ม้วนเดิม เพิ่มเติมความมัน แฟนเจสัน บอร์นไม่ควรพลาด
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ SF Cinema City มาด้วยนะครับ สำหรับโอกาสในการชมภาพยนตร์รอบนี้ มีผู้ใหญ่และดาราเข้าชมพร้อมกันมากมายเลยทีเดียว ที่ SFW โรง 15 ที่นี่ใหญ่โตดีครับ นั่งสบาย เสียงกระหึ่มรอบด้าน ใครชอบหนังแอ๊คชั่นเสียงเต็มๆต้องมาลองดูครับ
ก่อนเริ่มหนังมีคลิปสั้นจาก Matt Demon มาแนะนำหนังด้วยตัวเองเลย (เข้าใจว่ามีเฉพาะรอบสื่อ)
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ส่วนตัวผมคิดว่า Matt Damon คือ Jason Bourne เหมือนที่ Sean William Scott คือ สตีฟเลอร์
ตัว Matt มีความผูกพันกับบทบาทนี้พอสมควรและแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยด้วย ช่วงภาคแรกผมเคยสับสนระหว่าง Matt กับ Mark Wahiberg แต่ตอนนี้ไม่ล่ะ ^^
เนื้อเรื่องคร่าวๆ คล้ายภาคก่อนๆ Matt Demon ตามหาสิ่งที่ตัวเองผ่านมาในชีวิต แต่คราวนี้ ผู้ช่วยเพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์อดีตมีมากขึ้น ตัวละครเพิ่มขึ้น จากการรื้อฟื้นประวัติเก่าๆ คู่กรณีเปลี่ยนหน้า แต่ยังคงรสชาติของบอร์นได้เหมือนกับ 3 ภาคแรก
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
เราก็จะได้เห็น Cinematography แบบ 3 ภาคแรกเลย แต่พัฒนาด้วยเทคนิคการถ่ายทำและตัดต่อแบบตื่นเต้น มีมุมภาพแบบ Close Up เกือบทั้งเรือง จนบางทีเกือบเวียนหัวตาม แต่ด้วยมุมภาพทำให้เราเห็นสีหน้าของนักแสดงอย่างชัดเจน และบอกได้ว่า Matt เอาอยู่ทั้งเรื่องจิงๆ
มีการเข้าทำที่รวดเร็ว คิดเร็วทำเร็ว การ Hack ข้อมูลแบบข้ามทวีป กลเม็ดคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ราวกับไม่ใช่เรื่องจริง ใครที่ชอบแนวนี้ เรื่องนี้มีอยู่หลายฉากเลยครับ มีความดราม่าปนอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ทำให้บางทีมีช่วงขาดตอนไปบ้าง ซึ่งผมเข้าใจว่าถ้าปล่อยให้คนดูจินตนาการได้เยอะ หนังจะไม่หนุก ต้องบีบๆนิดนึง มีฉากบู้ล้างพลาญพอตัวเลย
การแสดงตามแนวสายลับแบบฉบับบอน ที่เป็นพระเอกลุยๆหน้าไม่ใส แต่แอบมีโง่ๆทำให้หงุดหงิดไ้ด้บ้าง (ประมาณว่าการที่เราเอาปืนจ่อคนที่เราต้องยิงแต่ไม่ยิง) แต่เค้าคือ Jason อ่ะนะ ส่วน Nicky Parson (ชื่อในเรื่อง) เธอผอมลงไปนะ :3
ผมเป็นคนนึงที่ชอบบทบาท Tommy จากเรื่อง Fugitive, US marshall รู้สึกว่าเค้าเล่นดีกับบทแนวนั้น เรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นเลยครับ แต่วัยเปลี่ยนไป 20 กว่าปี ฮาาาา
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ผมแอบเทใจให้กับ Alicia Vikander นิดๆ เธอเล่นได้แบบมีเสนห์ดี แต่ส่วนตัวผมว่าเธอเกือบละ ไม่รู้ขาดอะไรนิดนึง แต่บทบาทในเรื่องนี้ เธอมาเติมเต็มบางอย่างกับเรื่องได้เป็นอย่างดี
แต่ความน่าเบื่อ คือ Screen Play พลอตเหมือนเดิมมาตั้งแต่ภาค Identity ยกเว้น Legacy ที่ตัวนักแสดงทำให้แตกต่างแบบเห็นได้ชัด ดำเนินเรื่องแบบปัจจุบันตัดกับอดีต ซึ่งจริงๆมันคือเสน่ห์ของหนังนี้แหล่ะ
ความคาดเดาได้ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงเลย ถ้าเปรียบเทียบกับ Trailer ที่ปล่อยมาและหนังสายลับอื่น ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ มีแอบหักมุมอยู่นิดๆ
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
เป็น 2 ชั่วโมงที่ถือว่ารวดเร็วเหมือนกัน สำหรับหนังสายลับ แอ๊คชั่น ปนดราม่า
ใครเป็นแฟนบอร์นต้องไปดูครับ ผมว่ามีต่อได้อีกหลายภาค และภาคนี้ก็ไม่ควรพลาด ^____^
รูปถ่ายเองรูปเดียวนะครับ ที่เหลือเอามาจากในเนตทั้งหมด
ถ่ายรูปน้องนิวมาใบนึง ติดตามได้ใน ig นะครับ ig: tonyfreeman
[SR] Jason Bourne 7.8/10 ไม่สปอย
