ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ Lady Star 919, คุณซูซี่ Susisiri, จารย์จี GTW, คุณ สายป่านสีชมพู, น้องนุ้ย ณวลี, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
ถึงบทที่ 10 แล้ว บทต่อๆ ไปจะลงห่างขึ้นนะคะ ประมาณอาทิตย์ละ 2 บทค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ - บทที่ ๑
http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓
http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔
http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕
http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖
http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗
http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘
http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙
http://ppantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐
"วางไว้ที่นั่นเถอะ ไม่ต้องถึงกับป้อนกันหรอก ฉันไม่ได้เป็นไรมากมายถึงขนาดกินข้าวเองไม่ได้"
คนดูแลผู้ป่วยยิ้ม วางถ้วยข้าวต้มลงบนตั่งเล็กๆ ซึ่งยกมาวางไว้ให้ข้างเตียง แล้วกลับลงนั่งพับเพียบบนพื้นไม้ตามเดิม
"ถักอะไรละนั่นน่ะ" หล่อนพยักพเยิดไปที่กลุ่มไหมพรมซึ่งทอลวดลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว หากยังบอกยากว่าเป็นอะไรแน่
"ถักเสื้อกันหนาวให้พี่ประพันธ์ค่ะ"
คำตอบนั้นทำให้สร้อยมองเสื้อไหมพรมตัวนั้นอย่างสนอกสนใจขึ้นอีกนิด
"ดีนะ ประพันธ์คงชอบที่หล่อนเป็นคนทำให้"
ไอรีนได้แต่ยิ้ม รีบวางกลุ่มไหมและเข็มลงดังเดิมเมื่อเห็นมารดาเลี้ยงขยับจะลุก แล้วคลานเข่าเข้าไปหาเพื่อจะช่วย
"ว่าจะไปอาบน้ำเสียหน่อย ร้อนเต็มที"
ร่างซึ่งเคยอวบท้วม...แต่บัดนี้ผ่ายผอมลงไปมาก...หยัดตัวขึ้นนั่ง ลูกเลี้ยงสาวน้อยจึงตรงรี่เข้าประคอง
"โชคยังไม่กลับอีกรึ" เสียงถามนั้นแหบแห้ง ทำท่าจะลุกยืน แต่เข่าอ่อนจนต้องกลับนั่งลงอีก วิงเวียนเพราะนอนอยู่นาน ทั้งวันเลยทีเดียว
"ยังค่ะ ดิฉันเช็ดตัวให้คุณแม่ใหญ่ดีกว่านะคะ ถ้าคุณแม่ใหญ่ลงไปอาบน้ำข้างล่างดีไม่ดีลื่นล้ม"
ภรรยาเอกพระพินิจมองไม่เห็นความจำเป็นอันใดที่จะให้ใครเช็ดตัวให้ แน่ใจว่าลงเรือนไปอาบน้ำเองได้ อีกอย่าง ในความคิดของหล่อนการเช็ดตัวไม่ให้ความรู้สึกว่าสะอาดจริงๆ เหมือนอาบน้ำ
"ไม่ต้องหรอก อยู่ดีๆ เวียนหัวขึ้นมาอีก นอนอีกสักพัก ประเดี๋ยวก็ลุกลงไปอาบเองได้ หล่อนช่วยเอาผ้านุ่งกับเสื้อตามลงไปให้ด้วยก็แล้วกัน"
สาวน้อยจึงประคองคนป่วยให้กลับนอนลงตามเดิม
"ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะลงไปเช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้งไว้นะคะ คุณแม่ใหญ่จะได้ไม่ลื่นล้ม แล้วจะขึ้นมาพาคุณแม่ใหญ่ลงไป"
พอเห็นนัยน์ตาจรัสแสงของสาวน้อยชำเลืองดูถ้วยข้าวต้ม สร้อยก็เข้าใจ
"เอาเถอะ เอาเถอะ หล่อนไปเถอะ หายเวียนหัวแล้วฉันจะกินเอง"
ไอรีนจึงผละมาที่ประตูซึ่งแง้มไว้เพียงครึ่งๆ พอจะดึงให้กว้างขึ้นเพื่อออกไปจากห้องก็ชะงัก ร่างสันทัดของพี่ชายมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"แม่เป็นอย่างไรบ้าง" เขาเอ่ยปากถาม พลางผลักประตูให้กว้างขึ้น
