คือเรื่องมีอยู่ว่าเคยรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง อยู่โรงเรียนเดียวกันตอน ม. ต้น ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ตั้งแต่ ม. สาม ยัน ปีสาม มีวันหนึ่งบังเอิญเจอกันที่แถวพยา
ไท นางก็พาไปเยี่ยมคุณตา (ไม่รู้ตาใคร) ซึ่งอยู่โรงพยาบาลพยาไทย คืน ละ สามหมื่นกว่า คือต้องบอกก่อนว่า ฐานะ ของเรา และ เด็กโรงเรียนส่วนใหญ่อยู่
ใน ฐานะปานกลาง เรียนฟรี โรงเรียนรัฐบาล การที่ได้เจอเพื่อนมาอยู่โรงพยาบาลเอกชนราคาแพงก็ตกใจเป็นธรรมดา เห็นนางใช้ไอโฟนหกเอสเครื่องสามสี่หมื่น จากนั้นนางก็พาไปเลี้ยงข้าวกับกาแฟแก้วละ 180 ซึ้งบอกตรงว่าไม่ค่อยได้กินของแพงประมาณนี้ ก็ยอมรับนางว่าฐานะพัฒนาขึ้นมาก
เลยเอ๊ใจไปถามเพื่อนๆเก่าว่า หญิง เนี่ย (นามสมมุติ) นางปกติรวยไหม เมื่อก่อนก็ไม่ได้รู้จักมักจี่เท่าไหร่เดี๋ยวนี้ดูดี๊ดูดี เพื่อน ชื่อ หยาง (นามสมมุติ) นางพูด ประโยค สั้นๆว่า "ระวังตัวนะแก หญิง ขโมย ของพี่เรา" ด้วยความ งง ๆ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ปล่อยไป
หลายวันผ่านมา เราจะไป ยุโรป หญิงก็มาส่ง เราก็รู้สึกซาบซึ้งมาเพราะเป็นคนเดียวที่ มาส่ง นอกจากครอบครัว
ตอนกลับนางก็บอกว่ามารับ แต่ เราไม่เจอไม่รู้มาจริงเปล่า เราจ้าง limousine มารับ กลัวคนขับ รอ นาน เพราะเราบอกนางว่าบินถึงไทย ตี 5:55 เจ็ดโมงละ นางยังไม่มาเลยบ๊าย....
จากนั้นนางก็โทรมาว่า ไปหาที่ห้องได้เปล่า เราก็ เซ เยส สักพักนางบอกว่า เดี๋ยวยืมตังค่าแทคซี่หน่อยนะ 460 ลืมกดตังมา ตอนนั่งไปสนามบิน จากบางใหญ่ ไปสุวรรณภูมิ หมดไปหกร้อย. อะไว้ใจเชื่อจ่ายให้ได้
ไปเดินห้างด้วยกัน นางก็จะพูดถึงแต่ของเบรนเนม บลาๆ ซึ่งเราก็เฉยๆ ไม่ได้ใช้ของเบรน แค่รู้จัก จากนั้นนางก็หยิบไอโฟนหกเอาสเครื่องเดิมมา แต่แสดงปฏิกาบ่อยๆที่เคยทำคือ บอกว่า แบตหมด ใช้ไม่ได้ แต่หยิบขึ้นมา โชว์เหมือนตอน อยู่ โรงพยาบาล พยาไท นางจะมีเครื่องสำรอง เอไอเอส น่าจะประมาณ สองพันบาท เราก็เอ๊ใจ เจอกันกี่ทีไอโฟนใช้ไม่ได้สักที งง แต่ไม่ได้ถามปล่อยไป
นางโทรหาแม่ให้โอนเงินให้ แม่บอกโอนไม่เป็น เราเชื่อ (เพราะเราเป็นคน ตจว เข้าใจ คนแก่ ตจว ดีว่าใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยเป็น)
บอกว่าจะโอนพรุ่งนี้ อะก็ส่งเลขบัญชีไป วันรุ่งขึ้นนางโทรมา + ส่ง msg ในเฟสบุ๊คมาว่า กดตังยังไม่ได้จำวันผิด แม่โอนอีกวัน ****ความสงสัยเริ่มเข้ามา
(ก่อนหน้านี้นางเล่าว่ามีเงินในบัญชีเกือบแสนเดือนหน้าจะไปเที่ยวเกาหลี จองตั๋วและโรงแรมแล้ว แต่ทำไม่มีเงิน 460 คืนเพื่อน ??) อะปล่อยไปไม่เอ๊ะใจอะไร
