ช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษาห้าวันที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเดินป่าที่ลาวใต้มาค่ะ เริ่มเลยละกัน
วันแรกของการเดินทาง
เริ่มต้นการเดินทางโดยการข้ามด่านผ่านแดนที่ช่องเม็ก > ปากเซ > ปากซอง> บ้านหนองหลวง เรานั่งรถตู้จากช่องเม็กไปถึงบ้านหนองหลวงเลย ทางระหว่างปากเซไปบ้านหนองหลวงนั้นเป็นทางที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ พอรถเลี้ยวเข้าทางแยกบ้านหนองหลวงได้ซักพัก จู่ๆรถก็ดับแล้วคนขับรถรีบวิ่งออกจากรถไป ควันเต็มรถไปหมด ต่างคนต่างรีบเอาชีวิตรอดรีบวิ่งออกมาจากรถอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นตกใจมาก นึกว่ารถจะไหม้แล้ว สรุปคือ เทอร์โบเสีย รถไปต่อไม่ได้ จึงให้รถกระบะจากหมู่บ้านมารับต่อ .....เป็นการเปิดทริปได้น่าตื่นเต้นมากกกกกก
เราถึงบ้านหนองหลวงประมาณบ่ายสองโมง คืนแรกเราจะนอนพักที่โฮมสเตย์ที่นี่ จึงถือโอกาสเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านอากาศเย็นชื้นทั้งปี หน้าฝนยังเย็นขนาดนี้ หน้าหนาวจะเย็นขนาดไหน
หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยต้นกาแฟ อาชีพหลักๆของคนที่นี่คือปลูกกาแฟ
บ้านแต่ละหลังจะมีดอกไม้สวยๆปลูกประดับหน้าบ้าน สวยดี
เด็กๆที่หมู่บ้านนี้ก็เยอะเช่นกัน
เดินๆไปก็สะดุดกับการละเล่นของเด็กๆที่นี่ ทำให้นึกถึงวัยเด็กของตัวเองขึ้นมา(บ่งบอกมากว่าเป็นเด็กบ้านนอก) คือเล่นโยนรองเท้าใส่หนังยาง ให้หนังยางที่กองๆอยู่แตกของจากกัน (แต่ที่เราเคยเล่นตอนเด็กๆนั้น โยนรองเท้าใส่กันเลยจ้า ใครโดนรองเท้าฟาดก็ต้องออกจากการแข่งขันไป แก่มากเด็กสมัยนี้คงไม่เล่นแบบนี้กันแล้ว)
โฮมสเตย์ที่เราจะนอนกันในคืนนี้
-------------------------------------
วันที่สองของการเดินทาง
เป็นวันแรกที่เริ่มเดินทางด้วยเท้าหลังจากกินอิ่มนอนหลับพักอย่างเต็มที่ เริ่มเดินเท้ากันตั้งแต่หมู่บ้านกันเลยทีเดียว ทางเดินช่วงแรกเป็นทางราบ ขึ้นลงเนินเล็กน้อย อ้อ เส้นทางนี้ขึ้นชื่อว่าทากเยอะ นี่ก็เตรียมกันทากอย่างเต็มที่ ปรากฏว่าปีนี้ฝนน้อย แดดเยอะ ทากไม่ค่อยมี สรุปว่าทั้งทริปและทั้งกรุ๊ปนี้เจอทากไปหนึ่งตัว(ตัวเดียวก็ร้องลั่นป่าแล้วค่าาา) คนที่โดนคือเราเอง แต่ยังไม่ทันได้โดนกัด มันกำลังไต่ขึ้นรองเท้า สยองงงง
เดินไปได้ซักพักก็ถึงทางเข้า มีประตูต้อนรับด้วย
แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์ต้นไม้
จุดหมายวันนี้คือตาดตาเก็ด ช่วงทางเดินหลังจากนี้เป็นทางเดินลงเขา ซึ่งเราไม่สามารถเอากล้องมาห้อยคอไว้ได้ ทางเดินลงแบบชันๆลื่นๆ บางช่วงต้องใช้ตูดสไลด์มุดลอดใต้ลำไผ่ที่ล้มขวางทางไปอย่างทุลักทุเล ถุงกันทากที่ใส่จึงได้มากลายเป็นถุงกันเปื้อนแทน
