จากข่าวล่าสุดวันที่ 27/7/2016
ทีมวอลเล่ยบอลรัสเซียทั้งในร่มและชายหาดได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิคครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว
โดยทาง Fivb ได้ส่งชื่อให้ทาง IOC และ CAS เพื่อขออนุมัติ และ Fivb ได้พิจารณาอย่างละเอียดต่อนักกีฬาแต่ละคนที่ส่งมา
จากสมาพันธ์วอลเล่ยบอลรัสเซียและสอดคล้องกับมติของ IOC เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2016 ซึ่ง Fivb ก็ให้ความสำคัญกับนโยบาย
ต่อต้านการใช้สารกระตุ้นพร้อมจะปกป้องนักกีฬาที่ใสสะอาดและจะแบนนักกีฬาที่ละเมิดกฎการต่อต้านการใช้สารกระตุ้นทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"FIVB unveiled the names of the members of the Russian national team in volleyball and beach volleyball in the IOC and the CAS for approval FIVB conducted a thorough study on the admission to the Olympics each player represented by the All-Russian Volleyball Federation, in accordance with the decision of the IOC Executive Board, taken on Sunday, July 24th." - FIVB said in a statement, received in response to the request, "R-Sport".
"It is important to emphasize again that the FIVB adheres to zero tolerance for doping and is fully confident of its anti-doping system. FIVB is 100% committed to protect the clean athletes and will immediately take measures to suspension all athletes who have violated anti-doping rules," - said in a statement FIVB .
http://rsport.ru/rio2016_volleyball/20160727/1001720690.html
จากข่าวดังกล่าวก็เป็นอันสรุปว่าทีมวอลเล่ยบอลของรัสเซียก็ได้ไปโอลิมปิค 2016 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่จากเหตุการณ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นในวงการกีฬาของรัสเซีย ก็ส่งผลกระทบและสร้างความสงสัยไม่ไว้ใจ
ในความใสสะอาดของนักกีฬารัสเซียในเรื่องการใช้สารกระตุ้นตามรายงานของ Mclaren ลุกลามไปในกีฬาทุกชนิดของรัสเซีย
ซึ่งก็รวมถึงกีฬาวอลเล่ยบอลด้วย งั้นเราก็ลองมาวิเคราะห์เจาะประเด็นกันว่า..
ทีมและนักกีฬาวอลเล่ยบอลของรัสเซียมีความใสสะอาดหรือว่า Clean แค่ไหนในการใช้สารกระตุ้นตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันนี้
และมีส่วนเกี่ยวข้องกันเหตุการณ์อื้อฉาวจากรายงานของ Mclarenด้วยหรือเปล่า
มีการใช้สารกระตุ้นทำผิดกฎกติกามารยาทและเอาเปรียบนักกีฬาประเทศอื่นๆหรือไม่
สุดท้ายสมควรจะได้ไปโอลิมปิค2016หรือไม่
คำเตือนจากจขกท. : ข้อมูลต่างๆตลอดจนความคิดเห็นต่างๆที่ จขกท.นำเสนอในกระทู้นี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพราะจขกท.เป็นแฟนคลับวอลเล่ยบอลรัสเซีย ไม่รับรองความเป็นกลางและความถูกต้องของข้อมูล 100 %
เริ่มเจาะประเด็นจากอีเว้นท์การแข่งขันที่ระบุในรายงานของ Mclaren
อ้างอิงจากรายงาน Mclaren :
https://wada-main-prod.s3.amazonaws.com/resources/files/20160718_ip_report_final3.pdf
จากรายงานนี้ที่เปิดโปงคดีอื้อฉาวในการใช้สารกระตุ้นกันมากมายในหมู่นักกีฬารัสเซีย จนไปถึงข่าวที่ว่า..
