คนที่กำลังคิดเลี้ยงกระรอกต้องอ่านค่ะ

สวัสดีค่ะ เราเชื่อว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่ คง 'เคย' มีสัตว์เลี้ยงหรือมีสัตว์เลี้ยงแสนรักเป็นของตัวเองอาจจะเป็น หมา แมว นก หนู ปลาสวยงาม หรืออะไรก็แล้วแต่ เราเป็นคนหนึ่งในคนส่วนใหญ่ที่มีสัตว์เลี้ยง วันนี้เราจะมาเล่าถึง 'กระรอก' สัตว์เลี้ยงแสนรักของเรา… (สองตัว)
สำหรับคนอื่มมองกระรองยังไงเราไม่รู้ แต่สำรับเราเค้าเหมือนลูก เหมือนเพื่อน เหมือนคนสำคัญ เค้าน่ารักค่ะกระโดดไปมา เหนื่อยๆก็จะมาขอกินหรือมาหลับข้างๆเรา วิ่งบนตัวเรา ความสุขของเราคือการเห็นเค้ากิน เล่น นอน และที่สำคัญคือการเห็นเค้าหายใจ ความหวังที่มีคือเห็นเค้าเติบโต
กระรอกตัวที่ 1
เราซื้อกระรอกสวนตัวน้อยน่ารักจากตลาดขายสัตว์เลี้ยง จริงๆแล้วเราไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเค้านะค่ะ เราอยากเลี้ยงหนูแกสบี้แต่ด้วยความบังเอิญเราเจอร้านขายกระรอกค่ะ มันเป็นโชคดีของเรา แต่เป็นโชคร้ายของกระรอกตัวน้อย เรายื่นมือลงไปในกล่องพลาสติกที่ใส่กระรอก มีกระรอกสวนตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนมือเรา เรารู้ได้ทันทีว่าตัวนี้แหล่ะที่เราเลือก เราซื้อน้องมาโดยที่เราไม่รู้เลยว่าน้องเค้ามีนิสัยยังไง หรือเราควรเลี้ยงดูแบบไหน พอพาน้องกลับมาที่บ้านเราเอาให้แฟนดู แฟนเราดุเราใหญ่ว่าเอามาทำไมสงสารน้องเอาเค้ามากักขังเป็นเธอจะชอบไหมและอีกมากมาย เราคิดว่าเค้าเกลียดน้อง แต่ตรงข้ามค่ะเค้าดูรักน้องมาก เค้าชอบไปเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกงานแล้วกลับดึก แต่หลังมีกระรอกตัวน้อยเค้ารีบกลับบ้านมาเล่นกับน้อง มาให้อาหาร
เค้ารักมากและเราก็รักน้องมากเช่นกัน เรื่องราวดีๆของเราเเฟนเราและกระรอกของเรามีมากขึ้นๆ จนมาถึงวันหนึ่งที่เราบอกแฟนเราว่าเธอเราพาลูกไปเที่ยวทะเลดีไหม(ลูกที่ว่าคือกระรอก) ไปสามคนเรา แฟนเราเห็นว่าดีเพราะที่ผ่าน มามีแต่ขังน้องไว้ที่บ้าน อยากพาไปเปิดหนูเปิดตา ด้วยความรักและความรู้เท่าไม่ถึงการ เราสองคนและอีกหนึ่งตัวเลยไปเที่ยวทะเลกัน ในเย็นวันนั้นที่ทะเลน้องเริ่มมีอาการจามและมีน้ำมูก เราเห็นท่าไม่ดีเลยพาน้องกลับบ้านพอมาถึงบ้านน้องวิ่งเล่นกระโดดหาเราบ้างแฟนเราบ้าง