สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่านค่ะ...กระทู้แรกสำหรับยูสเซอร์นี้....
อันที่จริงเล่นพันทิปมาหลายปีแล้ว...แต่สำหรับกระทู้นี้...ใจไม่กล้าพอที่จะใช้ยูสเซอร์ตามปกติค่ะ...
ตอนนี้เราอายุยี่สิบกว่าๆ ทำงานมาได้หลายปีแล้ว...เป็นครูสอนภาษาระดับม.ปลายที่โรงเรียนในต่างจังหวัดค่ะ
ปกติเวลาสอน...เราจะสอนตามปกติค่ะ เราไม่บีบบังคับว่าเด็กต้องเป๊ะ ต้องเนี้ยบในวิชาของเรา
ขอแค่เขามีความพยายาม ตั้งใจในชั่วโมงเรียนก็พอแล้ว เพราะเราเชื่อว่าแต่ละคนมีความถนัดที่ต่างกัน
เด็กที่อ่อนวิชาเรา อาจจะเก่งมากๆ ในวิชาอื่น...ดังนั้นเวลาสอนเราจะสอนไม่ให้เด็กเครียดค่ะ พูดคุย เฮฮา หาเกมหาอะไรให้เขาเล่นให้เขาดู
แต่เรื่องนึงที่เราจะเคร่งมากๆ คือเรื่องของมารยาท...มารยาทพื้นฐานสังคม สัมมาคารวะ คำพูดคำจา พฤติกรรมต่างๆ ที่พึงมีในการใช้ชีวิตในสังคม
ไม่ได้หมายความว่าต้องให้เด็กทุกคนไหว้เวลาผ่านเรานะคะ ถ้าเด็กคนไหนไหว้ เราก็ยกมือรับไหว้ หรือถ้าเด็กยิ้มให้ ก็ยิ้มตอบ
และส่วนใหญ่ที่มักจะหงุดหงิดก็เพราะพฤติกรรมของเด็กๆ น่ะค่ะ...เพราะทำงานครูด้วยเลยเจอเด็กหลายประเภท
พฤติกรรมที่เราจะเอือมมากๆ คือ...สอนๆ อยู่ เด็กนึกอยากจะด่าเพื่อนก็โพล่งออกมาต่อหน้าเรา หรือคิดจะเดินไปตบหัวเพื่อนก็ตบเลย ฯลฯ
แรกๆ เราก็เตือนเขาดีๆ แบบไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เหตุผลล้วนๆ แต่ทีนี้มันก็มีครั้งที่สอง...สาม...สี่...ห้า...มาเรื่อยๆ เลยค่ะ
พอหลายครั้งเข้าเราก็ปรี๊ดแตกเลยค่ะ อารมณ์เหมือนมันเต็มกลืนแล้ว...
เวลาเราปรี๊ดคำพูดมันจะประมาณว่า "โตแล้วน่าจะคิดเองได้" "สมองน่ะมีไว้คิดแต่เรื่องไร้สาระรึไง" อะไรแบบนี้น่ะค่ะ (รู้สึกแย่กับคำพูดตัวเองเหมือนกัน)
เราไม่ค่อยเชื่อในคำพูดที่ว่า "พ่อแม่ครูอาจารย์ไม่สั่งสอน" เพราะการที่เขาโตมาระดับม.ปลายแล้ว...เขาต้องผ่านผู้ใหญ่มาไม่น้อย
และเราเชื่อว่าในสังคมโรงเรียน พฤติกรรมที่ไม่ดีของเขาต้องเคยได้รับคำตักเตือนว่ากล่าวมาแล้วแน่ๆ
ดังนั้นที่ยังแก้ไม่หายอยู่อย่างนี้เป็นที่จิตสำนึกของเด็กล้วนๆ เลยค่ะ
และเพราะทัศนคติตรงนี้ล่ะค่ะที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเองเลย เราพยายามคิดเสมอว่าเขายังเด็ก แต่มันก็จะมีข้อแย้งในใจว่าโตขนาดนี้แล้ว...
ดังนั้นเรารู้สึกว่าเราทะเลาะกับตัวเองบ่อยมากเลยค่ะ อารมณ์เหมือนจิตสำนึกความเป็นครูตีกับจิตสำนึกของเราเอง จนรู้สึกว่าตัวเองแย่แล้ว
กลายเป็นว่าช่วงหลังๆ แค่รู้ว่าจะต้องเจอกับเด็กพวกนี้ก็เกิดอาการคลื่นไส้แล้วค่ะ เครียดจนน้ำตาจะไหล
หลายครั้งพยายามไม่ใส่ใจ/มองข้ามพฤติกรรมหยาบๆ เหล่านี้....แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูด พอพูดเสร็จเราก็เครียดกับตัวเองต่อ
เริ่มมาแสดงอาการหนักๆ ก็ช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ล่ะค่ะ...เราเริ่มรู้สึกว่าเรากลายเป็นคนโมโหง่ายกว่าเดิม ขี้รำคาญ และซึมเศร้าบ่อยเกินเหตุ
เพราะพื้นฐานนิสัยเราเป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว คนในครอบครัวรู้นิสัยนี้ดี
แต่กับคนอื่นๆ เขาจะบอกว่าเราดูเป็นคนใจเย็น มีเหตุผล ควบคุมอารมณ์ได้ดีค่ะ (เพราะจะไปเหวี่ยงใส่คนอื่นมันก็เสียมารยาท)
ทีนี้เรารู้สึกว่าความรู้สึกของเราในตอนนี้เป็นอันตรายกับหน้าที่การงานมากเลยค่ะ เพราะเรายังต้องอยู่กับเด็กๆ
และขืนเป็นแบบนี้เรื่อยๆ เราว่าเราต้องสติแตกแน่ๆ และมันจะเป็นอัตรายกับตัวเราเอง (เผลอๆ จะคนอื่นด้วย)
เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่เรายังหงุดหงิดค้างจากพฤติกรรมเด็กที่โรงเรียน แล้วต้องขับรถกลับบ้านตอนดึกๆ...
