Koenji ย่านช๊อปปิ้งที่คนไทยไม่ควรพลาด !!
ผมไปโตเกียวครั้งแรกเมื่อกลางปี 2014 จำได้ว่าตอนนั้นสับสนงงงวยมาก อาศัยรีวิวใน”พันทิพ”เป็นที่พึ่งเวลาหาวางแผนหาข้อมูลต่างๆ landmark ทุกที่ที่คิดว่าอยากจะไป ร้านไหนดัง ร้านไหนอร่อย เรียกว่าผมไปมาตามรอยเท้าพี่ๆน้องๆในพันทิพซะครึ่งทางแล้ว การวางแผนก่อนเดินทาง ทำให้เราประหยัดเวลาไปได้เยอะครับ ผมหลงทางน้อยมากๆ และคุมงบได้ดีมาก (แต่แอบไปสติแตกตอนช๊อปปิ้งในวันท้ายๆ)
ทริปญี่ปุ่นผมรอบที่ผ่านมา (30June-4July 2016) ทริปนี้เป็นรอบที่หกแล้วครับ พอได้มาหลายรอบขึ้น ก็เริ่มเก๋า เริ่มอยากไปที่ๆไม่เคยไป จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปโตเกียว ผมพักที่ Nui Hostel & Bar Lounge ผมเคยสอบถาม สตาฟถึงแหล่งของมือสองที่ญี่ปุ่น “Koenji” เป็นย่านนึงในคำตอบที่สตาฟบอกว่า น่าไปโคตรๆ ถ้าคุณชอบของมือสอง คุณต้องไปที่นี่ (สตาฟไม่ได้พูดคำหยาบแต่อย่างใด แต่ผมดูจากฟิลลิ่งแล้วมันได้) แต่เนื่องด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัดผมเลยขยับตารางไม่ได้เลย พอจบทริป ถึงบ้านเปิดรีวิวดู ก็หาไม่ค่อยเจอ ถามคนที่อยู่ก็ไม่ค่อยรู้ ไม่เคยไปกัน ก็เลยคิดว่า ถ้าเราไปแล้วลองเขียนรีวิวดูบ้าง คนอื่นที่ไม่เคยไปจะได้มีแนวทาง เผื่อจะมีคนอยากตามรอยเรา อิอิ จึงเป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ ซึ่งเป็นรีวิวแรกของผมเลย เพราะงั้นถ้าผิดพลาดอะไร หรืออะไรไม่เหมาะสม บอกได้นะครับ ยินดีแก้ไข
ในรีวิวนี้ผมจะไม่พูดถึงตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าใช้จ่าย ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว ความจริงถ้าซีเรียสเรื่องงบ แนะนำให้ปิดหน้านี้ไปเลยครับ ผมชวนคุณล้มละลายแน่นอน อิอิอิ
Koenji ย่านนี้มีอะไรน่าสนใจ ค่อยๆเดินเล่นไปกับผมนะครับ
การเดินทาง ผมเริ่มต้นจาก JR shinjuku นั่งสาย Chuo-Sobu Line(Local train) heading Mitaka ไป 9 นาที (4สถานี) ตามนี้ครับ ใกล้มากๆเลย
ถึงแล้ว ทาด้าาาา
เอาละ เรามาดูแผนที่กันดีกว่า Koenji นี่มีอะไรบ้างน้า
Koenji เป็นย่านที่ใหญ่พอสมควรครับครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ supermarket ด้านบนขวา(ตามภาพ) ถึงสถานี Metro Shin-Koenji ถ้าจะเดินให้ครบจริงๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งวันเป็นอย่างน้อย ซึ่งเวลาที่ควรจะมา คือ 13.00น เป็นต้นไป (เพราะร้านส่วนมากเปิดกัน 13.00น) ผมนี่มาตั้งแต่ 11.00 แป่วไปสิ
