วงแตก!!! ชาวเยอรมัน 66% ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเปิดรับผู้อพยพ!!!
31 กรกฎาคม 2559
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่าผลสำรวจความคิดเห็นชาวเยอรมันในหัวข้อ "คุณคิดอย่างไรกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ที่บอกว่าสามารถบริหารจัดการเรื่องผู้อพยพและผู้ลี้ภัยได้" จัดทำโดยสำนักวิจัยยูกอฟ ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นแบบออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่าง 1,017 คน ระหว่างวันที่ 26-29 ก.ค. ที่ผ่านมา
ผลปรากฏว่าร้อยละ 66 ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวของแมร์เคิล โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 48 กล่าวว่า "ไม่เห็นด้วยโดยสิ้นเชิง" และร้อยละ 18 กล่าวว่า "ค่อนข้างไม่เห็นด้วย" มีเพียงร้อยละ 27 เท่านั้นซึ่งให้การสนับสนุนรัฐบาล ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปในเชิงลบมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งสัดส่วนของผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่ที่ร้อยละ 51
นอกจากนี้ แบบสอบถามของยูกอฟยังมีคำถามเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุรุนแรงในเยอรมนี ซึ่งร้อยละ 75 ของกลุ่มตัวอย่างมองว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้น และร้อยละ 14 ตอบว่าพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถประจำทางและรถไฟใต้ดินให้มากที่สุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากหวั่นเกรงการเกิดเหตุร้าย อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 67 ยืนยันจะยังคงใช้ชีวิตปรจำวันตามปกติเช่นเดิม เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของสงครามประสาทโดยกลุ่มก่อการร้าย
ทั้งนี้ แมร์เคิลได้รับเสียงวิจารณ์ไม่น้อยจากการแถลงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า นโยบายเรื่องผู้อพยพและผู้ลี้ภัยจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้เกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่อง 4 ครั้งภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว หรือนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. เป็นต้นมา ทำให้ผู้เสียชีวิตรวมกัน 15 ศพ หนึ่งในนั้นคือเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในเมืองมิวนิค เมื่อวันที่ 22 ก.ค. มีผู้เสียชีวิต 10 ศพ รวมมือปืนซึ่งเป็นเด็กหนุ่มเชื้อสายอิหร่านวัยเพียง 18 ปี และยิงตัวตายหลบหนีการจับกุมของตำรวจ โดยเธอยืนยันว่ารัฐบาลสามารถจัดการสถานการณ์ได้ และจะยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่เสี้ยงให้เข้มงวดมากขึ้น
http://www.dailynews.co.th/foreign/512564
วงแตก!!! ชาวเยอรมัน 66% ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเปิดรับผู้อพยพ!!!
31 กรกฎาคม 2559
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่าผลสำรวจความคิดเห็นชาวเยอรมันในหัวข้อ "คุณคิดอย่างไรกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ที่บอกว่าสามารถบริหารจัดการเรื่องผู้อพยพและผู้ลี้ภัยได้" จัดทำโดยสำนักวิจัยยูกอฟ ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นแบบออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่าง 1,017 คน ระหว่างวันที่ 26-29 ก.ค. ที่ผ่านมา
ผลปรากฏว่าร้อยละ 66 ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวของแมร์เคิล โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 48 กล่าวว่า "ไม่เห็นด้วยโดยสิ้นเชิง" และร้อยละ 18 กล่าวว่า "ค่อนข้างไม่เห็นด้วย" มีเพียงร้อยละ 27 เท่านั้นซึ่งให้การสนับสนุนรัฐบาล ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปในเชิงลบมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งสัดส่วนของผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่ที่ร้อยละ 51
นอกจากนี้ แบบสอบถามของยูกอฟยังมีคำถามเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุรุนแรงในเยอรมนี ซึ่งร้อยละ 75 ของกลุ่มตัวอย่างมองว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้น และร้อยละ 14 ตอบว่าพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถประจำทางและรถไฟใต้ดินให้มากที่สุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากหวั่นเกรงการเกิดเหตุร้าย อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 67 ยืนยันจะยังคงใช้ชีวิตปรจำวันตามปกติเช่นเดิม เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของสงครามประสาทโดยกลุ่มก่อการร้าย
ทั้งนี้ แมร์เคิลได้รับเสียงวิจารณ์ไม่น้อยจากการแถลงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ว่า นโยบายเรื่องผู้อพยพและผู้ลี้ภัยจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้เกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่อง 4 ครั้งภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว หรือนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. เป็นต้นมา ทำให้ผู้เสียชีวิตรวมกัน 15 ศพ หนึ่งในนั้นคือเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในเมืองมิวนิค เมื่อวันที่ 22 ก.ค. มีผู้เสียชีวิต 10 ศพ รวมมือปืนซึ่งเป็นเด็กหนุ่มเชื้อสายอิหร่านวัยเพียง 18 ปี และยิงตัวตายหลบหนีการจับกุมของตำรวจ โดยเธอยืนยันว่ารัฐบาลสามารถจัดการสถานการณ์ได้ และจะยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่เสี้ยงให้เข้มงวดมากขึ้น
http://www.dailynews.co.th/foreign/512564