[CR] See Angkor Wat and Die : นครวัด นครธม 3วัน2คืน


ทำไมต้อง See Angkor Wat and Die ?

หลังจากที่อัพรูปทริปนครวัดในเฟสบุ๊คโดยใช้วลีนี้เป็นชื่ออัลบั้ม ก็มีเพือนๆมาถามว่า ทำไมต้อง See Angkor Wat and Die หรอ ซึ่งจริงๆแล้ววลีนี้น่าจะพอเป็นที่คุ้นหูของหลายๆคนอยู่บ้างนะคะ วลีอมตะนี้เป็นของ อาร์โนลด์ เจ. ทอยน์บี  (Arnold Joseph Toynbee)
นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษที่ได้เดินทางมาชมความยิ่งใหญ่ของนครวัดในปี พ.ศ. 2499 พร้อมกับภรรยา โดยใช้เวลาในการชม 4 วัน (ที่มา : FB คุณTeeraparb Lohitkun)  ซึ่งพอคุณอาร์โนลด์ได้มาเยือนแล้วก็เขียนหนังสือ ก็เลยทำให้นครวัดเป็นที่รู้จัก คนน่าจะสงสัยกันว่า โห!ขนาดนั้นเลยหรอ วลีนี้เลยช่วยดึงดูดคนจำนวนไม่น้อยให้มุ่งหน้ามาสู่ดินแดนแห่งนี้ ซึ่งพวกเราก็คือหนึ่งในนั้นค่ะ

พี่ทาย พี่คนนึงในแก็งค์ที่มาด้วยกันเริ่มต้นชวนเพื่อนๆด้วยวลีเด็ด  “ See Angkor Wat and Die นะเว้ยยย” จนในที่สุดการเดินทางสู่ดินแดนมรดกโลกก็เริ่มต้นขึ้น




รูปนครวัดจากกล้องฟิล์มในกระทู้นี้ทั้งหมดโดยพี่พ้ง


Angkor is coming


เรารวมสมาชิกกันได้ 6 คน และตั้งหลักโดยเริ่มจากการจองที่พักและรถค่ะ การจองไปล่วงหน้าทำให้เราแพลนเรื่องการแลกเงินได้ดีเลยค่ะ
(เสียมราฐใช้เงิน usd  จะสะดวกหน่อย แนะนำให้แลกเป็นแบงค์ย่อยไปนะคะ เราแลกที่ Twelve ประดิพัทธ์20ค่ะ)

พักที่ไหนดี ?
เราดูรีวิวกันอยู่หลายที่ค่ะ แต่ในที่สุดก็มาตัดสินใจเลือกที่ Villa Medamrai  โดยจองผ่าน Agoda  เราชอบทำเลที่เดินไป Pup Street ได้เลย ห้องพักสะอาด สบาย พนักงานบริการที่มาก ให้คำแนะนำที่ดี ดูแลดี ตกแต่งสวยดีค่ะ ไม่รู้เรียกแนวอะไรแต่ประมาณในรูป ฮ่าๆ ละก็ Welcome Drink เนี่ย ดีมาก เป็นน้ำอะไรไม่รู้แต่อร่อย รีบกินเลยถ่ายรูปไม่ทัน  ดีนี่เป็น Hotel เล็กๆที่มีจุดขายหลายๆอย่างให้ทุกคนประทับใจ แต่ก็อย่างว่า เรามักประทับใจกันด้วยเรื่องเล็กๆอยู่แล้ว ^^


