16-19 กรกฎา 59
เดือนนี้มีหยุดยาว 5 วัน ขอบคุณรัฐบาลที่ประกาศแต่เนิ่นๆ ทำให้บ้านสองต้นสามารถวางแผนการท่องเที่ยว และจองที่พักต่างๆ นานาได้เรียบร้อย เป้าหมายมีไว้พุ่งชนของเราทริปนี้คือ "สังขละบุรี" พยายามจองหลายทีในช่วงวันหยุด ไม่เคยทันเลย เต็มตลอด ครั้งนี้เป็นโอกาสเหมาะหยุดตั้ง 5 วัน จึงดำเนินการทุกอย่างได้ทันท่วงที เราเริ่มออกเดินทางเช้าวันที่ 16 กรกฎา เพื่อไปขึ้นรถไฟจากท่ากิเลนไปถ้ำกระแซ โดยรถไฟขบวนนี้จะผ่านสะพานไม้ประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ใช้เวลาสร้างเพียง 7 วัน มันอะเมซิ่งมากๆ ค่ะ
ตามตารางรถไฟแล้วจะผ่านท่ากิเลน (จุดที่เราจะขึ้น) เวลา 11.30 น. แต่วันนั้นรถไฟมาถึงตอน 12.30 น. ตอนแรกนึกว่าจะตกรถไฟ เพราะเราขับไปถึงตอนเที่ยงนิดๆ พอดี รีบวิ่งไปถามนายท่า นายท่าแจ้งว่ารถไฟยังไม่มา จึงเตรียมความพร้อมและนั่งเล่นสักพัก ทั้งนี้นายท่าบอกว่ารถไฟน่าจะต้องยืน เพราะคนแน่นมาตั้งแต่กรุงเทพฯ แล้ว ช่วงที่ไปค่าโดยสารยังฟรีอยู่ค่ะ
รถไฟมาแล้ววววววว นั่งได้ตั้งแต่โบกี้ 5 เป็นต้นไป ส่วนโบกี้ 1-4 เป็นตู้พิเศษถูกเหมาไปแล้วค่ะ
รถไฟวิ่งไปเรื่อยๆ พกพัดลมมือถือไปก็ไม่เสียหายนะคะ เพราะอากาศเดือนกรกฎาร้อนได้ใจอยู่เลย
วิวระหว่างทางเขียวๆ สดชื่นดีค่ะ
ถึงแล้วค่ะ สะพานประวัติศาสตร์ ด้วยความที่เราใช้กล้อง compact ธรรมดาถ่าย แล้วก็มือใหม่หัดถ่ายแต่รูปลูก รูปจึงออกมาอย่างที่เห็น
เวลาเดินทางจากท่ากิเลนมาถ้ำกระแซประมาณ 20 นาทีค่ะ เราลงถ้ำกระแซพักเที่ยงกินข้าวที่ร้านอาหารถ้ำกระแซ ตอนแรกว่าจะพาเด็กๆ เดินสะพานประวัติศาสตร์ แต่แดดและอากาศร้อนมากค่ะ เลยนั่งชมรถไฟผ่านไปมาในร้านอาหารแป๊บนึง จากนั้นก็ไปรอรถไฟเพื่อกลับไปยังท่ากิเลนที่เราจอดรถทิ้งไว้
ขากลับรถไฟค่อนข้างตรงเวลานะคะ เรทไม่ค่อยนาน ประมาณ 30 นาทีก็พอหยวนๆ อยู่ ขากลับตู้โล่งเลยค่ะ ไม่เหมือนขามา ขอบคุณคนไทยใจดีทุกท่านที่ลุกให้เด็กนั่งนะคะ ขอบพระคุณจริงๆ ค่ะ น้ำใจในสังคมไทยยังมีอยู่มากมายไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ขากลับเสียค่าโดยสารคนละ 3 บาท ถูกมว๊ากกกกก และเด็กไม่เสียสตางค์ นั่งฟรีตามเดิม
จากนั้นก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังที่พักของเราคืนนี้ "บ้านมะเฟืองเกสต์เฮ้าส์" อยู่ในตัวเมืองเลยค่ะ ไปถึงที่พักก็ประมาณ 4 โมงเย็น พักผ่อน จัดข้าวจัดของ ตากแอร์แป๊บนึงก่อนไปเดินเล่นถนนคนเดิน
บ้านมะเฟืองเป็นที่พักเล็กๆ มีไม่กี่ห้องค่ะ สะอาดและปลอดภัยใช้ได้ เราเลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้ถนนคนเดินปากแพรก สามารถเดินไปกลับจากที่พักถึงถนนคนเดินได้เลย
