ย้อนอ่านกระทู้ Road trip to China
Chapter1:
http://ppantip.com/topic/35432162
Chapter2:
http://ppantip.com/topic/35434826
Chapter3:
http://ppantip.com/topic/35438168
พูดคุย-แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ที่นี่ครับ
Facebook Page:
https://www.facebook.com/theanawitjourney/
Blog:
https://theanawitjourney.wordpress.com/
-วันที่ 6-
ตื่นแต่เช้าจัดแจงยัดข้าวของใส่กระเป๋า เพื่อเตรียมตัวไปท่ารถในเมืองด้วยกับเหตุผลที่ว่าจะไป ‘ย่าติง’ ใช่แล้วครับ เราสามารถนั่งรถบัสจากขนส่งเมืองนี้ไปได้ มี 2 ตัวเลือกคือ 1.นั่งรถบัสไป 2.เหมารถไป อันหลังนี่ไม่ทราบว่าราคาประมาณเท่าไหร่ แต่ถ้าไปกันหลายๆคน การเหมาไปน่าจะตอบโจทย์มากกว่า.. รถบัสมีรอบเดียวต่อวันเท่านั้นคือ 6 โมงเช้า จำเป็นอย่างมากที่จะต้องไปซื้อก่อนวันเดินทาง 1 วัน ราคาประมาณ 100 กว่าหยวน จะวิ่งจากแชงกรีล่ายิงยาวเข้าเมืองเต้าเฉิง
นั่งเรื่อยๆ 12 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าออกตอนเช้าถึงอีกทีตอนเย็น วิวข้างทางสะกดนักท่องเที่ยวทุกคนได้อยู่หมัด อาจเปรียบได้ว่านี่คือการอินโทรก่อนจะถึงย่าติงก็เป็นได้
3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเลคือความสูงที่ฉันวัดได้จากแอพมือถือ จริงอยู่ที่ยิ่งสูงแล้วจะยิ่งหนาว แต่ทว่าบรรยากาศเมืองเต้าเฉิงยามเย็นเหมือนมีส่วนช่วยทำอุณหภูมิของเมืองๆนี้อุ่นขึ้นมาพอสมควร มีคนออกมาเต้นที่จตุรัสกลางเมืองเช่นเดียวกับที่แชงกรีล่า ใจอยากเข้าไปร่วมมากแค่ไหนแต่ถ้าเทียบความหิวแล้วนั้นย่อมมากกว่า การเลือกคลายความหิวจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการคลายความหนาว
-วันที่ 7-
บอกกับเจ้าของที่พัก ‘Daocheng mama international youth hostel’ ให้ช่วยหารถไปย่าติงตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ราคา 50 หยวน/คน 7 โมงครึ่งรถก็เคลื่อนตัวออกจากเมืองเต้าเฉิง ยิ่งไกลเท่าไหร่ วิวยิ่งสวยตามไปเท่านั้น พลขับชาวทิเบตดูท่าว่าสงสัยต้องจอดพักริมทางสักหน่อย จุดนี้คือ ‘Bowa Mountain’ แสงแดดอ่อนๆยามสายผสานเข้ากับพื้นหลังภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตา จึงทำให้ภาพตรงหน้าเหมือนหลุดออกมาจากนิยาย
อยากจะตัดภาพไปย่าติง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะภาพฝันถูกทับด้วยกับหินที่ถล่มลงมาปิดทางเข้า-ออกของถนนเส้นนี้ คนที่จะออกจากย่าติงก็ออกไม่ได้ ส่วนไอเราจะเข้าก็เข้าไม่ได้อีก ถ้ารอก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ชั่วโมงกว่าจะเคลียร์ทางเสร็จ ถึงตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยในใจแล้วล่ะว่า ‘ตกลง..คนเลือกย่าติงหรือย่าติงเลือกคนกันแน่’ ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะถอยกลับ แต่ยังไงแล้วฉันคงต้องไปต่อเพราะด้วยกับปัจจัยหลายๆด้านที่บีบให้รอไม่ได้ การเดินขึ้นเขาพร้อมสัมภาระจึงเป็นตัวเลือกเดียวที่ทำได้ในตอนนั้น
ในที่สุดก็ดันทุรังผ่านมาจนได้ ค่าเข้าอุทยาน 270 หยวน/คน แต่ถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษาเพียงแค่โชว์บัตรก็จะเหลือ 170 หยวน/คน (ลดไปตั้ง100หยวนแหนะ) ตั๋วมีอายุ 3 วัน.. ไม่รอช้านั่งรถ Shuttle ไปลงหมู่บ้านย่าติง จัดแจงสัมภาระเข้าที่พักเรียบร้อย Zhouma La Lake (4080m) คือสถานที่แรกที่จะไปวอร์มร่างกายกันในวันนี้ ก่อนที่อีกวันจะต้องเดินทางไกลไป Milk Lake (4600m)