การเดินทางยังไงหรอ?
เราเลือกทางรถค่ะ เพราะว่าตั๋วเครื่องบินแพงเกิบงบ ฮ่าๆ อาจจะดูเหมือนไกล แต่จริงๆนั่งหลับแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ ^^
1.    การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปด่านปอยเปต อรัญประเทศ (ทั้งขาไป-ขากลับ)
เราใช้บริการรถบัสของเฮงเฮงทัวร์ ขาไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยสภรภูมิ รถออก 4.45 น. แต่ว่า รถนี้เป็นรถบ่อน ก็คือรถที่จะพานักเล่นไปเล่นบ่อนถูกกฎหมายในฝั่งกัมพูชา ดังนั้น รถก็จะวนรับคนแทบทั่วกรุงเทพ คนส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนสูงวัย ทำให้ใช้เวลาเดินทางนานหน่อย และรถก็แอบเก่านิดนึง ถ้าสนใจลอง serah หาดูได้ค่ะ มีหลายเจ้าให้บริการ
ส่วนขากลับ เราก็ใช้เจ้าเดิมนี่แหละ โทรจองได้ แต่ว่า ถ้าจองก็ถามนิดนึงว่ามีที่ชั้นบนว่างรึเปล่า เพราะว่าถ้าต้องนั่งชั้นล่างจะอึดอัดมากค่ะ
2.    การเดินทางจากด่านปอยเปตเข้าไปเสียมราฐ
จากที่อ่านรีวิวมา จากเดินทางโดยแท็กซี่จะประหยัดที่สุด แต่จะนั่งได้คันละ 3 คน ดังนั้นพวกเราไปกัน 6 คน ก็เลยเลือกรถ Van ค่ะ จะได้ไม่ต้องแยกกัน : ) รถVanที่นี่จะเล็กกว่ารถตู้บ้านเรา มีเบาะนั่งได้ 3แถว แถวละ 2คนกำลังพอดีๆ ส่วนแถวหลังเค้าจะพับใช้วางกระเป๋าค่ะ
เราจองรถVanไว้ล่วงหน้า โดยติดต่อผ่าน พี่Paul (Line ID : Sokpau) ซึ่งเราอ่านเจอมาจากพันทิปนี่แหละ มีคนมาแนะนำไว้ พี่เค้าเป็นคนขับรถตุ๊กตุ๊ก เราตั้งใจจะจองคิวเค้าให้พาเที่ยวในเสียมเรียฐ แต่คุยไปคุยมา วันที่เราไปเค้าไม่ว่าง เค้าก็เลยจะหาคนให้ แล้วบังเอิญเราลองถามว่าพอมีรถ vanแนะนำมั้ย พี่Paul ก็เลยบอกว่า ชัวร์ เค้าช่วยได้  สุดท้ายเราก็ได้รถ Van รับส่งจากปอยเปตไปเสียมราฐในราคา 2 เที่ยว วันไปและวันกลับในราคา 155 usd  แก็งค์ไหนที่ชอบแพลนอะไรไปล่วงหน้าแบบเรา ถ้าอยากจองรถไว้ก่อนไม่ไปหาเอาดาบหน้าที่ด่าน เราแนะนำเลยค่ะ รถและคนขับโอเค ไม่ยุ่งกับเราเยอะ รถก็แอร์เย็น อันนี้สำคัญมาก เพราะบางคนเคยไปแล้วเจอรถแอร์เสีย แต่คิดราคาปกติ W_W
3.    การเดินทางในเสียมราฐ