ทาง Fivb ได้มีการขอรายชื่อ 10 นักวอลเล่ยบอลของรัสเซีย ซึ่งเป็นนักวอลเล่ยบอลชายหาด 2 คนและ ในร่ม 8 คน
ที่พบว่ามีการตรวจโด๊ปเจอสารกระตุ้นในการแข่งขันช่วงปี 2012-2015 จากทางวาด้า
แต่ณ.เวลานี้ทาง Fivb ก็ยังไม่ประกาศรายชื่อออกมาว่ามีใครบ้าง มาจากทัวร์นาเม้นท์ใดในช่วงเวลาดังกล่าว
เริ่มที่ประเด็นแรก..การแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาว2014ที่โซชิ
จากรายงานที่ระบุว่ามีการสับเปลี่ยนปัสสาวะของนักกีฬารัสเซียเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบสารกระตุ้น
โดยมี FSB (Russian Federal Security Service)เข้ามาร่วมดำเนินการด้วย
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในช่วงการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวในเมืองโซชิที่ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพในปี2014
และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ The Sochi Laboratory ในประเทศรัสเซีย
ซึ่งตามความจริงการแข่งขันในอีเว้นท์นี้ไม่มีการแข่งขันประเภทกีฬาวอลเล่ยบอลรวมอยู่ด้วย
เมื่อไม่มีการแข่งขันกีฬาวอลเล่ยบอลรวมอยู่ด้วย ก็ย่อมไม่มีการตรวจโด๊ปนักกีฬาวอลเล่ยบอลคนใด
แล้วจะเอาปัสสาวะจากนักกีฬาวอลเล่ยบอลคนไหนมาให้สับเปลี่ยนกันเล่า
รายละเอียดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว 2014 ที่โซชิประเทศรัสเซีย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://en.wikipedia.org/wiki/2014_Winter_Olympics
The London 2012 Olympic Games
จากรายงานของ Maclaren มีการระบุถึง the London 2012 Olympic Games บอกว่ามีการผสมสูตรสารกระตุ้น
Oral Turinabol (Dehydrochloromethyl-testosterone), Oxandrolone and Methasterone ในCocktail
แล้วมีการแจกให้นักกีฬารัสเซียดื่มเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการแข่งขันและสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจพบได้ง่าย
โดย Dr. Rodchenkov เป็นผู้คิดสูตรแต่ผู้ที่นำไปแจกจ่ายให้กับนักกีฬาคือ Irina Rodionova เจ้าหน้าที่ CSP
(Center of Sports Preparation of National Teams of Russia)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ในรายงานของ Mclaren หน้าที่ 49 เป็นต้นไป)
และจากรายงานในประเด็นนี้ทาง IOC ก็มีการ Re-Testing of Results of the London 2012 Olympic Games
ในเดือนมิถุนายน 2016 ผลก็คือมีนักกีฬารัสเซีย 8 เคสที่ตรวจเจอสารกระตุ้นแต่ในรายงานก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นกีฬาประเภทใดบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(จากรายงาน Mclaren หน้า 51 )
และล่าสุดจากการเสนอข่าวของ BBC เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2016 ที่ผ่านมาได้ระบุว่า
ทาง IOC ได้มีการ Retest การตรวจสารกระตุ้นอีกครั้งในการแข่งขันโอลิมปิคที่ลอนดอน2012 และปักกิ่ง 2008
โดยผลการ Retest ปรากฏตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
The latest results bring the total number of athletes who have tested positive from 2008 and 2012 to 98.
Two more sets of retesting are due to take place as the crackdown continues.
Key details from second wave of retesting:
386 samples selected from 2008;
30 athletes tested positive; From four sports and eight countries;
138 samples selected from 2012;
15 athletes tested positive; From two sports and nine countries.