ทีนี้เจอกลุ่มคนมากวาดถนน (เศษประทัดช่วงตรุษจีนน่ะค่ะ) เราก็ชะลอรถ พยายามจะขับรถหลบ
คนที่กวาดก็ดันเดินกวาดแบบไม่สนใจแถมเดินมาตัดหน้ารถเราซะอย่างนั้น เราก็ขับเบี่ยงไปอีก ก็มีอีกคนตรงเข้าหารถเราอีก
ตอนนั้นรำคาญจนอยากจะขับรถตัวเองชนกำแพงสักตูมเลยค่ะ ไม่ได้อยากตาย แต่ร่างกายอยากปะทะจริงๆ
พยายามเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วโทรขอให้คนที่บ้านมาขับรถให้น่ะค่ะ เพราะตอนนั้นรู้เลยว่าเราขับรถเองไม่ได้แน่ๆ
เพราะแบบนี้ล่ะค่ะเลยไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง ความเครียดของเราเกิดจากพฤติกรรมของเด็กๆ
จะมองข้ามก็รู้สึกไม่ดีในฐานะครู แต่ถ้ายังใส่ใจเราจะต้องแย่แน่ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นล่วงหน้าและขอโทษที่รบกวนเวลาทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
ถ้าเราพิมพ์ไม่รู้เรื่องก็ขอโทษด้วยนะคะ เพราะนี่ก็เพิ่งจะน็อตหลุดกับเด็กมาเหมือนกัน...ขอโทษค่ะ
[ขอคำปรึกษาค่ะ] ทะเลาะกับความรู้สึกของตัวเองอยู่บ่อยๆ ค่ะ
อันที่จริงเล่นพันทิปมาหลายปีแล้ว...แต่สำหรับกระทู้นี้...ใจไม่กล้าพอที่จะใช้ยูสเซอร์ตามปกติค่ะ...
ตอนนี้เราอายุยี่สิบกว่าๆ ทำงานมาได้หลายปีแล้ว...เป็นครูสอนภาษาระดับม.ปลายที่โรงเรียนในต่างจังหวัดค่ะ
ปกติเวลาสอน...เราจะสอนตามปกติค่ะ เราไม่บีบบังคับว่าเด็กต้องเป๊ะ ต้องเนี้ยบในวิชาของเรา
ขอแค่เขามีความพยายาม ตั้งใจในชั่วโมงเรียนก็พอแล้ว เพราะเราเชื่อว่าแต่ละคนมีความถนัดที่ต่างกัน
เด็กที่อ่อนวิชาเรา อาจจะเก่งมากๆ ในวิชาอื่น...ดังนั้นเวลาสอนเราจะสอนไม่ให้เด็กเครียดค่ะ พูดคุย เฮฮา หาเกมหาอะไรให้เขาเล่นให้เขาดู
แต่เรื่องนึงที่เราจะเคร่งมากๆ คือเรื่องของมารยาท...มารยาทพื้นฐานสังคม สัมมาคารวะ คำพูดคำจา พฤติกรรมต่างๆ ที่พึงมีในการใช้ชีวิตในสังคม
ไม่ได้หมายความว่าต้องให้เด็กทุกคนไหว้เวลาผ่านเรานะคะ ถ้าเด็กคนไหนไหว้ เราก็ยกมือรับไหว้ หรือถ้าเด็กยิ้มให้ ก็ยิ้มตอบ
และส่วนใหญ่ที่มักจะหงุดหงิดก็เพราะพฤติกรรมของเด็กๆ น่ะค่ะ...เพราะทำงานครูด้วยเลยเจอเด็กหลายประเภท
พฤติกรรมที่เราจะเอือมมากๆ คือ...สอนๆ อยู่ เด็กนึกอยากจะด่าเพื่อนก็โพล่งออกมาต่อหน้าเรา หรือคิดจะเดินไปตบหัวเพื่อนก็ตบเลย ฯลฯ
แรกๆ เราก็เตือนเขาดีๆ แบบไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เหตุผลล้วนๆ แต่ทีนี้มันก็มีครั้งที่สอง...สาม...สี่...ห้า...มาเรื่อยๆ เลยค่ะ
พอหลายครั้งเข้าเราก็ปรี๊ดแตกเลยค่ะ อารมณ์เหมือนมันเต็มกลืนแล้ว...
