ที่ว่าความรักแสบๆเพราะว่ามันคือ ความรักระหว่าง ญ กับ ญ แล้วต่างคนต่างก็มีแฟนเป็น ช อยู่แล้ว
เราจำได้ดีว่าในช่วงนั้นที่วิลัยกำลังจะมีการแข่งขันกีฬาสีและครั้งแรกที่เจอเธอคนนั้นมันเหมือนกับโลกหยุดหมุนไปเลย ทำให้เราเข้าใจถึงคำว่า Love at first sight
ถึงกับต้องหันไปถามเพื่อนผู้ ช 2 คนที่นั่งอยุ่ด้วยกัน ว่ารู้จักไหมว่าน้องผู้ ญ คนนั้นคือใคร....
(ตัวเราพึ่งย้ายมาเรียนที่นี่ได้2 เทอมวิลัยที่เราเรียนส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิงผู้ชายจะมีน้อยมากแล้วคณะที่เราเรียนก็เป็นคณะศิลป์จึงทำให้เรามีเพื่อนผู้ ช ที่มันเรียนที่นี่มาหลายเทอมรู้จักคนเยอะ )
ไอ่น๊อต,ไบร์ : รู้จัก ทำไหมหรอ ??
เรา : น้องเขาชื่ออะไร
ไอ่น๊อต : น้องเขาชื่อ "ไอซ์" เด็กบัญชีรุ่นน้องพวกเราปี1 น่ารักอะดิตอนนี้ก็เป็นลีดเดอร์ของสีชมพูอยู่
เรา : รู้ดีจังเน้อ
ไอ่ไบร์: ก็มันเคยตามจีบน้องเขาอยุ่พัก1แต่น้องเขาไม่สนมัน
เรา : น้องเขาน่ารักดี
ไอ่น๊อต: น้องเขาหยิ่งนะโว้ย ชอบหรอ?
ไบร์: มีแฟนแล้วด้วย...
พวกเราเรียนเกี่ยวกับคอมกราฟิก เพื่อนๆที่สนิทในกลุ่มของเราจะมีอยู่5คนทุกคนในกลุ่มจะรู้หมดว่าเราแอบปลื้มน้องคนนี้อยู่ รวมถึงอาจารย์ที่เราสนิทด้วยก็รู้โดยนิสัยของเด็ศิลป์และจะออกกวนๆนิดๆแล้วยิ่งอาจารย์ประจำแผนกวิชาพวกเรานี่ใช่ย่อยชอบพากันแซวน้องเขาส่วนตัวเราเวลาเจอน้องที่ไรใจเต้นแรงทุกที พอหลังจากเสร็จจากงานกีฬาสี อาจารย์ใหม่แกจะเป็นคนถ่ายรูปกิจกรรมภายในวิลัยทั้งหมดนั้นหมายความว่ามีรูปน้องไอซ์ด้วย และเด็กในวิลัยก็ชอบจะมาถาม อ.ใหม่ ถึงรูปที่ถ่ายในวันงานรวมถึงกลุ่มเพื่อนของน้องไอซ์
วันนี้ก็ดูจะเป็นวันปกติที่พวกเรากับเพื่อนนั่งทำงานที่ อใหม่สั่ง อยุ่ในห้องคอมพอ อใหม่ขึ้นห้องมาก็ทำเป็นคุยว่าเดียวจะมีเด็กบัญชีขึ้นมาเอารูปตัวเราก็เฉยนะ สักพักประตูห้องเปิดเหมือนมีคนมาคนแรกที่เห็นเราก็เฉยๆพอเห็นอีกคนมือที่อุ่นกับเย็นขึ้นมาทันทีหัวใจเต้นแรงมาก พวกเพื่อนในห้องบางคนก็นั่งทำงานบางคนก็แซวน้องที่กำลังจะเข้ามา
อใหม่: เข้ามาเรย อย่าไปสนใจไอ่พวกมัน
น้องๆก็เดินมาที่โต๊ะ อใหม่ ยืนรอเอารูปลงแฟลชไดร์ฟ ในช่วงเวลาที่ยืนรอรูปนั้น อ ใหม่ก็พูดขึ้นมาว่า
อ ใหม่: คนไหนชื่อ ไอซ์ (นี่ละค่ะอาจารย์เรา)
ไอซ์ : หนูค่ะ
อ ใหม่: ในห้องนี่มีคนชอบเรา
ไอซ์: ยิ้มแบบอายๆ
พอน้องเขาเดินออกจากห้องเพื่อนในกลุ่มเราก็พากันมาแซวเราว่าทำไมไม่เห็นพูดอะไรได้แต่นั่งเงียบ อ. เปิดทางให้ซะขนาดนั่น เราก็ยิ้มแบบอายๆเหมือนกัน
สักพักพวกเราก็พากันลงมากินข้าวเราก็บอกกับเพื่อนในกลุ่มเราว่าถ้าใครหาเบอร์โทรน้องมาได้จะให้ตัวละร้อย
ตอนนั้นเราก็ยังคบกับแฟนผู้ชายอยู่นะ เค้าชื่อบีเป็นรุ่นน้องเรา2ปีเรียนคนละที่แต่บ้านอยู่ไม่ไกลกัน และทุกเช้าเราต้องนั่งรถรับส่งมาเรียนรวมถึงแฟนเราด้วยแต่นั่งกันคนละคันส่วนมากจะเจอกันตอนเย็นไม่งั้นก็คุยกันทางโทรศัพท์ เจอกันเสาร์อาทิตย์ ก็คบกันปกติ เวลาเราอยู่บนรถรับส่งเราก็จะชอบแกล้งน้องที่เป็นผู้หญิงเล่นกับพวกผู้ชายนะ ดูเป็นคนอารมณ์ดีพวกรุ่นน้องชอบเล่นด้วย
2วันต่อมาจากที่เราบอกกับเพื่อนในกลุ่มเราไปว่าใครหาเบอร์น้องไอซ์มาได้จะให้ตัวละร้อย ก็มีคนเอามาจนได้เสียเงินให้เพื่อนไปเรยแต่ก็ดีใจมากที่ได้เบอร์มา วันนั้นกลับบ้านไปตกเย็นมามือก็ได้แต่จับโทรศัพท์กดเบอร์แล้วลบคือไม่รู้จะเริ่มไง555
แล้วเราก็ตัดสินใจโทรไปเพราะอยากคุยกับน้องเค้าจิงๆ
ไอซ์: โหลๆ ค่ะ โหลๆ ใครค่ะ
เรา: โหล ใช่ไอซ์ป่าว
ไอซ์: ใช่ค่ะแล้วใครพูดค่ะ มีอะไรป่าวค่ะ
เรา: ป่าว อยากคุยด้วย คุยได้ไหม
ไอซ์: แล้วชื่ออะไร เอาเบอร์ไอซ์มาจากไหน
เรา: ขอเพื่อนให้มา เราชื่อแพนด้า(คือตอนนั้นไม่กล้าบอกชื่อจิงๆนะเลยบอกไปแบบนี้) คุยด้วยได้ไหม
ไอซ์: ค่ะ คุยได้
ครั้งแรกที่โทรไปน้ำเสียงน้องเค้าจะว่าพูดดีเรยก็ไม่ใช่จะไม่ดีเรยก็ไม่ใช่ แต่ในความรู้สึกเราตอนนั้นมันดีใจอย่างบอกไม่ถูกจิงๆ พอน้องเขายอมคุยด้วยเราก็พยายามโทรหาน้องตลอดคุยไปเลื่อนๆโดยที่ไม่บอกว่าเราคือใคร ช่วงหลังๆน้องเริ่มคุยดีน้ำเสียง โทรคุยกันทุกวันตัวเราจะเห็นน้องเขาทุกวันที่เราไปเรียน
ตัวน้องเขาเองทุกเช้าแฟนน้องเขาจะมาที่หน้าวิลัย เราก็จะเห็นน้องเขานั่งคุยกับแฟนเขาประจำ ส่วนเรากับแฟนเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันยังคบกันปกติรักกันดี แฟนเราเขาก็น่ารัก ถือว่าหน้าตาหล่อเรยละ
