เรียกค่าเสียหาย 60,000 บาท จากการด่าคำว่า "E (อวัยวะเพศ) เหี่ยว"

เรียกค่าเสียหาย 60,000 บาท
จากการด่าคำว่า "E(อวัยวะเพศ)เหี่ยว"

เรื่องนี้ยาวหน่อย ปิดจบไปเมื่อวานสดๆร้อนๆ แต่ไม่อยากให้หายไป เลขอมาเล่าเรื่องให้ฟังเพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากครับ อยากให้อ่านกัน

เย็นวันจันทร์ที่ 18 กค. ผมได้รับสายจากเพื่อนคนนึง ให้ช่วยเหลือญาติซึ่งกำลังโดนคดีความ คู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหาย 30,000 บาท นัดจ่ายที่สถานีตำรวจในวัน 24 สค. เบื้องต้นตอบได้แค่ว่าเป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งทางเฟซบุ๊ค แต่ยังไม่รู้ว่าข้อหาอะไร รู้แต่ว่าพยายามหากู้เงินจากคนรู้จักทั่วไปหมดเพื่อจ่ายค่าเสียหายก้อนนี้

ผมติดต่อไปสอบถามญาติเพื่อนที่มีปัญหา ได้ความว่าได้ทะเลาะกันจริงใน Inbox ส่วนตัว แล้วถูกแม่ของคู่กรณีแจ้งความว่าดูพาดพิงทำให้เสียหาย เรียกค่าเสียหายในครั้งแรก 60,000 บาท ภายหลังเจรจาเหลือ 30,000 บาท โดยรองสารวัตรที่รับเรื่องร่วมเป็นผู้เอ่ยปากเรียกเงินให้ฝ่ายโจทย์ พร้อมกำชับให้เข้ามาชำระค่าเสียหายให้ตรงเวลาด้วยตนเองตลอดการสนทนา

ผมถามกลับไปว่า ได้เอกสารอะไรกลับมาจากทางตำรวจหรือไม่ เพื่อที่ผมจะได้ดูว่าถูกแจ้งความในข้อหาอะไร

ปรากฏญาติเพื่อนไม่ได้รับเอกสาร ไม่รู้ข้อกล่าวหา และเซ็นต์เอกสารอะไรไปไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องไปจ่ายเงิน 3 หมื่นให้ตรงเวลา

ผมไม่โทษเขานะที่เขาไม่รู้ เพราะญาติเพื่อนคนนี้เป็นคนบ้านมากๆ คือคนต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในนอกเมืองจริงๆ คนบ้านนอกบางพื้นที่แค่เห็นตำรวจก็กลัวจนตัวสั่นแล้วครับ เพราะความที่ห่างไกลจากเรื่องกฎหมาย ผมเข้าใจดี ตลอดการพูดคุยตำรวจก็ขึ้น Gu-Mueng ตลอด

ผมก็เลยบอกไม่เป็นไร ระหว่างนี้คู่กรณีหรือตำรวจโทรมาอะไรอย่าเพิ่งไปตกลงอะไรกับเขา และผมขอให้ช่วยแคปเจอร์การสนทนาตั้งแต่ต้นจนจบมาให้ผมที

วันถัดมาผมได้หลักฐานทั้งหมดมาอ่าน
ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างญาติเพื่อน VS ลูกชายคู่กรณี
ทั้งคู่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนข้างนอก
แล้วลูกชายคู่กรณีเป็นฝ่ายทักเข้ามาก่อน ทำนองคล้ายยั่วเย้าอารมณ์

แต่อย่างไรก็ตามโดยสรุป ผมถือว่าฝ่ายเราผิดจริง
คือเป็นฝ่ายด่าเขาก่อน และมีการใช้คำด่าที่พาดพิงไปถึงแม่ของคู่กรณี

ผมอ่านแล้ว่เข้าข่ายแค่ข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า มาตรา 393 ปรับไม่เกิน 1 พันบาท

อีกกรณีอาจถูกข้อหาหมิ่นประมาท มาตรา 326 คือกล่าววาจาใส่ร้าย (แม่) ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อับอาย ต่อบุคคลที่ 3 (ลูก ) ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

ในสนทนามีคำพาดพิงเกี่ยวกับแม่คำเดียวดังนี้



ทั้ง 2 มาตราไม่มีตัวไหนถึง 3 หมื่นบาท

ผมเลยคุยกับญาติเพื่อนกลับไปว่า คงพ้นผิดไม่ได้เพราะเราผิดจริง แต่จะช่วยให้ถูกปรับโทษตามที่กฎหมายระบุให้ถูกต้อง ถ้าดูหมิ่นเรายอม แต่ถ้าหมิ่นประมาทเราขอสู้คดีเพื่อพิสูจน์ว่าแม่คู่กรณีเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงอับอาย จากคำว่าอีx-Heeเหี่ยวหรือไม่

