สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปเที่ยวที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แบบเริ่มต้นจากศูนย์ แพลนเอง เที่ยวเอง หลงเอง ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ครั้งนึงเลยค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่อยากไปเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองแบบเรานะคะ เพื่อให้อ่านเข้าใจง่าย เราจะขอแบ่งเนื้อเรื่องเป็นส่วนๆ ดังนี้
1. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
2. วางแผนการท่องเที่ยว และ เตรียมเอกสารสำหรับการเดินทาง
3. การขึ้นรถไฟสายต่างๆในกรุงโตเกียว
4. ไปเที่ยวกันเถอะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไร ต้องขอโทษด้วยนะคะ
1. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- จองตั๋วเครื่องบิน
เนื่องจากทริปนี้ เกิดขึ้นแบบกะทันหันสุดๆ เรื่องมีอยู่ว่า เราไปเจอโพสต์ในเพจ
https://www.facebook.com/ArPaeDotCom/?fref=ts เป็นเพจยอดนิยม ที่มักจะโพสต์โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ (สำหรับคนที่ชอบไปเที่ยวบ่อยๆ น่าจะรู้จักเพจนี้ดี) โพสต์ที่เราเจอคือโพสต์โปรโมชั่นตั๋วของสายการบิน Hong Kong Airlines ไป-กลับ กรุงเทพ-โตเกียว ในราคา 8,000 กว่าบาท (รวมภาษี)
(Credit : เพจ Ar-pae.com)
เรานี่ก็ตาลุกวาว รีบไปบอกพี่ชายกับแม่ว่าไปกันเถอะ ด้วยความที่แม่เราลางานได้พอดี ก็เลยตัดสินใจจะจอง แต่เดี๋ยวก่อน!! ตอนเรากำลังจะกดจอง จะต้องมีเลขที่พาสปอร์ต ซึ่งพี่ชายกับแม่เราพาสปอร์ตหมดอายุไปแล้ว วันรุ่งขึ้นเลยรีบไปทำพาสปอร์ต ในการทำพาสปอร์ต จะมีค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และสามารถมารับเล่มพาสปอร์ตได้ หลังจากวันที่ทำ 3 วันทำการ เราไปทำวันศุกร์ ได้รับวันอังคารต่อมา สำหรับใครที่ต้องการจะลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับทำพาสปอร์ต ก็เข้าไปลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่
https://www.passport.in.th/ ( เช็คสถานที่ให้บริการหนังสือเดินทางได้ที่เว็บนี้ >>
http://www.consular.go.th/main/th/services/1274/19745-สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง.html )
อย่างที่เรารู้กันดีว่า พวกตั๋วเครื่องบินที่มีโปรอยู่จะหมดเร็วมาก รอ 3 วัน ก็อาจไม่ทันการ เราก็ไม่ต้องรอจ้า ตรงใบรับพาสปอร์ตที่ทางกองหนังสือเดินทางให้มา จะมีเลขที่พาสปอร์ตอยู่ เราก็เอาไปกรอกในหน้าเว็บที่ใช้จองตั๋วเครื่องบินได้เลย
และแล้วเราก็ได้ตั๋วมา แต่ไม่ใช่ในราคา 8,000 เพราะว่าเรากดไม่ทัน เศร้าเลย ตั๋วของเรารวมภาษีแล้ว ประมาณ 10,000 บาท แต่เราก็โอเคกับราคานี้ เพราะว่าเป็น full service (อาหาร + น้ำหนักกระเป๋า 20 kg) โอเค ได้ตั๋วแล้ว ก็ไปจองที่พักได้
2. จองที่พัก
เนื่องจากทริปนี้เราไปกับแม่และน้าด้วย เราเลยอยากได้ที่พักที่สะดวกสบายหน่อย ตอนแรกเราเลยจะจองโรงแรม หาโรงแรมอยู่หลายวัน ก็ไม่ได้ที่ๆถูกใจ แพงไปบ้าง เล็กไปบ้าง บางที่ดีทุกอย่าง แต่ไกลสถานีรถไฟเกินไป คราวนี้เราก็นึกไปถึง Airbnb เพราะเคยได้ยินเพื่อนๆพูดกันว่าดี เลยลองดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นมาดู (เข้าทางหน้าเว็บไซต์ก็ได้ แต่เราชอบใช้ในแอพเพราะว่าสะดวกดี)
Website:
https://th.airbnb.com
[Airbnb เป็นที่สำหรับผู้ให้เช่าและผู้เช่ามาเจอกัน มีทั้งคนที่ปล่อยเช่าทั้งบ้านเลย หรือแค่ห้องเดียวก็มี โดยเราสามารถพูดคุยโดยตรงกับผู้ให้เช่าได้เลย]
พอดาวน์โหลดมาก็สมัครสมาชิกจากนั้นก็พิมพ์ชื่อเมืองที่จะไปได้เลย เทคนิคที่เราใช้ในการเลือกที่พักก็คือ
1. ดู review ว่าได้กี่ดาว? ยิ่งดาวเยอะก็ยิ่งดี จากนั้นก็เข้าไปอ่านรีวิวว่าโอเคมั้ย?