เราคุยกับไอซ์ได้สักพักน้องเขาก็เริ่งสงสัยละว่าเราคือใคร(เอาจิงนะเราไม่ได้คิดจะเปิดเผยให้น้องรู้ว่าเราคือใครเลยไม่ได้บอกน้องเขากะจะให้มันเป็นนี้)และแล้วความลับก็ไม่มีในโลก คงเป็นเพราะเราชอบมีพิรุธด้วยละ ทุกเช้ารถรับส่งจะส่งเราที่หน้าวิลัยเรากับเพื่อนก็จะนั่งเล่นหน้าวิลัยก่อนยังไม่เข้า รอดูรถตู้คันที่น้องเขานั่งมา สักแปบรถก็มาจอดใกล้กับที่เรานั่งกับเพื่อนเรา เราก็ได้แต่มองน้องเขา จนน้องเขาเดินข้ามจะเข้าไปในวิลัย จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์ของเราดังขึ้นเป็นเบอร์ของน้อง เราจึงรีบรับด้วยความดีใจไม่ทันคิด
เราก็โหล แล้วน้องแกก็พูดขึ้นมาว่ารู้แล้วว่าพี่คือใคร...ด้วยความที่เราตกใจ!!! มากมือที่จับโทรศัพท์อยู่ก็เลื่อนลงมาข้างลำตัวเองโดยไม่รู้ตัว เรารีบหันไปดูที่หน้าวิลัยทันที กับพบกันรอยยิ้มพร้อมกับโบกมือให้เราเหมือนเป็นการทักทาย'' แล้วเธอก็หันหลังเดินเข้าไปในวิลัยต่อ
จากที่ไอซ์รู้แล้วว่าเราคือใคร ตัวน้องไอซ์เองถึงจะมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังมีคนตามจีบ มีคนซื้อขนมซื้อน้ำซื้อของให้ในกลุ่มของน้องไอซ์ก็จะมีเพื่อนอีกคนที่น่ารักๆ จึงทำให้สองคนนี้มีเด็กรุ่นบางรุ่นพี่บางเรียกชื่อแซวบางเวลาไปไหนมาไหนในวิลัย แล้วสองคนนี้ยังเป็นเด็กกิจกรรมอีกด้วย ที่ว่าจะไม่บอกให้น้องรู้ก็เพราะอย่างงี้แหละกลัวน้องเขาจะไม่ชอบเราเห็นมีคนมาชอบน้องตั้งเยอะ---คิดไปเองไง---แต่ก็ไม่มีอย่างที่คิดจร้าน้องเขากลับมาสนิทสนมกับเรามากขึ้น
ช่วงนั้นก็ใกล้งานวันลอยกระทงเราเรยถือโอกาสชวนไอซ์ไปเที่ยวงานลอยกระทงด้วย ช่วงเย็นไอซ์ต้องไปเดินถือป้ายที่งานลอยกระทงวันนั้นต้องมานอนหอเพื่อนไอซ์จึงบอกเราว่างั้นเจอกันที่งาน....ดีใจมากที่จะได้เที่ยวกับน้องครั้งแรก...วันนั้นเราก็ไปเที่ยวงานกับเพื่อน5คนเอารถไป2คันไปเจอน้องที่งานน้องสวยมากสวยจิงๆเพื่อนน้องก็สวยส่วนเราก็แต่ตัวเรียบร้อยเท่ๆนิด(เป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเท่ๆนะไม่หวานจร้า)ไปลอยกระทงด้วยกันเดินเที่ยวก่อนจะแยกกลับเราก็ถามน้องว่านอนไหนไอซ์นอนหอเพื่อนในเมืองเราก็บอกว่าก็นอนในเมืองหอเพื่อนพี่เหมือนกันไปเทียวเล่นหอเพื่อนพี่ไหมยังไม่ดึกมากไอซ์ก็ตอบว่าอืม