สมหญิง ดาวร้าย
Ariana Grande นักร้องสาวชาวอเมริกัน สังกัดค่าย Republic Records กลับมาอีกครั้งในอัลบั้มใหม่ Dangerous Woman เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากอัลบั้ม My Everything ที่นางมีซิงเกิ้ลฮิตในปี 2014 อย่าง Problem และอีกหลายเพลงในอัลบั้ม เช่น Break Free, Love Me Harder, One Last Time และ Bang Bang
ยอมรับเลยว่ารู้จักนางครั้งแรกเพลง Baby I ไม่ได้รู้จักนางในเพลง The Way เหมือนชาวบ้านเขา แต่มาชอบจริงๆก็เพลง Problem นี่แหละ ส่งผลให้ไปย้อนไปฟังทุกเพลงในอัลบั้ม Yours Truly พอได้ฟังก็หลงความเป็นเจ้าหญิงของนางเลย พอยิ่งได้มาฟังอัลบั้ม My Everything ก็ได้รู้ว่านางไม่ใช่เจ้าหญิงอย่างที่คิด แถมตอนนี้นางก็ได้หาแนวของนางเจอ ด้วยการแรดอย่างไม่ปรานี กรี่อย่างไม่ต้องแอ๊บ
ส่วนอัลบั้มนี้ Dangerous Woman มีความต่างจากชุดที่แล้วพอสมควร เพลงในอัลบั้มมีความเป็น Pop R&B บีทหนักๆ แถมบางเพลงยังมี Explicit (คำหยาบ) อีกด้วย และศิลปินที่มาร่วม Featuring ด้วย ก็มีแต่เบอร์ใหญ่ ๆ เช่น Nicki Minaj, Lil Wayne, Future และ Macy Gray ส่วนกระแสอัลบั้มนี้ด้วยการโปรโมทแบบงงๆของทางค่าย แถมเพลง Focus ที่จะพยายามจะดันเป็นซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มก็ไปไม่ถึงฝัน จนตัวเพลงถูกถอดออกจากอัลบั้ม และด้วยเหตุผลอีกอย่างคือเพลงมันไม่เข้ากับอัลบั้มนี้ด้วยเลยถูกถอด ส่งผลทำให้อัลบั้ม Dangerous Woman ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร แต่ก็ยังไม่ได้ถือว่าแป้ก เพราะยอดขายถือว่าดีมากๆ แถมอัลบั้มยังเดบิวต์อันดับ #1 itunes 67 ประเทศ และเดบิวต์ #2 on the Billboard 200 Albums chart ที่ไม่ได้พีคที่ #1 เนื่องจากยอดสตรีมที่แรงมากของ Drake แต่มองข้ามเรื่องกระแสไปค่ะ เรามาทำการรีวิวเพลงทุกแทร็คในอัลบั้มกันดีกว่า
คุมงานโปรดิวซ์โดย Savan Kotecha & Alexander Kronlund , Max Martin และอื่นๆอีกมากมาย
มาเริ่มกันที่ Moonlight เริ่มอินโทรเปิดอัลบั้มด้วยเพลงจังหวะแบบเบาๆ ทำให้คิดถึงกลิ่นไออัลบั้มแรกของนางอย่าง Yours Truly จังหวะของเพลงนี้ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆไป มีความละมุนละม่อม ฟังแล้วให้บรรยากาศเหมือนเรากำลังอยู่ท่ามกลางใต้แสงจันทร์กับแฟนหนุ่ม จะไม่ให้รู้สึกแบบนั้นได้ไงละ ก็เพลงนี้นางแต่งให้แฟนหนุ่ม Ricky Alvarez นางไงคะคุณ แถมตอนแรกนางจะเอา Moonlight เป็นชื่อไตเติ้ลอัลบั้มชุดนี้ แต่นางก็เปลี่ยนใจเป็น Dangerous Woman นี่แหละค่ะ