2. ดูแค่จำนวนดาวไม่พอ ต้องจำนวนคนที่รีวิวทั้งหมดด้วย ถ้าดาวเยอะแต่มีรีวิวแค่ 2 คน แบบนี้ก็ไม่ผ่าน
3. ลองทักไปคุยกับเจ้าของห้องดู ว่าเขาตอบเราเร็วไหม? ถ้าเร็วก็แสดงว่าเขามีความเอาใจใส่เราพอสมควร
(Credit : Airbnb)
หลังจากเราดูทุกอย่างตามเทคนิคที่เราบอก เราก็ได้ที่พักที่ดีมากๆมาที่นึง ชื่อที่พักว่า Skytree view on the Park ด้วยความที่เราปลื้มที่พักนี้มากๆ เราเลยจะรีวิวที่พักนี้ให้ดูด้วย (ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆทั้งสิ้น ความชอบล้วนๆ) ก่อนอื่นมาดูรีวิวของคนที่เคยไปมาแล้วก่อน จะเห็นเลยว่าได้ 5 ดาวจากคนที่พักทั้งหมด 45 คน โอเค ดีงาม ไหนลองเข้าไปอ่านรีวิวซิ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าที่พักดี เหมือนในรูปเปี๊ยบ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เที่ยว อยู่ติดสวนสาธารณะอีก ร่มรื่นมากๆ แถมเจ้าของยังนิสัยดีอีกต่างหาก โอ้ยยยย อะไรจะดีไปหมดทุกอย่างขนาดนี้ จองเลยละกัน
หลังจากทักไปคุยนิดๆหน่อยๆกับเจ้าของแล้ว ก็กดจอง จากนั้นระบบจะให้เลือกวิธีจ่ายเงิน มี 2 แบบ คือ จ่ายผ่านบัตรเครดิต กับ จ่ายผ่าน paypal หลังจากชำระเงินเรียบร้อย เจ้าของที่พักก็ส่งคู่มือการเข้าพักมาให้ (แต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน ต้องลองสอบถามเจ้าของที่พักดู) มีทั้งที่อยู่ของที่พัก วิธี check-in วิธีการเดินทางจากสนามบินไปที่พัก วิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆในห้องพัก แนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆก็ยังมี สำหรับเราถือว่าเป็นคู่มือที่ดีมากๆเลย เดี๋ยวจะรีวิวห้องอีกทีในพาร์ทที่ไปถึงโตเกียวแล้วนะคะ
** ปล. สำหรับคนที่จะเลือกใช้บริการ Airbnb อยากให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ให้เช่าดีๆก่อนเช่านะคะ เพื่อความปลอดภัยค่า
แชร์ประสบการณ์ ไปเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองแบบเริ่มต้นจากศูนย์ :)
1. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
2. วางแผนการท่องเที่ยว และ เตรียมเอกสารสำหรับการเดินทาง
3. การขึ้นรถไฟสายต่างๆในกรุงโตเกียว
4. ไปเที่ยวกันเถอะ
**กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไร ต้องขอโทษด้วยนะคะ
1. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- จองตั๋วเครื่องบิน
เนื่องจากทริปนี้ เกิดขึ้นแบบกะทันหันสุดๆ เรื่องมีอยู่ว่า เราไปเจอโพสต์ในเพจ https://www.facebook.com/ArPaeDotCom/?fref=ts เป็นเพจยอดนิยม ที่มักจะโพสต์โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ (สำหรับคนที่ชอบไปเที่ยวบ่อยๆ น่าจะรู้จักเพจนี้ดี) โพสต์ที่เราเจอคือโพสต์โปรโมชั่นตั๋วของสายการบิน Hong Kong Airlines ไป-กลับ กรุงเทพ-โตเกียว ในราคา 8,000 กว่าบาท (รวมภาษี)
(Credit : เพจ Ar-pae.com)
เรานี่ก็ตาลุกวาว รีบไปบอกพี่ชายกับแม่ว่าไปกันเถอะ ด้วยความที่แม่เราลางานได้พอดี ก็เลยตัดสินใจจะจอง แต่เดี๋ยวก่อน!! ตอนเรากำลังจะกดจอง จะต้องมีเลขที่พาสปอร์ต ซึ่งพี่ชายกับแม่เราพาสปอร์ตหมดอายุไปแล้ว วันรุ่งขึ้นเลยรีบไปทำพาสปอร์ต ในการทำพาสปอร์ต จะมีค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และสามารถมารับเล่มพาสปอร์ตได้ หลังจากวันที่ทำ 3 วันทำการ เราไปทำวันศุกร์ ได้รับวันอังคารต่อมา สำหรับใครที่ต้องการจะลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับทำพาสปอร์ต ก็เข้าไปลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://www.passport.in.th/ ( เช็คสถานที่ให้บริการหนังสือเดินทางได้ที่เว็บนี้ >> http://www.consular.go.th/main/th/services/1274/19745-สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง.html )