อย่างน้อยการสู้คดีสมมุติตีความว่าหมิ่นประมาทจริงก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินโทษปรับให้ถูกต้องตามเหตุสมควร แต่ไม่ใช่ 3 หมื่นบาท

ผมบอกให้ระหว่างนี้อย่าตื่นตระหนกตกใจอะไร เลิกวิ่งหากู้เงินได้แล้ว กินข้าวนอนหลับตามปกติ เคสนี้มโนสาเร่มากๆ ที่ควรทำคือไปขอคัดสำเนาบันทึกประจำวัน/ใบแจ้งความใดๆ ที่เซ็นต์ไป และขอข้อกล่าวหาว่าเข้ามาตราไหนจากตำรวจ

วันถัดมาญาติเพื่อนเข้าไป สน.แต่เช้าเพื่อไปทำขอคัดสำเนาและสอบถามตามที่ผมแนะนำ แต่ปรากฏตำรวจโกรธและขึ้นเสียงรุนแรงพอสมควร กล่าวหาว่าญาติผู้เสียหายหัวหมอ และไล่ให้เอาที่ปรึกษากฏหมาย(ผม) มานั่งคุยกันต่อหน้า อย่าปากเก่งแต่ข้างนอก ให้ผมเข้ามาเอาเอกสารในวันศุกร์นี้อยากเจอตัว

ญาติเพื่อนตกใจพอสมควรแล้วลากลับบ้านมือเปล่า ส่วนตัวผมก็ตกใจเหมือนกัน จากที่ใจลึกๆคิดอยู่แล้วว่าตำรวจน่าจะ..........กันกับคู่กรณี เคสนี้ยิ่งชัดเจน ระหว่างนี้ก็มีข่าวจากคนในพื้นที่หลั่งไหลมาให้ผมเรื่อยๆ ว่าคู่กรณีเคยทำแบบนี้กับคนในพื้นที่หลายๆคน และได้เงินค่าเสียหายไปหลายครั้ง

ยังไงผมก็ต้องการทราบข้อหา เพื่อที่วันนัดผมจะได้ช่วยเตรียมเอกสารอะไรไปยันให้ตรงจุด ผมตัดสินใจขอเบอร์โทรแม่คู่กรณี
เพื่อขอทราบว่าได้แจ้งในข้อหาอะไร

โดยสรุป
ผมแนะนำตัวว่าเป็นพี่ชายที่ญาติเพื่อนไปยืมเงิน เลยอยากทราบข้อกล่าวหาและจะได้เตรียมเงินไปชำระค่าเสียหายให้ ปรากฏแม่คู่กรณีเลี่ยงที่จะตอบคำถามผม บอกเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม และมีอะไรให้ไปคุยที่ สน.อย่างเดียว และตัดจบไป

ผมก็เลยเอาล่ะ บอกกับญาติเพื่อนว่า เราจะไม่มีการจ่ายค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะได้รู้ว่าข้อกล่าวหาคืออะไร ใครโทรมาให้โทรหาผมอย่างเดียว

แล้วเช้าวันศุกร์ก็มาถึง
ตัวผมไม่ได้ไปหรอกครับ ตั้งใจโทรคุยกับตำรวจอย่างเดียวโดยตรง ตำรวจนัดญาติเพื่อนและแม่คู่กรณีมาด้วย ญาติเพื่อนเล่าให้ฟังว่าแม่คู่กรณีเอาผู้ชายกำยำมาอีก 2 คน หน้าตาท่าทางดูเป็นลักษณะข่มขู่ให้กลัว

ญาติเพื่อนโทรหาผมแล้วยื่นให้ตำรวจตามที่เราวางแผนกันไว้
บทสนทนานี้ไม่สมบูรณ์นะครับ ผมตัดมาแต่ใจความสำคัญหลัก

ผม : "สวัสดีครับ"

ตำรวจ : "ดีครับ คุณเป็นใครเกี่ยวข้องยังไงกับเค้า"

ผม : "ผมวิธาน เป็นที่ปรึกษาทางกฏหมายของคุณ A น่ะครับ เบื้องต้นผมเป็นผู้ให้เค้ามาขอเอกสารและขอทราบข้อกล่าวให้ชัดเจนเพื่อที่จะดำเนินการต่อน่ะครับ"

ตำรวจ : "คุณอยากได้อะไร"