ระหว่างทางจะได้ยินเสียงน้ำตกตลอดทาง แต่ไม่รู้ว่าน้ำตกอยู่ไหน เดินผ่านลำธารเล็กๆ และน้ำตกเล็ก ๆ หลายๆสาย
ก่อนจะถึงแคมป์แรกของคืนนี้ เราต้องเดินข้ามลำธารนี้ไป มีลูกหาบคอยช่วยประคอง พอถึงแคมป์วางของแล้วพักกินข้าวเที่ยง
หลังกินข้าวเที่ยงเราจะเดิมข้ามลำธารเดิม แต่ไต่ผ่านสลิง หลังจากนั้นเดินขึ้นเขาแบบชันดิ่ง ขึ้นไปน้ำตกตาดตาเก็ด เหนื่อยโฮกกกกก
ถึงแล้วตาดตาเก็ด น้ำแรงมากกก ละอองน้ำกระเด็นมาใส่จนตัวเปียกกันเลยทีเดียว
บางปีถ้าน้ำหลากก็ขึ้นมาตาดตาเก็ดไม่ได้ เพราะมีดินไสด์ นี่ถือว่าโชคดีที่มาได้ ไกด์บอกว่าลงไปถ่ายรูปข้างล่างน้ำตกจะได้วิวสวยกว่านี้ ให้เดินข้ามน้ำตกไป ทีแรกว่าจะไม่ไปแล้ว น้ำแรงมาก กลัวโดนพัดไหลไปตกน้ำโขง บอกเลยว่า ณ จุดๆนั้นกลัวตายมาก แต่ไกด์ก็พาข้ามมาได้ สิ่งที่ได้เห็นคือสวยมากกกกกกกกกกกกก ถ้าไม่ข้ามมาคงต้องเสียดายมากแน่ๆ
หลังจากนั้นก็เดินลงเขาทางเดิมกลับแคมป์ ก่อนจะถึงแคมป์ไกด์พาแวะเล่นน้ำ น้ำเย็นได้อีก คนอื่นก็เล่นไป เราขอนั่งพักยัดขนมกับลูกอมและเกลือแร่ หมดแรงแทบเป็นลม
แคมป์เราตั้งอยู่ริมลำธาร สะดวกดี มีที่ให้อาบน้ำใกล้ๆ ตอนกลางคืนฝนตก เต๊นไหนไม่ได้อยู่ใต้ผ้ากันฝนก็เปียกกันไปตามระเบียบ ถึงกับต้องใส่ชุดกันฝนนอนกันเลยทีเดียว ไกด์ต้องคอยเอาไฟฉายมาส่องลำธารเป็นระยะๆ ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อไหร่ ต้องรีบอพยพทันที
แล้วก็ผ่านคืนแรกไปด้วยดี เสื้อผ้าที่ตากไว้ก็เปียกไปตามระเบียบ นั่นหมายความว่าวันนี้ต้องใส่เสื้อผ้าเปียกๆเดิน (เราพกเสื้อผ้าไปสองชุด คือใส่นอนกับใส่เดิน)
---------------------------------
วันที่สามของการเดินทาง
เป็นวันที่สองของการเดินป่า จุดหมายวันนี้คือตาดเสือ/ตาดขมึด และ ด่านหนองหลวง หลังกินข้าวเสร็จ ก็ออกเดินทางต่อ เป็นทางขึ้นเขา(อีกแล้ว) แต่เดินไม่ยากเหมือนเมื่อวาน ไม่นานก็ถึงแล้วตาดขมึด
ตรงนี้มีที่ให้นั่งพัก มีบ้านต้นไม้ สำหรับคนที่ซื้อทัวร์มาเล่น zip-line มีทางเดินไปดูน้ำตก มีห้องน้ำและน้ำที่กรองแล้วให้รอง
มีแมวสามตัวมานอนอาบแดด
ตาดขมึดแบบใกล้ๆ
ด้านขวามือของตาดขมึดคือตาดเสือ
อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน (ซ้ายตาดขมึด ขวาตาดเสือ)
หลังชมน้ำตกจนตัวเปียกก็นั่งพักกินข้าวเที่ยงกันที่นี่ ต้องเดินทางต่อไป เดินขึ้นเขา(อีกแล้ว)เพื่อไปยังด่านหนองหลวง ทางเดินบางช่วงต้องไต่ขึ้นบันได เดินข้ามโขดหินยกขาแทบจะไม่ขึ้นแล้วตอนนั้น บางช่วงฝนก็ตก เปียกๆลื่นๆ เหนื่อยแทบขาดใจ อยากจะหยุดเดินไม่อยากไปต่อแล้ว