เราก็มานั่งเล่นนั่งคุยกันต่อที่หอเพื่อนตอนนั้นก็มีเพื่อนเราอยูด้วยนะคือทุกคนขอบน้องด้วยละมาถึงห้องเพื่อนเราก็คุยกับน้องสนุกกันใหญ่แล้วเสียงโทรศัพท์น้องก็ดังขึ้นน้องบอกว่าแฟนโทรมาน้องเรยโกหกไปว่าอยู่กับเพื่อนของน้องที่หอแฟนไม่เชื่อจร้าอยากจะคุยกับเพื่อนของน้อง(แฟนไอซ์จะสนิทกับเพื่อนของไอซ์ทุกคน)นี่ละคือปัญหาไอซ์ต้องรีบกลับหอเพื่อวเพราะไม่อยากมีปัญหากับแฟน นี่คือต้นต่อที่ทำให้แฟนไอซ์ค่อยระแวงเรากับไอซ์ และฟ้าก็เข้าข้างเรามากขึ้น รถรับส่งที่น้องนั่งเขาจะหยุดรับเพราะเด็กน้อยเกินไปน้องต้องหารถคันใหม่ แล้วรถรับส่งของเราจะต้องผ่านหน้าบ้านไอซ์ทุกวัน
เราเห็นน้องเครียดเวลาคุยกันเรื่องนี้ เราเรยชวนน้องมาขึ้นรถรับส่งคันเดียวกันกับเรา น้องก็ยังไม่ได้ตกลงว่าจะมาขึ้นคันเดียวกับเรา
(ลืมบอกเพื่อนว่าช่วงหลังๆแฟนน้องเริ่มสงสัยว่าเราคือใครเข้ามายุ่งกับไอซ์ทำไมเพราะเราเคยโทรไปและเจอแฟนไอซ์รับสายหลายครั้งอยู่ และไอซ์เคยบอกว่าแฟนไอซ์เป็นคนขี้หึงมากด้วย ไม่ชอบให้คุยกับผู้ชายอื่น โชคดีที่เราเป็นผู้หญิงเรยลดความสงสัยลงบ้าง) <<<ยังอีกยาว
เรื่องราวแสบๆ ของความรักที่เคยเกิดขึ้น...จนลืมไม่ลง
เราจำได้ดีว่าในช่วงนั้นที่วิลัยกำลังจะมีการแข่งขันกีฬาสีและครั้งแรกที่เจอเธอคนนั้นมันเหมือนกับโลกหยุดหมุนไปเลย ทำให้เราเข้าใจถึงคำว่า Love at first sight
ถึงกับต้องหันไปถามเพื่อนผู้ ช 2 คนที่นั่งอยุ่ด้วยกัน ว่ารู้จักไหมว่าน้องผู้ ญ คนนั้นคือใคร....
(ตัวเราพึ่งย้ายมาเรียนที่นี่ได้2 เทอมวิลัยที่เราเรียนส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิงผู้ชายจะมีน้อยมากแล้วคณะที่เราเรียนก็เป็นคณะศิลป์จึงทำให้เรามีเพื่อนผู้ ช ที่มันเรียนที่นี่มาหลายเทอมรู้จักคนเยอะ )
ไอ่น๊อต,ไบร์ : รู้จัก ทำไหมหรอ ??
เรา : น้องเขาชื่ออะไร
ไอ่น๊อต : น้องเขาชื่อ "ไอซ์" เด็กบัญชีรุ่นน้องพวกเราปี1 น่ารักอะดิตอนนี้ก็เป็นลีดเดอร์ของสีชมพูอยู่
เรา : รู้ดีจังเน้อ
ไอ่ไบร์: ก็มันเคยตามจีบน้องเขาอยุ่พัก1แต่น้องเขาไม่สนมัน
เรา : น้องเขาน่ารักดี
ไอ่น๊อต: น้องเขาหยิ่งนะโว้ย ชอบหรอ?
ไบร์: มีแฟนแล้วด้วย...
