"วาววา" เรียนรู้ชีวิต ความทุกข์คือครูที่ดีที่สุด



ไปไหนมีแต่คนเรียก "แอร์พอร์ท" ไม่ใช่จะเรียกให้ไปส่งที่สนามบิน แต่เพราะนางเอกสาว "วาววา"ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด แสดงบทบาทตัวละครที่ชื่อ "แอร์พอร์ท" ในละคร "คงกระพันนารี" ช่อง 3 ได้น่ารัก แถมยังร่ายลีลาบู๊ให้เห็นชนิดคาดไม่ถึง ทำแฟนๆ ติดกันงอม วันนี้จังหวะดีที่ว่างจากงานละครและการทำธุรกิจ เจ้าตัวเลยเจียดเวลามาพูดคุย


"คงกระพันนารี" ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

วาววา - "ดีเกินคาดค่ะ ส่วนมากคนจะชมเรื่องว่าปกติดูละครแนวนี้แล้วจะอี๊มาก แต่พอดูเรื่องนี้แล้วจะสงสัยนู่นนี่ อยากรู้ใครเป็นใคร คนชมว่าเรื่องมีปม ดำเนินเรื่องเร็ว สนุก"


คนชมเยอะว่าเรื่องนี้เราสวยและบู๊เก่ง?

วาววา - "อาจเพราะโตขึ้น และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเป็นนักแสดงนำจริงๆ อย่างที่ผ่านมาบางระจันหรือซิกธ์เซนส์ฯ มันมีหลายคู่ก็จะช่วยกันโฮลด์เรื่องได้ แต่นี่เราเพิ่งเป็นนักแสดงนำจริงๆ คนเลยอาจจะได้เห็นเราในหลายมุมมากขึ้น ความจริงเรื่องนี้เป็นบู๊เรื่องแรก แต่ด้วยเพราะเราออกกำลังกาย เล่นยิมนาสติก ท่าทางเราอาจจะพอได้ แต่กล้ามเนื้อคงสู้มืออาชีพไม่ได้ ได้แค่ท่าสวย คิวได้ แต่ก็แฮปปี้นะกับการเล่นบู๊ อย่างละครถ้าแค่เดินห้าง กินข้าวมันก็เฉยๆ แต่อันนี้คือแต่ละวันไม่เหมือนกัน แต่ละโลเกชั่นไม่เหมือนกัน ท้าทายดี"


เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับ "เคน-ภูภูมิ" ด้วย?

วาววา - "ดีค่ะ เคนเป็นคนที่ธรรมชาติ มีอะไรคุยกันตลอด ถือเป็นการร่วมงานเรื่องแรก แต่ปรับกันไม่เยอะ เพราะบรรยากาศกองสบายๆ ไม่ต้องมาละลายพฤติกรรม ความยากในเรื่องนี้ของวาวน่าจะเรื่องบทที่มีการปรับเปลี่ยนจากบทออริจินอล มาเป็นบทที่ใส่ซีจี บางทีเราต้องปรับเดี๋ยวนั้น ทำความเข้าใจเลย"



ตอนนี้มีถ่ายละครเรื่องอะไรอยู่บ้าง?

วาววา - "มีเดอะ คิวปิดส์ ตอน ลูบคมกามเทพ และเรื่อง ไข่มุกมังกรไฟ ส่วน กุหลาบตัดเพชร ปิดไปแล้ว ช่วงนี้ก็ทำงาน 7 วันเลย"


อยู่วงการนี้แฮปปี้ไหม?

วาววา - "แฮปปี้บ้าง ไม่แฮปปี้บ้าง เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่วันที่เราทุกข์ เราได้รู้ว่าความทุกข์มันเป็นอย่างนี้ ได้สัจธรรมจากมัน และเราก็โตขึ้น เข้มแข็งขึ้น พอวันที่เรามีความสุขเราก็ดื่มด่ำกับมัน"




ช่วงที่ทุกข์ใช้อะไรยึดเหนี่ยวให้กลับมาเข้มแข็ง?

วาววา - "จริงๆ ความทุกข์เป็นครูที่ดีที่สุดของเรา เวลาทุกข์หนักๆ จะเห็นความทุกข์ชัดเจน และจะรู้ว่าเราทุกข์อยู่นี่ อะไรทำให้ทุกข์ พอหาคำตอบได้ว่าสิ่งที่ทำให้ทุกข์คือความคิดเราที่เก็บมาคิดเอง ก็จะได้วิธีออกจากทุกข์ว่าก็ไม่ต้องไปคิดสิ่งพวกนั้น อยู่กับปัจจุบันและทำวินาทีนี้ให้ดีที่สุด เท่ากับได้สัจธรรม ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ตอนเรียนประถมไม่เข้าใจว่าจะแยกทำไมตั้ง 4 อย่าง แต่วันนี้ความทุกข์ทำให้เข้าใจ และเข้มแข็งด้วยตัวเอง"


ไปเอากำลังใจมาจากไหน?

