คืนนี้พักที่นี่นะ ... รู้ยัง!?!!
"Amari Koh Samui"
ถามว่าที่เกาะสมุยมันมีอะไร ... ตอบเลย ผมไม่รู้!!
(แต่เอาเข้าจริง ผมก็ติดใจในความเป็นสมุย ถึงได้มาหลายครั้งแล้ว)
เมื่อตั๋วเครื่องบินพร้อม (ไปกับญาญ่าเช่นเคย)
โรงแรมก็เป็นใจ คราวนี้เลือก Amari เพราะเพิ่งเปิดใหม่เมื่อ 1 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ใช้เวลารีโนเวทนานถึง 1 ปี
(กรุณาลืมภาพเดิมๆ เชยๆ ของ Amari Palm Reef Samui ไปได้เลย)
แถมจังหวะดี เจอโปร 1 ฟรี 1 ของโรงแรมในเครือ ONXY
ซึ่ง Amari Koh Samui ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ลงตัว เป๊ะเฟร่อออออ!!
แลนดิ้งที่สมุยปั้บ ก็นั่งรถตู้บริการจากสนามบินมา ในราคา 150 บาทต่อท่าน
ถามว่าโรงแรมใกล้จากสนามบินไหม ... ไม่เลย ราวๆ 2 กิโลได้ (แต่ขอไม่เดินนะ แดดร้อนมว๊ากกกกก)
จากที่เคยนั่งสองแถวผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง คราวนี้ล่ะ พี่จะนั่ง จะนอนให้เต็มที่
กับ โรงแรมอมารี เกาะสมุย
ตัวโรงแรมมี 2 ฝั่ง ถูกคั่นกลางด้วย ... ถนน!! เลยจ้าาาาา เป็นถนนหลักที่จะไปเฉวง
แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ มีน้ารปภ. คอยโบกให้ข้ามถนน ดูรถให้อย่างดี
ฝั่งที่ไม่ติดทะเลซึ่งต้องข้ามถนนมา จะเป็นห้อง type สวน (Garden) สระน้ำ (Pool) และ หมู่บ้านไทย (Thai Village)
ซึ่งก็จะแยกย่อยไปอีก (รายละเอียดไม่ขอเล่าเพราะไม่ได้ข้ามไป)
แต่ถึงอย่างไร แขกที่เข้าพักก็ต้องมาเช็คอินที่ล้อบบี้ฝั่งบีชกันทุกคนครับ
อ่าาา ... เวรกรรมดิ้งค์ เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจ มองออกไปไม่ไกล ... เห็นทะเล
ทะเลสมุย คลื่นลมไม่แรง ... แต่มองไม่เคยเบื่อ
ได้เวลาชวนขึ้นห้องกันดีกว่าครับ ...
ห้องที่ผมพักจะเป็น type Grand Deluxe Ocean View King ซึ่งอยู่ฝั่งติดทะเล แถมวิวงี้ สุโค่ยมากๆ
อย่างที่บอก โรงแรมแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ซึ่งฝั่งที่ผมพักนั้น ห้องพักจะติดชายหาดซึ่งมีห้องพักเพียง 20 ห้องเท่านั้น
สเปคห้องว่าฟินแล้ว ทำเลของห้องที่ได้ยิ่งทำให้ฟินมาก ทั้งๆ ที่จิ้นอยู่
(กะว่าตรูจะไปออกไปไหนละ แช่
ในห้องนี่แหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ? อ่านต่อจ้ะ)
อมารีสมุยได้มอบประสบการณ์ใหม่อย่างไรแก่ผม นั่นก็คือ ...
มันเป็นห้องพักที่แพงที่สุดในชีวิต T_T ที่ไม่เคยคิดว่าจะควักได้
(กะว่าเจอโปร 1 แถม 1 แล้วต้องเล่นใหญ่ รัชดาลัยยังเอาไม่อยู่)
แต่เอาละ มันผ่านช่วงนั้นไปแล้ว ... ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปคือการตักตวง กอบโกยเอาบรรยากาศของทะเล๊ ทะเล มาให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ทางโรงแรมเคลมว่าห้องทุก type นั้น ซีวิวหมด คือเห็นทะเลทุกห้อง
ซึ่งจะซอยออก Junior Suite Beach Wing King, Junior Suite Ocean View King, Grand Deluxe Ocean View King และ Family
มาดูในส่วนของห้องพักก่อนเลย ผมมองว่า ห้องที่ได้พัก
(Grand Deluxe Ocean View King) น่าจะเป็นห้องที่วิวดีที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ แม้จะอยู่ชั้นบนก็ตาม (คหสต.)