สะพานแขวนด้านบนของตาดเสือ
หลังจากรวบรวมแรงสุดท้ายที่มีในที่สุดก็ขึ้นมาถึงด่านหนองหลวง ซึ่งเป็นที่ราบคล้ายๆหลังแปที่ภูกระดึงบ้านเรา เป็นลานหิน ที่มีทุ่งหญ้าและดอกเปราะภูสีชมพู
นอกจากมีดอกเปราะภูยังมีดอกหญ้าข้าวกล่ำ
ดอกหงอนนาค
และหม้อข้าวหม้อแกงลิง
และมีจุดชมวิว ที่เห็นไกลๆคือแม่น้ำโขง
และ..ตรงจุดนี้เป็นเหมือนบทสรุปของของการเดินทางทั้งหมด เราสามารถมองเห็นน้ำตกทั้งหมดที่เราเดินผ่านมา ที่เห็นไกลๆนั่นคือตาดตาเก็ด ที่เมื่อวานเราไปยืนอยู่ข้างล่างนั้นมาแล้ว
ซูมเข้าไปใกล้ๆอีก
อันนี้ตาดขมึด
ตาดสักการะ (เราไม่ได้ไป)
และเสาอากาศนั้นคือบ้านหนองหลวง
มีลานสนด้วย
คืนที่สอง เราไม่ได้ตั้งแคมป์บนนี้ แคมป์อยู่ด้านล่างข้างริมธาร
ผู้นำทางของเรา เป็นทั้งลูกหาบและไกด์ ช่วยเหลือทุกอย่างได้อย่างดี
----------------------------
วันที่สี่ของการเดินทาง
วันสุดท้ายของการเดินทาง วันนี้เดินสบายมาก เดินทางราบ มีข้ามลำธาร ลุยโคลนบ้าง
หมอกลงตลอดทาง
มีผลไม้คล้ายๆราสเบอรี่ให้เก็บกิน เปรี้ยวๆหวานๆอร่อยดี ชาวบ้านเรียก หนามแก้ว
ถึงบ้านหนองหลวงโดยสวัสดิภาพ อาบน้ำอาบท่าแล้วเดินทางกลับ แวะกินข้าวเที่ยงที่ปากเซ
ขอปิดทริปด้วยรูปนี้ค่ะ
เดินป่าลาวใต้ที่ราบสูงโบโลเวน ตาดตาเก็ด-ตาดเสือ-ตาดขมึด-ด่านหนองหลวง
ช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษาห้าวันที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเดินป่าที่ลาวใต้มาค่ะ เริ่มเลยละกัน
วันแรกของการเดินทาง
เริ่มต้นการเดินทางโดยการข้ามด่านผ่านแดนที่ช่องเม็ก > ปากเซ > ปากซอง> บ้านหนองหลวง เรานั่งรถตู้จากช่องเม็กไปถึงบ้านหนองหลวงเลย ทางระหว่างปากเซไปบ้านหนองหลวงนั้นเป็นทางที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ พอรถเลี้ยวเข้าทางแยกบ้านหนองหลวงได้ซักพัก จู่ๆรถก็ดับแล้วคนขับรถรีบวิ่งออกจากรถไป ควันเต็มรถไปหมด ต่างคนต่างรีบเอาชีวิตรอดรีบวิ่งออกมาจากรถอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นตกใจมาก นึกว่ารถจะไหม้แล้ว สรุปคือ เทอร์โบเสีย รถไปต่อไม่ได้ จึงให้รถกระบะจากหมู่บ้านมารับต่อ .....เป็นการเปิดทริปได้น่าตื่นเต้นมากกกกกก
เราถึงบ้านหนองหลวงประมาณบ่ายสองโมง คืนแรกเราจะนอนพักที่โฮมสเตย์ที่นี่ จึงถือโอกาสเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านอากาศเย็นชื้นทั้งปี หน้าฝนยังเย็นขนาดนี้ หน้าหนาวจะเย็นขนาดไหน
หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยต้นกาแฟ อาชีพหลักๆของคนที่นี่คือปลูกกาแฟ
