กระทู้นี้ ฝนขอเน้นเรื่อง "ค่าเสียหายจากาการช๊อปปิ้ง" ที่โอซาก้านะคะ
โดยเฉพาะย่านที่พัก Dotonbori , Shisaibashi-suji ล้มละลายเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องรายละเอียดการไปนู้นนี่นั่น มีหลายๆท่านได้ทำกระทู้ที่ดีงามไว้แล้ว ฝนขอพูดแบบข้ามๆไปนะคะ
ขอโน้ตเรื่องสำคัญที่ขาดมิได้
1.แลกเงิน >> ตอนฝนไปเศรษฐกิจกำลังผันผวนมาก ค่าเงินแข็งคะ แตะที่ 0.3495 ก็ 0.35 นั้นละคะ เหรด SuperRich , Value+
ซื้อของแพงกว่าเดิม ร้องไห้หนักมาก (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แลกตั้งแต่เนิ่นๆไม่แลก รอลง เป็นไงละ)
2.Pocket Wifi >> เจอโปรฯดีๆจาก Tripizee คะ วันละ 90 บาท มัดจำ 2,000 บาท รับ-ส่งฟรีถึงที่
แถมมี Powerbank และ ตัว Adapter แปลงไฟให้ด้วยคะเริ่ดมาก (แต่คืนเงินมัดจำหลังจากกลับมาประมาณ 5-7 วันไม่รวมวันหยุด)
คุณภาพเน็ตโดยรวมพอๆกับไทย ไม่ได้แรงปื๊ดป๊าดแบบเกาหลี แต่ 90 บาทอะ คุ้มอะ !
3.สำหรับคนที่จะไป Universal Studios Japan ซื้อจาก Agency ที่ไทยไปเลยคะ ประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก
เราได้เลือกของ Agency หนึ่งที่ปรากฎด้านล่าง(ตอนแรกจะจองเองแล้วละคะ แต่ติดขัด เลยซื้อเลยดีกว่า)
เหรดค่าเงิน ณ จุดๆนั้นจึงได้ราคานี้ 2,400 บาท ค่าส่ง 50 บาท บัตรหมดอายุอีกนานมากอะคะจำไม่ได้ ไม่ระบุวันเข้า
หน้าตาจดหมายที่ส่งมาให้เรา
มีแผนที่ USJ และใส่ซองบัตร USJ มาให้คะ
ลาย Harry ปลื้มมากๆๆๆคะ ไม่ได้รีเควซไปนะเนี่ย เป็นโชคชะตาชัดๆ 555+ (อาการหนัก)
สำหรับเราแล้วใน USJ Harry Potter สำคัญที่สุดในชีวิต จึงไม่ซื้อ Express pass และไปช่วงวันที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ ดูจากตารางคนเข้าแล้ว คนน้อย ฝนแอบตก ก็เลยซื้อแต่บัตรเข้าเพียวๆ อาศัยไปเช้าๆ วิ่งแข่งกับม้าญี่ปุ่น และก็เป็นไปอย่างที่คิดทุกอย่าง คนไม่เยอะ Harry ก็ไม่ต้องกดบัตร เข้าได้เลย สวยๆ เล่นเป็นก๊วนแรกเลยจ๊ะ Happy !