Dangerous Woman เป็นทั้งซิงเกิ้ลเปิดและไตเติ้ลแทร็คประจำชุดนี้ เพลงนี้นางเปลี่ยนแนว โดยการทำเพลงป๊อปจังหวะหนัก ๆ บีทหนัก ๆ ให้ตัดกับเสียงสูง ๆ ของนาง แนวดนตรีจะไปทางแนว The Weeknd นิด ๆ แต่เป็นในเวอร์ชั่นชะนี เนื้อหาก็บ่งบอกคอนเซปต์ของอัลบั้มได้ดีไม่น้อย “ บางสิ่งในตัวเธอ มันทำให้ชั้นรู้สึกเป็นผู้หญิงที่แสนอันตราย ” ถือว่าเป็นซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มได้ดี พีคในบิลบอร์ดชาร์ทอยูที่อันดับ #8 ทั้งที่ไม่ได้โปรยอะไรมากมาย
Be Alright เพลงนี้ฟังครั้งแรกคือติดหูเลย ด้วยจังหวะของตัวเพลงที่ชี้ชวนให้ต้องโยกตัวไปมา ส่วนการโชว์เสียงของนางก็กำลังพอดี คือลงตัวมาก เพลงนี้ตรงท่อนฮุก “ We're gonna be alright ” มีความเก๋ เหมาะมาก ๆ เวลาเปิดในปาร์ตี้ ตอนแรกนางแค่จะเอาเพลงนี้จะเป็นแค่เป็นโปรโมทซิงเกิ้ล ไม่ตัดเป็นซิงเกิ้ล แต่กลับกลายเป็นเพลงนี้กระแสดีผลตอบรับดี
Into You ซิงเกิ้ลที่ 2 ของอัลบั้ม เริ่มต้นด้วยจังหวะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆไปก่อนที่จะตบด้วยท่อนฮุกที่บีทหนัก ๆ ตรงท่อน “ Cause I’m so into you, into you, into you ” คือฟังแล้วต้องหอนตามเสียงนาง เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการตกหลุมรัก หลงใหลผู้ชายคนนึงเอามาก ๆ เพลงนี้โปรดิวซ์โดย Max Martin และ Ilya Salmanzadeh มี Max Martin เป็นโปรดิวเซอร์ก็บอกได้เลยว่าติดหูแน่นอนค่ะ
Side To Side (feat. Nicki Minaj) ถือว่าเป็นเพลงที่ชอบมาก ๆ เพลงนึงเลยในอัลบั้ม ตัวเพลงเองมีความเร็กเก้ ๆ มีความซัมเมอร์ ท่อนฮุกติดหูมากคือดีมาก ท่อนแร็พขุ่นแม่ Nicki Minaj แร็พได้เข้ากับเพลงมาก ๆ ยิ่งท่อน “ I'm the queen of rap, young Ariana run pop ” คือกราบค่ะ เพลงนี้คืออวยสุดจริงๆ เพลงนี้นางตัดเป็นซิงเกิ้ลแน่นอน
Let Me Love You (feat. Lil Wayne) เพลงนี้ก็มาสไตล์ R&B ช้าๆเซ็กซี่ๆ ชอบการเล่นเสียงตรงท่อน “ Just let me love you, you ” แถมท่อนแร็พของ Lil Wayne ก็เซ็กซี่ๆ ดูเมาๆนิดตามสไตล์ Lil Wayne ยิ่งท่อน “ she grinding on this Grande ” นี่ได้ยินครั้งแรกถึงต้องยกมือขึ้นมาทาบกับอก
Greedy แค่ท่อนเปิด “ you know that I'm greedy for love ” ท่อนแรกของเพลงก็รู้สึกถึงความเปรี้ยวเยี่ยวราดของเพลงนี้ ตัวเพลงเองมีความซุกซน ส่วนเรื่องเนื้อหาโดนใจเหล่าเก้งกวางบ่างชะนีแน่นอน “ เธอก็รู้นี่ ว่าชั้นน่ะกระหายความรัก ” พูดเลยถ้าเปิดเพลงนี้ปุ้บเหล่าเก้งๆต้องพากันร้องตรงท่อนฮุกแล้วแผดเสียง Greedy ออกมาดังๆอย่างพร้อมกัน
Leave Me Lonely (feat. Macy Gray) เพลงนี้ถือว่านางได้โชว์สกิลเสียงของนางสุดจริงๆ เนื้อหาเพลงก็ประมาณว่า “ถ้าเธอจะรักชั้น และปล่อยชั้นทิ้งไว้แบบนี้ งั้นชั้นก็ขอให้เธอทิ้งชั้นไว้ให้โดดเดี่ยวดีกว่า ” อารมณ์แบบ ถ้าจะรักกันละทิ้งกันไว้แบบนี้ ปล่อยเถอะค่ะ ขออยู่คนเดียวค่ะ ส่วนท่อนของ Macy Gray ที่มาร่วมร้องด้วย ก็ทำให้เพลงเองดูเซ็กซี่และ Lonely มาก ๆ