บ้านแต่ละหลังจะมีดอกไม้สวยๆปลูกประดับหน้าบ้าน สวยดี
เด็กๆที่หมู่บ้านนี้ก็เยอะเช่นกัน
เดินๆไปก็สะดุดกับการละเล่นของเด็กๆที่นี่ ทำให้นึกถึงวัยเด็กของตัวเองขึ้นมา(บ่งบอกมากว่าเป็นเด็กบ้านนอก) คือเล่นโยนรองเท้าใส่หนังยาง ให้หนังยางที่กองๆอยู่แตกของจากกัน (แต่ที่เราเคยเล่นตอนเด็กๆนั้น โยนรองเท้าใส่กันเลยจ้า ใครโดนรองเท้าฟาดก็ต้องออกจากการแข่งขันไป แก่มากเด็กสมัยนี้คงไม่เล่นแบบนี้กันแล้ว)
โฮมสเตย์ที่เราจะนอนกันในคืนนี้
-------------------------------------
วันที่สองของการเดินทาง
เป็นวันแรกที่เริ่มเดินทางด้วยเท้าหลังจากกินอิ่มนอนหลับพักอย่างเต็มที่ เริ่มเดินเท้ากันตั้งแต่หมู่บ้านกันเลยทีเดียว ทางเดินช่วงแรกเป็นทางราบ ขึ้นลงเนินเล็กน้อย อ้อ เส้นทางนี้ขึ้นชื่อว่าทากเยอะ นี่ก็เตรียมกันทากอย่างเต็มที่ ปรากฏว่าปีนี้ฝนน้อย แดดเยอะ ทากไม่ค่อยมี สรุปว่าทั้งทริปและทั้งกรุ๊ปนี้เจอทากไปหนึ่งตัว(ตัวเดียวก็ร้องลั่นป่าแล้วค่าาา) คนที่โดนคือเราเอง แต่ยังไม่ทันได้โดนกัด มันกำลังไต่ขึ้นรองเท้า สยองงงง
เดินไปได้ซักพักก็ถึงทางเข้า มีประตูต้อนรับด้วย
แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์ต้นไม้
จุดหมายวันนี้คือตาดตาเก็ด ช่วงทางเดินหลังจากนี้เป็นทางเดินลงเขา ซึ่งเราไม่สามารถเอากล้องมาห้อยคอไว้ได้ ทางเดินลงแบบชันๆลื่นๆ บางช่วงต้องใช้ตูดสไลด์มุดลอดใต้ลำไผ่ที่ล้มขวางทางไปอย่างทุลักทุเล ถุงกันทากที่ใส่จึงได้มากลายเป็นถุงกันเปื้อนแทน
ระหว่างทางจะได้ยินเสียงน้ำตกตลอดทาง แต่ไม่รู้ว่าน้ำตกอยู่ไหน เดินผ่านลำธารเล็กๆ และน้ำตกเล็ก ๆ หลายๆสาย
ก่อนจะถึงแคมป์แรกของคืนนี้ เราต้องเดินข้ามลำธารนี้ไป มีลูกหาบคอยช่วยประคอง พอถึงแคมป์วางของแล้วพักกินข้าวเที่ยง
หลังกินข้าวเที่ยงเราจะเดิมข้ามลำธารเดิม แต่ไต่ผ่านสลิง หลังจากนั้นเดินขึ้นเขาแบบชันดิ่ง ขึ้นไปน้ำตกตาดตาเก็ด เหนื่อยโฮกกกกก
ถึงแล้วตาดตาเก็ด น้ำแรงมากกก ละอองน้ำกระเด็นมาใส่จนตัวเปียกกันเลยทีเดียว
บางปีถ้าน้ำหลากก็ขึ้นมาตาดตาเก็ดไม่ได้ เพราะมีดินไสด์ นี่ถือว่าโชคดีที่มาได้ ไกด์บอกว่าลงไปถ่ายรูปข้างล่างน้ำตกจะได้วิวสวยกว่านี้ ให้เดินข้ามน้ำตกไป ทีแรกว่าจะไม่ไปแล้ว น้ำแรงมาก กลัวโดนพัดไหลไปตกน้ำโขง บอกเลยว่า ณ จุดๆนั้นกลัวตายมาก แต่ไกด์ก็พาข้ามมาได้ สิ่งที่ได้เห็นคือสวยมากกกกกกกกกกกกก ถ้าไม่ข้ามมาคงต้องเสียดายมากแน่ๆ
หลังจากนั้นก็เดินลงเขาทางเดิมกลับแคมป์ ก่อนจะถึงแคมป์ไกด์พาแวะเล่นน้ำ น้ำเย็นได้อีก คนอื่นก็เล่นไป เราขอนั่งพักยัดขนมกับลูกอมและเกลือแร่ หมดแรงแทบเป็นลม
