เมื่อวานได้ไปชมละครเวทีเรื่อง ก๊วนคานทอง Love Game The Musical รอบกาล่าที่โรงละครสยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ชั้นเจ็ดมาค่ะ
พอดีเพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า ไม่เคยทราบข่าวคราวของการสร้างละครเวทีครั้งนี้มาก่อนเลย ถ้าใครยังไม่ทราบ ก๊วนคานทอง Love Game The Musical สร้างจากบทประพันธ์เรื่องก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ของวัตตรา และเป็นเรื่องเดียวกับที่เมื่อสักสองปีก่อนถูกทำเป็นละครโทรทัศน์ทางไทยทีวีสีช่องสาม จนทำให้คู่จิ้นธีรณีเกิดขึ้นบนโลกนั่นแหละค่ะ (ใครไม่รู้เรื่องย่อ Google มีให้คุณอ่านค่ะ Search โลด) มาคราวนี้ได้ถูกนำเสนอใหม่ในรูปแบบของละครเวทีโดย Musical Musicals เขียนบทละครโดยคุณศุภวัตน์ หงษา และประพันธ์เพลงโดยทีม GNS House และคุณจิรัฏฐ์ ภาคินพณชย์กุลค่ะ
นักแสดงที่มารับบทนำของละครเรื่องนี้ก็จะมีลูกหว้า พิจิกา, แคทรียา อิงลิช, อีฟ พุทธิดา, ชาย ชาตโยดม, อาร์ อาณัตพล, เก้ง เครสเชนโด้, ศรัทธา ศรัทธาทิพย์, ตุ๊ก วิยะดา, คุณนีรนุช ปัทมสูต, เนท กานดา (มิสไซง่อน/ซูสีไทเฮาแคสต์แรก), จ๋า สุดาพิมพ์, ดร.นลิน เพ็ชรอินทร์ ที่ทราบมาว่าเป็นทั้งนักแสดง, Music Director และ Vocal Director นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบมากฝีมืออีกหลายท่าน
ภาพรวมของก๊วนคานทอง Love Game The Musical เป็นละครที่ดูแล้วก็อมยิ้มกรุ้มกริ่ม ๆ ไปเรื่อย ๆ ออกแนว Feel Good ประหนึ่งเป็นเครือญาติกับ GTH เมื่อละครเริ่ม สิ่งแรกที่ประทับใจคือ เหล่า Ensemble หรือนักแสดงหมู่มวลทั้งหลายที่ออกมาฉากแรกก็ทำให้บรรยากาศในโรงละครคึกคักกระฉับกระเฉงขึ้นมาเลย ต้องชื่นชมคนกำกับลีลาบนเวทีที่ออกแบบการแสดงได้เก่งมาก
ที่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามีความน่าสนใจก็คือเรื่องของบทและฉาก การนำเสนอครั้งนี้ถูกตีความว่าการชิงดีชิงเด่นกันหลังจากแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองหลังจากผิดใจกันของตัวเอกทั้งสามอย่างลินี น้ำผึ้ง และเมเปิ้ลเสมือนว่าเป็นการเล่นเกม โดยที่ฝ่ายผู้ของพวกนางที่มองเห็นเรื่องราวทั้งหมดและมีส่วนพัวพันกับเกมครั้งนี้ก็เลยรวมหัวกันเล่นเกมซ้อนเกมของพวกนางอีกที (แม๊! ยังกะ Hunger Game) โดยที่ละครพยายามเล่าเรื่องด้วยการเปรียบเทียบการพยายามหาทางออกของลินี น้ำผึ้ง และเมเปิ้ลหลังจากที่ประกาศว่าจะแต่งงานอีกหนึ่งเดือนหลังจากงานแต่งงานของวลัยเพื่อนเลิฟ โดยการจัดวางฉากของทั้งสามคนอยู่ด้วยกันบนเวที และใช้วิธีตัดสลับเหตุการณ์ด้วยบทพูดและแสง รู้สึกว่าเป็นไอเดียที่เก๋ดี แต่ในความเก๋นั้นก็มีความไม่สมูทอยู่บ้าง เช่น การจัดไฟยังไม่เฉียบคมพอ ประกอบกับในส่วนอื่นของบนเวทีมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้โฟกัสของคนดูไม่ค่อยอยู่ในจุดที่ละครต้องการจะให้โฟกัสเท่าไหร่ หรือการเชื่อมโยงเหตุการณ์ด้วยประโยคสุดท้ายของนักแสดงในสถานที่หนึ่ง และเริ่มต้นด้วยคำเดียวกันของนักแสดงอีกสถานที่ ที่ตอนทำแรก ๆ ดูโอเค แต่พอทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งก็ดูเฝือไปเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องปกติของการแสดงในรอบแรก ๆ ที่อาจจะยังมีอะไรไม่เข้าที่เข้าทางไปบ้าง แต่ทุกอย่างจะดีขึ้นในรอบต่อ ๆ ไป
สิ่งที่ดีงามอีกอย่างหนึ่งของละครเรื่องนี้คือเพลง เพลงเพราะมากกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เป็นเพลงที่ฟังง่าย ติดหู ถึงส่วนตัวจะยังรู้สึกจับทำนองหลักของเรื่องตามธรรมเนียมของมิวสิคัลทั่วไปที่มักจะมีไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าติดขัดอะไร ยิ่งได้นักแสดงที่มีทักษะทางการร้องเพลงที่ดีมากแทบทุกท่านมาร้อง ยิ่งทำให้เพลงเพราะและคล้อยตามอารมณ์ของตัวละครไปได้ง่าย ๆ เลย คือแค่ได้มาฟังเพลงจากละครเรื่องนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าบัตรแล้ว
ในส่วนของนักแสดงนั้น ถือว่าละครเรื่องนี้มีมาตรฐานในการแคสติ้งนักแสดงมาค่อนข้างสูง เพราะมีฝีมือทุกคน ในส่วนของสี่สาวเพื่อนซี้ที่เป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด ที่โดดเด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตัวแม่อย่างลูกหว้า พิจิกา ที่รับบทเป็นลินี ซึ่งการแสดงของเธอเฉียบคมมาก ร้องเพลงก็สื่อสารอารมณ์ชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นคนที่แบกละครเอาไว้ในหลาย ๆ ฉาก แคทรียา อิงลิชในบทน้ำผึ้งก็แสดงถึงศักยภาพในตัวเองให้เห็นว่านอกจากภาพนักร้องเพลงป๊อบแดนซ์ที่หลายคนคุ้นชิน เธอยังสามารถเป็นดาราละครเวทีได้อย่างดีเยี่ยม นลิน เพ็ชรอินทร์ในบทวลัยที่เป็นตัวเชื่อมเรื่องราวทั้งหมดนั้นแสดงได้ดี แม้ว่าบางซีนที่มีตัวละครอื่นร่วมอยู่ เธออาจจะจมหายไปบ้างเนื่องจากเป็นคนตัวเล็ก แต่ทักษะในการร้องเพลงและการสื่อสารของเธอสูงมาก ส่วนอีฟ พุทธิดา ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนในกลุ่มอีกสามคนจะดูอ่อนกว่าทั้งในเรื่องจังหวะการแสดงและทักษะการร้องเพลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นนักแสดงที่มีฝีมือคนหนึ่ง
ฝั่งของพระเอกนั้น ถือว่าน่ารักน่าหยิกทั้งสามคน ชาย ชาตโยดมในบทพีศนั้นก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีทั้งเรื่องการแสดงและการร้องที่ดูจะแตกต่างจากละครเพลงเรื่องอื่น ๆ ที่เคยเล่น เรื่องนี้จะร้องได้แข็งแรงและมีความเป็นเพลงป๊อบมากกว่าเรื่องก่อน ๆ นอกจากนี้ยังได้เห็นชาย ชาตโยดมเต้นด้วย! น่าเอ็นดู๊!! น่ารักน่าหยิกเหมือนหมีน้อย!! อาร์ อาณัตพลที่รับบทวายุบุตรก็เก่งมากแบบไม่น่าแปลกใจในฝีมือ เพราะเคยผ่านละครเวทีมาก่อนแล้ว แต่ทราบมาว่าก่อนหน้าบทนี้จะแสดงโดยคุณคิว วงฟลัวร์ แต่คุณคิวประสบอุบัติเหตุ เลยได้อาร์มาเล่นแทนก่อนแสดงจริงในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งถ้ามองจากจุดนี้ อาร์เป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์และน่าทึ่งมาก แต่ในบรรดานักแสดงนำฝ่ายชาย ส่วนตัวเรากลับชอบการแสดงของเก้ง เครสเชนโด้มากที่สุด แสดงได้จังหวะดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะไม่ได้เป็นคนหน้าตาหล่อเหลา แต่มีเสน่ห์ดี เแถมยังร้องเพลงเพราะมากอีกด้วย
ส่วนนักแสดงร่วมคนอื่น ๆ ก็ถือว่ารับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดีและทำให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างลื่นไหลไม่สะดุด ทั้งคุณตุ๊ก วิยะดา, ครูรัก ศรัทธา, คุณนีรนุช ปัทมสูต ฯลฯ แต่ที่เก๋ยังมีอีกสองคนคือเนท กานดา ที่รับบทสิริมา และจ๋า สุดาพิมพ์ ที่รับบทธัญรดา ะเป็นบทเล็ก ๆ แต่มีเพลงโซโล่เป็นของตัวเองนะจ๊ะ แถมร้องกันยิ่งใหญ่ไม่เกรงใจตัวหลักเลย 555 แต่ในส่วนของนักแสดงสมทบนั้น เรามีความเห็นว่ามีตัวละครมากเกินไป บางบทไม่จำเป็นจะต้องมีก็ได้ เนื่องจากว่าละครเรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวสามเรื่องของตัวละครหลักสามคู่ การมีบทยิบย่อยของนักแสดงสมทบที่ไม่ได้มีผลอะไรกับเส้นเรื่องทำให้ละครเกิดความเยิ่นเย้อโดยไม่จำเป็น และการเกลี่ยบทและน้ำหนักความสำคัญของตัวละครอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง
ในรอบที่เราไปดู มีปัญหาเรื่องของระบบเสียง และการเปลี่ยนฉากอยู่บ้าง บางซีน เสียงไมค์ของ Ensemble ดังกว่าไมค์ของนักแสดงนำทำให้ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือจังหวะการแสดงหน้าม่านโดยไม่มีเสียงดนตรีคลอ หลังม่านเสียงเปลี่ยนฉากดังสวบสาบมากจริง ๆ ทำให้บางทีอารมณ์ของเรื่องสะดุดเหมือนกัน อยากฝากให้ทีมงานลองหาวิธีแก้ไขปัญหาตรงนี้หน่อยนะคะ
เรียกได้ว่า ก๊วนคานทอง Love Game The Musical เป็นละครที่สนุก ครบรส และเพลงเพราะมากจริง ๆ เชื่อว่าจะถูกใจคนที่ได้ไปชมแน่นอน ซึ่งรอบการแสดงมีจำกัดนะ แค่ 10 รอบเท่านั้น เริ่มแสดงตั้งแต่ 22-31 กรกฏาคม 2559 ที่โรงละครสยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ชั้นเจ็ด จองบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com ทุกสาขา
คำแนะนำสุดท้าย เนื่องจากละครเรื่องนี้ค่อนข้างยาว (สามชั่วโมงกว่า) เพราะฉะนั้น กรุณาวอร์มร่างกายก่อนเข้าโรงละครเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ และอย่าดื่มน้ำเยอะก่อนชม เพราะถ้าปวดฉี่มาจะซวย อ้อ! เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมด้วย เพราะโรงละครได้จำลองบรรยากาศเอสกิโมขั้วโลกเหนือมาไว้ในโรงละครประกอบการแสดง!
