การเดินทาง พร้อมเด็กเล็กจาก3สายการบิน
วันนี้เราอยากเล่าการเดินทางพร้อมทารกโดยเครื่องบินค่ะ ลีโอลูกชายสุดที่รักจะเดินทางจากเชียงใหม่ไปภูเก็ตด้วยวัยเพียง 1เดือนครึ่ง เราเองหาข้อมูลมาเกี่ยวการนำทารกขึ้นเครื่องบิน ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ในทริปนี้เรามีโอกาสใช้3สายการบินในประเทศ
จากเชียงใหม่ ไปภูเก็ต เราได้ใช้สายการบิน airasia เที่ยวเป็นเที่ยวแรกที่เราจะเดินทางด้วยกันสามคน และเป็นเที่ยวบินแรกของลีโอ Airasia เสียค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับเด็กต่ำกว่า2ขวบประมาณ500กว่าบาท ตอนเช็คอินก็เตรียมสำเนาใบเกิดไปเช็คอินได้เลย ครั้งนี้เป็นการบินครั้งแรกซึ่งเราเองตื่นเต้นว่าลูกจะร้องไหม สรุปลีโลหลับตลอกการเดินทาง ที่นั่งAirasia เวลาเดินทางกับเด็กไม่อึดอัดมากคะ มีพื้นที่พอเราตัวเล็กด้วยมั้ง สรุปชอบคะ
ต่อ ไปไจด้ดินทางจากภูเก็ตไปกรุงเทพซึ่งเราใช้สายการบินนกแอร์เที่ยวบินนี้เราไม่ต้องเสียค่าเด็กเล็กเดินทางด้วย เดินทางตอนช่วงเดือน มีนาคม2559 ขั้นตอนเหมือน Airasia ลีโอหลับเหมือนเดิมไม่ร้องไม่งอแง ที่นั่งของสายการบินไม่คับแคบเกินไป มีพื้อที่พอสำหรับ เราและลูก
ต่อไปบินจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ (อ้ายจะปิ๊กบ้านละ) เที่ยวบินนี้เดินทางโดยสายการบินไทยไลออนแอร์ เหมือนเดิมเลี้ยวนอนหลับตลอดการเดินทางซึ่งสายการบินไลออนแอร์ โดยรวมที่นั่งแคบมากสำหรับผู้ที่เดินทางโดยเด็กเล็กไม่สามารถขยับขาได้ เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมงที่ยาวนานที่สุดเพราะปวดขามากสรุปไม่ประทับใจสำหรับเดินทางกับเด็กเล็ก ตอนเช็กอินได้ยื่นเอกสารสำเนาใบเกิดแต่ทางพนักงานได้ขอใบเกิดตัวจริงซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถจะถือใบเกิดตัวจริงได้ซึ่งไม่เข้าใจกฏสายการบินนี้เหมือนกัน ค่าเดินทางสำหรับทารกอยู่ที่300กว่านิดหน่อยสรุปเราไม่ปลื้ม
การเตรียมตัวก่อนการเดินทางกับเด็กเล็ก
1 ไปถึงสนามบินก่อนสัก1.30 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อจะได้มีเวลาเผื่อเกิดการผิดพลาดหรือลูกร้องไห้งอแง
2 ทำใจให้สบายเพราะหากเราเคลียด พลังงานที่เราส่งออกไปส่งผลให้ลูกเราเครียดด้วยซึ่งทำให้เด็กกลัวเด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งหากเราเองมีความรู้สึกที่ปลอดโปร่งสบายเด็กก็จะรู้สึกด้วย ส่งผลให้เป็นการเดินทางที่ราบลื่น
3เตรียมนมให้น้องขณะเครื่องขึ้นเครื่องลงเพราะทารกไม่สามารถกลืนน้ำลายเพิ่มลดอาการหูอื้อได้ เราเองให้ลูกดูดเต้า ดังนั้นเราจะสวมเสื้อที่ง่ายต่อการให้นม หากอายสามารถเอาผ้าคลุมก็ได้
4 แจ็คเก็ต หรือเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น แต่เราชอบแจ็คเก็ต เพราะพอลงเครื่องก็ถอดออกได้เนื่องจากอากาศเมืองไทยไทยร้อนสุดๆข้างนอก
5 พยายามอย่าให้น้องหลับก่อนขึ้นเครื่อง แต่ค่อยกล่อมตอนใกล้เวลาเพราะน้องจะได้หลับระหว่างเดินทาง
6เลือกเวลาที่ไม่เช้าไปและดึกไปเป็นช่วงนอนกลางวันของลูกจะดีมาก
ตอนนี้ลูกชาย6เดือนละ แต่ยังเดินทางอยู่และยังหลับเหมือนเดิม ไม่ร้องไม่งอแง ทริปต่อไป จะไปอิตาลี ดูว่าร้องไหม แต่เราเลือกเวลาที่เขานอนพอดี
หวังว่ารีวิวนี้มีประโยชน์นะคะ