การไปโอซาก้าครั้งนี้ฝนบิน NokScoot บินตรง!!ดีตรงนี้แหละคะ ที่มีโปรฯมาเป็นพักๆ ก็เลยลองจัดดู (ไม่มีแอร์คนไทยบนเครื่องเลยสักคนคะ อยากจะได้ยิน นกเอ นกแก้ม นกแพร ไม่มีเลยคะ Speak English และ Japanese สองภาษานี้เท่านั้น)
ค่าเสียหายจาก NokScoot/1 Person ไม่รับอาหารเพิ่ม แต่รับน้ำหนักกระเป๋าขากลับเพิ่มคะ 35 Kg. (+750 Bath)
รวมๆก็หมื่นนึง ไม่ได้ถูกมากอย่างที่คิดไว้ เพราะวันหยุดยาวไทยนั้นเอง
โหลดกระเป่าคะ
นี่เป็นใบ Immigration และใบศุลกากร ของประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ update เมื่อ July2016
หน้าตาเป็นแบบนี้คะ ส่วนวิธีการกรอกนั้นเซิทหาเอานะคะ
ของฝนเจอที่ตรงกับอันนี้คือ
http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/Embarkation.Disembarkation.Card-Japan.html?m=1
ใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า ไฟท์เวลาไทย 9:25 ถึง 16:55 เวลาญี่ปุ่น ขอบอกว่าตรงเวลามาก !! เป๊ะเวอร์ (เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าที่ไทย 2 ชม. คะ)
ลงจากเครื่อง ผ่าน ตม. (เราผ่านมาง่ายมากเลยคะ ตื่นเต้น อุตส่าห์มีหลักฐานมากมายเตรียมพร้อม)
ส่วนตัวคิดว่าช่อง Occupation สำคัญนะคะ เพราะก่อนหน้านี้ใส่ Student โดนถามตลอด
จากนั้นรับกระเป๋าที่สายพาน และเดินออกไปส่งใบศุลกากรให้เจ้าหน้าที่ออกมาปุป
เราจะไปสถานี Namba คะ จากสนามบิน Kansai ไปยัง สถานี Numba ง่ายมาก
ก่อนอื่นขึ้นบันไดเลื่อนไปอีก 1 ชั้น อันไหนก็ได้ขึ้นไปเลยคะ แล้วก็หันหลังให้ Terminal ที่เราเพิ่งลงเครื่องมา
ตรงไปยังไอแนวที่มีคนเดินสวนไปมาเยอะๆหน่อย จะเจอที่ขายตั๋วของสถานีรถไฟต่างๆ
เราเลือกนั่ง Nankai Line โดย Rapit หรือ รถไฟอัศวินสีน้ำเงิน นั้นเอง ค่าเสียหายอยู่ที่ 1,130 เยน x 0.35 = 395.5 บาท
ซื้อได้ที่เค้าเตอร์ตามภาพคะ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลดีมากคะ มีหลายทางให้เลือกจะไปสถานี Namba โดยขบวนไหน อันนี้ก็แล้วแต่คะ
เมื่อซื้อตั๋วมาแล้วก็ไปยังฝั่งตรงข้ามที่ขายตั๋วกันเลย ที่บัตรก็จะมีระบุ Seat , Car no. , Time เดินตรงเสียบบัตรเข้าไปเลยคะ
เมื่อเข้ามาแล้วลงบันไดเลื่อนมาจะมีป้ายบอกคะว่าฝั่งซ้ายหรือขวาหรืออะไรไปทางไหน ทุกอย่างมีป้ายบอกหมดเลย
และตรงพื้นก็ยังมีป้ายบอก Car no. คะ ที่ขบวนก่อนขึ้นก็ยังมีติดอีกทีคะ
เจ้าอัศวินแวะนู้นนี่นั่นนิดหน่อย แต่ก็ตรงยาวถึงสถานีนัมบะสถานีสุดท้าย ใช้เวลา 40 นาที ตรงเวลาเช่นเคย 18:05 - 18:45