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ SF Cinema City มาด้วยนะครับ สำหรับโอกาสในการชมภาพยนตร์รอบนี้ มีผู้ใหญ่และดาราเข้าชมพร้อมกันมากมายเลยทีเดียว ที่ SFW โรง 15 ที่นี่ใหญ่โตดีครับ นั่งสบาย เสียงกระหึ่มรอบด้าน ใครชอบหนังแอ๊คชั่นเสียงเต็มๆต้องมาลองดูครับ
ก่อนเริ่มหนังมีคลิปสั้นจาก Matt Demon มาแนะนำหนังด้วยตัวเองเลย (เข้าใจว่ามีเฉพาะรอบสื่อ)
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ส่วนตัวผมคิดว่า Matt Damon คือ Jason Bourne เหมือนที่ Sean William Scott คือ สตีฟเลอร์
ตัว Matt มีความผูกพันกับบทบาทนี้พอสมควรและแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยด้วย ช่วงภาคแรกผมเคยสับสนระหว่าง Matt กับ Mark Wahiberg แต่ตอนนี้ไม่ล่ะ ^^
เนื้อเรื่องคร่าวๆ คล้ายภาคก่อนๆ Matt Demon ตามหาสิ่งที่ตัวเองผ่านมาในชีวิต แต่คราวนี้ ผู้ช่วยเพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์อดีตมีมากขึ้น ตัวละครเพิ่มขึ้น จากการรื้อฟื้นประวัติเก่าๆ คู่กรณีเปลี่ยนหน้า แต่ยังคงรสชาติของบอร์นได้เหมือนกับ 3 ภาคแรก
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
เราก็จะได้เห็น Cinematography แบบ 3 ภาคแรกเลย แต่พัฒนาด้วยเทคนิคการถ่ายทำและตัดต่อแบบตื่นเต้น มีมุมภาพแบบ Close Up เกือบทั้งเรือง จนบางทีเกือบเวียนหัวตาม แต่ด้วยมุมภาพทำให้เราเห็นสีหน้าของนักแสดงอย่างชัดเจน และบอกได้ว่า Matt เอาอยู่ทั้งเรื่องจิงๆ
มีการเข้าทำที่รวดเร็ว คิดเร็วทำเร็ว การ Hack ข้อมูลแบบข้ามทวีป กลเม็ดคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ราวกับไม่ใช่เรื่องจริง ใครที่ชอบแนวนี้ เรื่องนี้มีอยู่หลายฉากเลยครับ มีความดราม่าปนอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ทำให้บางทีมีช่วงขาดตอนไปบ้าง ซึ่งผมเข้าใจว่าถ้าปล่อยให้คนดูจินตนาการได้เยอะ หนังจะไม่หนุก ต้องบีบๆนิดนึง มีฉากบู้ล้างพลาญพอตัวเลย
การแสดงตามแนวสายลับแบบฉบับบอน ที่เป็นพระเอกลุยๆหน้าไม่ใส แต่แอบมีโง่ๆทำให้หงุดหงิดไ้ด้บ้าง (ประมาณว่าการที่เราเอาปืนจ่อคนที่เราต้องยิงแต่ไม่ยิง) แต่เค้าคือ Jason อ่ะนะ ส่วน Nicky Parson (ชื่อในเรื่อง) เธอผอมลงไปนะ :3
ผมเป็นคนนึงที่ชอบบทบาท Tommy จากเรื่อง Fugitive, US marshall รู้สึกว่าเค้าเล่นดีกับบทแนวนั้น เรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นเลยครับ แต่วัยเปลี่ยนไป 20 กว่าปี ฮาาาา
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ผมแอบเทใจให้กับ Alicia Vikander นิดๆ เธอเล่นได้แบบมีเสนห์ดี แต่ส่วนตัวผมว่าเธอเกือบละ ไม่รู้ขาดอะไรนิดนึง แต่บทบาทในเรื่องนี้ เธอมาเติมเต็มบางอย่างกับเรื่องได้เป็นอย่างดี
แต่ความน่าเบื่อ คือ Screen Play พลอตเหมือนเดิมมาตั้งแต่ภาค Identity ยกเว้น Legacy ที่ตัวนักแสดงทำให้แตกต่างแบบเห็นได้ชัด ดำเนินเรื่องแบบปัจจุบันตัดกับอดีต ซึ่งจริงๆมันคือเสน่ห์ของหนังนี้แหล่ะ
ความคาดเดาได้ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงเลย ถ้าเปรียบเทียบกับ Trailer ที่ปล่อยมาและหนังสายลับอื่น ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ มีแอบหักมุมอยู่นิดๆ
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
เป็น 2 ชั่วโมงที่ถือว่ารวดเร็วเหมือนกัน สำหรับหนังสายลับ แอ๊คชั่น ปนดราม่า
ใครเป็นแฟนบอร์นต้องไปดูครับ ผมว่ามีต่อได้อีกหลายภาค และภาคนี้ก็ไม่ควรพลาด ^____^
รูปถ่ายเองรูปเดียวนะครับ ที่เหลือเอามาจากในเนตทั้งหมด
ถ่ายรูปน้องนิวมาใบนึง ติดตามได้ใน ig นะครับ ig: tonyfreeman
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น