ผม : "ผมขอคัดสำเนาเอกสารที่คุณ A ได้เซ็นต์ไป พร้อมใบแจ้งข้อกล่าวหาหรือบันทึกประจำวันใดๆ ก็ตามที่ระบุข้อกล่าวหา หรือท่านรองฯพอจะแจ้งให้ผมทราบเลยได้มั๊ยครับว่าเป็นข้อหาอะไรที่มีการเรียกเงินชดใช้ 3 หมื่นบาท"

ตำรวจ : "ผมแจ้งให้คุณทราบอย่างนี้ นาย A มีปัญหาทะเลาะกันกับลูกชาย X ผ่านทางอินเตอร์เน็ตอะไรของเค้า ทีนี้ก็มีการหมิ่นประมาทกันเค้าก็มาแจ้งมาทางผม"

ผม : "สรุปเป็นข้อหาหมิ่นประมาทใช่มั๊ยครับ"

ตำรวจ : "เค้าแจ้งว่าถูกหมิ่นประมาท"

ผม : "งั้นแสดงว่าในใบแจ้งความที่ผมจะได้รับในวันนี้ได้ระบุว่าถูกหมิ่นประมาทใช่มั๊ยครับ"

ตำรวจ : "ผมลงบันทึกประจำวัน งานผมไม่เยอะไม่มาเสียเวลาเรื่องพวกนี้หรอกครับ มันเป็นเรื่องที่เค้าแจ้งผมมา ผมก็รับทราบ"

(จริงๆ ถึงตรงนี้จบแล้วนะครับ ย้ำ! บันทึกประจำวัน แสดงว่าญาติเพื่อนยังไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา นั่นหมายความยังไม่มีความผิด แต่ผมจะเอาตำรวจต่อ)

ผม : "ในส่วนที่มีการเรียกร้องเงิน 3 หมื่นบาทเป็นค่าเสียหาย คุณ X เป็นฝ่ายตั้งตัวเลข หรือคุณตำรวจแจ้งให้เค้าทราบระวางโทษครับ"

ตำรวจ : "ผมไม่รู้ เค้าคุยกันเอง ผมเป็นตัวกลาง"

ผม : "อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณตำรวจมากนะครับ ขอโทษที่ต้องมาเสียเวลาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เดี๋ยวเรื่องค่าเสียหายค่าใช้จ่ายเป็นทางผมไปคุยกับคุณ X เองละกันต่อจากนี้นะครับ"

ตำรวจ : "ครับ"

ผม : "ขอบพระคุณครับ"

คุยตำรวจเสร็จคุยกับญาติเพื่อนต่อ
"เอาใบสำเนา ลากลับ ยื่นเบอร์โทรผมให้นาง X แล้วบอกว่าอยากได้เงินไปเอากับคนนี้"

หลังจากได้เอกสารมาแล้วผมก็ให้ญาติเพื่อนถ่ายเอกสารให้ดู ปรากฏว่าเป็นใบบันทึกข้อตกลงค่าเสียหายเท่านั้น (ตามภาพ) ไม่มีการแจ้งมาตรา และไม่มีการแจ้งว่าไม่จ่ายโทษจะเป็นอย่างไร โดยรองสารวัตรเป็นผู้บันทึกเท่านั้น



ผมก็ทิ้งท้ายว่าถ้านาง X จะแจ้งความฟ้องร้องข้อหาเราผิดนัดชำระเงินใดๆ ก็ตามให้ฟ้องร้อง และเราสู้คดีจากสัญญาไม่เป็นธรรม และการระวางโทษเกินกว่าเหตุ รวมถึงต้องการให้พิสูจน์ว่าคู่กรณีเสียหายจริงหรือไม่ มาถึงตอนนี้ใจผมอยากเอาคืนตำรวจ น่าจะกินอิ่มมานานแต่มันก็เกินกำลังผม และผมช่วยได้แค่เท่านี้ ผมไม่ใช่นักฏหมาย ผมเป็นนักท่อง Google ก็คงต้องปล่อยไป แต่ทำได้ก็คือโพสต์แชร์ประสบการณ์นี้ให้ทุกคน

สรุป
เคสนี้เป็นกรณีศึกษาเรื่องมาตรากฏหมายโดยได้ระบุบทลงโทษอย่างชัดเจนอยู่แล้ว หากเราถูกเรียกร้องค่าเสียหายในคดีใดๆก็ตาม เบื้องต้นให้รู้ว่าข้อหาอะไร มาตราใดให้ชัดเจนก่อน แล้ว Search Google ดูบทลงโทษว่าสัมพันธ์กันหรือไม่ ผมอาจไม่มีความรู้แน่นเท่านักกฎหมายโดยตรง หากมีอะไรเพิ่มเติมหรือแก้ไขความใจให้ถูกต้อง ผมจะยินดีมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่