สถานีนัมบะมันใหญ่มาก เจเจงงง เดินหลงกับสิ่งล่อตาล่อใจเดินไม่ถึง Exit สักที วันแรกยังไม่ชิน
ขนาดใต้ดินยังเป็นห้าง เอิ่มมม อยู่ข้างล่างยิ่งมึนๆ (แต่จริงๆมันง่ายมากนะคะ เป็นเพราะวันแรก) เราจึงเดินขึ้นด้านบน
โดยเกาะเส้น Shinsaibashi-suji โอ้วแม่เจ้าอยากเข้าทุกร้าน แต่กระเป๋าเกะกะ ไปเก็บก่อน
จริงๆที่พักเราออก Exit 25 แต่เราขึ้นมาจาก Exit อะไรยังไม่รู้ตัว เดินตามของและห้างมาล้วนๆ
ระหว่างรอกินราเมงข้อสอบ
วันนี้วันพุธ เค้ามีอะไรกันในคลอง โดทงบุริ ไม่รู้อะคะ เหมือนเลือกตั้งเลย
บรรยกาศดี๊ดี ตีกลอง สนุกครื้นเครง มีหลายลำมากคะ
เรากินแบบเด็กอะคะ 790 เยน ไม่เพิ่มไรเลย (276.5 บาท)
อยากลอกมั๊ยคะ 555555+ ถามใจเธอดู กินทุกวันก็ไม่เบื่อ
วันต่อมา ไป USJ จ้า ตื่นตี 5 บอกเลย สบายๆ รู้สึกได้ว่าพระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเร็วมาก
ไปไม่ยาก (แต่งงว่าทำไมเราเสียเงินสองต่อดูรีวิวคนอื่นเสียต่อเดียว งงจริงๆ) เที่ยวละ 360 เยน x 0.35 = 126 บาท
มาถึงไออย่างเช้า คนต่อคิวน้อยมาก นั่งกินข้าวเช้ากันตรงนี้เลยคะ
8:30 ประตูเปิดคะ
ก่อน 8:00 หันไปดูอีกที โอ้วหางแถวอยู่ไหนละนั่น
8:30 ปุป !! วิ่ง วิ่ง และวิ่ง เพื่อ Harry Potter
ไม่ต้องไปจุดสแกนเวลาเข้าที่เดินเลยหินและห้องน้ำไปนะคะ วิ่งเข้าโซน Harry ไปที่เครื่องเล่นใน Harry เลยคะ
ได้เล่นทันทีแบบไม่ต้องรอ
ก่อนเล่นเครื่องเล่นต้องฝากกระเป๋าก่อนคะ ร่มก็ต้องฝาก เครื่องเล่นมันจะเหวี่ยงๆแต่ก็ไม่ได้แรงมาก
เราก็สงสัยมากแล้วร่มคันใหญ่ๆจะฝากยังไงล็อคเกอร์ก็ใส่ไม่ได้แมะ
ไขข้อข้องใจ นางมีที่ฝากร่มคะ เราไม่เคยเห็นใครรีวิวตรงจุดนี้เลย ตอนแรกกลัวมากจะไม่มีที่ฝาก
หลุดจากล็อคเกอร์มาก็ชมบรรยกาศห้องต่างๆอยากจะเซลฟี่แสงไม่มีจริงๆ นี่แอบพก iPhone ติดมือเลยถ่ายได้นิดนึง มืดมาก
ภาพนี้ก่อนเล่นเครื่องเล่นอีกไม่กี่ก้าวคะ แสงพอจะจับภาพได้เท่านี้
(แอบบ่น..เราเป็นอะไรที่เมารถง่ายมาก ปรากฎว่าจากการวิ่งครั้งนี้ ต้องSpeedมาก เจอแดดร้อนๆ แล้วไม่ค่อยออกกำลังกาย เหนื่อยมากคะ
พอเข้าไปเล่น Harry มันมืดๆ ปรับแสงไม่ทัน ออกมาถึงกับเมา และอ้วกเลยคะ มันต้องใส่แว่น 4D ซึ่งเราเมาอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ดูหนัง 3 มิติยังไม่ค่อยจะได้ ขนาดตอนเล่นเครื่องเล่นถอดแว่นแล้วนะคะ กรุไม่ไหวแล้วโว้ยยย อ้วกในปราสาท Hogwarts เลยได้มั๊ย เมา เจ็บใจตัวเอง กว่าจะตั้งสติกลับคืนเป็นชั่วโมง..จบการบ่น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมาก)
ช้อปกันเถอะ ของใน USJ Harry Potter Zone มีอะไรน่าซื้อบ้าง ลุย !