จริงอยู่ว่า ห้องด้านล่าง (Junior Suite Ocean View King) มีราคาแพงที่สุดเนื่องจากเป็นบีชวิวที่มีทางขึ้นลงหาดเป็นของตัวเอง
ส่วนห้องแบบ Junior Suite Beach Wing King นี่ไม่ต้องพูดถึง เห็นทะเลลิบๆ แต่ดีกว่าตรงที่ห้องใหญ่สุด
ดังนั้น
“ในทรรศนะของข้าพเจ้า” ห้องที่ผมมองว่าโอเคสุดน่าจะเป็น Grand Deluxe Ocean View King ห้องผมนี่แหละ อิอิ
เพราะมองไปไม่ไกล คืบก็สระ ศอกก็ทะเล และที่สำคัญห้อง type จะมีเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้น recommend เลย
(และแน่นอนว่าก็ต้องแลกด้วยราคาหลักหมื่น แต่คิดว่าจองล่วงหน้าหลายๆ เดือนราคาก็คงไม่ถึงหรอก ลองหาดูนะครับ)
ห้องพักมีขนาด 45 ตารางเมตร จะเป็นแบบเตียง King ซึ่งนุ่มนวลชวนนอนมากกกกก ที่นอนหนาเท่ากับที่บ้านเลยคือ 14 นิ้ว
แน่นอนเตียงใหญ่หมอนก็ต้องมีหลายใบเป็นธรรมดา
แต่ที่ขัดใจเล็กน้อยคือหัวเตียงหันเข้าหาห้องน้ำซึ่งห้องน้ำเป็นกระจกใสทะลุเข้าไปได้
แม้จะทำหักเหลี่ยมทแยงเพื่อแก้เคล็ดของลูกค้าบางคนมาให้แล้วก็เถอะ
ปกติหลายโรงแรมก็เป็นเช่นนี้ แต่สำหรับที่นี่ ด้วยความที่เป็นกระจกใสกั้นห้อง จึงทำให้อยู่บนเตียงก็สามารถเห็นคนในห้องน้ำได้
(จริงๆมีม่านปิดนะ)
เข้าใจว่าออกแบบมาสำหรับคู่รัก!! ขนาดอ่างล้างหน้ายังจัดมาเป็นแพ็คคู่เลย (เรารู้กันนะตะเอง)
เปิดประตูห้องมาจะพบกับความสดใสของสีฟ้าเทอควอยส์ ตกแต่งอารมณ์ทะเล๊ทะเล นั่งบนเตียงมองออกไปทะลุระเบียงจะเห็นวิวทะเล
(เรียกได้ว่านอนแช่ได้ทั้งวัน)
ภายในห้องมี facilities ที่เป็นมาตรฐานโรงแรมทั่วไป คือมี LCD TV มีโต๊ะทำงานที่สำคัญ กระดาษปากกาพร้อม มีน้ำแร่ Vittel และ Snacks พอกรุบกริบแก้หิวได้ (เสียตังค์นะแพงด้วย)
แต่ที่เด็ดสุด!! ต้องยกนิ้วให้ คือมุมชากาแฟของฟรี อ่านปากตามณัชชานะคะว่า ฟรี!!
ที่นี่มี Twinings tea ให้บริการและมีกาแฟแคปซูลด้วยจ้ะ!! เก๋ตรงนี้ ... ฟรีด้วยถามแล้ว เอาไปเลย 10 10 10
ชงกาแฟเสร็จก็ถือแก้วมานั่งจิบ จะเป็นบนเก้าอี้หวาย ที่ดูคล้ายกับโซฟารับแขกอยู่ในห้อง แต่ใหญ่มากประมาณเตียง 3 ฟุตครึ่ง
เปิดประตูระเบียงรับลม แถมพัดลมในห้องก็แอนทีคผสมโมเดิร์น เปิดเบอร์ 2 พอ
หรือจะถือจัดเซต Afternoon Tea ก็เก๋ดีไม่หยอก นั่งด้านนอก ซึ่งได้วางเก้าอี้หวายทรงไข่ตัวใหญ่มาก (เต็มระเบียง) เอาไว้ให้นั่งมองทะเล
ได้มองฝรั่งอาบแดด-เล่นน้ำที่สระได้ในเวลาเดียวกัน (นับเป็นอาหารตาที่ดีมาก)
พนักงานแจ้งว่าประตูระเบียงจะเป็นระบบตัดไฟในห้องอัตโนมัติ ถ้าเปิดค้างไว้เกิน 2 นาที ลองเทสต์ดู จะไปตัดที่ระบบแอร์แต่ก็ยังงงๆ อยู่ว่าเซนเซอร์รับส่งดูตรงไหน (ใครมีความรู้เรื่องนี้อธิบายทีนะครับ)
ส่วนตัวแล้วชอบระบบ Control ภายในห้องมาก แท่นเดียวครบทั้งแสงและเสียง
ฟังเพลงได้จาก iPhone (อย่าลืมเซตเพลย์ลิสต์ส่วนตัวก่อนเอามาเปิด หมอลงหมอลำไม่เข้ากันนะบอกว่าก่อน เก็บไว้ฟังที่บ้านเรานะลูก)
มาทะเลแบบนี้ต้องฟังบอซซ่า แจ๊ส หรือว่าเรกเก้เบาๆ ...