ก๊วนคานทอง Love Game The Musical เกมหัวใจที่ให้ความสุขและรอยยิ้ม
พอดีเพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า ไม่เคยทราบข่าวคราวของการสร้างละครเวทีครั้งนี้มาก่อนเลย ถ้าใครยังไม่ทราบ ก๊วนคานทอง Love Game The Musical สร้างจากบทประพันธ์เรื่องก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ของวัตตรา และเป็นเรื่องเดียวกับที่เมื่อสักสองปีก่อนถูกทำเป็นละครโทรทัศน์ทางไทยทีวีสีช่องสาม จนทำให้คู่จิ้นธีรณีเกิดขึ้นบนโลกนั่นแหละค่ะ (ใครไม่รู้เรื่องย่อ Google มีให้คุณอ่านค่ะ Search โลด) มาคราวนี้ได้ถูกนำเสนอใหม่ในรูปแบบของละครเวทีโดย Musical Musicals เขียนบทละครโดยคุณศุภวัตน์ หงษา และประพันธ์เพลงโดยทีม GNS House และคุณจิรัฏฐ์ ภาคินพณชย์กุลค่ะ
นักแสดงที่มารับบทนำของละครเรื่องนี้ก็จะมีลูกหว้า พิจิกา, แคทรียา อิงลิช, อีฟ พุทธิดา, ชาย ชาตโยดม, อาร์ อาณัตพล, เก้ง เครสเชนโด้, ศรัทธา ศรัทธาทิพย์, ตุ๊ก วิยะดา, คุณนีรนุช ปัทมสูต, เนท กานดา (มิสไซง่อน/ซูสีไทเฮาแคสต์แรก), จ๋า สุดาพิมพ์, ดร.นลิน เพ็ชรอินทร์ ที่ทราบมาว่าเป็นทั้งนักแสดง, Music Director และ Vocal Director นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบมากฝีมืออีกหลายท่าน
ภาพรวมของก๊วนคานทอง Love Game The Musical เป็นละครที่ดูแล้วก็อมยิ้มกรุ้มกริ่ม ๆ ไปเรื่อย ๆ ออกแนว Feel Good ประหนึ่งเป็นเครือญาติกับ GTH เมื่อละครเริ่ม สิ่งแรกที่ประทับใจคือ เหล่า Ensemble หรือนักแสดงหมู่มวลทั้งหลายที่ออกมาฉากแรกก็ทำให้บรรยากาศในโรงละครคึกคักกระฉับกระเฉงขึ้นมาเลย ต้องชื่นชมคนกำกับลีลาบนเวทีที่ออกแบบการแสดงได้เก่งมาก
ที่ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามีความน่าสนใจก็คือเรื่องของบทและฉาก การนำเสนอครั้งนี้ถูกตีความว่าการชิงดีชิงเด่นกันหลังจากแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองหลังจากผิดใจกันของตัวเอกทั้งสามอย่างลินี น้ำผึ้ง และเมเปิ้ลเสมือนว่าเป็นการเล่นเกม โดยที่ฝ่ายผู้ของพวกนางที่มองเห็นเรื่องราวทั้งหมดและมีส่วนพัวพันกับเกมครั้งนี้ก็เลยรวมหัวกันเล่นเกมซ้อนเกมของพวกนางอีกที (แม๊! ยังกะ Hunger Game) โดยที่ละครพยายามเล่าเรื่องด้วยการเปรียบเทียบการพยายามหาทางออกของลินี น้ำผึ้ง และเมเปิ้ลหลังจากที่ประกาศว่าจะแต่งงานอีกหนึ่งเดือนหลังจากงานแต่งงานของวลัยเพื่อนเลิฟ โดยการจัดวางฉากของทั้งสามคนอยู่ด้วยกันบนเวที และใช้วิธีตัดสลับเหตุการณ์ด้วยบทพูดและแสง รู้สึกว่าเป็นไอเดียที่เก๋ดี แต่ในความเก๋นั้นก็มีความไม่สมูทอยู่บ้าง เช่น การจัดไฟยังไม่เฉียบคมพอ ประกอบกับในส่วนอื่นของบนเวทีมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้โฟกัสของคนดูไม่ค่อยอยู่ในจุดที่ละครต้องการจะให้โฟกัสเท่าไหร่ หรือการเชื่อมโยงเหตุการณ์ด้วยประโยคสุดท้ายของนักแสดงในสถานที่หนึ่ง และเริ่มต้นด้วยคำเดียวกันของนักแสดงอีกสถานที่ ที่ตอนทำแรก ๆ ดูโอเค แต่พอทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งก็ดูเฝือไปเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องปกติของการแสดงในรอบแรก ๆ ที่อาจจะยังมีอะไรไม่เข้าที่เข้าทางไปบ้าง แต่ทุกอย่างจะดีขึ้นในรอบต่อ ๆ ไป
สิ่งที่ดีงามอีกอย่างหนึ่งของละครเรื่องนี้คือเพลง เพลงเพราะมากกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เป็นเพลงที่ฟังง่าย ติดหู ถึงส่วนตัวจะยังรู้สึกจับทำนองหลักของเรื่องตามธรรมเนียมของมิวสิคัลทั่วไปที่มักจะมีไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าติดขัดอะไร ยิ่งได้นักแสดงที่มีทักษะทางการร้องเพลงที่ดีมากแทบทุกท่านมาร้อง ยิ่งทำให้เพลงเพราะและคล้อยตามอารมณ์ของตัวละครไปได้ง่าย ๆ เลย คือแค่ได้มาฟังเพลงจากละครเรื่องนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าบัตรแล้ว
ในส่วนของนักแสดงนั้น ถือว่าละครเรื่องนี้มีมาตรฐานในการแคสติ้งนักแสดงมาค่อนข้างสูง เพราะมีฝีมือทุกคน ในส่วนของสี่สาวเพื่อนซี้ที่เป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด ที่โดดเด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตัวแม่อย่างลูกหว้า พิจิกา ที่รับบทเป็นลินี ซึ่งการแสดงของเธอเฉียบคมมาก ร้องเพลงก็สื่อสารอารมณ์ชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นคนที่แบกละครเอาไว้ในหลาย ๆ ฉาก แคทรียา อิงลิชในบทน้ำผึ้งก็แสดงถึงศักยภาพในตัวเองให้เห็นว่านอกจากภาพนักร้องเพลงป๊อบแดนซ์ที่หลายคนคุ้นชิน เธอยังสามารถเป็นดาราละครเวทีได้อย่างดีเยี่ยม นลิน เพ็ชรอินทร์ในบทวลัยที่เป็นตัวเชื่อมเรื่องราวทั้งหมดนั้นแสดงได้ดี แม้ว่าบางซีนที่มีตัวละครอื่นร่วมอยู่ เธออาจจะจมหายไปบ้างเนื่องจากเป็นคนตัวเล็ก แต่ทักษะในการร้องเพลงและการสื่อสารของเธอสูงมาก ส่วนอีฟ พุทธิดา ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนในกลุ่มอีกสามคนจะดูอ่อนกว่าทั้งในเรื่องจังหวะการแสดงและทักษะการร้องเพลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นนักแสดงที่มีฝีมือคนหนึ่ง
ฝั่งของพระเอกนั้น ถือว่าน่ารักน่าหยิกทั้งสามคน ชาย ชาตโยดมในบทพีศนั้นก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีทั้งเรื่องการแสดงและการร้องที่ดูจะแตกต่างจากละครเพลงเรื่องอื่น ๆ ที่เคยเล่น เรื่องนี้จะร้องได้แข็งแรงและมีความเป็นเพลงป๊อบมากกว่าเรื่องก่อน ๆ นอกจากนี้ยังได้เห็นชาย ชาตโยดมเต้นด้วย! น่าเอ็นดู๊!! น่ารักน่าหยิกเหมือนหมีน้อย!! อาร์ อาณัตพลที่รับบทวายุบุตรก็เก่งมากแบบไม่น่าแปลกใจในฝีมือ เพราะเคยผ่านละครเวทีมาก่อนแล้ว