แคมป์เราตั้งอยู่ริมลำธาร สะดวกดี มีที่ให้อาบน้ำใกล้ๆ ตอนกลางคืนฝนตก เต๊นไหนไม่ได้อยู่ใต้ผ้ากันฝนก็เปียกกันไปตามระเบียบ ถึงกับต้องใส่ชุดกันฝนนอนกันเลยทีเดียว ไกด์ต้องคอยเอาไฟฉายมาส่องลำธารเป็นระยะๆ ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อไหร่ ต้องรีบอพยพทันที
แล้วก็ผ่านคืนแรกไปด้วยดี เสื้อผ้าที่ตากไว้ก็เปียกไปตามระเบียบ นั่นหมายความว่าวันนี้ต้องใส่เสื้อผ้าเปียกๆเดิน (เราพกเสื้อผ้าไปสองชุด คือใส่นอนกับใส่เดิน)
---------------------------------
วันที่สามของการเดินทาง
เป็นวันที่สองของการเดินป่า จุดหมายวันนี้คือตาดเสือ/ตาดขมึด และ ด่านหนองหลวง หลังกินข้าวเสร็จ ก็ออกเดินทางต่อ เป็นทางขึ้นเขา(อีกแล้ว) แต่เดินไม่ยากเหมือนเมื่อวาน ไม่นานก็ถึงแล้วตาดขมึด
ตรงนี้มีที่ให้นั่งพัก มีบ้านต้นไม้ สำหรับคนที่ซื้อทัวร์มาเล่น zip-line มีทางเดินไปดูน้ำตก มีห้องน้ำและน้ำที่กรองแล้วให้รอง
มีแมวสามตัวมานอนอาบแดด
ตาดขมึดแบบใกล้ๆ
ด้านขวามือของตาดขมึดคือตาดเสือ
อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน (ซ้ายตาดขมึด ขวาตาดเสือ)
หลังชมน้ำตกจนตัวเปียกก็นั่งพักกินข้าวเที่ยงกันที่นี่ ต้องเดินทางต่อไป เดินขึ้นเขา(อีกแล้ว)เพื่อไปยังด่านหนองหลวง ทางเดินบางช่วงต้องไต่ขึ้นบันได เดินข้ามโขดหินยกขาแทบจะไม่ขึ้นแล้วตอนนั้น บางช่วงฝนก็ตก เปียกๆลื่นๆ เหนื่อยแทบขาดใจ อยากจะหยุดเดินไม่อยากไปต่อแล้ว
สะพานแขวนด้านบนของตาดเสือ
หลังจากรวบรวมแรงสุดท้ายที่มีในที่สุดก็ขึ้นมาถึงด่านหนองหลวง ซึ่งเป็นที่ราบคล้ายๆหลังแปที่ภูกระดึงบ้านเรา เป็นลานหิน ที่มีทุ่งหญ้าและดอกเปราะภูสีชมพู
นอกจากมีดอกเปราะภูยังมีดอกหญ้าข้าวกล่ำ
ดอกหงอนนาค
และหม้อข้าวหม้อแกงลิง
และมีจุดชมวิว ที่เห็นไกลๆคือแม่น้ำโขง
และ..ตรงจุดนี้เป็นเหมือนบทสรุปของของการเดินทางทั้งหมด เราสามารถมองเห็นน้ำตกทั้งหมดที่เราเดินผ่านมา ที่เห็นไกลๆนั่นคือตาดตาเก็ด ที่เมื่อวานเราไปยืนอยู่ข้างล่างนั้นมาแล้ว
ซูมเข้าไปใกล้ๆอีก
อันนี้ตาดขมึด
ตาดสักการะ (เราไม่ได้ไป)
และเสาอากาศนั้นคือบ้านหนองหลวง
มีลานสนด้วย
คืนที่สอง เราไม่ได้ตั้งแคมป์บนนี้ แคมป์อยู่ด้านล่างข้างริมธาร
ผู้นำทางของเรา เป็นทั้งลูกหาบและไกด์ ช่วยเหลือทุกอย่างได้อย่างดี
----------------------------
วันที่สี่ของการเดินทาง
วันสุดท้ายของการเดินทาง วันนี้เดินสบายมาก เดินทางราบ มีข้ามลำธาร ลุยโคลนบ้าง
หมอกลงตลอดทาง
มีผลไม้คล้ายๆราสเบอรี่ให้เก็บกิน เปรี้ยวๆหวานๆอร่อยดี ชาวบ้านเรียก หนามแก้ว
ถึงบ้านหนองหลวงโดยสวัสดิภาพ อาบน้ำอาบท่าแล้วเดินทางกลับ แวะกินข้าวเที่ยงที่ปากเซ
ขอปิดทริปด้วยรูปนี้ค่ะ