มาก กลับมาห้องเรื่มมีความสงสัยขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนที่หญิงบอกว่าเคยมีปัญหาด้วย เพื่อนชื่อ โดม (นามสมุติ) เราโทรหาโดม ถามเรื่องเกี่ยว
กับหญิง โดม พูดสั้นๆ ง่ายๆ เป็นไปได้ เลิกยุ่งกับหญิงจะดีที่สุด เราเลยถามต่อถึงเหตุผลและเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นกับโดม โดมบอกโดนยืมไปแปดร้อย อ้าง
เหตุผลร้อยแปด และแล้วก็ถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกคบกัน โดมยังเล่าอีกว่า ไม่ใช่แค่โดมคนเดียวหลายๆคนก็โดน หญิงไม่ใช่คนเดิม (โดมย้ำ) โดมยังเล่าอีกว่า เมื่อหลายปีก่อนโดมใช้ไอโฟนสี่ หญฺิงยังยืมไปอวดคนอื่นว่าเป็นของตน ทำให้เรานึกถึงเรื่องเมื่อวันที่นางมารับ นางขอยืม พลาสปอร์ตกับ บอร์ดดิงพลาส ถ่ายรูปแถวบอกจะหลอกเพื่อนว่า ไป ตปท ....... เอ้ย จริงจัง เรื่องเริมปะติดปะต่อ งั้นไอโฟนที่ถืออยู่ทุกวันนี้ของปลอมหรือขโมย ?? ยังไงง ?? ปล. นางบอกว่าเรียน ม.กรุงเทพ เกี่ยวกับ ดีไซเนอร์ เทอมละ 47,000 ไม่รู้เป็นความจริงเปล่า แต่ถึงยังไงก็ตามหวังว่านางจะคืนเงิน 460 ค่าแทคซี่ ของเรา ## พระคุ้มครอง .... โปรดติดตามตอนต่อไป หวังว่านางจะคืนเงินเร็วๆนี้ ll____ll
อุทาหรณ์ สอนใจ อย่าไว้ใจเพื่อนที่โรงเรียนเก่า ที่ไม่เจอกันมานานแล้วมาตีสนิท
ไท นางก็พาไปเยี่ยมคุณตา (ไม่รู้ตาใคร) ซึ่งอยู่โรงพยาบาลพยาไทย คืน ละ สามหมื่นกว่า คือต้องบอกก่อนว่า ฐานะ ของเรา และ เด็กโรงเรียนส่วนใหญ่อยู่
ใน ฐานะปานกลาง เรียนฟรี โรงเรียนรัฐบาล การที่ได้เจอเพื่อนมาอยู่โรงพยาบาลเอกชนราคาแพงก็ตกใจเป็นธรรมดา เห็นนางใช้ไอโฟนหกเอสเครื่องสามสี่หมื่น จากนั้นนางก็พาไปเลี้ยงข้าวกับกาแฟแก้วละ 180 ซึ้งบอกตรงว่าไม่ค่อยได้กินของแพงประมาณนี้ ก็ยอมรับนางว่าฐานะพัฒนาขึ้นมาก
เลยเอ๊ใจไปถามเพื่อนๆเก่าว่า หญิง เนี่ย (นามสมมุติ) นางปกติรวยไหม เมื่อก่อนก็ไม่ได้รู้จักมักจี่เท่าไหร่เดี๋ยวนี้ดูดี๊ดูดี เพื่อน ชื่อ หยาง (นามสมมุติ) นางพูด ประโยค สั้นๆว่า "ระวังตัวนะแก หญิง ขโมย ของพี่เรา" ด้วยความ งง ๆ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ปล่อยไป
หลายวันผ่านมา เราจะไป ยุโรป หญิงก็มาส่ง เราก็รู้สึกซาบซึ้งมาเพราะเป็นคนเดียวที่ มาส่ง นอกจากครอบครัว
ตอนกลับนางก็บอกว่ามารับ แต่ เราไม่เจอไม่รู้มาจริงเปล่า เราจ้าง limousine มารับ กลัวคนขับ รอ นาน เพราะเราบอกนางว่าบินถึงไทย ตี 5:55 เจ็ดโมงละ นางยังไม่มาเลยบ๊าย....