Everyday (feat. Future) เพลงนี้บีทหนักเหมือนกัน เพื่อให้คงคอนเซปต์ของอัลบั้ม ตรงท่อน He give it to me บวกกับเสียงของ Future ที่ร้อง Everyday ซ้ำๆคือดีมาก เนื้อหาเพลงก็แร๊ดแรด ตรงท่อนที่บอกว่า “ เค้าให้ชั้นทุกวัน ” สื่อได้อีกอย่างคือ “ เค้าเอาชั้นทุกวันค่ะ! ” ส่วนท่อนแร็พของ Future ทำให้เพลงดูดิบขึ้น ดาร์คขึ้น แถมท่อน ลั้ลลัลลั้ลลา ก็ทำให้เพลงเองไม่ดาร์คเกินไป
Sometimes เริ่มเพลงด้วยจังหวะชิล ๆ ด้วยเสียง ลั้ลล้าลา แต่เสียง ลั้ลล้าลา ถ้าเป็นเสียงนางจะดีมาก ไม่คิดว่านางจะทำเพลงแนวชิลๆในอัลบั้มนี้นะ แต่ก็ถือว่าเป็นแทร็คที่มาผ่อนจากแทร็คเมื่อกี้ได้ดี แนวเพลงแบบฟังสบาย ๆ ชิล ๆ เนื้อหาเพลงก็อารมณ์แบบ “ ชั้นไม่คิดแม้แต่จะหนีเธอไปเลยสักครั้ง แค่สักครั้งก็ไม่คิดเลย ”
I Don't Care เป็นแทร็คที่สั้นที่สุดในอัลบั้ม เพลงนี้ก็ฟังเพลิน ๆ สบาย ๆ เนื้อร้องเพลงนี้ไม่ค่อยเน้น ไปเน้นที่ซาวน์ดมากกว่า แต่เพลงนี้เหมือนจะละมุนมากกว่าแทร็คอื่นๆในอัลบั้ม แต่เนื้อหาไม่ได้ละมุนนะสิตัว อย่างเช่นท่อนนี้ “ ชั้นเคยยอมให้มีคนมาบอกชั้นว่าชั้นต้องใช้ชีวิตยังไง และต้องเป็นอะไร แต่ถ้าหากชั้นเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ งั้นก็ช่างมันสิ! ชั้นไม่แคร์อีกต่อไปแล้ว ” แต่ด้วยซาวน์ดเพลงเลยเหมือนเป็นการบอก I Don't Care ที่ดูเหมือนจะเบา ๆ
Bad Decision เพลงนี้โคตรโดน ติดหูมากค่ะ ด้วยตัวซาวน์ดเพลงแบบบีทหนักๆ ตามคอนเซปต์ของอัลบั้ม ยิ่งท่อนฮุกยิ่งชอบการเล่นเสียงของนาง เนื้อเพลงจะมีท่อนนึงตรงช่วง Bridge ที่ว่า “ เธอไม่รู้หรอ ว่าชั้นน่ะไม่ยุ่งหรอกนะกับพวกผู้ชายแสนดีน่ะ ”
และปิดท่อนด้วย “ ไม่เคยเห็น Princess กลับใจเป็น Bad Bitch หรอ? ” ฟังเสร็จแล้วคือกริ้ด คือมันโดนจริงๆ
Touch It ฟังครั้งแรกนึกว่าจะแนวเบา ๆ อีก พอถึงท่อนฮุกปุ้ป มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเสียงหวีด ชอบนางทำเพลงแนวแบบนี้นะ มันตัดกับเสียงสูง ๆ ของนางดี น้ำเสียงดูเซ็กซี่มาก (เทคนิคการร้องเพลงนี้เรียกว่า Whistle Register) เน้นถึงอารมณ์มากโดยเฉพาะช่วงท้ายเพลง คาดว่าอาจจะทำให้หลายคนต้องอึ้งไปตามๆกันแน่ๆ
Knew Better / Forever Boy แทร็คนี้ยาวสุดเพราะมี 2 เพลงในแทร็คเดียว เริ่มด้วย Knew Better ที่ฟังทีไรก็ต้องลงไปเลื้อยอยู่บนพื้น ชอบท่อน “ Ain't nobody like me ” ก่อนจะจบพาร์ทแรกมาก ต่อด้วย Forever Boy ที่ต่อเนื่องจากพาร์ทแรกกันอย่างลงตัว คือถ้าฟังแบบไม่สังเกตก็จะไม่รู้นะ ว่ามี 2 เพลง คือเพราะว่าเพลงมันดูเข้ากันมาก ๆ จนเหมือนเพลงเดียว
Thinkin' Bout You แทร็คสุดท้ายปิดท้ายอัลบั้มนี้ เนื้อหาเพลงบอกถึงการกำลังคิดถึง นึกถึงผู้ชายคนนึง อยากให้เขากลับมาหา ตัวเพลงเองก็เป็นเพลงจังหวะกลาง ๆ ฟังเพลิน ๆ บีทไม่หนักไม่เบาเกินไป ถือว่าเป็นแทร็คปิดอัลบั้มแบบสวย ๆ