สรุป : เลือกจาก 386ตัวอย่างจากปี2008 พบว่ามีนักกีฬา 30คนที่ไม่ผ่านการตรวจโด๊ป 4 ชนิดกีฬาและ 8 ประเทศ
เลือกจาก138ตัวอย่างจากปี2012 พบว่ามีนักกีฬา 15 คนไม่ผ่านการตรวจโด๊ปจาก 2 ชนิดกีฬาและ 9 ประเทศ
First wave of retesting:
454 samples selected from 2008;
30 athletes tested positive;From six sports and 12 countries;
265 samples selected from 2012;
23 athletes tested positive;From five sports and six countries.
สรุป : จาก 454 ตัวอย่างในปี2008 พบว่ามี นักกีฬา 30 คนไม่ผ่านการตรวจโด๊ปจาก 6 ชนิดกีฬาและ12ประเทศ
จาก 265 ตัวอย่างในปี 2012 พบว่า มีนักกีฬา 23 คนไม่ผ่านการตรวจโด๊ปจาก 5 ชนิดกีฬาและ 6 ประเทศ
ลิงค์ข่าวดังกล่าว
http://www.bbc.com/sport/olympics/36866141
สรุปหลังจากมีการ Retest อีกครั้งจากตัวอย่างในโอลิมปิคปี 2008 และ 2012
ทั้งหมดมีจำนวน 98 คนที่ไม่ผ่านการตรวจโด๊ป โดยมี 45 คนไม่ผ่านในขั้นการ second wave of retesting
แต่จากข่าวว่าเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2016 ทาง Fivb ได้ขอรายชื่อนักกีฬาวอลเล่ยบอล 10 คน
เป็นประเภทในร่ม 8 คนและชายหาด 2 คนที่ไม่ผ่านการตรวจโด๊ปในช่วงปี 2012-2015 จากวาด้า
ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และจากทัวร์นาเม้นท์ใด แต่ข่าวล่าสุดทาง Fivb ได้ประกาศออกมาแล้วว่า
จะไม่อนุญาตให้นักวอลเล่ยบอลคนใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สารกระตุ้นไม่ว่ากรณีใดๆ
เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ในครั้งนี้ตามมติของ IOC ที่ออกมาล่าสุดวันที่ 24 ก.ค.2016
http://goo.gl/WZdJvL
แต่เดิมตามหลักโดยปกติ ถ้าพบว่ามีนักวอลเล่ยบอลคนไหนตรวจเจอโด๊ปขั้นตอนต่อไปทาง Fivb ก็ต้องแจ้งไปทางบุคคลนั้น
ให้โอกาสนักกีฬารายนั้นยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของ Fivb ไปยัง ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (the Court of Arbitration for Sport (CAS) )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นส่วนตัว : แต่ในกรณีนี้เนื่องจากเวลามีน้อยและเป็นมติของ IOC ที่ไม่ยอมรับนักกีฬาที่เกี่ยวข้องกับสารกระตุ้นไม่ว่ากรณีใดๆ
เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในครั้งนี้แน่นอน Fivb ก็ต้องตอบสนองนโยบายนี้ไปด้วยถ้าเจอใครโด๊ปผิดไม่ผิดไม่รอพิจารณา
แบนไม่ให้เข้าร่วมโอลิมปิคครั้งนี้ทันทีอย่างเคสของมาคิน (ซึ่งเราจะเปิดประเด็นเรื่องนี้ต่อในหัวข้อถัดไป)
(มีต่อ..อย่าเพิ่งปาดนะจ๊ะ เดี๋ยวข้อมูลไม่ต่อเนื่อง เดี๋ยวเราลงข้อมูลครบแล้วจะส่งสัญญาณให้ปาดได้นะ)
เจาะประเด็น: ทีมวอลเล่ยบอลรัสเซีย Clean & Clear แค่ไหน ? /ควรไม่ควรไป OG2016/และอื่นๆอีกหลายประเด็น..ยาวๆกันไป
โดยทาง Fivb ได้ส่งชื่อให้ทาง IOC และ CAS เพื่อขออนุมัติ และ Fivb ได้พิจารณาอย่างละเอียดต่อนักกีฬาแต่ละคนที่ส่งมา
จากสมาพันธ์วอลเล่ยบอลรัสเซียและสอดคล้องกับมติของ IOC เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2016 ซึ่ง Fivb ก็ให้ความสำคัญกับนโยบาย
ต่อต้านการใช้สารกระตุ้นพร้อมจะปกป้องนักกีฬาที่ใสสะอาดและจะแบนนักกีฬาที่ละเมิดกฎการต่อต้านการใช้สารกระตุ้นทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากข่าวดังกล่าวก็เป็นอันสรุปว่าทีมวอลเล่ยบอลของรัสเซียก็ได้ไปโอลิมปิค 2016 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่จากเหตุการณ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นในวงการกีฬาของรัสเซีย ก็ส่งผลกระทบและสร้างความสงสัยไม่ไว้ใจ
ในความใสสะอาดของนักกีฬารัสเซียในเรื่องการใช้สารกระตุ้นตามรายงานของ Mclaren ลุกลามไปในกีฬาทุกชนิดของรัสเซีย
ซึ่งก็รวมถึงกีฬาวอลเล่ยบอลด้วย งั้นเราก็ลองมาวิเคราะห์เจาะประเด็นกันว่า..