สุดท้ายก็มาหลับที่มือของเรา ตอนน้องหลับเราเห็นเค้าจามอีกครั้ง เราห่วงมากใจไม่ดีเลยตอนนั้น เราบอกแฟนเราว่าเธอนอนก่อนเลยเราขออยู่ดูลูกอีกสักพัก เรานั้งดูเค้าหลับจนถึงตีสามตีสี่โดยประมาณ จากนั้นเรารู้สึกง่วงจนรู้ตัวว่าไม่ไหว น้องเค้าก็เหมือนไม่มีอะไรน่าห่วง เราเลยตั้งนาฬิกาปลุกต้อนประมาน6โมงเช้า เพื่อจะมาให้อาหารน้องและพาไปหาคุณหมอ โชคร้ายค่ะตอนเราตั้งเราลืมเรื่องของ am pm ไปกลายเป็นว่าจากที่ตั้งหกโมงเช้า เป็นหกโมงเย็น วันนั้นเราตื่น 10โมงค่ะ เราสดุ้งตื่นสิ่งเเรกที่เราคิดจากลืมตาคือ 'ลูกกู' และหันไปที่กรงของน้องทันที่ ภาพเเรกที่เราเห็น คือน้องออกมานอนตะแคงนอกผ้าห่ม เรารีบยื่นมือลงไปจับน้องขึ้นมาตัวน้องตัวแข็งค่ะ แต่ยังหายใจ เรารีบเรียกแฟนมาดูเค้าจับน้องวางไว้ที่มือและลูบเบาๆ เราเลยบอกว่าเราจะพาน้องไปหาหมอ แฟนเราพูดว่ามันไม่ทันแล้วน้องเค้าไม่ไหวแล้ว แล้วแฟนก็บอกว่า หลับให้สบายนะลูกพักผ่อนได้แล้วและอีกมากมายที่เราฟังไม่รู้เรื่อง เราร้องให้หนักจนไม่สามารถจะรับรู้สิ่งที่แฟนพูดกับน้อง ในหัวเรามีภาพวันเวลาดีๆที่มีความสุขตอนที่มีน้องอยู่ และก็คิดได้ว่าเราควรทำหน้าที่ของแม่คือการส่งน้อง เราจับน้องจากมือแฟนแล้วบอกแฟนว่าที่เหลือเราจะจัดการเอง เราเอาน้องไปฝังไวที่หน้าบ้าน พร้อมขอโทษที่ดูแลน้องไม่ดี เราขอให้น้องไปสบาย ขอให้ได้ไปเกิดเป็นคนที่มีพร้อมทุกอย่าง และไม่ต้องเป็นสัตว์เลี้ยงให้ใครเค้าเอามากักขัง หลังจากวันนั้นเราร้องไห้ตลอด เราคิดถึงน้องตลอดโทษตัวเองตลอด ถึงโทษตัวเองยังไงมันไม่ได้ทำให้เราสำนึกค่ะ เราเจอคลิปขายกระรอกที่ตลาดจตุจักร เราเห็นแม่ค้าคนหนึ่งขายกระรอกมากมาย โดยมีกระรอกเทาท้องขาวตัวใหญ่สองตัวมีเชือกผูกที่คอติดกับกรง เราเลยตัดสินใจศึกษาเรื่องกระรอกอย่างจิงจังในความคิดตอนนั้นคือเราจะเอาน้องมาเลี้ยงอีกครั้ง อย่าน้อยถึงน้องจะไม่ได้เป็นอิสระแต่น้องก็จะมีเจ้าของที่รักน้องจริงๆ ไม่ได้แค่เลี้ยงน้องเพื่อหวังผลกำไร เราเจอเพจขายกระรอกเจอเพราะความตั้งใจที่จะเอาเค้ามาเลี้ยง เราบอกตัวเองว่าเราจะเลี้ยงเค้าให้โตให้ได้ แต่ถ้าเราเลี้ยงเค้าโต กระทู้นี้คงไม่เกิดขึ้น
กระรอกตัวที่ 2