สิ่งอำนวยความสะดวก "บ้านมะเฟืองเกสต์เฮ้าส์"
พิกัด ถนนแสงชูโต อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
- แอร์ (จะติดอยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งมันเป็นหลืบเข้าไปค่ะ เราเปิด 22 องศา จะเย็นตรงด้านหน้าที่แอร์ลงค่ะ แต่เตียงนอนจะเป็นอีกเวิ้งนึง ทำให้ตรงจุดที่นอนไม่เย็นเลย และแอร์เป็นรุ่นเก่า พอตัดทีคือมันไม่ทำงาน มันก็จะร้อนนะ)
- ตู้เย็น (ฉ่ำดี)
- เครื่องทำน้ำอุ่น (ใช้ได้เลยค่ะ น้ำแรงมาก)
- ทีวี + เคเบิ้ล (ชัดเจน)
- wifi (แรงมาก)
- น้ำเปล่าบริการ 2 ขวด
ภาพรวมบ้านมะเฟือง
บ้านมะเฟืองเกสต์เฮ้าส์จะมีห้องพักอยู่ไม่กี่ห้อง เท่าที่เราเห็นประมาณ 10 ห้อง
มีโซนด้านหน้าห้องพักเป็นศาลาไว้ให้นั่งเล่น อารมณ์ประมาณซื้อของมานั่งทานส่วนกลางได้
ส่วนด้านหน้าที่ไว้ check-in, check-out จะเป็นร้านกาแฟ ขนม สามารถสั่งเครื่องดื่มมาส่งที่ห้องได้
มีบริการอาหารเช้า ประมาณไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ชุดละ 100.- สั่งได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้า
เราไม่ได้ใช้บริการ เพราะแพลนจะไปขึ้นรถไฟข้ามสะพานแม่น้ำแคว จึงออกกันแต่เช้า
[CR] นั่งรถไฟไปถ้ำกระแซ เดินเล่นถนนคนเดินปากแพรก ล่องเรือชมวัดใต้บาดาล ชิลล์สะพานมอญสังขละบุรี เล่นน้ำลำธารซองกาเรีย
เดือนนี้มีหยุดยาว 5 วัน ขอบคุณรัฐบาลที่ประกาศแต่เนิ่นๆ ทำให้บ้านสองต้นสามารถวางแผนการท่องเที่ยว และจองที่พักต่างๆ นานาได้เรียบร้อย เป้าหมายมีไว้พุ่งชนของเราทริปนี้คือ "สังขละบุรี" พยายามจองหลายทีในช่วงวันหยุด ไม่เคยทันเลย เต็มตลอด ครั้งนี้เป็นโอกาสเหมาะหยุดตั้ง 5 วัน จึงดำเนินการทุกอย่างได้ทันท่วงที เราเริ่มออกเดินทางเช้าวันที่ 16 กรกฎา เพื่อไปขึ้นรถไฟจากท่ากิเลนไปถ้ำกระแซ โดยรถไฟขบวนนี้จะผ่านสะพานไม้ประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ใช้เวลาสร้างเพียง 7 วัน มันอะเมซิ่งมากๆ ค่ะ
ตามตารางรถไฟแล้วจะผ่านท่ากิเลน (จุดที่เราจะขึ้น) เวลา 11.30 น. แต่วันนั้นรถไฟมาถึงตอน 12.30 น. ตอนแรกนึกว่าจะตกรถไฟ เพราะเราขับไปถึงตอนเที่ยงนิดๆ พอดี รีบวิ่งไปถามนายท่า นายท่าแจ้งว่ารถไฟยังไม่มา จึงเตรียมความพร้อมและนั่งเล่นสักพัก ทั้งนี้นายท่าบอกว่ารถไฟน่าจะต้องยืน เพราะคนแน่นมาตั้งแต่กรุงเทพฯ แล้ว ช่วงที่ไปค่าโดยสารยังฟรีอยู่ค่ะ
รถไฟมาแล้ววววววว นั่งได้ตั้งแต่โบกี้ 5 เป็นต้นไป ส่วนโบกี้ 1-4 เป็นตู้พิเศษถูกเหมาไปแล้วค่ะ
รถไฟวิ่งไปเรื่อยๆ พกพัดลมมือถือไปก็ไม่เสียหายนะคะ เพราะอากาศเดือนกรกฎาร้อนได้ใจอยู่เลย
