ตามรวบสำเร็จ 2 นร.นักเลงเด็กช่าง โชว์สัญลักษณ์สถาบันท้าทาย ก่อนรุมแทง "เด็กเทคนิค" ดับสลด
"ศานิตย์" สั่งจับทำท่า "ซารางเฮโย" ด้าน ผู้เป็นแม่ สะอึก เหตุลูกทำให้เดือดร้อน เจอแจ้งเอาผิดด้วย
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3
พ.ต.อ. พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.หนองจอก พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ ผกก.สส.บก.น.3
ร่วมกันจับกุมตัว นายต่าย อายุ 18 ปี และนายหมาน อายุ 17 ปี (นามสมมุติทั้งคู่) ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
โดยจับกุมตัวทั้ง 2 คนได้ที่หน่วยบริการประชาชนตู้ยามนาโพธิ์ หมู่ 7 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เวลาประมาณ 18.30 น. นายวิศรุต โสภะบุญ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 2 สาขาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร
ได้ขี่ จยย.เข้าไปจอดรอเพื่อนอยู่ในปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนเลียบวารี กระทั่งเจอหน้ากับนายต่ายและนายหมานโดยบังเอิญ
จากนั้นพอนายต่ายกับนายหมานกำลังจะขี่รถออกจากปั๊มไป ทั้งคู่ได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยมือ ทำท่าเป็นรูป "เรือใบ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนเทคโนบางกะปิ
ทำให้นายวิศรุตต้องขี่ไล่ตามออกมา ก่อนที่จะเกิดการชกต่อยกันขึ้น สุดท้ายนายวิศรุตจึงถูกมีดแทงเสียชีวิต
นายต่าย ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนฟันผู้ตาย ส่วนนายหมาน เป็นคนแทงและเป็นคนที่ทำสัญลักษณ์ของสถาบันท้าทาย
เนื่องจากกลุ่มผู้ตายมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มคู่อริที่เคยใช้ปืนยิงใส่ตนเมื่อหลายเดือนก่อน จึงคิดจะเอาคืน
ต่อมาได้นำตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีประชาชนให้ความสนใจมามุงดูจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังได้เชิญ นางนาตญา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี มารดาของนายต่าย
และนายชลอ ไทรงาม หัวหน้างานปกครองวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร มาพูดคุยทำความเข้าใจและอ่านเข้าคำสั่งคสช. ที่30/2559
พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ต้องหาทำสัญลักษณ์ "ซารางเฮโย" แทน
ด้าน นางนาถตยา กล่าวว่า ไม่ได้อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
การทะเลาะวิวาทนี้ส่งผลให้พ่อแม่เดือดร้อน หากไม่คิดถึงพ่อแม่ก็ให้คิดถึงอนาคตตัวเอง
ขณะที่ นายชลอ กล่าวว่า คำสั่ง คสช. ที่30/2559 มีประโยชน์อย่างมากในการควบคุมพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มอาชีวะ
โดยพยายามให้เลิกเรียนไม่ตรงเวลากับต่างสถาบันเพื่อลดการเผชิญหน้ากัน
รายงานข่าวระบุว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้ปกครองของผู้ต้องหาทั้งสองราย ตามคำสั่งคสช. ที่30/2559 เรื่องการแก้ไขเด็กนักเรียนต่อกัน
ส่วนโทษจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล.
cr : เดลินิวส์
รุมแทง "เด็กเทคนิค" ดับสลด "ศานิตย์" สั่งจับทำท่า ซารางเฮโย
"ศานิตย์" สั่งจับทำท่า "ซารางเฮโย" ด้าน ผู้เป็นแม่ สะอึก เหตุลูกทำให้เดือดร้อน เจอแจ้งเอาผิดด้วย
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3
พ.ต.อ. พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.หนองจอก พ.ต.อ.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ ผกก.สส.บก.น.3
ร่วมกันจับกุมตัว นายต่าย อายุ 18 ปี และนายหมาน อายุ 17 ปี (นามสมมุติทั้งคู่) ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
โดยจับกุมตัวทั้ง 2 คนได้ที่หน่วยบริการประชาชนตู้ยามนาโพธิ์ หมู่ 7 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เวลาประมาณ 18.30 น. นายวิศรุต โสภะบุญ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 2 สาขาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร
ได้ขี่ จยย.เข้าไปจอดรอเพื่อนอยู่ในปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนเลียบวารี กระทั่งเจอหน้ากับนายต่ายและนายหมานโดยบังเอิญ
จากนั้นพอนายต่ายกับนายหมานกำลังจะขี่รถออกจากปั๊มไป ทั้งคู่ได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยมือ ทำท่าเป็นรูป "เรือใบ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนเทคโนบางกะปิ
ทำให้นายวิศรุตต้องขี่ไล่ตามออกมา ก่อนที่จะเกิดการชกต่อยกันขึ้น สุดท้ายนายวิศรุตจึงถูกมีดแทงเสียชีวิต
นายต่าย ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนฟันผู้ตาย ส่วนนายหมาน เป็นคนแทงและเป็นคนที่ทำสัญลักษณ์ของสถาบันท้าทาย
เนื่องจากกลุ่มผู้ตายมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มคู่อริที่เคยใช้ปืนยิงใส่ตนเมื่อหลายเดือนก่อน จึงคิดจะเอาคืน
ต่อมาได้นำตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีประชาชนให้ความสนใจมามุงดูจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังได้เชิญ นางนาตญา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี มารดาของนายต่าย
และนายชลอ ไทรงาม หัวหน้างานปกครองวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกมหานคร มาพูดคุยทำความเข้าใจและอ่านเข้าคำสั่งคสช. ที่30/2559
พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ต้องหาทำสัญลักษณ์ "ซารางเฮโย" แทน
ด้าน นางนาถตยา กล่าวว่า ไม่ได้อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
การทะเลาะวิวาทนี้ส่งผลให้พ่อแม่เดือดร้อน หากไม่คิดถึงพ่อแม่ก็ให้คิดถึงอนาคตตัวเอง
ขณะที่ นายชลอ กล่าวว่า คำสั่ง คสช. ที่30/2559 มีประโยชน์อย่างมากในการควบคุมพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มอาชีวะ
โดยพยายามให้เลิกเรียนไม่ตรงเวลากับต่างสถาบันเพื่อลดการเผชิญหน้ากัน
รายงานข่าวระบุว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้ปกครองของผู้ต้องหาทั้งสองราย ตามคำสั่งคสช. ที่30/2559 เรื่องการแก้ไขเด็กนักเรียนต่อกัน
ส่วนโทษจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล.
cr : เดลินิวส์