อาการ “แตกแถว” ภายในพรรคประชาธิปัตย์ กรณี”รับ”และ”ไม่รับ”ร่างรัฐธรรมนูญ
มิได้เป็นเรื่อง “แปลก” อย่างประหลาด
ตรงกันข้าม เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ในความเป็น”เสรีชน”ของพรรคประชาธิปัตย์
อย่าลืม “ฉายา” ในยุค ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
คำว่า “ฤาษีเลี้ยงลิง” อัน ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้มาระหว่างดำรงตำแหน่ง
เป็นหัวหน้าพรรคมิได้ได้มาจากเพราะ “จับสลาก”
อย่าลืมฉายาที่ยกย่องบรรดาขุนพลนักพูดของพรรคประชาธิปัตย์ว่า
ดำเนินไปในลักษณะ“ผายลมทางปาก” อย่างเด็ดขาด
เมื่อมีคนอย่าง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ต่างก็”ลับคม”อย่าง”เมามัน”
ลงขนาด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงทุนเอาเสื้อยืด “พบกันที่สามเสน”
ออกมาพร้อมกับคล้อง “นกหวีด”ย่อมก่อให้เกิดอาการ”สั่นไหว”
เหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณไปยัง”มวลมหาประชาชน”แต่ ความจริงเป็นการส่ง
”ซิก”ไปยังพระนางธรณีบีบมวยผมไม่แปลกที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี จะลังเล
ยิ่ง นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ยิ่งละล้าละลังเพราะยังไม่มีสัญญาณอะไรมาจาก
“นครศรีธรรมราช”แม้ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร จะเด็ดเดี่ยวยิ่ง
“ผมมีความชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอนเพื่อให้บ้านเมือง
ผ่อนคลายไปในทางที่ดีขึ้น”แต่ นายวิทยา แก้วภราดัย ยังสงบนิ่ง
ต้องยอมรับว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มากด้วยฤทธิ์เดชทางการ เมือง
แม้ 2 ผู้ใหญ่จะยืนเรียงเคียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็น นายชวน หลีกภัย
จากตรัง ไม่ว่าจะเป็น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน จากสุราษฎร์ธานี
ยืนเรียงพร้อมกับโลโก”อดีต”หัวหน้าพรรค
แต่ก็ต้องยอมรับว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่แล้ว
นั่นก็คือ ยืนเรียงเคียงข้าง “คสช.”
นั่นก็คือ เห็นด้วยอย่างยีงกับ “รัฐประหาร”เมื่อเดือนพฤษภา คม 2557
นี่คือ “ความขัดแย้ง”อีกครั้งภายใน”พรรคประชาธิปัตย์”
หลังจากยุค นายเลียง ไชยกาล หลังจากยุค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา โมช
หลังจากยุค นายอุทัย พิมพ์ใจชน หลังจากยุค นายวีระ มุสิกพงศ์
“ความขัดแย้ง” เป็นเรื่องปรกติของ “การเมือง”
โดยเฉพาะการเมือง”ภายใน”ของ”พรรคประชาธิปัตย์”
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” ดับเครื่องชน “ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน”....มติชนออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi
มิได้เป็นเรื่อง “แปลก” อย่างประหลาด
ตรงกันข้าม เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ในความเป็น”เสรีชน”ของพรรคประชาธิปัตย์
อย่าลืม “ฉายา” ในยุค ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
คำว่า “ฤาษีเลี้ยงลิง” อัน ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้มาระหว่างดำรงตำแหน่ง
เป็นหัวหน้าพรรคมิได้ได้มาจากเพราะ “จับสลาก”
อย่าลืมฉายาที่ยกย่องบรรดาขุนพลนักพูดของพรรคประชาธิปัตย์ว่า
ดำเนินไปในลักษณะ“ผายลมทางปาก” อย่างเด็ดขาด
เมื่อมีคนอย่าง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ต่างก็”ลับคม”อย่าง”เมามัน”
ลงขนาด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงทุนเอาเสื้อยืด “พบกันที่สามเสน”
ออกมาพร้อมกับคล้อง “นกหวีด”ย่อมก่อให้เกิดอาการ”สั่นไหว”
เหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณไปยัง”มวลมหาประชาชน”แต่ ความจริงเป็นการส่ง
”ซิก”ไปยังพระนางธรณีบีบมวยผมไม่แปลกที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี จะลังเล
ยิ่ง นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ยิ่งละล้าละลังเพราะยังไม่มีสัญญาณอะไรมาจาก
“นครศรีธรรมราช”แม้ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร จะเด็ดเดี่ยวยิ่ง
“ผมมีความชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอนเพื่อให้บ้านเมือง
ผ่อนคลายไปในทางที่ดีขึ้น”แต่ นายวิทยา แก้วภราดัย ยังสงบนิ่ง
ต้องยอมรับว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มากด้วยฤทธิ์เดชทางการ เมือง
แม้ 2 ผู้ใหญ่จะยืนเรียงเคียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะเป็น นายชวน หลีกภัย
จากตรัง ไม่ว่าจะเป็น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน จากสุราษฎร์ธานี
ยืนเรียงพร้อมกับโลโก”อดีต”หัวหน้าพรรค
แต่ก็ต้องยอมรับว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่แล้ว
นั่นก็คือ ยืนเรียงเคียงข้าง “คสช.”
นั่นก็คือ เห็นด้วยอย่างยีงกับ “รัฐประหาร”เมื่อเดือนพฤษภา คม 2557
นี่คือ “ความขัดแย้ง”อีกครั้งภายใน”พรรคประชาธิปัตย์”
หลังจากยุค นายเลียง ไชยกาล หลังจากยุค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา โมช
หลังจากยุค นายอุทัย พิมพ์ใจชน หลังจากยุค นายวีระ มุสิกพงศ์
“ความขัดแย้ง” เป็นเรื่องปรกติของ “การเมือง”
โดยเฉพาะการเมือง”ภายใน”ของ”พรรคประชาธิปัตย์”