พวกเราเรียนเกี่ยวกับคอมกราฟิก เพื่อนๆที่สนิทในกลุ่มของเราจะมีอยู่5คนทุกคนในกลุ่มจะรู้หมดว่าเราแอบปลื้มน้องคนนี้อยู่ รวมถึงอาจารย์ที่เราสนิทด้วยก็รู้โดยนิสัยของเด็ศิลป์และจะออกกวนๆนิดๆแล้วยิ่งอาจารย์ประจำแผนกวิชาพวกเรานี่ใช่ย่อยชอบพากันแซวน้องเขาส่วนตัวเราเวลาเจอน้องที่ไรใจเต้นแรงทุกที พอหลังจากเสร็จจากงานกีฬาสี อาจารย์ใหม่แกจะเป็นคนถ่ายรูปกิจกรรมภายในวิลัยทั้งหมดนั้นหมายความว่ามีรูปน้องไอซ์ด้วย และเด็กในวิลัยก็ชอบจะมาถาม อ.ใหม่ ถึงรูปที่ถ่ายในวันงานรวมถึงกลุ่มเพื่อนของน้องไอซ์
วันนี้ก็ดูจะเป็นวันปกติที่พวกเรากับเพื่อนนั่งทำงานที่ อใหม่สั่ง อยุ่ในห้องคอมพอ อใหม่ขึ้นห้องมาก็ทำเป็นคุยว่าเดียวจะมีเด็กบัญชีขึ้นมาเอารูปตัวเราก็เฉยนะ สักพักประตูห้องเปิดเหมือนมีคนมาคนแรกที่เห็นเราก็เฉยๆพอเห็นอีกคนมือที่อุ่นกับเย็นขึ้นมาทันทีหัวใจเต้นแรงมาก พวกเพื่อนในห้องบางคนก็นั่งทำงานบางคนก็แซวน้องที่กำลังจะเข้ามา
อใหม่: เข้ามาเรย อย่าไปสนใจไอ่พวกมัน
น้องๆก็เดินมาที่โต๊ะ อใหม่ ยืนรอเอารูปลงแฟลชไดร์ฟ ในช่วงเวลาที่ยืนรอรูปนั้น อ ใหม่ก็พูดขึ้นมาว่า
อ ใหม่: คนไหนชื่อ ไอซ์ (นี่ละค่ะอาจารย์เรา)
ไอซ์ : หนูค่ะ
อ ใหม่: ในห้องนี่มีคนชอบเรา
ไอซ์: ยิ้มแบบอายๆ
พอน้องเขาเดินออกจากห้องเพื่อนในกลุ่มเราก็พากันมาแซวเราว่าทำไมไม่เห็นพูดอะไรได้แต่นั่งเงียบ อ. เปิดทางให้ซะขนาดนั่น เราก็ยิ้มแบบอายๆเหมือนกัน
สักพักพวกเราก็พากันลงมากินข้าวเราก็บอกกับเพื่อนในกลุ่มเราว่าถ้าใครหาเบอร์โทรน้องมาได้จะให้ตัวละร้อย
ตอนนั้นเราก็ยังคบกับแฟนผู้ชายอยู่นะ เค้าชื่อบีเป็นรุ่นน้องเรา2ปีเรียนคนละที่แต่บ้านอยู่ไม่ไกลกัน และทุกเช้าเราต้องนั่งรถรับส่งมาเรียนรวมถึงแฟนเราด้วยแต่นั่งกันคนละคันส่วนมากจะเจอกันตอนเย็นไม่งั้นก็คุยกันทางโทรศัพท์ เจอกันเสาร์อาทิตย์ ก็คบกันปกติ เวลาเราอยู่บนรถรับส่งเราก็จะชอบแกล้งน้องที่เป็นผู้หญิงเล่นกับพวกผู้ชายนะ ดูเป็นคนอารมณ์ดีพวกรุ่นน้องชอบเล่นด้วย
2วันต่อมาจากที่เราบอกกับเพื่อนในกลุ่มเราไปว่าใครหาเบอร์น้องไอซ์มาได้จะให้ตัวละร้อย ก็มีคนเอามาจนได้เสียเงินให้เพื่อนไปเรยแต่ก็ดีใจมากที่ได้เบอร์มา วันนั้นกลับบ้านไปตกเย็นมามือก็ได้แต่จับโทรศัพท์กดเบอร์แล้วลบคือไม่รู้จะเริ่มไง555