[CR] Road trip to China – ย่าติงในวันที่ฝนพรำ [Chapter2/3]
ย้อนอ่านกระทู้ Road trip to China
Chapter1: http://ppantip.com/topic/35432162
Chapter2: http://ppantip.com/topic/35434826
Chapter3: http://ppantip.com/topic/35438168
พูดคุย-แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ที่นี่ครับ
Facebook Page: https://www.facebook.com/theanawitjourney/
Blog: https://theanawitjourney.wordpress.com/
-วันที่ 6-
ตื่นแต่เช้าจัดแจงยัดข้าวของใส่กระเป๋า เพื่อเตรียมตัวไปท่ารถในเมืองด้วยกับเหตุผลที่ว่าจะไป ‘ย่าติง’ ใช่แล้วครับ เราสามารถนั่งรถบัสจากขนส่งเมืองนี้ไปได้ มี 2 ตัวเลือกคือ 1.นั่งรถบัสไป 2.เหมารถไป อันหลังนี่ไม่ทราบว่าราคาประมาณเท่าไหร่ แต่ถ้าไปกันหลายๆคน การเหมาไปน่าจะตอบโจทย์มากกว่า.. รถบัสมีรอบเดียวต่อวันเท่านั้นคือ 6 โมงเช้า จำเป็นอย่างมากที่จะต้องไปซื้อก่อนวันเดินทาง 1 วัน ราคาประมาณ 100 กว่าหยวน จะวิ่งจากแชงกรีล่ายิงยาวเข้าเมืองเต้าเฉิง
นั่งเรื่อยๆ 12 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าออกตอนเช้าถึงอีกทีตอนเย็น วิวข้างทางสะกดนักท่องเที่ยวทุกคนได้อยู่หมัด อาจเปรียบได้ว่านี่คือการอินโทรก่อนจะถึงย่าติงก็เป็นได้
3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเลคือความสูงที่ฉันวัดได้จากแอพมือถือ จริงอยู่ที่ยิ่งสูงแล้วจะยิ่งหนาว แต่ทว่าบรรยากาศเมืองเต้าเฉิงยามเย็นเหมือนมีส่วนช่วยทำอุณหภูมิของเมืองๆนี้อุ่นขึ้นมาพอสมควร มีคนออกมาเต้นที่จตุรัสกลางเมืองเช่นเดียวกับที่แชงกรีล่า ใจอยากเข้าไปร่วมมากแค่ไหนแต่ถ้าเทียบความหิวแล้วนั้นย่อมมากกว่า การเลือกคลายความหิวจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการคลายความหนาว
-วันที่ 7-
บอกกับเจ้าของที่พัก ‘Daocheng mama international youth hostel’ ให้ช่วยหารถไปย่าติงตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ราคา 50 หยวน/คน 7 โมงครึ่งรถก็เคลื่อนตัวออกจากเมืองเต้าเฉิง ยิ่งไกลเท่าไหร่ วิวยิ่งสวยตามไปเท่านั้น พลขับชาวทิเบตดูท่าว่าสงสัยต้องจอดพักริมทางสักหน่อย จุดนี้คือ ‘Bowa Mountain’ แสงแดดอ่อนๆยามสายผสานเข้ากับพื้นหลังภูเขาไกลสุดลูกหูลูกตา จึงทำให้ภาพตรงหน้าเหมือนหลุดออกมาจากนิยาย
อยากจะตัดภาพไปย่าติง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะภาพฝันถูกทับด้วยกับหินที่ถล่มลงมาปิดทางเข้า-ออกของถนนเส้นนี้ คนที่จะออกจากย่าติงก็ออกไม่ได้ ส่วนไอเราจะเข้าก็เข้าไม่ได้อีก ถ้ารอก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ชั่วโมงกว่าจะเคลียร์ทางเสร็จ ถึงตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยในใจแล้วล่ะว่า ‘ตกลง..คนเลือกย่าติงหรือย่าติงเลือกคนกันแน่’ ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะถอยกลับ แต่ยังไงแล้วฉันคงต้องไปต่อเพราะด้วยกับปัจจัยหลายๆด้านที่บีบให้รอไม่ได้ การเดินขึ้นเขาพร้อมสัมภาระจึงเป็นตัวเลือกเดียวที่ทำได้ในตอนนั้น
ในที่สุดก็ดันทุรังผ่านมาจนได้ ค่าเข้าอุทยาน 270 หยวน/คน แต่ถ้าเป็นนักเรียนนักศึกษาเพียงแค่โชว์บัตรก็จะเหลือ 170 หยวน/คน (ลดไปตั้ง100หยวนแหนะ) ตั๋วมีอายุ 3 วัน.. ไม่รอช้านั่งรถ Shuttle ไปลงหมู่บ้านย่าติง จัดแจงสัมภาระเข้าที่พักเรียบร้อย Zhouma La Lake (4080m) คือสถานที่แรกที่จะไปวอร์มร่างกายกันในวันนี้ ก่อนที่อีกวันจะต้องเดินทางไกลไป Milk Lake (4600m)