ผมเดินทุกตรอกในแผนที่เลยครับ บางตรอกก็ไม่มีอะไร ในแผนที่จุดที่ผมปักเป็นดาวไว้คือร้านต่างๆที่ผมจะมาแนะนำ เพราะดูแล้วว่ามันดี สมควรแก่การเสียเวลาเดินเข้าไปครับ
เดินออกจากสถานี ออก South Entrance ตรงยาวตามถนนใหญ่ไปเลยครับ
นั่นไง เดินมาไม่กี่ก้าวก็เจอเลย Sushi Zanmai เพราะกองทัพเดินด้วยท้อง เราจึงไม่สามารถตอบปฏิเสธของกินได้
ซัดไปเบาๆ พอรองท้อง
มาถึงร้านแรกของวันนี้ “SAFARI” ร้านนี้เต็มไปด้วยของแบรนด์เนม แบรนด์ยุโรป มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ โดยเฉพาะรองเท้าที่เยอะมากๆ บางคู่นี่สภาพใหม่ๆเลยครับ แต่ราคาถูกกว่าของมือหนึ่งถึง 30-50%(อ้างอิงจากราคาใน Japan shop) ผมติดใจรองเท้าแบรนด์ Alden ในร้านนี้มาก Shell Cordovan บางคู่นี่ใหม่สุดๆ อยากถามจริงๆว่านี่ใส่เดินถนนหรือใส่ลองในบ้าน
มีหลายสาขาด้วยครับ แต่ผมชอบสาขานี้สุด(เพราะมี Alden)
เดินลงมาอีกนิดเจอร้าน “ZOOL” ร้านนี้ก็ของแบรนด์เนม แบรนด์ยุโรป เหมือนกันครับ ส่วนมากเป็นพวกเสื้อผ้า วันที่ผมไป เค้าบอกว่า SALE 30% ทั้งร้าน โชคดีไปอีกกก
เผื่อหลายท่านยังไม่ทราบ ด้วยความที่เราถือ visa ชั่วคราว 15 วัน passportของเราก็เลยเหมือนบัตรลดราคา 8% ดีๆนี่เอง เนื่องจากเรามีคำว่า Tax free ครับ นี่มันสวรรค์ชัดๆ เพราะงั้น ร้านนี้นอกจากจะลด 30% แล้ว เรายังได้ลดอีก 8% เพราะเป็นเรามาแบบ tourist ครับ (ไม่ได้ Tax free ทุกร้านนะจ๊ะ ถามก่อนซื้อเด่วจะเงิบ) นี่มันจะถูกไปไหนครับเนี่ย บัตรเครดิตในมือสั่นไปหมด
มาเดินญี่ปุ่นนี่ มองข้างบนด้วยนะครับ ร้านดีๆซ่อนอยู่ตามชั้นบนๆนี่แหละ แต่ร้านนี้ผมว่าเฉยๆ เพราะของน้อย และวันที่ผมไปไม่ SALE
“Effectone” ร้านนี้อยู่ฝั่งตรงข้าม เดินข้ามถนนไปหน่อย ไม่ใช่ของมือสอง แต่เสื้อดีไซน์สวยดีครับ
เห็นป้าย SALE แล้วเริ่มคุมสติไม่อยู่
เลี้ยวเข้าไปทางทิศตะวันออก จะมีอีกสองร้าน คือ “Treasure Factory Style” สองสาขา กับ “Forge by ZOOL” อยู่ใกล้ๆกัน สามร้านนี้ ขายของมือสองทั่วไป มีแบรนด์เนมยุโรป และ local brand แนว vintage ก็เยอะ รองเท้าก็มีนะครับ
ราวที่แขวนอยู่นอกร้านคือ SALE นะครับ 50%-80% !!! ยีนส์ตัวซ้ายมือราคาลดแล้วเหลือ 1240 เยน (ตัวละ 370 บาท) บ้าไปล๊าววว
ภายในร้าน Treasure Factory Style
ภายในร้าน Forge by ZOOL
เห็นป้าย SALE กันมากเกินไป สติสตังไม่ค่อยอยู่กับตัว ต้องขอพักเบรกเรียกสติกลับมาแปบนึง