แล้วเราก็ตัดสินใจโทรไปเพราะอยากคุยกับน้องเค้าจิงๆ
ไอซ์: โหลๆ ค่ะ โหลๆ ใครค่ะ
เรา: โหล ใช่ไอซ์ป่าว
ไอซ์: ใช่ค่ะแล้วใครพูดค่ะ มีอะไรป่าวค่ะ
เรา: ป่าว อยากคุยด้วย คุยได้ไหม
ไอซ์: แล้วชื่ออะไร เอาเบอร์ไอซ์มาจากไหน
เรา: ขอเพื่อนให้มา เราชื่อแพนด้า(คือตอนนั้นไม่กล้าบอกชื่อจิงๆนะเลยบอกไปแบบนี้) คุยด้วยได้ไหม
ไอซ์: ค่ะ คุยได้
ครั้งแรกที่โทรไปน้ำเสียงน้องเค้าจะว่าพูดดีเรยก็ไม่ใช่จะไม่ดีเรยก็ไม่ใช่ แต่ในความรู้สึกเราตอนนั้นมันดีใจอย่างบอกไม่ถูกจิงๆ พอน้องเขายอมคุยด้วยเราก็พยายามโทรหาน้องตลอดคุยไปเลื่อนๆโดยที่ไม่บอกว่าเราคือใคร ช่วงหลังๆน้องเริ่มคุยดีน้ำเสียง โทรคุยกันทุกวันตัวเราจะเห็นน้องเขาทุกวันที่เราไปเรียน
ตัวน้องเขาเองทุกเช้าแฟนน้องเขาจะมาที่หน้าวิลัย เราก็จะเห็นน้องเขานั่งคุยกับแฟนเขาประจำ ส่วนเรากับแฟนเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันยังคบกันปกติรักกันดี แฟนเราเขาก็น่ารัก ถือว่าหน้าตาหล่อเรยละ
เราคุยกับไอซ์ได้สักพักน้องเขาก็เริ่งสงสัยละว่าเราคือใคร(เอาจิงนะเราไม่ได้คิดจะเปิดเผยให้น้องรู้ว่าเราคือใครเลยไม่ได้บอกน้องเขากะจะให้มันเป็นนี้)และแล้วความลับก็ไม่มีในโลก คงเป็นเพราะเราชอบมีพิรุธด้วยละ ทุกเช้ารถรับส่งจะส่งเราที่หน้าวิลัยเรากับเพื่อนก็จะนั่งเล่นหน้าวิลัยก่อนยังไม่เข้า รอดูรถตู้คันที่น้องเขานั่งมา สักแปบรถก็มาจอดใกล้กับที่เรานั่งกับเพื่อนเรา เราก็ได้แต่มองน้องเขา จนน้องเขาเดินข้ามจะเข้าไปในวิลัย จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์ของเราดังขึ้นเป็นเบอร์ของน้อง เราจึงรีบรับด้วยความดีใจไม่ทันคิด
เราก็โหล แล้วน้องแกก็พูดขึ้นมาว่ารู้แล้วว่าพี่คือใคร...ด้วยความที่เราตกใจ!!! มากมือที่จับโทรศัพท์อยู่ก็เลื่อนลงมาข้างลำตัวเองโดยไม่รู้ตัว เรารีบหันไปดูที่หน้าวิลัยทันที กับพบกันรอยยิ้มพร้อมกับโบกมือให้เราเหมือนเป็นการทักทาย'' แล้วเธอก็หันหลังเดินเข้าไปในวิลัยต่อ