วาววา - "กำลังใจจริงๆ มีน้อยมากนะ เพราะ วันที่ทุกข์ เราหูบอดตาบอด ไม่รู้ใครหวังดีกับเรา ใครปลอบเราหรือใครเหยียบซ้ำไม่รู้ เราขาดสติ สุดท้ายต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง เหมือนเด็กจะยืนได้ต้องทำด้วยตัวเอง กล้ามเนื้อค่อยๆ แข็งแรงด้วยตัวเอง ไม่มีใครไปฉีดกล้ามเนื้อให้เด็กขวบนึงเดินได้ เราก็เหมือนกัน ไม่มีใครมาฉีดกำลังใจให้เราได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือเรียนรู้กับมันและทุกครั้งที่เราล้ม เจ็บ เหนื่อย เท่ากับร่างกายได้ฝึกฝน แต่ก่อนเจอนักข่าวคือกลัวมาก น้ำตาคลอ แต่ทุกวันนี้รู้ว่าเราแค่มีสติ ตอบในสิ่งที่ควรตอบ ทำในสิ่งที่ควรทำ และเราก็จบที่กลัวเพราะเรากลัวคำถามที่จะทำให้เราน้อยใจ เสียใจ กลัวคำถาม จะมาทำร้ายเรา"


ช่วง 4-5 ปีที่อยู่วงการ เป็นนักแสดงอีกคนที่เจอข่าวเยอะมาก?

วาววา - "ใช่ ตอนแรกก็ท้อ แต่พอรู้ว่าเราได้อะไรจากความท้อ ได้อะไรจากความทุกข์ รู้สึกคุ้ม ยิ่งกว่าเรียนจบอีก เพราะเราได้อะไรที่สอนวิธีการใช้ชีวิต สอนให้เข้าใจชีวิต ซึ่งหาได้ไม่ง่าย มันพิเศษที่สุด ต้องขอบคุณความทุกข์ ขอบคุณข่าว ขอบคุณคนให้ข่าว ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจและทุกคนที่ด่า มันทำให้เราเข้มแข็ง"


ถ้าย้อนเวลาได้ อยากกลับไปแก้ไขไหม?

วาววา - "ไม่อยากแก้ไขอะไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ เราไม่ได้ปลงแต่เราเข้าใจชีวิตมากกว่า เพราะเรายังมีความฝัน มีสิ่งที่ต้องทำ มีความรักความชอบ ยังใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ที่ดูเข้มแข็งเพราะมันจำเป็น ไม่อย่างนั้นก็อยู่ไม่ได้"

"งานในวงการ เป็นอาชีพหนึ่งที่ดี สุจริต สร้างความสุขให้คน ฉะนั้นเราได้ทำสิ่งที่ดี เราก็แฮปปี้แล้ว คืออย่างที่ถ่ายเซ็กซี่ไป นั่นเป็นอีกความฝัน เราชอบ มาริลิน มอนโร กับ มิแรนด้า เคอร์ เรามีไอดอลเป็นอย่างนั้น"


มีเป้าหมายในวงการบันเทิงอย่างไร?

วาววา - "จริงๆ อยากเป็นผู้จัด ชอบด้านนี้ อยากลองสร้างสรรค์ดู แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ประสบการณ์และเวลาเยอะ"


อยากเป็นผู้จัด แต่เราเคยมีข่าวมีปัญหากับผู้จัด คิดว่าคนจะไม่โอเคกับเราไหม?

วาววา - "คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา มันเป็น Case study เราได้เรียนรู้จากมัน เท่านั้นจบ ชีวิตต้องเดินหน้าต่อ มันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว"


เหมือนตอนนี้วาววาคัมแบ๊ก?

วาววา - "จริงๆ วาวไม่ได้ไปไหนนะ 2 ปีที่มีข่าว เราถ่ายละครแน่น 7 วัน แต่อาจเพราะช่วงที่ถ่ายบางระจันคือถ่ายหนัก หลังจากนั้นก็ถ่าย 2 เรื่องตลอด เลยอาจไม่ค่อยเห็นหน้า"


มีหลายมุมที่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับตัวเรา?