และมีส่วนเกี่ยวข้องกันเหตุการณ์อื้อฉาวจากรายงานของ Mclarenด้วยหรือเปล่า
มีการใช้สารกระตุ้นทำผิดกฎกติกามารยาทและเอาเปรียบนักกีฬาประเทศอื่นๆหรือไม่
สุดท้ายสมควรจะได้ไปโอลิมปิค2016หรือไม่
เพราะจขกท.เป็นแฟนคลับวอลเล่ยบอลรัสเซีย ไม่รับรองความเป็นกลางและความถูกต้องของข้อมูล 100 %
เริ่มเจาะประเด็นจากอีเว้นท์การแข่งขันที่ระบุในรายงานของ Mclaren
อ้างอิงจากรายงาน Mclaren : https://wada-main-prod.s3.amazonaws.com/resources/files/20160718_ip_report_final3.pdf
จากรายงานนี้ที่เปิดโปงคดีอื้อฉาวในการใช้สารกระตุ้นกันมากมายในหมู่นักกีฬารัสเซีย จนไปถึงข่าวที่ว่า..
ทาง Fivb ได้มีการขอรายชื่อ 10 นักวอลเล่ยบอลของรัสเซีย ซึ่งเป็นนักวอลเล่ยบอลชายหาด 2 คนและ ในร่ม 8 คน
ที่พบว่ามีการตรวจโด๊ปเจอสารกระตุ้นในการแข่งขันช่วงปี 2012-2015 จากทางวาด้า
แต่ณ.เวลานี้ทาง Fivb ก็ยังไม่ประกาศรายชื่อออกมาว่ามีใครบ้าง มาจากทัวร์นาเม้นท์ใดในช่วงเวลาดังกล่าว
เริ่มที่ประเด็นแรก..การแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาว2014ที่โซชิ
จากรายงานที่ระบุว่ามีการสับเปลี่ยนปัสสาวะของนักกีฬารัสเซียเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบสารกระตุ้น
โดยมี FSB (Russian Federal Security Service)เข้ามาร่วมดำเนินการด้วย
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในช่วงการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวในเมืองโซชิที่ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพในปี2014
และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ The Sochi Laboratory ในประเทศรัสเซีย
ซึ่งตามความจริงการแข่งขันในอีเว้นท์นี้ไม่มีการแข่งขันประเภทกีฬาวอลเล่ยบอลรวมอยู่ด้วย
เมื่อไม่มีการแข่งขันกีฬาวอลเล่ยบอลรวมอยู่ด้วย ก็ย่อมไม่มีการตรวจโด๊ปนักกีฬาวอลเล่ยบอลคนใด
แล้วจะเอาปัสสาวะจากนักกีฬาวอลเล่ยบอลคนไหนมาให้สับเปลี่ยนกันเล่า
รายละเอียดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว 2014 ที่โซชิประเทศรัสเซีย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
The London 2012 Olympic Games
จากรายงานของ Maclaren มีการระบุถึง the London 2012 Olympic Games บอกว่ามีการผสมสูตรสารกระตุ้น
Oral Turinabol (Dehydrochloromethyl-testosterone), Oxandrolone and Methasterone ในCocktail
แล้วมีการแจกให้นักกีฬารัสเซียดื่มเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการแข่งขันและสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจพบได้ง่าย