มาดูที่ร้าน HONEYDUKES กันคะ
ผ้าคลุมอันนี้มี 2 ลายคะ อีกลายเป็นสีดำล้วน ตรงกระดุมเป็นตรา Hogwarts เราว่าสีแดง Hp 07 แหล่มกว่า จัดมา 1
GRYFFINDOR !
มานั่งพักที่ร้านไม้กวาด 3 อันแปป Butterbeer Frozen พร้อมแก้ว 1,250 เยน = 437.5 บาท
ซื้อเครื่องแบบนักเรียนกันคะ
ผ้าพันคอ 3,500 หรือ 4,800 เยนนี่ละคะ ลืม ไม่เกิน 1,680 บาท
เสื้อพวกนี้ทำจากผ้า Cadigan Made in Scotland ก่อนซื้อก็ไม่ได้ดูว่าเท่าไหร่ เพิ่งมาดูตอนนั่งเคลียบิลที่ไทยถึงกับช็อค
13,500 เยน = 4,725 บาท น้ำตาไหลหนักมาก
ร้าน Olivanders ไม้กายสิทธิ์ส่วนใหญ่ราคาไม่เกิน 5,000 เยนคะ (ไม่เกิน 2,000 บาท)
มุมนกฮูก
พลีชีพเทียบขนาดเฮ็ดวิกกับหน้า
นักแสดงเตรียมตัวไปแสดงคะ
คือนางจากบ้านเรเวนคอล หน้าเหมือนโชแชงมากกกกกกก (เป็นคนญี่ปุ่น)
มุมห้องน้ำ เมอเทิล จอมคร่ำครวญ กีดร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้ฟิลฯตรงภาษาญี่ปุ่นนี่ละ
ก๊อกพยายามให้เหมือนในเรื่อง (ก็ยังถ่าย)
[CR] ค่าเสียหายจากโอซาก้า! July2016
กระทู้นี้ ฝนขอเน้นเรื่อง "ค่าเสียหายจากาการช๊อปปิ้ง" ที่โอซาก้านะคะ
โดยเฉพาะย่านที่พัก Dotonbori , Shisaibashi-suji ล้มละลายเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องรายละเอียดการไปนู้นนี่นั่น มีหลายๆท่านได้ทำกระทู้ที่ดีงามไว้แล้ว ฝนขอพูดแบบข้ามๆไปนะคะ
ขอโน้ตเรื่องสำคัญที่ขาดมิได้
1.แลกเงิน >> ตอนฝนไปเศรษฐกิจกำลังผันผวนมาก ค่าเงินแข็งคะ แตะที่ 0.3495 ก็ 0.35 นั้นละคะ เหรด SuperRich , Value+
ซื้อของแพงกว่าเดิม ร้องไห้หนักมาก (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แลกตั้งแต่เนิ่นๆไม่แลก รอลง เป็นไงละ)
2.Pocket Wifi >> เจอโปรฯดีๆจาก Tripizee คะ วันละ 90 บาท มัดจำ 2,000 บาท รับ-ส่งฟรีถึงที่
แถมมี Powerbank และ ตัว Adapter แปลงไฟให้ด้วยคะเริ่ดมาก (แต่คืนเงินมัดจำหลังจากกลับมาประมาณ 5-7 วันไม่รวมวันหยุด)
คุณภาพเน็ตโดยรวมพอๆกับไทย ไม่ได้แรงปื๊ดป๊าดแบบเกาหลี แต่ 90 บาทอะ คุ้มอะ !