เย็นมาก็ได้เวลาไปเล่นน้ำครับ ตามประสา ... มาทะเลก็ต้องเล่นน้ำทะเลบ้าง (ไหนอ่ะ!?!!)
เอาเข้าจริง ผมก็ว่าผมเป็นคนแปลกอย่างนึงนะ คือชอบมาทะเล แต่ไม่ชอบเล่นน้ำทะเลเลย!!
เคยครั้งนึงไปนั่งเรือกล้วยที่พัทยา นั่งไปดำคว่ำดำหงายอยู่ 2 รอบ ขอเพื่อนว่ากลับเข้าฝั่งก่อนนะไม่ไหวละ "มึนและเค็ม"
อารมณ์ของเด็กดอยอย่างผม เวลามาทะเล คือได้นั่งริมชายหาด ฟังเสียงคลื่นสลับกับเสียงคนข้างๆ มีเครื่องดื่มเย็นๆ จิบเบาๆ ... เท่านี้ก็ดีใจแล้ว!!
คืนแรกของผมที่นี่ กำลังจะผ่านไป ...
...
[CR] === long time no sea l กานต์เดินทาง l โรงแรมอมารี เกาะสมุย ===
"Amari Koh Samui"
ถามว่าที่เกาะสมุยมันมีอะไร ... ตอบเลย ผมไม่รู้!!
(แต่เอาเข้าจริง ผมก็ติดใจในความเป็นสมุย ถึงได้มาหลายครั้งแล้ว)
เมื่อตั๋วเครื่องบินพร้อม (ไปกับญาญ่าเช่นเคย)
โรงแรมก็เป็นใจ คราวนี้เลือก Amari เพราะเพิ่งเปิดใหม่เมื่อ 1 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ใช้เวลารีโนเวทนานถึง 1 ปี
(กรุณาลืมภาพเดิมๆ เชยๆ ของ Amari Palm Reef Samui ไปได้เลย)
แถมจังหวะดี เจอโปร 1 ฟรี 1 ของโรงแรมในเครือ ONXY
ซึ่ง Amari Koh Samui ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ลงตัว เป๊ะเฟร่อออออ!!
แลนดิ้งที่สมุยปั้บ ก็นั่งรถตู้บริการจากสนามบินมา ในราคา 150 บาทต่อท่าน
ถามว่าโรงแรมใกล้จากสนามบินไหม ... ไม่เลย ราวๆ 2 กิโลได้ (แต่ขอไม่เดินนะ แดดร้อนมว๊ากกกกก)
จากที่เคยนั่งสองแถวผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง คราวนี้ล่ะ พี่จะนั่ง จะนอนให้เต็มที่
กับ โรงแรมอมารี เกาะสมุย
ตัวโรงแรมมี 2 ฝั่ง ถูกคั่นกลางด้วย ... ถนน!! เลยจ้าาาาา เป็นถนนหลักที่จะไปเฉวง
แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ มีน้ารปภ. คอยโบกให้ข้ามถนน ดูรถให้อย่างดี
ฝั่งที่ไม่ติดทะเลซึ่งต้องข้ามถนนมา จะเป็นห้อง type สวน (Garden) สระน้ำ (Pool) และ หมู่บ้านไทย (Thai Village)
ซึ่งก็จะแยกย่อยไปอีก (รายละเอียดไม่ขอเล่าเพราะไม่ได้ข้ามไป)
แต่ถึงอย่างไร แขกที่เข้าพักก็ต้องมาเช็คอินที่ล้อบบี้ฝั่งบีชกันทุกคนครับ
อ่าาา ... เวรกรรมดิ้งค์ เป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจ มองออกไปไม่ไกล ... เห็นทะเล
ทะเลสมุย คลื่นลมไม่แรง ... แต่มองไม่เคยเบื่อ
ได้เวลาชวนขึ้นห้องกันดีกว่าครับ ...