วาววา - "จริงๆ ไม่มีใครรู้ตัวตนวาวเลยด้วยซ้ำ ทุกคนฟังจากใครไม่รู้ แล้วอ่านจากสิ่งที่ใครไม่รู้เขียน แต่เชื่อว่าวันนึงคนจะเห็นในมุมที่วาวเป็น เพราะสุดท้ายความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว วาวเป็นแบบนี้ตลอดมาและตลอดไป เปลี่ยนไม่ได้เพราะเป็นตัววาว"

"ทุกวันนี้อยู่ในช่วงพิสูจน์ตัวเอง ทำในสิ่งที่มุ่งมั่น วันนึงคนจะเห็นในความเพียรเรา"


เหมือนแม่

พ่อกับแม่แยกทางกันตั้ง แต่นางเอกสาว "วาววา- ณิชารีย์" ยังเด็ก โดยเธอและ "ฟีฟ่า" น้องชายมาอยู่กับแม่ ทำให้เธอสนิทกับแม่มาก

"วาวสนิทกับแม่เพราะแม่เป็นซิงเกิลมัม ดูช้างดูที่หาง ดูนางดูที่แม่ เพราะฉะนั้นวาวกับแม่คือเหมือนกันเลย ความคิดจะแข็งทั้งคู่ ต่างคนต่างเหมือนกันมากเกินเลยทะเลาะกันตลอด แต่คือเรารักกัน"


สำหรับชีวิตวัยเด็ก นางเอกสาวเล่าว่า

"มันไม่หวือหวาเพราะครอบครัววาวเป็นครอบครัวปานกลาง แต่โชคดีที่คุณแม่ไม่ฟิกซ์เรื่องเรียน อยากทำอะไรก็ให้ทำ เด็กๆ มีกิจกรรมเยอะ ไม่ว่าจะเป็นยิมนาสติก บัลเลต์ ว่ายน้ำ เทนนิส ดรัมเมเยอร์ เล่นเครื่องดนตรีจะเข้ รำอีก มานั่งคิดก็อะเมซิ่ง"


เข้าวงการมาตอน อายุเท่าไหร่

"20 ปีค่ะ ตอนนี้ 4 ปี กว่าแล้ว เรียกว่าเป็นชีวิตวาวเลย ได้อาชีพ งานอดิเรก สิ่งที่รัก ได้ประสบการณ์ ได้เงิน ได้เพื่อน ได้ความสามารถ ได้ค้นพบตัวเอง อย่างไปขี่ม้าในเรื่องบางระจัน ก็จะรู้แล้วว่าตัวเองชอบม้า หลังจากนั้นก็ไปเรียนเอง"


คิดว่าตัวเอง มีบุคลิกภาพยังไง

"คนชอบมองว่าติสต์ แต่เราว่าเราปกติ ถามว่าเป็นสาวมั่นมั้ย ก็มั่นในบางเวลา แต่เป็นคนรักสุขภาพมาก ตั้งแต่อยู่มัธยมฯ จะหาข้อมูลเลยว่ากินอะไรแล้วดี มีช่วงนึงกินชาเขียวเยอะจนฟันเหลืองก็มี กินน้ำเต้าหู้แล้วดีก็กินและเริ่มทำธุรกิจนี้ตั้งแต่อายุ 17 ปี ก็ทำต่อเนื่องตั้งแต่นั้น"


ธุรกิจตอนนี้มีอะไรบ้าง

"น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง พาสเจอไรซ์, น้ำมะพร้าว ออร์แกนิก, นิตยสาร DREAM ON, ร้านแวกซ์ และกำลังทำแบรนด์ผ้าไทย ชื่อ กาสะลองซิลก์ และตอนนี้ทำโครงการเกี่ยวกับการ เกษตร ช่วยเหลือชาวนากับนักเรียนชาวนากับท่าน ว.วชิรเมธี แต่เราจะเลือกทำธุรกิจที่เราชอบนะ"


เอาเวลาไหนไปทำธุรกิจ

"ก็เวลาที่มีเหลืออยู่ คนเรามีเวลา 2 หมื่นวัน ถ้าไม่ทำวันนี้แล้วจะทำวันไหน แต่ละวันที่วาวใช้ 24 ช.ม. คือคุ้ม"


ยังมีอย่างอื่นที่อยากทำไหม

"ถ้าจะฉีกแนวไปเลยคือวาวอยากเป็นนายกฯ"



ที่มา : นสพ.ข่าวสด http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1469332605&utm_source=KhaosodOnline&utm_medium=KhaosodOnline
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่