3.สำหรับคนที่จะไป Universal Studios Japan ซื้อจาก Agency ที่ไทยไปเลยคะ ประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก
เราได้เลือกของ Agency หนึ่งที่ปรากฎด้านล่าง(ตอนแรกจะจองเองแล้วละคะ แต่ติดขัด เลยซื้อเลยดีกว่า)
เหรดค่าเงิน ณ จุดๆนั้นจึงได้ราคานี้ 2,400 บาท ค่าส่ง 50 บาท บัตรหมดอายุอีกนานมากอะคะจำไม่ได้ ไม่ระบุวันเข้า
หน้าตาจดหมายที่ส่งมาให้เรา
มีแผนที่ USJ และใส่ซองบัตร USJ มาให้คะ
ลาย Harry ปลื้มมากๆๆๆคะ ไม่ได้รีเควซไปนะเนี่ย เป็นโชคชะตาชัดๆ 555+ (อาการหนัก)
สำหรับเราแล้วใน USJ Harry Potter สำคัญที่สุดในชีวิต จึงไม่ซื้อ Express pass และไปช่วงวันที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ ดูจากตารางคนเข้าแล้ว คนน้อย ฝนแอบตก ก็เลยซื้อแต่บัตรเข้าเพียวๆ อาศัยไปเช้าๆ วิ่งแข่งกับม้าญี่ปุ่น และก็เป็นไปอย่างที่คิดทุกอย่าง คนไม่เยอะ Harry ก็ไม่ต้องกดบัตร เข้าได้เลย สวยๆ เล่นเป็นก๊วนแรกเลยจ๊ะ Happy !
การไปโอซาก้าครั้งนี้ฝนบิน NokScoot บินตรง!!ดีตรงนี้แหละคะ ที่มีโปรฯมาเป็นพักๆ ก็เลยลองจัดดู (ไม่มีแอร์คนไทยบนเครื่องเลยสักคนคะ อยากจะได้ยิน นกเอ นกแก้ม นกแพร ไม่มีเลยคะ Speak English และ Japanese สองภาษานี้เท่านั้น)
ค่าเสียหายจาก NokScoot/1 Person ไม่รับอาหารเพิ่ม แต่รับน้ำหนักกระเป๋าขากลับเพิ่มคะ 35 Kg. (+750 Bath)
รวมๆก็หมื่นนึง ไม่ได้ถูกมากอย่างที่คิดไว้ เพราะวันหยุดยาวไทยนั้นเอง
โหลดกระเป่าคะ
นี่เป็นใบ Immigration และใบศุลกากร ของประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ update เมื่อ July2016
หน้าตาเป็นแบบนี้คะ ส่วนวิธีการกรอกนั้นเซิทหาเอานะคะ
ของฝนเจอที่ตรงกับอันนี้คือ http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/Embarkation.Disembarkation.Card-Japan.html?m=1
ใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า ไฟท์เวลาไทย 9:25 ถึง 16:55 เวลาญี่ปุ่น ขอบอกว่าตรงเวลามาก !! เป๊ะเวอร์ (เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าที่ไทย 2 ชม. คะ)
ลงจากเครื่อง ผ่าน ตม. (เราผ่านมาง่ายมากเลยคะ ตื่นเต้น อุตส่าห์มีหลักฐานมากมายเตรียมพร้อม)
ส่วนตัวคิดว่าช่อง Occupation สำคัญนะคะ เพราะก่อนหน้านี้ใส่ Student โดนถามตลอด
จากนั้นรับกระเป๋าที่สายพาน และเดินออกไปส่งใบศุลกากรให้เจ้าหน้าที่ออกมาปุป