ห้องที่ผมพักจะเป็น type Grand Deluxe Ocean View King ซึ่งอยู่ฝั่งติดทะเล แถมวิวงี้ สุโค่ยมากๆ
อย่างที่บอก โรงแรมแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ซึ่งฝั่งที่ผมพักนั้น ห้องพักจะติดชายหาดซึ่งมีห้องพักเพียง 20 ห้องเท่านั้น
สเปคห้องว่าฟินแล้ว ทำเลของห้องที่ได้ยิ่งทำให้ฟินมาก ทั้งๆ ที่จิ้นอยู่
(กะว่าตรูจะไปออกไปไหนละ แช่ในห้องนี่แหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ? อ่านต่อจ้ะ)
อมารีสมุยได้มอบประสบการณ์ใหม่อย่างไรแก่ผม นั่นก็คือ ...
มันเป็นห้องพักที่แพงที่สุดในชีวิต T_T ที่ไม่เคยคิดว่าจะควักได้
(กะว่าเจอโปร 1 แถม 1 แล้วต้องเล่นใหญ่ รัชดาลัยยังเอาไม่อยู่)
แต่เอาละ มันผ่านช่วงนั้นไปแล้ว ... ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปคือการตักตวง กอบโกยเอาบรรยากาศของทะเล๊ ทะเล มาให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ทางโรงแรมเคลมว่าห้องทุก type นั้น ซีวิวหมด คือเห็นทะเลทุกห้อง
ซึ่งจะซอยออก Junior Suite Beach Wing King, Junior Suite Ocean View King, Grand Deluxe Ocean View King และ Family
มาดูในส่วนของห้องพักก่อนเลย ผมมองว่า ห้องที่ได้พัก (Grand Deluxe Ocean View King) น่าจะเป็นห้องที่วิวดีที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ แม้จะอยู่ชั้นบนก็ตาม (คหสต.)
จริงอยู่ว่า ห้องด้านล่าง (Junior Suite Ocean View King) มีราคาแพงที่สุดเนื่องจากเป็นบีชวิวที่มีทางขึ้นลงหาดเป็นของตัวเอง
ส่วนห้องแบบ Junior Suite Beach Wing King นี่ไม่ต้องพูดถึง เห็นทะเลลิบๆ แต่ดีกว่าตรงที่ห้องใหญ่สุด
ดังนั้น “ในทรรศนะของข้าพเจ้า” ห้องที่ผมมองว่าโอเคสุดน่าจะเป็น Grand Deluxe Ocean View King ห้องผมนี่แหละ อิอิ
เพราะมองไปไม่ไกล คืบก็สระ ศอกก็ทะเล และที่สำคัญห้อง type จะมีเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้น recommend เลย
(และแน่นอนว่าก็ต้องแลกด้วยราคาหลักหมื่น แต่คิดว่าจองล่วงหน้าหลายๆ เดือนราคาก็คงไม่ถึงหรอก ลองหาดูนะครับ)
ห้องพักมีขนาด 45 ตารางเมตร จะเป็นแบบเตียง King ซึ่งนุ่มนวลชวนนอนมากกกกก ที่นอนหนาเท่ากับที่บ้านเลยคือ 14 นิ้ว
แน่นอนเตียงใหญ่หมอนก็ต้องมีหลายใบเป็นธรรมดา
แต่ที่ขัดใจเล็กน้อยคือหัวเตียงหันเข้าหาห้องน้ำซึ่งห้องน้ำเป็นกระจกใสทะลุเข้าไปได้
แม้จะทำหักเหลี่ยมทแยงเพื่อแก้เคล็ดของลูกค้าบางคนมาให้แล้วก็เถอะ
ปกติหลายโรงแรมก็เป็นเช่นนี้ แต่สำหรับที่นี่ ด้วยความที่เป็นกระจกใสกั้นห้อง จึงทำให้อยู่บนเตียงก็สามารถเห็นคนในห้องน้ำได้
(จริงๆมีม่านปิดนะ)
เข้าใจว่าออกแบบมาสำหรับคู่รัก!! ขนาดอ่างล้างหน้ายังจัดมาเป็นแพ็คคู่เลย (เรารู้กันนะตะเอง)
เปิดประตูห้องมาจะพบกับความสดใสของสีฟ้าเทอควอยส์ ตกแต่งอารมณ์ทะเล๊ทะเล นั่งบนเตียงมองออกไปทะลุระเบียงจะเห็นวิวทะเล
(เรียกได้ว่านอนแช่ได้ทั้งวัน)
ภายในห้องมี facilities ที่เป็นมาตรฐานโรงแรมทั่วไป คือมี LCD TV มีโต๊ะทำงานที่สำคัญ กระดาษปากกาพร้อม มีน้ำแร่ Vittel และ Snacks พอกรุบกริบแก้หิวได้ (เสียตังค์นะแพงด้วย)
แต่ที่เด็ดสุด!! ต้องยกนิ้วให้ คือมุมชากาแฟของฟรี อ่านปากตามณัชชานะคะว่า ฟรี!!