แวะทานขนมร้านนี้ละกันครับ อยู่ตรงข้าม Treasure Factory Style เลย “La Reine”
ช๊อกโกแลตเค้กด้านซ้ายมืออร่อยมากกกก
เดินเข้ามาอีกซอย เจอ Tokyo Bike เอาใจคนขี่จักรยานด้วยนิดนึง
ที่นี่ค่อนข้างใกล้โรงเรียนอนุบาล ช่วงเวลาเลิกเรียนก็จะเห็นเด็กน่ารักๆแบบนี้เต็มไปหมด
เด็กมหาวิทยาลัยก็มีนะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายมา แฮ่
มีร้านรับสักด้วย
เกือบลืมไป ฝั่งตรงข้าม ซอยหัวมุมร้าน SAFARI มีร้านมือสองอีกร้านครับ ร้านนี้ก็ราคาดีมากๆ ชื่อร้าน “2nd Street reuse shop” พอดีเดินเจออีกทีตอนดึกแล้วรูปเลยมืดหน่อย
ร้านมีสองชั้นครับ ชั้นบนเป็นของผู้ชาย ของเยอะมากกกกกก
ต่อไป ในส่วนของเส้นทางเดินเท้า 1กม ที่เริ่มตั้งแต่ JR Koenji Sta. นั้น คุณผู้หญิงทั้งหลายเตรียมเงินไปเยอะๆนะครับ
ถนนเส้นนี้เรียกว่า Koenji Street
มีขายทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้ามือหนึ่งมือสอง เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า ตุ๊กตา ของแต่งบ้าน ผลไม้ ร้านอาหาร ร้านขนม คือเยอะะะะะะะะะะะะะะ
เพราะงั้นผมจะลงรูปรัวๆ ให้ดูแค่คร่าวๆ แล้วเราจะไปหยุดกันที่ร้านของกินกันครับ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง(อีกแล้ว)
ย้ำเลยว่าก่อนจะมาพกเงินมาเยอะๆนะครับ หึหึ ถนนเส้นนี้ไม่เสียเงินแสดงว่ามาไม่ถึงครับ มีแต่ของน่ารักๆทั้งนั้นเบยยย
หิวกันหรือยังครับ เดินมาซักครึ่งทางจะเจอร้านเนื้อย่างร้านนึงชื่อ “MEAT Market” ร้านนี้นี่โคตรแนะนำ ถูก และ อร่อย มาก แต่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ และ พนงพูดอังกฤษไม่ได้ #ไม่เปนไรครับ เรามีเทคโนโลยี “google translate”
*บุคคลในภาพคือรุ่นพี่มหาลัยที่ที่โดนผมหลอกล่อให้มาเดินด้วยกันครับ
ไปดูภาพ Koenji Street กันต่อ
เวลาเดินแวะเข้าตรอกเข้าซอยบ้างนะครับ มีอะไรให้ดูเยอะ ของดีๆมันก็ต้องมีหลบมีซ่อนกันบ้าง
อย่างร้านเสื้อผ้า vintage ร้านนี้ก็มาหลบอยู่ในซอย ตรงข้ามกับ Seiyu Supermarket (คนเยอะมากๆแถมเปิด 24ชม ด้วยนะเออ)
เดินไปเกือบสุดทาง ซ้ายมือจะเจอ ร้านเบเกอรี่น่ารักๆร้านนึง แวะเข้าไปพักเรียกสติกันก่อนครับ นับเงินในกระเป๋ากันก่อนว่าเหลือเท่าไหร่
ร้านชื่อ “Meli-Melo”
ผมชอบดูคนญี่ปุ่นทำงานครับ รู้สึกได้ถึงความตั้งใจ ทุกงานดูมีความสำคัญ และ พนงน่ารักจริงจังมากๆครับ
ยังมีต่อครับ.....
