เราเคยสังเกตตัวเองไหมว่าเราอารมณ์ดีขึ้นเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่รอบๆ ตัว มันเป็นความจริงที่ว่าเมื่อเราใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว จะช่วยทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ดีได้ จากการศึกษาพบว่าคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์จะมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ มีกิจกรรมดีๆ หลายอย่างที่เราสามารถเล่นกับสัตว์ได้ เช่นการโยนลูกบอล หรือโยนของให้สุนัข การจูงสุนัขออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ การเล่นหยอกล้อกับแมว เรามาดูกันว่าการเลี้ยงสัตว์ส่งผลดีต่อเราอย่างไรบ้าง
1. หัวใจแข็งแรง เชื่อหรือไม่ว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราสามารถช่วยทำให้เราไม่เป็นโรคหัวใจได้ ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะ เพราะว่าการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงใช้เวลาในการเล่นกับสุนัขและแมว การจูงสุนัขออกไปเดินเล่นเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดความดันโลหิตได้อีกทั้งมีงานวิจัยกล่าวว่าคนที่เป็นโรคหัวใจที่เลี้ยงสัตว์จะมีชีวิตที่ยาวนานมากกว่าคนเป็นโรคหัวใจที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์
2. ช่วยลดความเครียด การเลี้ยงสุนัขและแมวจะช่วยทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลายและผลิตสารเอนโดรฟินที่ทำให้ฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง
3. ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางด้านของสังคม การมีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขสามารถช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราเห็นคนเดินมาที่ถนนเราคงจะไม่อยากที่จะเข้าไปทักทายคนแปลกหน้า แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามีสุนัขมากับเราด้วยมันเป็นการง่ายที่จะมีปฏิสัมพันธ์ต่อคนที่ไม่รู้จัก เพราะคนโดยทั่วไปมักจะสนใจและกล้าทักทายพูดคุยสบตากับคนที่มากับสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
4. มีอารมณ์ดี จากงานวิจัยพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์ส่วนมากจะอารมณ์ดีมากกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เพราะจะช่วยทำให้ไม่รู้สึกเหงาและมีความสุขสนุกสนานเมื่อได้เล่นและใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงของตนเอง
5. สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก งานวิจัยกล่าวว่าเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีที่ในบ้านมีสัตว์เลี้ยงจะเป็นไข้หวัดน้อยกว่าเด็กที่ในบ้านไม่ได้เลี้ยงสัตว์ อีกทั้งเด็กเล็กที่ในบ้านมีสัตว์เลี้ยงจะมีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใสมีพัฒนาการที่ดีมากกว่าเด็กที่ในบ้านไม่ได้เลี้ยงสัตว์
6. ช่วยเด็กออทิสติก เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าเด็กออทิสติกจะมีพัฒนาทางด้านสังคมล่าช้า ดังนั้นการที่เด็กออทิสติกได้เล่นกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสังคมที่ดีขึ้น อีกทั้งถ้าโรงเรียนไหนอนุญาตให้เด็กออทิสติกสามารถนำสุนัขไปโรงเรียนด้วย เพื่อนๆ จะเข้ามาเล่นกับเด็กออทิสติกเจ้าของสุนัข ซึ่งจะช่วยให้เด็กออทิสติกได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
7. มีจิตใจที่อ่อนโยน คนที่เลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนชอบช่วยเหลือผู้อื่นการดูแลสัตว์ก็เหมือนกันดูแลเด็กเช่นเดียวกัน ดังนั้นการที่ต้องดูแลอีกชีวิตหนึ่งจะสร้างนิสัยให้เราเป็นคนที่รักผู้อื่น รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันและเสียสละเพื่อคนอื่น
การสัตว์เลี้ยงเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เรามีความสุข ทำให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ อีกทั้งยังมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนช่วยคลายเหงาและคลายเครียดได้ดีอีกด้วย นับว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสุขที่หาได้ไม่ยากเลย
บทความจาก : MGR Online
http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000073313