ที่มาของการเขียนกระทู้นี้คือความประทับใจที่เรามีต่อพี่คนขับรถตุ๊กตุ๊กพาเที่ยว จนอยากจะบอกต่อ อยากให้คนที่จะไปเที่ยวได้ใช้บริการและได้ความประทับใจแบบพวกเรา  การเดินทางในเสียมราฐ 3 วัน  พี่คนขับทำหน้าที่เหมือนไกด์เล็กๆที่คอยแนะนำ พูดคุยเล่านู่นนี่ให้เราฟัง จนเรารู้สึกว่า เฮ้ยยยย คนขับต้องแบบนี้ น่ารัก คุยไปคุยมาก็เลยรู้ว่า พี่เค้าเคยมาทำงานที่ไทยค่ะ พูดไทยได้คล่องเลยแหละ เรารู้สึกว่าเค้าทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีมาก เตือนพวกเราว่าอย่าลืมพาสปอร์ตนะ กลัวพวกเราหลงทางเวลาเข้าปราสาท เตรียมน้ำเย็นให้กินบนรถ แนะนำร้านของกินให้ ชวนคุย อยากไปไหนก็พาไป กลับช้าก็ไม่บ่น ใครจะไปเราแนะนำเลยค่ะ เราสัญญากับพี่คนนี้ไว้ว่า ถ้าเรากลับมาไทย เราจะเขียนรีวิวให้นะ เค้าก็บอกว่า ช่วยเขียนในที ในทิปๆอะไรนะที่คนไทยของอ่าน เราก็บอก พันทิปๆ เค้าก็แบบใช่ๆ คือเค้าบอกว่า ตอนนี้คนไทยที่มา ก็เริ่มนิยมติดต่อรถไว้ล่วงหน้าค่ะ ละส่วนใหญ่ก็บอกว่ามาจากในพันทิปจากที่พีคุยกับเพื่อนกัมพูชาด้วยกัน แต่ของพี่เค้าเนี่ยคงยังไม่มีคนเขียนถึงมั้ง เรากับพี่ที่ไปด้วยกัน ก็เลยรับปากไปว่า ได้เลย นี่ก็เหมือนสัญญาใจค่ะ ถ้าเราเขียนเสร็จ ก็กะว่าจะส่งให้เค้าอ่าน ^^  เล่ามาซะยาว ขอฝาก QR code ของพี่คนขับไว้นะคะ ชื่อพี่บิน แอดLineไปได้เลย ประทับใจแน่นอนค่ะ

อ่อ! ส่วนเรื่องราคารถตุ๊กตุ๊ก  เราใช้ 2 คัน ราคารวม 3 วัน 150 usd ค่ะ
แต่ราคานี้ เป็นราคาที่เราตกลงผ่านพี่Paul นะคะ  ดังนั้นถ้าใครจะไป ลองติดต่อผ่านพี่บินดูได้โดยตรงค่ะ พี่Paul คิวเยอะ แกมาต้อนรับพวกเราที่ที่พักนะคะ ละก็บอกว่าขอโทษด้วยที่ไม่ได้พาเที่ยวเอง ^^
-    สรุปว่า รถVan ติดต่อผ่านพี่Paul ได้
-    รถตุ๊กตุ๊ก ติดต่อพี่บินถ้าอยากได้พี่บินพาเที่ยว หรือหากพี่บินไม่ว่าง ติดต่อพี่Paul ได้ค่ะ

ของกินเป็นยังไงบ้าง?
แน่นอนค่ะว่า เรื่องกินคือเรื่องใหญ่ไม่แพ้เรื่องใดในโลก ที่เสียมราฐไม่ทำให้เราผิดหวังแน่นอน แหล่งของกินร้านอาหาร ร้านเบียร์ น้ำผลไม้ มินิมาร์ท รวมกันอยู่ในย่าน Pub Street ซึ่งจัดเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกที่หมดแรงจากการเที่ยวปราสาทตอนกลางวัน ได้มาเพิ่มพลังและทำความรู้จักกับเสียมราฐในอีกมุมนึงซึ่งต่างจากโซนปราสาทมากทีเดียว ใครที่มาห้ามพลาดนะคะ ลองมาสัมผัสแสงสียามค่ำคืนดู ได้บรรยากาศชิลๆไปอีกแบบ
ร้านอาหารมีให้เลือกเยอะเลยค่ะ   จะอาหารพื้นเมือง อาหารไทย อาหารฝรั่ง เต็มไปหมด แต่ที่เยอะและดูนิยมที่สุดก็คงเป็นบาร์บีคิว  ราคาอาหารส่วนใหญ่อยู่ที่ระหว่าง 3usdขึ้นไป อาหารจะแพงกว่าที่ไทยนิดหน่อย น้ำด้วย แต่ก็ถือว่าไม่ได้โหดมาก
ส่วนขาดื่ม ถ้าไปถึงเสียมราฐแล้ว แนะนำให้ลอง Anchor Beer ค่ะ รสชาติเบาๆ นั่งดื่มได้ชิลๆ ถ้าร้านนั่งชิล เราแนะนำร้านที่เราไปละกัน คือ Temple Bakery  บรรยากาศดี มีwifi กับอีกร้านอยู่ข้างๆกัน มีชั้น 2 มุมopen air ให้นั่ง เสียดายจำชื่อไม่ได้ ร้านนี้เราไปกินมื้อเย็น สปาเก็ตตี้คาโบนาร่ากับพิซซ่าจัดว่าอร่อยเลย ละก็พี่ที่ไปด้วยลองกินเบอร์เกอร์เนื้อจระเข้ที่ดูเป็นของต้องลองของที่นี่ ก็บอกว่าอร่อยค่ะ ใครสนใจก็ลองไปตามหาดู หน้าร้านจะมีป้ายเบอร์เกอร์จระเข้โดดเด่นมาก ^^