ที่นี่มี Twinings tea ให้บริการและมีกาแฟแคปซูลด้วยจ้ะ!! เก๋ตรงนี้ ... ฟรีด้วยถามแล้ว เอาไปเลย 10 10 10
ชงกาแฟเสร็จก็ถือแก้วมานั่งจิบ จะเป็นบนเก้าอี้หวาย ที่ดูคล้ายกับโซฟารับแขกอยู่ในห้อง แต่ใหญ่มากประมาณเตียง 3 ฟุตครึ่ง
เปิดประตูระเบียงรับลม แถมพัดลมในห้องก็แอนทีคผสมโมเดิร์น เปิดเบอร์ 2 พอ
หรือจะถือจัดเซต Afternoon Tea ก็เก๋ดีไม่หยอก นั่งด้านนอก ซึ่งได้วางเก้าอี้หวายทรงไข่ตัวใหญ่มาก (เต็มระเบียง) เอาไว้ให้นั่งมองทะเล
ได้มองฝรั่งอาบแดด-เล่นน้ำที่สระได้ในเวลาเดียวกัน (นับเป็นอาหารตาที่ดีมาก)
พนักงานแจ้งว่าประตูระเบียงจะเป็นระบบตัดไฟในห้องอัตโนมัติ ถ้าเปิดค้างไว้เกิน 2 นาที ลองเทสต์ดู จะไปตัดที่ระบบแอร์แต่ก็ยังงงๆ อยู่ว่าเซนเซอร์รับส่งดูตรงไหน (ใครมีความรู้เรื่องนี้อธิบายทีนะครับ)
ส่วนตัวแล้วชอบระบบ Control ภายในห้องมาก แท่นเดียวครบทั้งแสงและเสียง
ฟังเพลงได้จาก iPhone (อย่าลืมเซตเพลย์ลิสต์ส่วนตัวก่อนเอามาเปิด หมอลงหมอลำไม่เข้ากันนะบอกว่าก่อน เก็บไว้ฟังที่บ้านเรานะลูก)
มาทะเลแบบนี้ต้องฟังบอซซ่า แจ๊ส หรือว่าเรกเก้เบาๆ ...
เย็นมาก็ได้เวลาไปเล่นน้ำครับ ตามประสา ... มาทะเลก็ต้องเล่นน้ำทะเลบ้าง (ไหนอ่ะ!?!!)
เอาเข้าจริง ผมก็ว่าผมเป็นคนแปลกอย่างนึงนะ คือชอบมาทะเล แต่ไม่ชอบเล่นน้ำทะเลเลย!!
เคยครั้งนึงไปนั่งเรือกล้วยที่พัทยา นั่งไปดำคว่ำดำหงายอยู่ 2 รอบ ขอเพื่อนว่ากลับเข้าฝั่งก่อนนะไม่ไหวละ "มึนและเค็ม"
อารมณ์ของเด็กดอยอย่างผม เวลามาทะเล คือได้นั่งริมชายหาด ฟังเสียงคลื่นสลับกับเสียงคนข้างๆ มีเครื่องดื่มเย็นๆ จิบเบาๆ ... เท่านี้ก็ดีใจแล้ว!!
คืนแรกของผมที่นี่ กำลังจะผ่านไป ...
...
อ่านกระทู้ก่อนหน้านี้
>>>>>นอนโรงแรมแคปซูลดีไซน์ล้ำอนาคตที่เกียวโต 9h nine hours hotel Kyoto<<<<< http://ppantip.com/topic/35368521
>>>>>เที่ยว TOKYO นอน toco ... Heritage Hostel อายุราว 100 ปี!!<<<<< http://ppantip.com/topic/35351738
>>>>>กานต์เดินทาง : สัมผัสดินแดนมังกรสายฟ้า "ภูฏาน"<<<<< http://ppantip.com/topic/35350079
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น