เลี้ยงสัตว์มีดีตรงไหนเอ่ย? / ดร.แพง ชินพงศ์
เราเคยสังเกตตัวเองไหมว่าเราอารมณ์ดีขึ้นเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่รอบๆ ตัว มันเป็นความจริงที่ว่าเมื่อเราใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว จะช่วยทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ดีได้ จากการศึกษาพบว่าคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์จะมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ มีกิจกรรมดีๆ หลายอย่างที่เราสามารถเล่นกับสัตว์ได้ เช่นการโยนลูกบอล หรือโยนของให้สุนัข การจูงสุนัขออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ การเล่นหยอกล้อกับแมว เรามาดูกันว่าการเลี้ยงสัตว์ส่งผลดีต่อเราอย่างไรบ้าง
1. หัวใจแข็งแรง เชื่อหรือไม่ว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราสามารถช่วยทำให้เราไม่เป็นโรคหัวใจได้ ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะ เพราะว่าการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงใช้เวลาในการเล่นกับสุนัขและแมว การจูงสุนัขออกไปเดินเล่นเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดความดันโลหิตได้อีกทั้งมีงานวิจัยกล่าวว่าคนที่เป็นโรคหัวใจที่เลี้ยงสัตว์จะมีชีวิตที่ยาวนานมากกว่าคนเป็นโรคหัวใจที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์
2. ช่วยลดความเครียด การเลี้ยงสุนัขและแมวจะช่วยทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลายและผลิตสารเอนโดรฟินที่ทำให้ฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง
3. ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางด้านของสังคม การมีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขสามารถช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราเห็นคนเดินมาที่ถนนเราคงจะไม่อยากที่จะเข้าไปทักทายคนแปลกหน้า แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามีสุนัขมากับเราด้วยมันเป็นการง่ายที่จะมีปฏิสัมพันธ์ต่อคนที่ไม่รู้จัก เพราะคนโดยทั่วไปมักจะสนใจและกล้าทักทายพูดคุยสบตากับคนที่มากับสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
4. มีอารมณ์ดี จากงานวิจัยพบว่าคนที่เลี้ยงสัตว์ส่วนมากจะอารมณ์ดีมากกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ เพราะจะช่วยทำให้ไม่รู้สึกเหงาและมีความสุขสนุกสนานเมื่อได้เล่นและใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงของตนเอง
5. สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก งานวิจัยกล่าวว่าเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีที่ในบ้านมีสัตว์เลี้ยงจะเป็นไข้หวัดน้อยกว่าเด็กที่ในบ้านไม่ได้เลี้ยงสัตว์ อีกทั้งเด็กเล็กที่ในบ้านมีสัตว์เลี้ยงจะมีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใสมีพัฒนาการที่ดีมากกว่าเด็กที่ในบ้านไม่ได้เลี้ยงสัตว์
6. ช่วยเด็กออทิสติก เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าเด็กออทิสติกจะมีพัฒนาทางด้านสังคมล่าช้า ดังนั้นการที่เด็กออทิสติกได้เล่นกับสัตว์เลี้ยงจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสังคมที่ดีขึ้น อีกทั้งถ้าโรงเรียนไหนอนุญาตให้เด็กออทิสติกสามารถนำสุนัขไปโรงเรียนด้วย เพื่อนๆ จะเข้ามาเล่นกับเด็กออทิสติกเจ้าของสุนัข ซึ่งจะช่วยให้เด็กออทิสติกได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
7. มีจิตใจที่อ่อนโยน คนที่เลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนชอบช่วยเหลือผู้อื่นการดูแลสัตว์ก็เหมือนกันดูแลเด็กเช่นเดียวกัน ดังนั้นการที่ต้องดูแลอีกชีวิตหนึ่งจะสร้างนิสัยให้เราเป็นคนที่รักผู้อื่น รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันและเสียสละเพื่อคนอื่น
การสัตว์เลี้ยงเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เรามีความสุข ทำให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ อีกทั้งยังมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนช่วยคลายเหงาและคลายเครียดได้ดีอีกด้วย นับว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสุขที่หาได้ไม่ยากเลย
บทความจาก : MGR Online
http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000073313