เบอร์เกอร์จระเข้ เบียร์ และอื่นๆ

ส่วนอาหารของเสียมราฐ แนะนำให้ลอง บาเกต  บะหมี่ผัด ลูกชิ้นทอดที่ขายตามรถเข็นดูค่ะ เราว่าอร่อยดีนะ ไปบ้านเค้าได้ลองชิมอะไรที่เป็นของเค้าก็รู้สึกเหมือนเอออ เรามาถึงแล้ว  แต่เสียดายที่อาหารที่ว่ามานี้ เป็นการลองกินตอนหิวโซทั้งนั้น เลยไม่ได้หยิบกล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้เลยค่ะ ไม่ทันจริงๆ ^^

See Angkor Wat
ส่วนนี้ เราจะขอเล่าการเที่ยวนครวัดในเวลา 3 วันของเรากันนะคะ อะไรที่เป็น Don't miss! พวกเราเก็บหมดค่ะ  

Day 1 : 16 ก.ค. 59
ออกจากกรุงเทพตีห้า ถึงด่านประมาณ 10 โมง กว่าจะต่อคิวตรวจพาสปอร์ตนู่นนี่ก็ได้ก้าวขาข้ามไปฝั่งกัมพูชาประมาณ 11 โมง เข้าไปถึงเสียมราฐตอน 15.00 น. เช็คอินที่พัก เข้ากระเป๋าเก็บ รถตุ๊กตุ๊กมารอรับพวกเราไปจุดแรก คือ จุดซื้อตั๋วเข้านครวัดค่ะ  

ซื้อตั๋วกี่วันดี ?
ตั๋วเข้านครวัด หรือ Angkor Pass มีให้เลือกหลายแบบนะคะ แล้วแต่นักท่องเที่ยวว่าอยากอยู่กี่วัน
สำหรับแก็งค์เราตัดสินใจซื้อแบบ 3 วัน ในราคา 40 usd  เพราะแพลนว่าเราอยากจะดูให้ครบและไม่อัดจนเกินไป ก็เลยซื้อ3วัน กะให้หลวมๆ ไม่ต้องรีบเดินจนเกินไปค่ะ  อ่อ! ตอนซื้อเนี่ย จะมีถ่ายรูปเราลงไปในตั๋วด้วยนะคะ ถ้าอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ยิ้มสวยๆนะคะตอนถ่าย อีกอย่างตั๋วห้ามหายนะคะ ต้องพกตลอด เพราะว่าตามปราสาทต่างๆก็จะมีจุดตรวจตลอดค่ะ ^^ ( การเลือกซื้อตั๋วว่าจะซื้อแบบ 1 วัน 3 วัน เราว่าแล้วแต่สไตล์การเที่ยวเลยค่ะ มันไม่มีกฎตายตัว ชอบเที่ยวแบบไหนเลือกได้เลย คำนวณเวลากันดีๆค่ะ   )

ตั๋วพร้อม !