วิวระหว่างทางเขียวๆ สดชื่นดีค่ะ
ถึงแล้วค่ะ สะพานประวัติศาสตร์ ด้วยความที่เราใช้กล้อง compact ธรรมดาถ่าย แล้วก็มือใหม่หัดถ่ายแต่รูปลูก รูปจึงออกมาอย่างที่เห็น
เวลาเดินทางจากท่ากิเลนมาถ้ำกระแซประมาณ 20 นาทีค่ะ เราลงถ้ำกระแซพักเที่ยงกินข้าวที่ร้านอาหารถ้ำกระแซ ตอนแรกว่าจะพาเด็กๆ เดินสะพานประวัติศาสตร์ แต่แดดและอากาศร้อนมากค่ะ เลยนั่งชมรถไฟผ่านไปมาในร้านอาหารแป๊บนึง จากนั้นก็ไปรอรถไฟเพื่อกลับไปยังท่ากิเลนที่เราจอดรถทิ้งไว้
ขากลับรถไฟค่อนข้างตรงเวลานะคะ เรทไม่ค่อยนาน ประมาณ 30 นาทีก็พอหยวนๆ อยู่ ขากลับตู้โล่งเลยค่ะ ไม่เหมือนขามา ขอบคุณคนไทยใจดีทุกท่านที่ลุกให้เด็กนั่งนะคะ ขอบพระคุณจริงๆ ค่ะ น้ำใจในสังคมไทยยังมีอยู่มากมายไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ขากลับเสียค่าโดยสารคนละ 3 บาท ถูกมว๊ากกกกก และเด็กไม่เสียสตางค์ นั่งฟรีตามเดิม
จากนั้นก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังที่พักของเราคืนนี้ "บ้านมะเฟืองเกสต์เฮ้าส์" อยู่ในตัวเมืองเลยค่ะ ไปถึงที่พักก็ประมาณ 4 โมงเย็น พักผ่อน จัดข้าวจัดของ ตากแอร์แป๊บนึงก่อนไปเดินเล่นถนนคนเดิน
บ้านมะเฟืองเป็นที่พักเล็กๆ มีไม่กี่ห้องค่ะ สะอาดและปลอดภัยใช้ได้ เราเลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้ถนนคนเดินปากแพรก สามารถเดินไปกลับจากที่พักถึงถนนคนเดินได้เลย
สิ่งอำนวยความสะดวก "บ้านมะเฟืองเกสต์เฮ้าส์"
พิกัด ถนนแสงชูโต อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
- แอร์ (จะติดอยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งมันเป็นหลืบเข้าไปค่ะ เราเปิด 22 องศา จะเย็นตรงด้านหน้าที่แอร์ลงค่ะ แต่เตียงนอนจะเป็นอีกเวิ้งนึง ทำให้ตรงจุดที่นอนไม่เย็นเลย และแอร์เป็นรุ่นเก่า พอตัดทีคือมันไม่ทำงาน มันก็จะร้อนนะ)
- ตู้เย็น (ฉ่ำดี)
- เครื่องทำน้ำอุ่น (ใช้ได้เลยค่ะ น้ำแรงมาก)
- ทีวี + เคเบิ้ล (ชัดเจน)
- wifi (แรงมาก)
- น้ำเปล่าบริการ 2 ขวด
ภาพรวมบ้านมะเฟือง
มีโซนด้านหน้าห้องพักเป็นศาลาไว้ให้นั่งเล่น อารมณ์ประมาณซื้อของมานั่งทานส่วนกลางได้
ส่วนด้านหน้าที่ไว้ check-in, check-out จะเป็นร้านกาแฟ ขนม สามารถสั่งเครื่องดื่มมาส่งที่ห้องได้
มีบริการอาหารเช้า ประมาณไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ชุดละ 100.- สั่งได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้า
เราไม่ได้ใช้บริการ เพราะแพลนจะไปขึ้นรถไฟข้ามสะพานแม่น้ำแคว จึงออกกันแต่เช้า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น