ข้อขัดแย้งทางกฎหมายระหว่าง SM Entertainment กับ JYJ (คิมจุนซู คิมแจจุงและปาร์คยูชอน) ได้จบลงด้วยการหาข้อตกลงร่วมกันหลังจากระยะเวลา 3 ปีและ 4 เดือน

อ้างอิงจากแวดวงกฎหมาย บริษัท SM Entertainment และสมาชิกวง JYJ หาข้อตกลงร่วมกันได้ในวันที่ 28 เพื่อตกลงว่าสัญญาระหว่างทั้งสองฝ่ายมีผลสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2009 วันที่ JYJ ยื่นขอคำสั่งศาลชั่วคราวให้สัญญาเป็นโมฆะ อีกทั้ง มีการทราบว่าพวกเขาตัดสินใจยกฟ้องคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและได้ลงชื่อในข้อตกลงใจความว่าพวกเขาจะไม่แทรกแซงกิจกรรมใดๆ ที่อีกฝ่ายทำ

บริษัท SM Entertainment กล่าวว่า "ทั้งสามคนบอกว่าพวกเขาไม่มีความตั้งใจจะแสดงในฐานะของสมาชิกวง 'TVXQ' ดังนั้นทาง SM จึงตัดสินใจว่าเราไม่มีเหตุผลที่จะรับผิดชอบดูแลทั้งสามคนอีกต่อไป เราหาข้อตกลงร่วมกันที่จะไม่แทรกแซงกิจกรรมของอีกฝ่ายเพราะในอนาคตจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก และคดีฟ้องร้องจึงจบลงด้วยข้อตกลงนี้ นอกจากนั้น เราตัดสินใจว่าการกระทำที่ดีที่สุดคือการจบคดีเพื่อยืนยันว่ามันจะไม่มีความเสียหายเพิ่มเติมหรือมีปัญหาที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้นเพราะคดีที่อาจมีผลเสียต่อยูโนว์ยุนโฮและชเวกังชางมินผู้กำลังทำงานในฐานะ 'TVXQ' ในปัจจุบัน"

แบคชางจู ผู้อำนวยของบริษัท C-JeS Entertainment แถลงว่า "เราเชื่อว่านี่เป็นการต่อสู้ที่เคยชนะไปแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อนตอนที่ศาลรับเรื่องการขอคำสั่งศาล จริงๆ แล้ว เราไม่เชื่อว่ามันจะมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องกิจกรรมของ JYJ หลังจากมีผลคดีเพราะการแทรกแซงกิจกรรมของ JYJ ไม่ใช่ปัญหาทางกฎหมาย แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างเดวิดกับไกโลแอธ [T/N: หมายถึงการต่อสู้ระหว่างกษัตริย์ยิ่งใหญ่ผู้ได้เปรียบกับผู้น้อยที่เสียเปรียบ]" เขากล่าวเสริมว่า "เรากำลังเดินอยู่บนหนทางที่มีเพียง JYJ เท่านั้นที่จะเดินและเราจะทำงานต่อไปตามที่วางแผนไว้" และ "เราหวังว่าความสำเร็จในข้อตกลงครั้งนี้จะแก้ไขปัญหาข้อจำกัดที่เคยใช้คดีฟ้องร้องเป็นข้ออ้างต่อ JYJ และเราอยากจะขอบคุณแฟนๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศจากใจจริงอีกครั้งที่มอบการสนับสนุนที่ไม่เสื่อมคลายแก่ JYJ มาโดยตลอดตั้งแต่ต้น"

*** คิมจุนซู คิมแจจุงและปาร์คยูชอน เริ่มกิจกรรมในฐานะวง JYJ ภายใต้สังกัดใหม่ C-JeS Entertainment ตั้งแต่เดือนกันยายน 2010

Source: [Nate News]
Translated & Shared by: dongbangdata.net
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง



วันที่ 23 ตุลาคม 2015 เป็นการเผชิญหน้ากันในศาลครั้งแรกของทนายฝ่ายเทาและทนายฝ่าย SM Entertainment ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมการให้การของทั้งสองฝ่ายมากมายที่นำเหตุผลของฝั่งตนมาสู้กันในศาล

ทั้งสองฝ่ายได้รับโอกาสให้การก่อนขึ้นเผชิญหน้ากันในศาลกลางของกรุงโซล ทั้งในแง่ของระยะเวลาในสัญญา การแบ่งผลกำไรและการเลือกปฏิบัติต่อเทา ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆ

ทนายของเทากล่าวว่า “สัญญาสามารถถูกทำให้เป็นโมฆะในกรณีของความไว้ใจในความสัมพันธ์ที่ระบุไว้ในสัญญาหลัก ซึ่งถูกทำลายลงโดยผู้ที่มีอำนาจจัดการ นอกจากนี้ยังมีการยืนกรานที่จะครอบครองนักร้องโดยทำสัญญาระยะยาวที่ละเมิดนิสัยส่วนตัวของพวกเขา และจำกัดอิสระของพวกเขามากเกินไป”

ทนายเทาพูดถึงเรื่องการทำสัญญาระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี นับตั้งแต่เดบิวต์ของเขาว่ามันนานเกินไป โดยกล่าวว่า “ระยะเวลาสัญญาโดยเฉลี่ยที่กำหนดโดย Korea Fair Trade Commission (FTC) คือ 7 ปี และในกรณีของชาวต่างชาติสามารถยืดเวลาไปได้อีก 3 ปี อย่างไรก็ตาม SM ได้ละเมิดสัญญาข้อนั้นและทำให้มันเป็นสัญญา 10 ปีตั้งแต่เริ่มต้น”

ทนายเทากล่าวเพิ่มอีกว่า “มันเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ที่กำหนดจาก FTC โดยการนับเวลาสัญญาจากจุดที่พวกเขาเดบิวต์ แทนที่จะนับเวลาสัญญาจากตอนที่ศิลปินเซ็นสัญญาเข้าสังกัด”

ในทางตรงกันข้าม ทนายฝ่าย SM ตอบกลับว่า “สัญญาของเทากับ SM นั้นปฏิบัติตามกฎของ FTC อย่างถูกต้อง และยืนยันในข้อโต้แย้งเดิมว่าไม่มีอะไรที่ไม่ถูกต้องในสัญญาเลย” และได้พูดเปรียบเทียบการลงทุนขนาดใหญ่ที่ไม่มีความมั่นคงรองรับว่าศิลปินจะสามารถประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ดังนั้นสัญญาเวลา 10 ปี จึงไม่ได้ยาวนานแต่อย่างใด

ทนาย SM กล่าวเพิ่มเติมว่า “ก่อนการจัดการจะกลายเป็นอุตสาหกรรม เงื่อนไขของสัญญานั้นไม่ได้ต่อเนื่องกันโดยสมบูรณ์ หลังจากที่กระแสคลื่นเกาหลีในปี 2009 และการจัดการกลายเป็นอุตสาหกรรม เวลา 10 ปี ไม่ใช่เวลาที่ยาวนานเลย เมื่อพิจารณาจากความพยายามในการเตรียมศิลปินก่อนที่พวกเขาจะได้เดบิวต์ เราไม่ได้ละเมินข้อบังคับ ที่เราเพิ่มเวลาไปอีก 3 ปี เพื่อช่วยจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในต่างประเทศ”


ที่มาข่าว : youzab.com
แปลบทเพิ่มเติมโดย : thenuttycompany