โดย Dr. Rodchenkov เป็นผู้คิดสูตรแต่ผู้ที่นำไปแจกจ่ายให้กับนักกีฬาคือ Irina Rodionova เจ้าหน้าที่ CSP
(Center of Sports Preparation of National Teams of Russia)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และจากรายงานในประเด็นนี้ทาง IOC ก็มีการ Re-Testing of Results of the London 2012 Olympic Games
ในเดือนมิถุนายน 2016 ผลก็คือมีนักกีฬารัสเซีย 8 เคสที่ตรวจเจอสารกระตุ้นแต่ในรายงานก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นกีฬาประเภทใดบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และล่าสุดจากการเสนอข่าวของ BBC เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2016 ที่ผ่านมาได้ระบุว่า
ทาง IOC ได้มีการ Retest การตรวจสารกระตุ้นอีกครั้งในการแข่งขันโอลิมปิคที่ลอนดอน2012 และปักกิ่ง 2008
โดยผลการ Retest ปรากฏตามนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งหมดมีจำนวน 98 คนที่ไม่ผ่านการตรวจโด๊ป โดยมี 45 คนไม่ผ่านในขั้นการ second wave of retesting
แต่จากข่าวว่าเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2016 ทาง Fivb ได้ขอรายชื่อนักกีฬาวอลเล่ยบอล 10 คน
เป็นประเภทในร่ม 8 คนและชายหาด 2 คนที่ไม่ผ่านการตรวจโด๊ปในช่วงปี 2012-2015 จากวาด้า
ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร และจากทัวร์นาเม้นท์ใด แต่ข่าวล่าสุดทาง Fivb ได้ประกาศออกมาแล้วว่า
จะไม่อนุญาตให้นักวอลเล่ยบอลคนใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สารกระตุ้นไม่ว่ากรณีใดๆ
เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ในครั้งนี้ตามมติของ IOC ที่ออกมาล่าสุดวันที่ 24 ก.ค.2016
http://goo.gl/WZdJvL
แต่เดิมตามหลักโดยปกติ ถ้าพบว่ามีนักวอลเล่ยบอลคนไหนตรวจเจอโด๊ปขั้นตอนต่อไปทาง Fivb ก็ต้องแจ้งไปทางบุคคลนั้น
ให้โอกาสนักกีฬารายนั้นยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของ Fivb ไปยัง ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (the Court of Arbitration for Sport (CAS) )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นส่วนตัว : แต่ในกรณีนี้เนื่องจากเวลามีน้อยและเป็นมติของ IOC ที่ไม่ยอมรับนักกีฬาที่เกี่ยวข้องกับสารกระตุ้นไม่ว่ากรณีใดๆ
เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในครั้งนี้แน่นอน Fivb ก็ต้องตอบสนองนโยบายนี้ไปด้วยถ้าเจอใครโด๊ปผิดไม่ผิดไม่รอพิจารณา
แบนไม่ให้เข้าร่วมโอลิมปิคครั้งนี้ทันทีอย่างเคสของมาคิน (ซึ่งเราจะเปิดประเด็นเรื่องนี้ต่อในหัวข้อถัดไป)
(มีต่อ..อย่าเพิ่งปาดนะจ๊ะ เดี๋ยวข้อมูลไม่ต่อเนื่อง เดี๋ยวเราลงข้อมูลครบแล้วจะส่งสัญญาณให้ปาดได้นะ)