เราจะไปสถานี Namba คะ จากสนามบิน Kansai ไปยัง สถานี Numba ง่ายมาก
ก่อนอื่นขึ้นบันไดเลื่อนไปอีก 1 ชั้น อันไหนก็ได้ขึ้นไปเลยคะ แล้วก็หันหลังให้ Terminal ที่เราเพิ่งลงเครื่องมา
ตรงไปยังไอแนวที่มีคนเดินสวนไปมาเยอะๆหน่อย จะเจอที่ขายตั๋วของสถานีรถไฟต่างๆ
เราเลือกนั่ง Nankai Line โดย Rapit หรือ รถไฟอัศวินสีน้ำเงิน นั้นเอง ค่าเสียหายอยู่ที่ 1,130 เยน x 0.35 = 395.5 บาท
ซื้อได้ที่เค้าเตอร์ตามภาพคะ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลดีมากคะ มีหลายทางให้เลือกจะไปสถานี Namba โดยขบวนไหน อันนี้ก็แล้วแต่คะ
เมื่อซื้อตั๋วมาแล้วก็ไปยังฝั่งตรงข้ามที่ขายตั๋วกันเลย ที่บัตรก็จะมีระบุ Seat , Car no. , Time เดินตรงเสียบบัตรเข้าไปเลยคะ
เมื่อเข้ามาแล้วลงบันไดเลื่อนมาจะมีป้ายบอกคะว่าฝั่งซ้ายหรือขวาหรืออะไรไปทางไหน ทุกอย่างมีป้ายบอกหมดเลย
และตรงพื้นก็ยังมีป้ายบอก Car no. คะ ที่ขบวนก่อนขึ้นก็ยังมีติดอีกทีคะ
เจ้าอัศวินแวะนู้นนี่นั่นนิดหน่อย แต่ก็ตรงยาวถึงสถานีนัมบะสถานีสุดท้าย ใช้เวลา 40 นาที ตรงเวลาเช่นเคย 18:05 - 18:45
สถานีนัมบะมันใหญ่มาก เจเจงงง เดินหลงกับสิ่งล่อตาล่อใจเดินไม่ถึง Exit สักที วันแรกยังไม่ชิน
ขนาดใต้ดินยังเป็นห้าง เอิ่มมม อยู่ข้างล่างยิ่งมึนๆ (แต่จริงๆมันง่ายมากนะคะ เป็นเพราะวันแรก) เราจึงเดินขึ้นด้านบน
โดยเกาะเส้น Shinsaibashi-suji โอ้วแม่เจ้าอยากเข้าทุกร้าน แต่กระเป๋าเกะกะ ไปเก็บก่อน
จริงๆที่พักเราออก Exit 25 แต่เราขึ้นมาจาก Exit อะไรยังไม่รู้ตัว เดินตามของและห้างมาล้วนๆ
ระหว่างรอกินราเมงข้อสอบ
วันนี้วันพุธ เค้ามีอะไรกันในคลอง โดทงบุริ ไม่รู้อะคะ เหมือนเลือกตั้งเลย
บรรยกาศดี๊ดี ตีกลอง สนุกครื้นเครง มีหลายลำมากคะ
เรากินแบบเด็กอะคะ 790 เยน ไม่เพิ่มไรเลย (276.5 บาท)
อยากลอกมั๊ยคะ 555555+ ถามใจเธอดู กินทุกวันก็ไม่เบื่อ
วันต่อมา ไป USJ จ้า ตื่นตี 5 บอกเลย สบายๆ รู้สึกได้ว่าพระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเร็วมาก
ไปไม่ยาก (แต่งงว่าทำไมเราเสียเงินสองต่อดูรีวิวคนอื่นเสียต่อเดียว งงจริงๆ) เที่ยวละ 360 เยน x 0.35 = 126 บาท
มาถึงไออย่างเช้า คนต่อคิวน้อยมาก นั่งกินข้าวเช้ากันตรงนี้เลยคะ
8:30 ประตูเปิดคะ
ก่อน 8:00 หันไปดูอีกที โอ้วหางแถวอยู่ไหนละนั่น
8:30 ปุป !! วิ่ง วิ่ง และวิ่ง เพื่อ Harry Potter
