คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
จะไปคุยกับเจ้าหนี้
1. คุณต้องมีสดๆอยู่ในกระเป๋าแล้วจำนวนนึง(ประมาณ 30 % ของยอดหนี้ หรือกว่า)
2. ระยะเวลาที่จะขอผ่อนส่วนที่เหลือ(เจ้าหนี้ที่ยอมคุยด้วย)จะสั้นมากๆ
คุณต้องรู้ว่า คุณมีตามข้อ 1. รึเปล่า
คุณมีรายได้ที่แน่นอนซักเท่าไหร่
เหลือที่จะผ่อนได้เท่าไหร่
ข้อ 2. ก็โหดพอๆกับ ข้อ 1. เจ้าหนี้อาจให้เวลาแค่ 12 - 24 เดือน
1. คุณต้องมีสดๆอยู่ในกระเป๋าแล้วจำนวนนึง(ประมาณ 30 % ของยอดหนี้ หรือกว่า)
2. ระยะเวลาที่จะขอผ่อนส่วนที่เหลือ(เจ้าหนี้ที่ยอมคุยด้วย)จะสั้นมากๆ
คุณต้องรู้ว่า คุณมีตามข้อ 1. รึเปล่า
คุณมีรายได้ที่แน่นอนซักเท่าไหร่
เหลือที่จะผ่อนได้เท่าไหร่
ข้อ 2. ก็โหดพอๆกับ ข้อ 1. เจ้าหนี้อาจให้เวลาแค่ 12 - 24 เดือน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คุณตั้งใจก่อหนี้ให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ แล้วหนี คนที่เดือดร้อน คือคุณพ่อ และครอบครัวของคุณ
พวกเขาต้องดิ้นรน หาเงินมาใช้หนี้ จนถึงอาจจะโดนยึดบ้าน ที่ทุกคนอาศัยอยู่
คุณไม่ยอมติดต่อที่บ้านเลย รอจน2ปีผ่านไป จึงอยากจะรู้ว่าที่บ้านเคลียหนี้ไปได้แค่ไหนแล้ว
ผมว่าคุณใจร้าย ใจดำกับคุณพ่อและครอบครัวของคุณมากเลย
ตั้งใจซื้อรถยนต์ มอเตอร์ไซค์แพงๆ เพื่อเอามาขาย เปลียนเป็นเงินแล้วหนี บัตรเครดิตก็เหมือนกัน ตั้งใจกดเงินให้มากที่สุด แล้วหนี
ที่ถามนี่ คือเพื่อดูว่าตัวเองจะโดนอะไร จะติดคุกไหม ถ้าไม่ติด จะได้ไม่ต้องระวังตัวจะได้ลั่นล้า เต็มที่
เพื่อความสุข ความสบายของตัวเอง ไม่นึกถึง พ่อแม่ที่อุตส่าห์เลี้ยงดูมาอย่างยากลำบากเลยสักนิด
พวกเขาต้องดิ้นรน หาเงินมาใช้หนี้ จนถึงอาจจะโดนยึดบ้าน ที่ทุกคนอาศัยอยู่
คุณไม่ยอมติดต่อที่บ้านเลย รอจน2ปีผ่านไป จึงอยากจะรู้ว่าที่บ้านเคลียหนี้ไปได้แค่ไหนแล้ว
ผมว่าคุณใจร้าย ใจดำกับคุณพ่อและครอบครัวของคุณมากเลย
ตั้งใจซื้อรถยนต์ มอเตอร์ไซค์แพงๆ เพื่อเอามาขาย เปลียนเป็นเงินแล้วหนี บัตรเครดิตก็เหมือนกัน ตั้งใจกดเงินให้มากที่สุด แล้วหนี
ที่ถามนี่ คือเพื่อดูว่าตัวเองจะโดนอะไร จะติดคุกไหม ถ้าไม่ติด จะได้ไม่ต้องระวังตัวจะได้ลั่นล้า เต็มที่
เพื่อความสุข ความสบายของตัวเอง ไม่นึกถึง พ่อแม่ที่อุตส่าห์เลี้ยงดูมาอย่างยากลำบากเลยสักนิด
แสดงความคิดเห็น
ผมไปขึ้นศาลแล้วไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง ไม่รู้ว่าปัจจุบันผมอยู่จะสถาณะอะไรและควรทำอย่างไร ?