อย่างที่เรารู้กันดีว่า พวกตั๋วเครื่องบินที่มีโปรอยู่จะหมดเร็วมาก รอ 3 วัน ก็อาจไม่ทันการ เราก็ไม่ต้องรอจ้า ตรงใบรับพาสปอร์ตที่ทางกองหนังสือเดินทางให้มา จะมีเลขที่พาสปอร์ตอยู่ เราก็เอาไปกรอกในหน้าเว็บที่ใช้จองตั๋วเครื่องบินได้เลย
และแล้วเราก็ได้ตั๋วมา แต่ไม่ใช่ในราคา 8,000 เพราะว่าเรากดไม่ทัน เศร้าเลย ตั๋วของเรารวมภาษีแล้ว ประมาณ 10,000 บาท แต่เราก็โอเคกับราคานี้ เพราะว่าเป็น full service (อาหาร + น้ำหนักกระเป๋า 20 kg) โอเค ได้ตั๋วแล้ว ก็ไปจองที่พักได้
2. จองที่พัก
เนื่องจากทริปนี้เราไปกับแม่และน้าด้วย เราเลยอยากได้ที่พักที่สะดวกสบายหน่อย ตอนแรกเราเลยจะจองโรงแรม หาโรงแรมอยู่หลายวัน ก็ไม่ได้ที่ๆถูกใจ แพงไปบ้าง เล็กไปบ้าง บางที่ดีทุกอย่าง แต่ไกลสถานีรถไฟเกินไป คราวนี้เราก็นึกไปถึง Airbnb เพราะเคยได้ยินเพื่อนๆพูดกันว่าดี เลยลองดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นมาดู (เข้าทางหน้าเว็บไซต์ก็ได้ แต่เราชอบใช้ในแอพเพราะว่าสะดวกดี)
Website: https://th.airbnb.com
[Airbnb เป็นที่สำหรับผู้ให้เช่าและผู้เช่ามาเจอกัน มีทั้งคนที่ปล่อยเช่าทั้งบ้านเลย หรือแค่ห้องเดียวก็มี โดยเราสามารถพูดคุยโดยตรงกับผู้ให้เช่าได้เลย]
พอดาวน์โหลดมาก็สมัครสมาชิกจากนั้นก็พิมพ์ชื่อเมืองที่จะไปได้เลย เทคนิคที่เราใช้ในการเลือกที่พักก็คือ
1. ดู review ว่าได้กี่ดาว? ยิ่งดาวเยอะก็ยิ่งดี จากนั้นก็เข้าไปอ่านรีวิวว่าโอเคมั้ย?
2. ดูแค่จำนวนดาวไม่พอ ต้องจำนวนคนที่รีวิวทั้งหมดด้วย ถ้าดาวเยอะแต่มีรีวิวแค่ 2 คน แบบนี้ก็ไม่ผ่าน
3. ลองทักไปคุยกับเจ้าของห้องดู ว่าเขาตอบเราเร็วไหม? ถ้าเร็วก็แสดงว่าเขามีความเอาใจใส่เราพอสมควร
(Credit : Airbnb)
หลังจากเราดูทุกอย่างตามเทคนิคที่เราบอก เราก็ได้ที่พักที่ดีมากๆมาที่นึง ชื่อที่พักว่า Skytree view on the Park ด้วยความที่เราปลื้มที่พักนี้มากๆ เราเลยจะรีวิวที่พักนี้ให้ดูด้วย (ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆทั้งสิ้น ความชอบล้วนๆ) ก่อนอื่นมาดูรีวิวของคนที่เคยไปมาแล้วก่อน จะเห็นเลยว่าได้ 5 ดาวจากคนที่พักทั้งหมด 45 คน โอเค ดีงาม ไหนลองเข้าไปอ่านรีวิวซิ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าที่พักดี เหมือนในรูปเปี๊ยบ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เที่ยว อยู่ติดสวนสาธารณะอีก ร่มรื่นมากๆ แถมเจ้าของยังนิสัยดีอีกต่างหาก โอ้ยยยย อะไรจะดีไปหมดทุกอย่างขนาดนี้ จองเลยละกัน
หลังจากทักไปคุยนิดๆหน่อยๆกับเจ้าของแล้ว ก็กดจอง จากนั้นระบบจะให้เลือกวิธีจ่ายเงิน มี 2 แบบ คือ จ่ายผ่านบัตรเครดิต กับ จ่ายผ่าน paypal หลังจากชำระเงินเรียบร้อย เจ้าของที่พักก็ส่งคู่มือการเข้าพักมาให้ (แต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน ต้องลองสอบถามเจ้าของที่พักดู) มีทั้งที่อยู่ของที่พัก วิธี check-in วิธีการเดินทางจากสนามบินไปที่พัก วิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆในห้องพัก แนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆก็ยังมี สำหรับเราถือว่าเป็นคู่มือที่ดีมากๆเลย เดี๋ยวจะรีวิวห้องอีกทีในพาร์ทที่ไปถึงโตเกียวแล้วนะคะ
** ปล. สำหรับคนที่จะเลือกใช้บริการ Airbnb อยากให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ให้เช่าดีๆก่อนเช่านะคะ เพื่อความปลอดภัยค่า