จากที่ไอซ์รู้แล้วว่าเราคือใคร ตัวน้องไอซ์เองถึงจะมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังมีคนตามจีบ มีคนซื้อขนมซื้อน้ำซื้อของให้ในกลุ่มของน้องไอซ์ก็จะมีเพื่อนอีกคนที่น่ารักๆ จึงทำให้สองคนนี้มีเด็กรุ่นบางรุ่นพี่บางเรียกชื่อแซวบางเวลาไปไหนมาไหนในวิลัย แล้วสองคนนี้ยังเป็นเด็กกิจกรรมอีกด้วย ที่ว่าจะไม่บอกให้น้องรู้ก็เพราะอย่างงี้แหละกลัวน้องเขาจะไม่ชอบเราเห็นมีคนมาชอบน้องตั้งเยอะ---คิดไปเองไง---แต่ก็ไม่มีอย่างที่คิดจร้าน้องเขากลับมาสนิทสนมกับเรามากขึ้น
ช่วงนั้นก็ใกล้งานวันลอยกระทงเราเรยถือโอกาสชวนไอซ์ไปเที่ยวงานลอยกระทงด้วย ช่วงเย็นไอซ์ต้องไปเดินถือป้ายที่งานลอยกระทงวันนั้นต้องมานอนหอเพื่อนไอซ์จึงบอกเราว่างั้นเจอกันที่งาน....ดีใจมากที่จะได้เที่ยวกับน้องครั้งแรก...วันนั้นเราก็ไปเที่ยวงานกับเพื่อน5คนเอารถไป2คันไปเจอน้องที่งานน้องสวยมากสวยจิงๆเพื่อนน้องก็สวยส่วนเราก็แต่ตัวเรียบร้อยเท่ๆนิด(เป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเท่ๆนะไม่หวานจร้า)ไปลอยกระทงด้วยกันเดินเที่ยวก่อนจะแยกกลับเราก็ถามน้องว่านอนไหนไอซ์นอนหอเพื่อนในเมืองเราก็บอกว่าก็นอนในเมืองหอเพื่อนพี่เหมือนกันไปเทียวเล่นหอเพื่อนพี่ไหมยังไม่ดึกมากไอซ์ก็ตอบว่าอืม เราก็มานั่งเล่นนั่งคุยกันต่อที่หอเพื่อนตอนนั้นก็มีเพื่อนเราอยูด้วยนะคือทุกคนขอบน้องด้วยละมาถึงห้องเพื่อนเราก็คุยกับน้องสนุกกันใหญ่แล้วเสียงโทรศัพท์น้องก็ดังขึ้นน้องบอกว่าแฟนโทรมาน้องเรยโกหกไปว่าอยู่กับเพื่อนของน้องที่หอแฟนไม่เชื่อจร้าอยากจะคุยกับเพื่อนของน้อง(แฟนไอซ์จะสนิทกับเพื่อนของไอซ์ทุกคน)นี่ละคือปัญหาไอซ์ต้องรีบกลับหอเพื่อวเพราะไม่อยากมีปัญหากับแฟน นี่คือต้นต่อที่ทำให้แฟนไอซ์ค่อยระแวงเรากับไอซ์ และฟ้าก็เข้าข้างเรามากขึ้น รถรับส่งที่น้องนั่งเขาจะหยุดรับเพราะเด็กน้อยเกินไปน้องต้องหารถคันใหม่ แล้วรถรับส่งของเราจะต้องผ่านหน้าบ้านไอซ์ทุกวัน
เราเห็นน้องเครียดเวลาคุยกันเรื่องนี้ เราเรยชวนน้องมาขึ้นรถรับส่งคันเดียวกันกับเรา น้องก็ยังไม่ได้ตกลงว่าจะมาขึ้นคันเดียวกับเรา
(ลืมบอกเพื่อนว่าช่วงหลังๆแฟนน้องเริ่มสงสัยว่าเราคือใครเข้ามายุ่งกับไอซ์ทำไมเพราะเราเคยโทรไปและเจอแฟนไอซ์รับสายหลายครั้งอยู่ และไอซ์เคยบอกว่าแฟนไอซ์เป็นคนขี้หึงมากด้วย ไม่ชอบให้คุยกับผู้ชายอื่น โชคดีที่เราเป็นผู้หญิงเรยลดความสงสัยลงบ้าง) <<<ยังอีกยาว