แต่ทราบมาว่าก่อนหน้าบทนี้จะแสดงโดยคุณคิว วงฟลัวร์ แต่คุณคิวประสบอุบัติเหตุ เลยได้อาร์มาเล่นแทนก่อนแสดงจริงในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งถ้ามองจากจุดนี้ อาร์เป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์และน่าทึ่งมาก แต่ในบรรดานักแสดงนำฝ่ายชาย ส่วนตัวเรากลับชอบการแสดงของเก้ง เครสเชนโด้มากที่สุด แสดงได้จังหวะดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะไม่ได้เป็นคนหน้าตาหล่อเหลา แต่มีเสน่ห์ดี เแถมยังร้องเพลงเพราะมากอีกด้วย
ส่วนนักแสดงร่วมคนอื่น ๆ ก็ถือว่ารับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดีและทำให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างลื่นไหลไม่สะดุด ทั้งคุณตุ๊ก วิยะดา, ครูรัก ศรัทธา, คุณนีรนุช ปัทมสูต ฯลฯ แต่ที่เก๋ยังมีอีกสองคนคือเนท กานดา ที่รับบทสิริมา และจ๋า สุดาพิมพ์ ที่รับบทธัญรดา ะเป็นบทเล็ก ๆ แต่มีเพลงโซโล่เป็นของตัวเองนะจ๊ะ แถมร้องกันยิ่งใหญ่ไม่เกรงใจตัวหลักเลย 555 แต่ในส่วนของนักแสดงสมทบนั้น เรามีความเห็นว่ามีตัวละครมากเกินไป บางบทไม่จำเป็นจะต้องมีก็ได้ เนื่องจากว่าละครเรื่องนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวสามเรื่องของตัวละครหลักสามคู่ การมีบทยิบย่อยของนักแสดงสมทบที่ไม่ได้มีผลอะไรกับเส้นเรื่องทำให้ละครเกิดความเยิ่นเย้อโดยไม่จำเป็น และการเกลี่ยบทและน้ำหนักความสำคัญของตัวละครอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง
ในรอบที่เราไปดู มีปัญหาเรื่องของระบบเสียง และการเปลี่ยนฉากอยู่บ้าง บางซีน เสียงไมค์ของ Ensemble ดังกว่าไมค์ของนักแสดงนำทำให้ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือจังหวะการแสดงหน้าม่านโดยไม่มีเสียงดนตรีคลอ หลังม่านเสียงเปลี่ยนฉากดังสวบสาบมากจริง ๆ ทำให้บางทีอารมณ์ของเรื่องสะดุดเหมือนกัน อยากฝากให้ทีมงานลองหาวิธีแก้ไขปัญหาตรงนี้หน่อยนะคะ
เรียกได้ว่า ก๊วนคานทอง Love Game The Musical เป็นละครที่สนุก ครบรส และเพลงเพราะมากจริง ๆ เชื่อว่าจะถูกใจคนที่ได้ไปชมแน่นอน ซึ่งรอบการแสดงมีจำกัดนะ แค่ 10 รอบเท่านั้น เริ่มแสดงตั้งแต่ 22-31 กรกฏาคม 2559 ที่โรงละครสยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน ชั้นเจ็ด จองบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com ทุกสาขา
คำแนะนำสุดท้าย เนื่องจากละครเรื่องนี้ค่อนข้างยาว (สามชั่วโมงกว่า) เพราะฉะนั้น กรุณาวอร์มร่างกายก่อนเข้าโรงละครเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ และอย่าดื่มน้ำเยอะก่อนชม เพราะถ้าปวดฉี่มาจะซวย อ้อ! เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมด้วย เพราะโรงละครได้จำลองบรรยากาศเอสกิโมขั้วโลกเหนือมาไว้ในโรงละครประกอบการแสดง!