ก่อนอื่นขอกล่าวสวัสดีเพื่อน ๆ ทุกท่านครับ กระทู้สุดท้ายที่เขียนไว้คือ Indy Sapa ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนโน่น นี่ก็ผ่านมาครบรอบครึ่งปีแล้ว วันนี้มีเรื่องราวการเดินทางมาฝากกันอีกแล้วครับ และเป็นนิมิตรใหม่ที่ได้ก้าวข้ามออกจากทวีปเอเชียไปยังทวีปเพื่อนบ้าน ณ แผ่นดินกาฬทวีป แอฟริกา และไปประเทศที่ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เคยได้ยินชื่อและหลายท่านรู้ดีถึงดีกรีความแร้นแค้นของคนประเทศนี้ ...ถึงขนาดตอนเด็ก ๆ แม่จะต้องขู่ว่าหากไม่กินข้าวจะผอมแกรนเหมือนเด็กเอธิโอเปีย ใครล่ะจะไม่กลัว ....

อยากให้ทุกท่านลองหลับตาแล้วถึงภาพ "เอธิโอเปีย" ในความทรงจำดูครับ ว่าเป็นอย่างไร

...วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเยือน ดินแดนที่ได้ชื่อว่าหลังคาแอฟริกาแห่งนี้ ดินแดนที่ฝรั่งคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า "ยังตายไม่ได้หากยังไม่ได้มาเยือนที่นี่"

ในมุมมองของผม ประเทศเอธิโอเปีย คือประเทศแรกในแอฟริกาที่ผมอยากไปเยี่ยมเยือนซักครั้ง และวางแผนไว้ว่าอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะเก็บค่าเครื่องแล้วไปกัน เพราะดูจากแผนที่ก็ไม่ใช่จะใกล้หรือไปกันง่าย ๆ ซะทีเดียว ....กระทั่งเมื่อต้นปี ราคาตั๋วเครื่องบินสายการบิน Kenya Airways มันลดฮวบลงไปที่ 19XXX รวมไปและกลับเบ็ดเสร็จ อื้อหือ..เรายังมีเหตุผลอะไรให้รออีกหรือ สุดท้ายกระบวนการก่อแผนก็เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วางแผน เสนอแผน และรวบรวมสมาชิก จนกระทั่งสุดท้ายมาจบอยู่ที่ ยอดมนุษย์ทองคำ 7 คน ......

... ไปดูนกรึ ?? ใช่ครับ
... ไปดูสัตว์ป่ารึ ?? ใช่ครับ
... ค่าใช้จ่ายถูก ?? นี่ก็ไม่แน่ใจ
... อากาศร้อนหรือป่าว ไม่รู้เหมือนกัน
... ไปเดือนกรกฎาคม ฝนตกหนักแน่ ๆ อันนี้ก็ต้องเสี่ยงดวงกันไปล่ะนะ
... แต่ไปเพราะสงสัย สงสัยว่า กับคำกล่าวขานว่า ที่นี่ร้อน แห้งแล้ง ผู้คนอดอยาก แถมบินไปเปลี่ยนเครื่องที่เคนยา ก็แล้วทำไมไม่ไปเที่ยวเคนยาให้รู้แล้วรู้รอด ก็ไม่อยากอ่ะ อยากไปประเทศนี้มากกว่า ....

...เรามาเริ่มนับหนึ่งกับข้อมูลที่สืบค้นมาแล้วว่า ไปที่นี่ ด้วยตัวเองได้ และมันมีดีในแบบฉบับของเขา ในความเป็นเอธิโอเปียและในความเป็นแอฟริกาต้นตำรับโบร้าณณณณณณ โบราณ

...ออกเดินทางไปพร้อมกับผมครับ เพราะจากนี้ไปความสงสัยในหัวจะถูกคลี่คลายอย่างน้อยก็บางส่วน ......

(ภาพประกอบ) ไนยาลาภูเขา หนึ่งในสัตว์ถิ่นเดียวของเอธิโอเปียที่ทุ่งหญ้าไกย์ไซย์ อุทยานแห่งชาติบาเล่เมาเท่นส์ ...