Koenji ย่านช๊อปปิ้งที่คนไทยไม่ควรพลาด !!
ผมไปโตเกียวครั้งแรกเมื่อกลางปี 2014 จำได้ว่าตอนนั้นสับสนงงงวยมาก อาศัยรีวิวใน”พันทิพ”เป็นที่พึ่งเวลาหาวางแผนหาข้อมูลต่างๆ landmark ทุกที่ที่คิดว่าอยากจะไป ร้านไหนดัง ร้านไหนอร่อย เรียกว่าผมไปมาตามรอยเท้าพี่ๆน้องๆในพันทิพซะครึ่งทางแล้ว การวางแผนก่อนเดินทาง ทำให้เราประหยัดเวลาไปได้เยอะครับ ผมหลงทางน้อยมากๆ และคุมงบได้ดีมาก (แต่แอบไปสติแตกตอนช๊อปปิ้งในวันท้ายๆ)
ทริปญี่ปุ่นผมรอบที่ผ่านมา (30June-4July 2016) ทริปนี้เป็นรอบที่หกแล้วครับ พอได้มาหลายรอบขึ้น ก็เริ่มเก๋า เริ่มอยากไปที่ๆไม่เคยไป จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปโตเกียว ผมพักที่ Nui Hostel & Bar Lounge ผมเคยสอบถาม สตาฟถึงแหล่งของมือสองที่ญี่ปุ่น “Koenji” เป็นย่านนึงในคำตอบที่สตาฟบอกว่า น่าไปโคตรๆ ถ้าคุณชอบของมือสอง คุณต้องไปที่นี่ (สตาฟไม่ได้พูดคำหยาบแต่อย่างใด แต่ผมดูจากฟิลลิ่งแล้วมันได้) แต่เนื่องด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัดผมเลยขยับตารางไม่ได้เลย พอจบทริป ถึงบ้านเปิดรีวิวดู ก็หาไม่ค่อยเจอ ถามคนที่อยู่ก็ไม่ค่อยรู้ ไม่เคยไปกัน ก็เลยคิดว่า ถ้าเราไปแล้วลองเขียนรีวิวดูบ้าง คนอื่นที่ไม่เคยไปจะได้มีแนวทาง เผื่อจะมีคนอยากตามรอยเรา อิอิ จึงเป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ ซึ่งเป็นรีวิวแรกของผมเลย เพราะงั้นถ้าผิดพลาดอะไร หรืออะไรไม่เหมาะสม บอกได้นะครับ ยินดีแก้ไข
ในรีวิวนี้ผมจะไม่พูดถึงตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าใช้จ่าย ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว ความจริงถ้าซีเรียสเรื่องงบ แนะนำให้ปิดหน้านี้ไปเลยครับ ผมชวนคุณล้มละลายแน่นอน อิอิอิ
Koenji ย่านนี้มีอะไรน่าสนใจ ค่อยๆเดินเล่นไปกับผมนะครับ
การเดินทาง ผมเริ่มต้นจาก JR shinjuku นั่งสาย Chuo-Sobu Line(Local train) heading Mitaka ไป 9 นาที (4สถานี) ตามนี้ครับ ใกล้มากๆเลย
ถึงแล้ว ทาด้าาาา
เอาละ เรามาดูแผนที่กันดีกว่า Koenji นี่มีอะไรบ้างน้า
Koenji เป็นย่านที่ใหญ่พอสมควรครับครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ supermarket ด้านบนขวา(ตามภาพ) ถึงสถานี Metro Shin-Koenji ถ้าจะเดินให้ครบจริงๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งวันเป็นอย่างน้อย ซึ่งเวลาที่ควรจะมา คือ 13.00น เป็นต้นไป (เพราะร้านส่วนมากเปิดกัน 13.00น) ผมนี่มาตั้งแต่ 11.00 แป่วไปสิ
