหารเลยแล้วพนักงานก็ยื่นเมนูมาให้ เปิดมา ผ่าง!!!!
ไม่มีภาษาอังกฤษมีแต่ภาษาพม่า พี่บังก็เร่งให้สั่งเลยกางเมนูแล้วถามพี่บังว่า
"แล้วหนูจะสั่งยังไงล่ะพี่!!" แกก็ขำ แต่บังเอิญมีเมนู 2 เล่มค่ะอีกเล่มมีภาพเลยจำใจต้องกินเคบับแทนที่จะได้ลองอาหารพม่า
อันนี้เป็นเคบับแบบไม่มีแป้งห่อ
มาทั้งทีก็ต้องสั่ง Myanmar Beer ค่ะพลาดได้ไง หุหุ
อยากจะบอกว่าเบียร์ถูกมากกกกกกกกกกกกกกกกก
คิดเป็นเงินไทยตกแก้วละเกือบๆ 20 บาทโอยยยตายแล้ววววววสายเบียร์ไม่ควรพลาดบอกเลย
ที่นี่ถึงจะดูไม่ทันสมัยแต่เวลาสั่งอาหารนี่ไม่ได้ใช้มือจดนะคะ แท็ปเล็ตจ้าจิ้มๆ กันเลยสะดวกมากอ้อมี WIFI นะคะ
แจ้งพนักงานได้แล้วเขาจะใส่ USER NAME และ PASSWORD ให้เราค่ะ
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างก็คือไม่ว่าเราจะทำอะไรพนักงานจะรีบกรูกันมาบริการให้ค่ะ
ที่บอกว่ากรูกันมาคือมาที 3-4 คนแย่งกันวิ่งมาอะค่ะประทับใจ
นั่งกินนั่งคุยสักพักใหญ่ก็กลับที่พักไปอาบน้ำให้สดชื่นแล้วเราจะเดินดูเมืองทวายตอนกลางคืนกันต่อ