เป็นกระรอกเทาท้องขาว นิสัยเหมือนๆกับตัวแรก แต่เค้าจะดูตัวโตกว่าและแข็งแรงกว่า คนขายบอกว่าตัวนี้เริ่มโตแล้ว เราเลยถามว่าพี่เอาน้องมาจากที่ไหนค่ะ คนขายบอกว่ามีคนไปจับจากในป่าแล้วเอามาส่งเค้าอีกที เรารู้สึกสลดใจมาก คิดไปว่าน้องเค้าคงต้องกลัวมากแน่ๆ เราพาน้องกลับบ้านวันนั้นเลยค่ะจะรักจะดูแลแทนแม่เองไม่ต้องกลัวเราบอกน้องแบบนั้น
ตอนเเรกเราเครียดค่ะ เพราะดูน้องไม่เชื่อง แต่ตรงกันข้ามเลยค่ะ เค้ากระโดดเก่งดูแข็งแรงกินก็เก่งดูสุขภาพดีมากๆ ชอบมาหลับในมือหรือมานอนบนหน้าอกค่ะ เบาใจค่ะ แข็งแรงแบบนี้รอดแน่ๆ น้องเค้าอยู่กับเรานานกว่าตัวแรกค่ะ แน่นอนค่ะยิ่งอยู่นานยิ่งมีเรื่องราวความผูกพันธ์มากมายเช่นกัน เราหวงน้องมากไม่ให้ใครจับเพราะกลัวว่าเค้าจะป่วย ซื้อทุกอย่างที่คิดว่าจะทำให้เค้าอิ่ม ทำให้เค้าอุ่นเวลานอน เชื่อไหมเราคิดมากขนาดนอนฝันว่าน้องเค้าต้องจากไป ฝันบ่อยมากจนต้องปรึกษาแฟนว่าเราจะทำไงดี แฟนเราบอกว่าไม่ช้าก็เร็วสักวันเค้าก็ต้องไป แล้วก็จริงค่ะดูแลดีแค่ไหนรักมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเลี้ยงเค้าให้เติบโตได้ วันที่น้องเค้าเสียเป็นช่วงเช้าค่ะเช้าวันนั้นเราติดธุระที่ที่สำคัญมากๆ มันสำคัญขนาดว่าเป็นอนาคตของเราเลยก็ว่าได้ ในตอนเช้าเราตื่นจากฝันร้าย(ฝันว่าน้องเสียอีกแล้ว) เรารีบไปดูน้องเรายื่นมือไปอุ้มน้องขึ้นมาเค้าลืมตามองหน้าเราดมๆตามมือแล้วก็เดินไปมาบนมือเราดูปกติดี เราเลยเดินไปหยิบผลไม้มาให้น้องกิน เค้าไม่กินค่ะน้ำตานี้ร่วงเลยเรารู้ดีค่ะมันไม่ใช่ปกติของเค้าเราดูที่ปากน้องมีน้ำลายไหลเต็ม ร้องหนักกว่าเดิมค่ะ ธุระก็ต้องไปน้องก็จะไม่ไหม มันเป็นเวลาไวมากค่ะเพราะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงน้องไม่เดินไปไหนไม่ตอบสนองอะไร แค่นอนลืมตาและยังหายใจอยู่ เราบอกน้องว่า ลูกรอแม่นะแม่ต้องไปธุร แม่จะโทรเรียกคุนหมอมารับหนู เราจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนานนะลูก พูดไปร้องไห้ไป เราฝากน้องไว้กับคุณย่า รอหมอมารับ ส่วนเราไปธุร เราโทรถามอาการน้องตลอด จนเราทนไม่ไหวสุดท้ายเราไม่สนใจแล้วว่าธุรคืออะไรสำคัญกับเราแค่ไหน สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวเราคือยอมทิ้งทุกอย่างในตอนนั้นเพื่อได้เจอน้อง (ถ้านึกไม่ออกว่าธุระนั้นสำคัญแค่ไหนคุณรองนึกถึง