จากนั้นนางก็โทรมาว่า ไปหาที่ห้องได้เปล่า เราก็ เซ เยส สักพักนางบอกว่า เดี๋ยวยืมตังค่าแทคซี่หน่อยนะ 460 ลืมกดตังมา ตอนนั่งไปสนามบิน จากบางใหญ่ ไปสุวรรณภูมิ หมดไปหกร้อย. อะไว้ใจเชื่อจ่ายให้ได้
ไปเดินห้างด้วยกัน นางก็จะพูดถึงแต่ของเบรนเนม บลาๆ ซึ่งเราก็เฉยๆ ไม่ได้ใช้ของเบรน แค่รู้จัก จากนั้นนางก็หยิบไอโฟนหกเอาสเครื่องเดิมมา แต่แสดงปฏิกาบ่อยๆที่เคยทำคือ บอกว่า แบตหมด ใช้ไม่ได้ แต่หยิบขึ้นมา โชว์เหมือนตอน อยู่ โรงพยาบาล พยาไท นางจะมีเครื่องสำรอง เอไอเอส น่าจะประมาณ สองพันบาท เราก็เอ๊ใจ เจอกันกี่ทีไอโฟนใช้ไม่ได้สักที งง แต่ไม่ได้ถามปล่อยไป
นางโทรหาแม่ให้โอนเงินให้ แม่บอกโอนไม่เป็น เราเชื่อ (เพราะเราเป็นคน ตจว เข้าใจ คนแก่ ตจว ดีว่าใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยเป็น)
บอกว่าจะโอนพรุ่งนี้ อะก็ส่งเลขบัญชีไป วันรุ่งขึ้นนางโทรมา + ส่ง msg ในเฟสบุ๊คมาว่า กดตังยังไม่ได้จำวันผิด แม่โอนอีกวัน ****ความสงสัยเริ่มเข้ามา
(ก่อนหน้านี้นางเล่าว่ามีเงินในบัญชีเกือบแสนเดือนหน้าจะไปเที่ยวเกาหลี จองตั๋วและโรงแรมแล้ว แต่ทำไม่มีเงิน 460 คืนเพื่อน ??) อะปล่อยไปไม่เอ๊ะใจอะไร
มาก กลับมาห้องเรื่มมีความสงสัยขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนที่หญิงบอกว่าเคยมีปัญหาด้วย เพื่อนชื่อ โดม (นามสมุติ) เราโทรหาโดม ถามเรื่องเกี่ยว
กับหญิง โดม พูดสั้นๆ ง่ายๆ เป็นไปได้ เลิกยุ่งกับหญิงจะดีที่สุด เราเลยถามต่อถึงเหตุผลและเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นกับโดม โดมบอกโดนยืมไปแปดร้อย อ้าง
เหตุผลร้อยแปด และแล้วก็ถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกคบกัน โดมยังเล่าอีกว่า ไม่ใช่แค่โดมคนเดียวหลายๆคนก็โดน หญิงไม่ใช่คนเดิม (โดมย้ำ) โดมยังเล่าอีกว่า เมื่อหลายปีก่อนโดมใช้ไอโฟนสี่ หญฺิงยังยืมไปอวดคนอื่นว่าเป็นของตน ทำให้เรานึกถึงเรื่องเมื่อวันที่นางมารับ นางขอยืม พลาสปอร์ตกับ บอร์ดดิงพลาส ถ่ายรูปแถวบอกจะหลอกเพื่อนว่า ไป ตปท ....... เอ้ย จริงจัง เรื่องเริมปะติดปะต่อ งั้นไอโฟนที่ถืออยู่ทุกวันนี้ของปลอมหรือขโมย ?? ยังไงง ?? ปล. นางบอกว่าเรียน ม.กรุงเทพ เกี่ยวกับ ดีไซเนอร์ เทอมละ 47,000 ไม่รู้เป็นความจริงเปล่า แต่ถึงยังไงก็ตามหวังว่านางจะคืนเงิน 460 ค่าแทคซี่ ของเรา ## พระคุ้มครอง .... โปรดติดตามตอนต่อไป หวังว่านางจะคืนเงินเร็วๆนี้ ll____ll