ผมเดินทุกตรอกในแผนที่เลยครับ บางตรอกก็ไม่มีอะไร ในแผนที่จุดที่ผมปักเป็นดาวไว้คือร้านต่างๆที่ผมจะมาแนะนำ เพราะดูแล้วว่ามันดี สมควรแก่การเสียเวลาเดินเข้าไปครับ
เดินออกจากสถานี ออก South Entrance ตรงยาวตามถนนใหญ่ไปเลยครับ
นั่นไง เดินมาไม่กี่ก้าวก็เจอเลย Sushi Zanmai เพราะกองทัพเดินด้วยท้อง เราจึงไม่สามารถตอบปฏิเสธของกินได้
ซัดไปเบาๆ พอรองท้อง
มาถึงร้านแรกของวันนี้ “SAFARI” ร้านนี้เต็มไปด้วยของแบรนด์เนม แบรนด์ยุโรป มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ โดยเฉพาะรองเท้าที่เยอะมากๆ บางคู่นี่สภาพใหม่ๆเลยครับ แต่ราคาถูกกว่าของมือหนึ่งถึง 30-50%(อ้างอิงจากราคาใน Japan shop) ผมติดใจรองเท้าแบรนด์ Alden ในร้านนี้มาก Shell Cordovan บางคู่นี่ใหม่สุดๆ อยากถามจริงๆว่านี่ใส่เดินถนนหรือใส่ลองในบ้าน
มีหลายสาขาด้วยครับ แต่ผมชอบสาขานี้สุด(เพราะมี Alden)
เดินลงมาอีกนิดเจอร้าน “ZOOL” ร้านนี้ก็ของแบรนด์เนม แบรนด์ยุโรป เหมือนกันครับ ส่วนมากเป็นพวกเสื้อผ้า วันที่ผมไป เค้าบอกว่า SALE 30% ทั้งร้าน โชคดีไปอีกกก
เผื่อหลายท่านยังไม่ทราบ ด้วยความที่เราถือ visa ชั่วคราว 15 วัน passportของเราก็เลยเหมือนบัตรลดราคา 8% ดีๆนี่เอง เนื่องจากเรามีคำว่า Tax free ครับ นี่มันสวรรค์ชัดๆ เพราะงั้น ร้านนี้นอกจากจะลด 30% แล้ว เรายังได้ลดอีก 8% เพราะเป็นเรามาแบบ tourist ครับ (ไม่ได้ Tax free ทุกร้านนะจ๊ะ ถามก่อนซื้อเด่วจะเงิบ) นี่มันจะถูกไปไหนครับเนี่ย บัตรเครดิตในมือสั่นไปหมด
มาเดินญี่ปุ่นนี่ มองข้างบนด้วยนะครับ ร้านดีๆซ่อนอยู่ตามชั้นบนๆนี่แหละ แต่ร้านนี้ผมว่าเฉยๆ เพราะของน้อย และวันที่ผมไปไม่ SALE
“Effectone” ร้านนี้อยู่ฝั่งตรงข้าม เดินข้ามถนนไปหน่อย ไม่ใช่ของมือสอง แต่เสื้อดีไซน์สวยดีครับ
เห็นป้าย SALE แล้วเริ่มคุมสติไม่อยู่
เลี้ยวเข้าไปทางทิศตะวันออก จะมีอีกสองร้าน คือ “Treasure Factory Style” สองสาขา กับ “Forge by ZOOL” อยู่ใกล้ๆกัน สามร้านนี้ ขายของมือสองทั่วไป มีแบรนด์เนมยุโรป และ local brand แนว vintage ก็เยอะ รองเท้าก็มีนะครับ
ราวที่แขวนอยู่นอกร้านคือ SALE นะครับ 50%-80% !!! ยีนส์ตัวซ้ายมือราคาลดแล้วเหลือ 1240 เยน (ตัวละ 370 บาท) บ้าไปล๊าววว
ภายในร้าน Treasure Factory Style
ภายในร้าน Forge by ZOOL
เห็นป้าย SALE กันมากเกินไป สติสตังไม่ค่อยอยู่กับตัว ต้องขอพักเบรกเรียกสติกลับมาแปบนึง
