เรื่องมีอยู่ว่าผมขึ้นม.ปลาย ม.ต้นผมได้เป็นตัวจริงซ้อมหนักมาตลอดเพื่อแข่งหลายๆรายการ รวมไปถึงบอลkfcด้วยเปนนักเตะมีโปรไฟล์พอสมควร ม.ปลายปีแรกผมสมัครเข้าเป็นนักฟุตบอล รร. ซึ่งมีคนสมัครเยอะอยู่ ผมเปนหนึ่งในนั้น พอเวลาผ่านไป เหลือผมคนเดียว เพราะ เพื่อนบอกผมว่ามันซ้อมไกลเกิน ส่วนผมตอนนั้นก็หยุดไป1อาทิตย์เพราะผมไม่มีรถต้องอาศัยรถเพื่อน ผมลงทุนซื้อรถไหม่เพื่อไปซ้อมบอล ซึ่งมีผมคนเดียว ที่เป็นม.4 ครับ ผมก็ซ้อมเขาไห้ทำอะไรก็ทำทั้ง เก็บบอลหลังประตูเอย ไปกรอกน้ำไห้รุ่นพี่เอย แล้วผ่านมาเรื่อยมีแข่ง ผมไม่มีชื่อแข่ง แม้แต่ตัวสำรอง ตัวเสริม ก็ไม่มีครับ ผมก็คิดนะว่าเออกูทำมาขนาดนี้ ชื่อก็ไม่มี เเต่ยังดีผมเป็นคนขยัน55. ผมก็หน้าด้านไปซ้อมกับทีมของเขา ผ่านมาม.5 เริ่มมีชื่อ ได้ซ้อมหนักขึ้น แต่ก็โดนด่าโดนว่าเวลาซ้อม(มันเป็นเรื่องปกติอะมั้งว่าเราควรแก้ตรงไหน)มั้งงนะ เริ่มได้ลง2นาทีท้ายเป็นบางนัดนะครับ เขาซ้อมก็ได้เริ่มมาทีมสำรอง แต่ก็แข่งทีไรก็ไม่ได้ลงเลย โค้ชชอบมองข้ามอะครับ ผมเล่นกลางตัวรับนะครับ ตัวจริงเจ็บ เขาเอาปีหรือแบ็คซ้าย ไปลงแทนอะครับซึ่งมีผมกลางรับธรรมชาติ อยู่กับไม่สนใจน้อยใจหนักกว่าอยู่ตอนม.4อีก ซึ่งทีมแพ้ รร.กีฬา 1-0 เพื่อนๆเสียใจกันที่ไม่ได้ไปต่อ ส่วนตัวเราเสียใจกว่าพวกมันคือไม่ได้มีส่วนร่มกับเกม ทีมก็แพ้ มันเป็นอะไรที่ทรมานมากครับบ ผมร้องไห้กลับ รร. ในรถตู้เฉพาะตัวสำรอง กลังจากนั้นก็พยามยามฝึกหนักมาตลอดเพื่อหวังตัวจริงพอขึ้นม.6ครับ โค้ชต้องการคัดนักเตะไหม่ ผมมีชื่อเป็นคนแรกที่เข้าตาเขา ผมได้ลงตัวจริงเป็นอะไรที่ดีใจมากครับ ที่คิดว่าปีนี้คงมีส่วนร่วมกับเกมละมั้ง ผมไม่เคยขาดซ้อมเลยมีวันนึงผมไม่ค่อยสบายเท่าไร ผมได้เปลี่ยนลงกลับไปทีมสำรอง เเล้วเอา เด็กม.4มาเล่นตัวรับแทนเราซึ่งเราไม่เหนด้วย ร่างกายตัวน้อย ผอมแห้ง ซึ้งเซ้นบอลน้อยกว่าเราแต่ดัน
เข้าตาโค้ชอีก ไอ้ตัวเรานั้นเครียดสิครับ แล้วก็ท้อใจด้วย แต่เราก็พูดอะไรไม่ได้อะครับ เถียงไม่ได้โค้ชเขาก็ทำหน้าที่ของเขา ผมต้องเข้าใจ ผมจึงเอาความรู้สึกมั้งหมดมาลงในนี้ครับ ปัจจุบันก็ซ้อมในทีมสำรองเหมือนเดิมครับ
คิดไงกับการจะเปนตัวสำรองมาตลอดเกือบ3ปี ฟุตบอล