1.ผมเคยผ่อนรถยนต์อยู่ 1 คัน ซื้อมาราคา 5แสน5หมื่นบาท ต้องผ่อน 5 ปีแต่ผ่อนได้ประมาณ 1 ปี เริ่มมีปัญหาการเงินผ่อนต่อไม่ไหวและได้ส่งรถคืนทางไฟแนนซ์เรียบร้อย หลังจากนั้นทางไฟแนนซ์ได้ส่งยอดส่วนต่างที่ขายรถผมไปกับส่วนที่เหลือกลับมาให้ผมผ่อนชำระต่อ แต่ผมไม่ได้ผ่อนชำระอีกเลยครับ
(ตอนซื้อผมใช้ชื่อพ่อผมเป็นผู้ค้ำประกัน แต่พ่อผมไม่ได้รับแจ้งข้อมูลอะไรเลยครับ)
2.ผมได้ซื้อมอเตอร์ไซต์ 1 คัน ราคาประมาณ 7 หมื่นบาทและไม่เคยผ่อนชำระเลย(ก่อนขึ้นศาลผมได้ขายมอเตอร์ไซต์คันนั้นเข้าตลาดมืดไปแล้ว) จึงได้ถูกหมายศาลนัดให้ไปขึ้นศาล ผมไปขึ้นศาลและให้การว่าผมซื้อรถให้คนอื่นและไม่สามารถติดต่อคนนั้นได้อีกเลยจึงสรุปตกลงกันเรียบร้อยให้ผมรับผิดชอบด้วยการผ่อนชำระใหม่ตามข้อตกลงแต่ผมไม่เคยผ่อนชำระเลย(ผมใช้ชื่อผมซื้อคนเดียวไม่มีผู้ค้ำ)
3.ผมซื้อรถยนต์คันใหม่ 1 คัน ราคาประมาณ 1 แสนบาทกับทางเต้นท์รถแต่ทำสัญญาเป็นสัญญาเงินกู้เมื่อผมผ่อนชำระครบจึงจะโอนเป็นชื่อผม แต่ผมผ่อนชำระได้ครึ่งนึงหลังจากนั้นผมนำรถไปขายตลาดมืดและไม่ได้ผ่อนต่ออีกเลย ปัจจุบันน่าจะโดนแจ้งความแล้ว(ไม่มีผู้ค้ำ)
4.ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ 2 เจ้า ของอิออนประมาณ 1 หมื่นบาทและของยูเมะพลัสประมาณ 6 หมื่นบาท ไม่ได้ผ่อนชำระแล้ว ไม่รู้ว่าทางบริษัทติดตามทวงหนี้ผมถึงขั้นตอนไหนแล้วครับ
ปัจจุบันผมมาทำงานต่างจังหวัดกับบริษัทเล็กๆไม่มีชื่อ ไม่ได้เขียนใบสมัครอะไร รายได้ไม่มาก ไม่มีใครรู้ที่อยู่ผมและไม่ได้กลับบ้านมาสองปีแล้วไม่รู้ว่ามีจดหมายอะไรส่งมาบ้าง ไม่รู้ว่ามีหมายศาลส่งมาอีกหรือเปล่า ผมคิดว่าตอนนี้ผมน่าจะมีหมายจับติดตัว คือผมอยากจะทยอยใช้หนี้ให้ชีวิตกลับมาเป็นปกติแต่ไม่รู้ว่าสามารถทำได้หรือไม่หรือผมจะต้องรอถูกจับอย่างเดียว ผมควรเริ่มต้นแก้ปัญหานี้อย่างไรดีครับ