ไม่ต้องไปจุดสแกนเวลาเข้าที่เดินเลยหินและห้องน้ำไปนะคะ วิ่งเข้าโซน Harry ไปที่เครื่องเล่นใน Harry เลยคะ
ได้เล่นทันทีแบบไม่ต้องรอ
ก่อนเล่นเครื่องเล่นต้องฝากกระเป๋าก่อนคะ ร่มก็ต้องฝาก เครื่องเล่นมันจะเหวี่ยงๆแต่ก็ไม่ได้แรงมาก
เราก็สงสัยมากแล้วร่มคันใหญ่ๆจะฝากยังไงล็อคเกอร์ก็ใส่ไม่ได้แมะ
ไขข้อข้องใจ นางมีที่ฝากร่มคะ เราไม่เคยเห็นใครรีวิวตรงจุดนี้เลย ตอนแรกกลัวมากจะไม่มีที่ฝาก
หลุดจากล็อคเกอร์มาก็ชมบรรยกาศห้องต่างๆอยากจะเซลฟี่แสงไม่มีจริงๆ นี่แอบพก iPhone ติดมือเลยถ่ายได้นิดนึง มืดมาก
ภาพนี้ก่อนเล่นเครื่องเล่นอีกไม่กี่ก้าวคะ แสงพอจะจับภาพได้เท่านี้
(แอบบ่น..เราเป็นอะไรที่เมารถง่ายมาก ปรากฎว่าจากการวิ่งครั้งนี้ ต้องSpeedมาก เจอแดดร้อนๆ แล้วไม่ค่อยออกกำลังกาย เหนื่อยมากคะ
พอเข้าไปเล่น Harry มันมืดๆ ปรับแสงไม่ทัน ออกมาถึงกับเมา และอ้วกเลยคะ มันต้องใส่แว่น 4D ซึ่งเราเมาอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ดูหนัง 3 มิติยังไม่ค่อยจะได้ ขนาดตอนเล่นเครื่องเล่นถอดแว่นแล้วนะคะ กรุไม่ไหวแล้วโว้ยยย อ้วกในปราสาท Hogwarts เลยได้มั๊ย เมา เจ็บใจตัวเอง กว่าจะตั้งสติกลับคืนเป็นชั่วโมง..จบการบ่น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมาก)
ช้อปกันเถอะ ของใน USJ Harry Potter Zone มีอะไรน่าซื้อบ้าง ลุย !
มาดูที่ร้าน HONEYDUKES กันคะ
ผ้าคลุมอันนี้มี 2 ลายคะ อีกลายเป็นสีดำล้วน ตรงกระดุมเป็นตรา Hogwarts เราว่าสีแดง Hp 07 แหล่มกว่า จัดมา 1
GRYFFINDOR !
มานั่งพักที่ร้านไม้กวาด 3 อันแปป Butterbeer Frozen พร้อมแก้ว 1,250 เยน = 437.5 บาท
ซื้อเครื่องแบบนักเรียนกันคะ
ผ้าพันคอ 3,500 หรือ 4,800 เยนนี่ละคะ ลืม ไม่เกิน 1,680 บาท
เสื้อพวกนี้ทำจากผ้า Cadigan Made in Scotland ก่อนซื้อก็ไม่ได้ดูว่าเท่าไหร่ เพิ่งมาดูตอนนั่งเคลียบิลที่ไทยถึงกับช็อค
13,500 เยน = 4,725 บาท น้ำตาไหลหนักมาก
ร้าน Olivanders ไม้กายสิทธิ์ส่วนใหญ่ราคาไม่เกิน 5,000 เยนคะ (ไม่เกิน 2,000 บาท)
มุมนกฮูก
พลีชีพเทียบขนาดเฮ็ดวิกกับหน้า
นักแสดงเตรียมตัวไปแสดงคะ
คือนางจากบ้านเรเวนคอล หน้าเหมือนโชแชงมากกกกกกก (เป็นคนญี่ปุ่น)
มุมห้องน้ำ เมอเทิล จอมคร่ำครวญ กีดร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้ฟิลฯตรงภาษาญี่ปุ่นนี่ละ
ก๊อกพยายามให้เหมือนในเรื่อง (ก็ยังถ่าย)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น