เมื่อเด็กน้อง1เดือนครึ่งเดินทางโดย3สายการบิน
วันนี้เราอยากเล่าการเดินทางพร้อมทารกโดยเครื่องบินค่ะ ลีโอลูกชายสุดที่รักจะเดินทางจากเชียงใหม่ไปภูเก็ตด้วยวัยเพียง 1เดือนครึ่ง เราเองหาข้อมูลมาเกี่ยวการนำทารกขึ้นเครื่องบิน ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง ในทริปนี้เรามีโอกาสใช้3สายการบินในประเทศ
จากเชียงใหม่ ไปภูเก็ต เราได้ใช้สายการบิน airasia เที่ยวเป็นเที่ยวแรกที่เราจะเดินทางด้วยกันสามคน และเป็นเที่ยวบินแรกของลีโอ Airasia เสียค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับเด็กต่ำกว่า2ขวบประมาณ500กว่าบาท ตอนเช็คอินก็เตรียมสำเนาใบเกิดไปเช็คอินได้เลย ครั้งนี้เป็นการบินครั้งแรกซึ่งเราเองตื่นเต้นว่าลูกจะร้องไหม สรุปลีโลหลับตลอกการเดินทาง ที่นั่งAirasia เวลาเดินทางกับเด็กไม่อึดอัดมากคะ มีพื้นที่พอเราตัวเล็กด้วยมั้ง สรุปชอบคะ
ต่อ ไปไจด้ดินทางจากภูเก็ตไปกรุงเทพซึ่งเราใช้สายการบินนกแอร์เที่ยวบินนี้เราไม่ต้องเสียค่าเด็กเล็กเดินทางด้วย เดินทางตอนช่วงเดือน มีนาคม2559 ขั้นตอนเหมือน Airasia ลีโอหลับเหมือนเดิมไม่ร้องไม่งอแง ที่นั่งของสายการบินไม่คับแคบเกินไป มีพื้อที่พอสำหรับ เราและลูก
ต่อไปบินจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ (อ้ายจะปิ๊กบ้านละ) เที่ยวบินนี้เดินทางโดยสายการบินไทยไลออนแอร์ เหมือนเดิมเลี้ยวนอนหลับตลอดการเดินทางซึ่งสายการบินไลออนแอร์ โดยรวมที่นั่งแคบมากสำหรับผู้ที่เดินทางโดยเด็กเล็กไม่สามารถขยับขาได้ เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมงที่ยาวนานที่สุดเพราะปวดขามากสรุปไม่ประทับใจสำหรับเดินทางกับเด็กเล็ก ตอนเช็กอินได้ยื่นเอกสารสำเนาใบเกิดแต่ทางพนักงานได้ขอใบเกิดตัวจริงซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถจะถือใบเกิดตัวจริงได้ซึ่งไม่เข้าใจกฏสายการบินนี้เหมือนกัน ค่าเดินทางสำหรับทารกอยู่ที่300กว่านิดหน่อยสรุปเราไม่ปลื้ม
การเตรียมตัวก่อนการเดินทางกับเด็กเล็ก
1 ไปถึงสนามบินก่อนสัก1.30 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อจะได้มีเวลาเผื่อเกิดการผิดพลาดหรือลูกร้องไห้งอแง
2 ทำใจให้สบายเพราะหากเราเคลียด พลังงานที่เราส่งออกไปส่งผลให้ลูกเราเครียดด้วยซึ่งทำให้เด็กกลัวเด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งหากเราเองมีความรู้สึกที่ปลอดโปร่งสบายเด็กก็จะรู้สึกด้วย ส่งผลให้เป็นการเดินทางที่ราบลื่น
3เตรียมนมให้น้องขณะเครื่องขึ้นเครื่องลงเพราะทารกไม่สามารถกลืนน้ำลายเพิ่มลดอาการหูอื้อได้ เราเองให้ลูกดูดเต้า ดังนั้นเราจะสวมเสื้อที่ง่ายต่อการให้นม หากอายสามารถเอาผ้าคลุมก็ได้
4 แจ็คเก็ต หรือเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น แต่เราชอบแจ็คเก็ต เพราะพอลงเครื่องก็ถอดออกได้เนื่องจากอากาศเมืองไทยไทยร้อนสุดๆข้างนอก
5 พยายามอย่าให้น้องหลับก่อนขึ้นเครื่อง แต่ค่อยกล่อมตอนใกล้เวลาเพราะน้องจะได้หลับระหว่างเดินทาง
6เลือกเวลาที่ไม่เช้าไปและดึกไปเป็นช่วงนอนกลางวันของลูกจะดีมาก
ตอนนี้ลูกชาย6เดือนละ แต่ยังเดินทางอยู่และยังหลับเหมือนเดิม ไม่ร้องไม่งอแง ทริปต่อไป จะไปอิตาลี ดูว่าร้องไหม แต่เราเลือกเวลาที่เขานอนพอดี
หวังว่ารีวิวนี้มีประโยชน์นะคะ