แวะทานขนมร้านนี้ละกันครับ อยู่ตรงข้าม Treasure Factory Style เลย “La Reine”
ช๊อกโกแลตเค้กด้านซ้ายมืออร่อยมากกกก
เดินเข้ามาอีกซอย เจอ Tokyo Bike เอาใจคนขี่จักรยานด้วยนิดนึง
ที่นี่ค่อนข้างใกล้โรงเรียนอนุบาล ช่วงเวลาเลิกเรียนก็จะเห็นเด็กน่ารักๆแบบนี้เต็มไปหมด
เด็กมหาวิทยาลัยก็มีนะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายมา แฮ่
มีร้านรับสักด้วย
เกือบลืมไป ฝั่งตรงข้าม ซอยหัวมุมร้าน SAFARI มีร้านมือสองอีกร้านครับ ร้านนี้ก็ราคาดีมากๆ ชื่อร้าน “2nd Street reuse shop” พอดีเดินเจออีกทีตอนดึกแล้วรูปเลยมืดหน่อย
ร้านมีสองชั้นครับ ชั้นบนเป็นของผู้ชาย ของเยอะมากกกกกก
ต่อไป ในส่วนของเส้นทางเดินเท้า 1กม ที่เริ่มตั้งแต่ JR Koenji Sta. นั้น คุณผู้หญิงทั้งหลายเตรียมเงินไปเยอะๆนะครับ
ถนนเส้นนี้เรียกว่า Koenji Street
มีขายทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้ามือหนึ่งมือสอง เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า ตุ๊กตา ของแต่งบ้าน ผลไม้ ร้านอาหาร ร้านขนม คือเยอะะะะะะะะะะะะะะ
เพราะงั้นผมจะลงรูปรัวๆ ให้ดูแค่คร่าวๆ แล้วเราจะไปหยุดกันที่ร้านของกินกันครับ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง(อีกแล้ว)
ย้ำเลยว่าก่อนจะมาพกเงินมาเยอะๆนะครับ หึหึ ถนนเส้นนี้ไม่เสียเงินแสดงว่ามาไม่ถึงครับ มีแต่ของน่ารักๆทั้งนั้นเบยยย
หิวกันหรือยังครับ เดินมาซักครึ่งทางจะเจอร้านเนื้อย่างร้านนึงชื่อ “MEAT Market” ร้านนี้นี่โคตรแนะนำ ถูก และ อร่อย มาก แต่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ และ พนงพูดอังกฤษไม่ได้ #ไม่เปนไรครับ เรามีเทคโนโลยี “google translate”
*บุคคลในภาพคือรุ่นพี่มหาลัยที่ที่โดนผมหลอกล่อให้มาเดินด้วยกันครับ
ไปดูภาพ Koenji Street กันต่อ
เวลาเดินแวะเข้าตรอกเข้าซอยบ้างนะครับ มีอะไรให้ดูเยอะ ของดีๆมันก็ต้องมีหลบมีซ่อนกันบ้าง
อย่างร้านเสื้อผ้า vintage ร้านนี้ก็มาหลบอยู่ในซอย ตรงข้ามกับ Seiyu Supermarket (คนเยอะมากๆแถมเปิด 24ชม ด้วยนะเออ)
เดินไปเกือบสุดทาง ซ้ายมือจะเจอ ร้านเบเกอรี่น่ารักๆร้านนึง แวะเข้าไปพักเรียกสติกันก่อนครับ นับเงินในกระเป๋ากันก่อนว่าเหลือเท่าไหร่
ร้านชื่อ “Meli-Melo”
ผมชอบดูคนญี่ปุ่นทำงานครับ รู้สึกได้ถึงความตั้งใจ ทุกงานดูมีความสำคัญ และ พนงน่ารักจริงจังมากๆครับ
ยังมีต่อครับ.....