เวลาเราปรี๊ดคำพูดมันจะประมาณว่า "โตแล้วน่าจะคิดเองได้" "สมองน่ะมีไว้คิดแต่เรื่องไร้สาระรึไง" อะไรแบบนี้น่ะค่ะ (รู้สึกแย่กับคำพูดตัวเองเหมือนกัน)
เราไม่ค่อยเชื่อในคำพูดที่ว่า "พ่อแม่ครูอาจารย์ไม่สั่งสอน" เพราะการที่เขาโตมาระดับม.ปลายแล้ว...เขาต้องผ่านผู้ใหญ่มาไม่น้อย
และเราเชื่อว่าในสังคมโรงเรียน พฤติกรรมที่ไม่ดีของเขาต้องเคยได้รับคำตักเตือนว่ากล่าวมาแล้วแน่ๆ
ดังนั้นที่ยังแก้ไม่หายอยู่อย่างนี้เป็นที่จิตสำนึกของเด็กล้วนๆ เลยค่ะ
และเพราะทัศนคติตรงนี้ล่ะค่ะที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเองเลย เราพยายามคิดเสมอว่าเขายังเด็ก แต่มันก็จะมีข้อแย้งในใจว่าโตขนาดนี้แล้ว...
ดังนั้นเรารู้สึกว่าเราทะเลาะกับตัวเองบ่อยมากเลยค่ะ อารมณ์เหมือนจิตสำนึกความเป็นครูตีกับจิตสำนึกของเราเอง จนรู้สึกว่าตัวเองแย่แล้ว
กลายเป็นว่าช่วงหลังๆ แค่รู้ว่าจะต้องเจอกับเด็กพวกนี้ก็เกิดอาการคลื่นไส้แล้วค่ะ เครียดจนน้ำตาจะไหล
หลายครั้งพยายามไม่ใส่ใจ/มองข้ามพฤติกรรมหยาบๆ เหล่านี้....แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูด พอพูดเสร็จเราก็เครียดกับตัวเองต่อ
เริ่มมาแสดงอาการหนักๆ ก็ช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ล่ะค่ะ...เราเริ่มรู้สึกว่าเรากลายเป็นคนโมโหง่ายกว่าเดิม ขี้รำคาญ และซึมเศร้าบ่อยเกินเหตุ
เพราะพื้นฐานนิสัยเราเป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว คนในครอบครัวรู้นิสัยนี้ดี
แต่กับคนอื่นๆ เขาจะบอกว่าเราดูเป็นคนใจเย็น มีเหตุผล ควบคุมอารมณ์ได้ดีค่ะ (เพราะจะไปเหวี่ยงใส่คนอื่นมันก็เสียมารยาท)
ทีนี้เรารู้สึกว่าความรู้สึกของเราในตอนนี้เป็นอันตรายกับหน้าที่การงานมากเลยค่ะ เพราะเรายังต้องอยู่กับเด็กๆ
และขืนเป็นแบบนี้เรื่อยๆ เราว่าเราต้องสติแตกแน่ๆ และมันจะเป็นอัตรายกับตัวเราเอง (เผลอๆ จะคนอื่นด้วย)
เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่เรายังหงุดหงิดค้างจากพฤติกรรมเด็กที่โรงเรียน แล้วต้องขับรถกลับบ้านตอนดึกๆ...
ทีนี้เจอกลุ่มคนมากวาดถนน (เศษประทัดช่วงตรุษจีนน่ะค่ะ) เราก็ชะลอรถ พยายามจะขับรถหลบ
คนที่กวาดก็ดันเดินกวาดแบบไม่สนใจแถมเดินมาตัดหน้ารถเราซะอย่างนั้น เราก็ขับเบี่ยงไปอีก ก็มีอีกคนตรงเข้าหารถเราอีก
ตอนนั้นรำคาญจนอยากจะขับรถตัวเองชนกำแพงสักตูมเลยค่ะ ไม่ได้อยากตาย แต่ร่างกายอยากปะทะจริงๆ
พยายามเรียกสติตัวเองกลับมาแล้วโทรขอให้คนที่บ้านมาขับรถให้น่ะค่ะ เพราะตอนนั้นรู้เลยว่าเราขับรถเองไม่ได้แน่ๆ
เพราะแบบนี้ล่ะค่ะเลยไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง ความเครียดของเราเกิดจากพฤติกรรมของเด็กๆ
จะมองข้ามก็รู้สึกไม่ดีในฐานะครู แต่ถ้ายังใส่ใจเราจะต้องแย่แน่ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นล่วงหน้าและขอโทษที่รบกวนเวลาทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
ถ้าเราพิมพ์ไม่รู้เรื่องก็ขอโทษด้วยนะคะ เพราะนี่ก็เพิ่งจะน็อตหลุดกับเด็กมาเหมือนกัน...ขอโทษค่ะ