เงิน10ล้านค่ะนี้เป็นการเปรียบเทียบนะค่ะไม่ใช่เงิน10ล้านจริงๆ แค่ต้องการให้เห็นภาพ เรายอมแรกเงินสิบล้านกันการได้เจอเค้าครั้งสุดท้าย) ย่าบอกว่ายังไงก็ไม่รอดต่อให้หมอมาทันก็ไม่รอด แต่น้องเค้ารอเรารึเปล่าเลยยังไม่ไป เราก็เชื่ออย่างนั้นค่ะเพราะก่อนจะมาเราบอกให้น้องรอ มัน้ป็นความเห็นแก่ตัวของเราค่ะไม่คิดเลยว่าน้องจะต้องเจ็บมากแค่ไหน เรารีบมาดูอาการน้อง เราเอาเค้ามานอนบนมือเราแล้วบอกให้น้องหลับตา หลับให้สบาย น้องเค้าเอามือของเค้าข้างหนึ่งมาเขี่ยๆที่มือเรา เราเลยบอกน้องว่าแม่ขอโทษนะลูก แม่มาแล้วหนูไม่ต้องรอแล้วนะ หลับตาลูกหนูจะได้ไม่เจ็บอีก พอพูดจบเค้าก็จิกเล็บลงที่มือเรา เหมือนมันเป็นการตอบสนองครั้งสุดท้าย แล้วเค้าก็จากไป ความรักที่เรามีให้น้องมันคือความรักจริงๆ จนถึงตอนนี้เรายังร้องให้อยู่ตลอด คิดถึงทั้งสองมาก เราจะไม่เอาเค้ามาเลี้ยงอีก ย่าเราบอกว่าถ้าไม่มีคนจับเค้ามาขายเค้าคงโตเเละวิ่งเล่นบนต้นไม้ที่ไหนสักแห่ง เราอยากให้เรื่องของเราเป็นบทเรียนให้คนที่คิดจะเลี้ยงกระรอก เค้าไม่ใช่หมาแมวที่สามารถเลี้ยงไว้ในกรงเลี้ยงไว้ในบ้าน (เราไม่ได้ว่าหมาแมวไม่สำคัญนะ ทุกชีวิตมีค่าเสมอค่ะ) กระรอกเราต้องดูแลเค้าอย่างใกล้ชิด ดูเวลากินว่าอาหารจะติดคอไหม ขับถ่ายไหม ที่นอนของเค้าอุ่นไหม และอีกมากมายเราต้องมีเวลาให้เค้ายิ่งกระรอกเล็ก เลี้ยงเหมือนทารกเลยค่ะห่างไม่ได้ ถ้าไม่มีความรู้ ไม่มีความรักความเอาใจใส่มากพอ อย่าเอาเค้ามาเลยค่ะ มันไม่คุ้มกับชีวิตที่ต้องเสียไป อย่าเอาชีวิตน้อยๆที่แสนจะมีค่ามากักขังให้เค้าต้องกลัวเลย ให้เค้าได้เกิดและตายในป่าที่ๆเป็นธรรมชาติของเค้า เค้าคงมีความสุขมากกว่าอยู่ในกรง
ขอให้เรื่องของเราเป็นอุทาหรณ์ เป็นวิทยาทานกับคนที่คิดจะเลี้ยง คิดจะซื้อขายกระรอก มันเป็นการทำร้ายกระรอกตัวเล็กๆค่ะ อย่าเลยนะค่ะ นี้คือคำขอร้องของคนที่ทำผิดพลาด ขอบคุณนะค่ะที่อ่านมาจนถึงตอนนี้
ปล. กระทู้นี้ถูกทำขึ้นเพื่อ เป็นอุทาหรณ์และ เป็นวิทยาทาน เพื่อเตือนผู้ที่คิดจะเลี้ยง จับ หรือขายกระรอกและขอ อุทิศผลบุญในครั้งนี้ให้กระรอกน้อยทั้งสองตัวที่จากไป
(จะไม่มีวันลืมเรื่องราวดีๆของลูกรักทั้งสอง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่