Dangerous Woman ถือว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ สำหรับอัลบั้มนี้ชุดนี้ รักษาคุณภาพได้ดี มีท่อนฮุกติดหู วางแทร็คได้ลงตัวมาก เนื้อหาโดนใจเหล่าเก้งกวางบ่างชะนีได้ดีเยี่ยม ถือว่านางมาถูกทาง แถมตัวเพลงเองยังฟังง่ายสุด ๆ ฟังได้ทุกแทร็คไม่มีกดข้าม นางคุมโทนคุมคอนเซปต์ของอัลบั้มได้ดีไม่น้อย แถมมีกลิ่นอายความเป็นหรี่สูง ซึ่งอัลบั้มนี้ก็แสดงให้เห็นด้านเซ็กซี่ ๆ ของนางเยอะขึ้นมากจากชุดที่แล้ว
เรื่องทักษะหรือสกิลในการร้องเพลงของนางไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว ส่วนภาคดนตรีมีความแตกต่างจากชุดก่อนอย่างเห็นได้ชัด ชุดนี้มันคงจะเหมาะกับคนที่ชอบเพลงจังหวะกลางๆ เชื่อว่าคนที่ชอบเพลงแนว Pop R&B จะต้องปลื้มกับอัลบั้มชุดนี้ บางคนฟังแล้วอาจจะคิดว่าทั้ง 3 อัลบั้มของนางก็เป็นแนวเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แต่หนทางวงการเพลงยังอีกยาวไกล หนูยังสามารถไปไกลกว่านี้ได้อีก พยายามทำงานเพลงที่เป็นแนวเอกลักษณ์ของตัวเอง แบบค่อย ๆ พัฒนา หรือลองสิ่งที่แตกต่างจากตัวเองก็ได้ อายุยังน้อยยังเหลือเวลาให้พิสูจน์อีกเยอะ ส่วนตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่า Dangerous Woman จะยังไม่พีคเท่าที่ควร แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่ถึงขั้นแย่ที่สุดอย่างแน่นอน
อัลบั้มหน้าหนูจะมาทวงทุกสิ่งทุกอย่างของหนูคืน
DANGEROUS WOMAN
Top Track : Moonlight , Side To Side , Into You , Greedy , Everyday , Bad Decisions , Dangerous Woman
Give 8/10
[CR] [รีวิวอัลบั้ม] Dangerous Woman - Ariana Grande
และปิดท่อนด้วย “ ไม่เคยเห็น Princess กลับใจเป็น Bad Bitch หรอ? ” ฟังเสร็จแล้วคือกริ้ด คือมันโดนจริงๆ
เรื่องทักษะหรือสกิลในการร้องเพลงของนางไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว ส่วนภาคดนตรีมีความแตกต่างจากชุดก่อนอย่างเห็นได้ชัด ชุดนี้มันคงจะเหมาะกับคนที่ชอบเพลงจังหวะกลางๆ เชื่อว่าคนที่ชอบเพลงแนว Pop R&B จะต้องปลื้มกับอัลบั้มชุดนี้ บางคนฟังแล้วอาจจะคิดว่าทั้ง 3 อัลบั้มของนางก็เป็นแนวเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แต่หนทางวงการเพลงยังอีกยาวไกล หนูยังสามารถไปไกลกว่านี้ได้อีก พยายามทำงานเพลงที่เป็นแนวเอกลักษณ์ของตัวเอง แบบค่อย ๆ พัฒนา หรือลองสิ่งที่แตกต่างจากตัวเองก็ได้ อายุยังน้อยยังเหลือเวลาให้พิสูจน์อีกเยอะ ส่วนตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่า Dangerous Woman จะยังไม่พีคเท่าที่ควร แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ไม่ถึงขั้นแย่ที่สุดอย่างแน่นอน