พอซื้อตั๋วเสร็จ แน่นอนค่ะ วันนี้เรายังไม่ได้ทานข้าวกันเลยซักมื้อ ด้วยความที่ตอนเย็นเราตั้งใจจะได้ดูพระอาทิตย์ตกกัน ดังนั้นเราจึงมีเวลาไม่มากในการชมนครวัดสำหรับวันแรก ดังนั้นเราเลยได้แวะทานข้าวที่นครวัดก่อน ร้านก็เป็นเหมือนร้านอาหารตามสั่งบ้านเรานี่แหละค่ะ เราสั่งข้าวผัดกันมาเพือความง่ายและเดาว่าน่าจะถูกปากที่สุด ส่วนบรรยากาศก็ใช้ได้เลยค่ะ ริมน้ำตามในรูปเลย : )

Don’t miss : ดูพระอาทิตย์ตกที่ Phnom Bakheng (ปราสาทพนมบาเค็ง)
ความตั้งใจแรกของพวกเราในการเที่ยววันที่ 1 นี้ก็คือ การดูพระอาทิตย์ตกที่ปราสาทพนมบาเค็งที่ใครๆต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยมาก ต้องมาให้ได้นะ และแน่นอนค่ะ เรามา
เราออกจากนครวัด 16.30 น. ใช้เวลาไม่นานก็ถึงพนมบาเค็ง  ซึ่งเราต้องเดินขึ้นไปบนปราสาทระยะทางประมาณ 1ก.ม.  ระหว่างทางวิวสวยดีค่ะ มีจุดให้พักขาเป็นระยะ ทางเดินก็เป็นลูกรังนิดหน่อย ชันบ้าง แต่ก็เดินได้สบายๆค่ะ ถ้าไม่นับว่าเหนื่อย ฮ่าๆ


พอเดินขึ้นไปถึง ไม่ใช่ว่าจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์บนยอดปราสาทได้เลยนะคะ เราต้องต่อคิวที่จะขึ้นไปอีก เพราะถ้าคนขึ้นไปอยู่บนนั้นเยอะๆ อาจจะอันตรายเกินไป เพราะต่างคนน่าจะเบียดกันเพื่อถ่ายรูปสวยๆ
แก็งค์เรายืนต่อคิวอยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ คนเยอะมาก เรามีท้อบ้าง เพราะกลัวว่ากว่าจะได้ขึ้นไปพระอาทิตย์จะไม่รอเราแล้ว ระหว่างรอก็มีนักท่องเที่ยวบางคนถอดใจ หรือบางคนไปโวยวายกับเจ้าหน้าที่ก็มีค่ะ ใครจะไปก็ต้องใจเย็นๆหน่อยนะคะ แล้วก็เตรียมใจไว้เลย เราไม่รู้เลยว่ารอบที่เราได้ขึ้นไปจะได้เห็นพระอาทิตย์หน้าตาเป็นยังไง ถ้าขึ้นไปแล้วอยู่นาน ก็เห็นใจคนข้างล่างที่รอคิว เรื่องแบบนี้คงแล้วแต่จังหวะจริงๆ
ส่วนแก็งค์เรา คิดว่าได้ขึ้นเป็นเป็นรอบสุดท้ายที่ทันดูพระอาทิตย์ตกค่ะ ขึ้นไปแล้วได้เห็นแสงสวยสมคำรำลือจริงๆ หายเหนื่อยเลย ถือว่าภารกิจแรกสำเร็จ ^^
แสงสุดท้ายที่รอคอย สวยมากๆ


ส่วนตอนเย็นวันแรกเราก็เดินจากที่พักมาทานข้าวเย็นและนั่งชิลๆกินเบียร์กันที่ Pub street ค่ะ ด้วยความที่วันพรุ่งนี้เราจะต้องตื่นเช้ามาก
คืนนี้ก็เลยตกลงกันว่าเราจะไม่ดึกกันมาก เพื่อเก็บแรงไว้ลุยในวันต่อไปที่น่าจะหนักแน่นอน ^^
ชื่อสินค้า:   นครวัด , นครธม , เสียมเรียบ , กัมพูชา, ตุ๊กตุ๊กเสียมเรียบ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บันทึกนักเดินทาง ประเทศกัมพูชา เที่ยวต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่