"คุณแม่ใหญ่กำลังจะลงไปอาบน้ำค่ะ คุณแม่ใหญ่…"
ประโยคหลังค้างอยู่เพียงครึ่งเดียวเมื่อเห็นร่างใหญ่ๆ ที่ตามหลังพี่มาด้วย
"เชิญขอรับคุณพระ"
นายร้อยตรีหนุ่มหลีกทางให้ผู้บังคับบัญชาเข้ามาในห้องก่อน
รามสบตาสาวน้อยซึ่งถอยออกห่าง พรายยิ้มจางๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก คิดถึงนั้นแน่ล่ะ แต่ที่ไม่ได้ไปเยี่ยมที่คอนแวนต์เลยก็เพราะไม่อยากให้เสียสมาธิในการเรียน รู้ว่ากำลังเตรียมตัวสอบ และเป็นการสอบสำคัญเสียด้วย ถ้าวันนี้ไม่ถามสบโชค และรู้ว่าไปรับน้องสาวกลับมาบ้านแล้ว ก็คงยังหาโอกาสแวะมาที่นี่ไม่ได้เหมือนเดิม
ไอรีนหลบวูบ วาบไหวกับประกายระยิบระยับในดวงตาคมลึกคู่นั้น จึงได้เสไปมองมารดาเลี้ยงแทน พอเห็นว่ากำลังยันตัวจะกลับขึ้นนั่ง ก็ตรงรี่เข้าไปประคอง คว้าหมอนตั้งขึ้นเพื่อหนุนหลังให้
“ผมเพิ่งรู้จากสบโชคว่าคุณสร้อยป่วยมาหลายวันแล้ว ก็เลยเพิ่งได้มาเยี่ยมวันนี้”
คนมาเยี่ยมเอ่ยขึ้นก่อน ร่างใหญ่โตเข้ามาหยุดยืนข้างเตียง ปิดกั้นช่องทางซึ่งสาวน้อยจะเลี่ยงหลบไปเสีย
เธอจึงจำต้องยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงนั้นเอง สบช่องก็เมื่อเห็นพี่ชายกลับออกไปจากห้อง จึงรวบรวมความกล้ายอบตัวจะขอผ่านหน้าเพื่อไปที่ประตู
รามยอมถอยห่างออกมาแต่โดยดี กรุ่นกลิ่นหอมของแป้งร่ำสารภีแผ่วจางเมื่อร่างน้อยๆ เฉียดผ่านไปจนใกล้…ก็จงใจเปิดช่องให้เพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะคุณพระ ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเท่านั้นเอง" สร้อยตอบเสียงแหบแห้ง เกรงอกเกรงใจ
"คุณสร้อยผอมไปนะครับ ให้ผมพาหมอฝรั่งมาดูดีไหม หมอเชพเพิร์ดเคยสนิทกับคุณพ่อ เวลาใครที่บ้านเจ็บป่วยก็มักจะไปตรวจให้ถึงบ้าน"
"จะรบกวนคุณพระนะคะ อิฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้ก็ดีขึ้น เป็นอยู่แบบนี้มาเป็นเดือนแล้วละค่ะ"
"ให้หมอมาดูดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าเป็นอะไรแน่" รามยังคงคะยั้นคะยอ ไม่เห็นหญิงสูงวัยเพียงเดือนเดียว ถ้าหล่อนซูบผอมลงได้เร็วขนาดนี้ ต้องไม่ใช่อาการเจ็บป่วยธรรมดาแน่นอน
สบโชคกลับเข้ามาในห้องพร้อมด้วยเก้าอี้ซึ่งไปยกมาจากห้องโถง วางลงให้ทางด้านหลังเพื่อจะให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองได้นั่ง
บ้านหลังนี้จัดแบบไทยครึ่งฝรั่งครึ่ง ห้องซึ่งพระพินิจเคยใช้รับแขก อย่างห้องโถงทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีโต๊ะเก้าอี้แบบฝรั่งเพียบพร้อม แต่ห้องนอนทุกห้องไม่มีเก้าอี้ ในเมื่อใครๆ ก็นั่งกับพื้นกัน จะมีก็เพียงเตียงและหีบหรือตู้ใส่เสื้อผ้าเท่านั้นเอง
หากทว่านายพันโทหนุ่มก็ยังคงยืนอยู่เช่นนั้น เหลือบไปเห็นเข็มถักนิตติ้งและไหมพรมวางอยู่บนพื้นข้างตั่งซึ่งมีถ้วยข้าวต้มและแก้วน้ำ พอเดาได้ว่าเป็นของใคร สาวน้อยคงกำลังถักเสื้อให้ใครอีกอย่างแน่นอน เหลียวไปดูข้างหลังซึ่งร่างบอบบางยืนอยู่เมื่อครู่ก็ไม่เห็นเสียแล้ว
"ไม่เป็นไรหรอก สบโชค กำลังจะไปรับหมอมาดูคุณสร้อย" เขาหันกลับไปทางคนป่วย "ผมจะรีบกลับมาครับ คุณสร้อย ให้หมอดูเสียเถอะนะครับ เป็นอะไรแน่ก็จะได้รู้ไปเสีย"
ไม่ทันที่สร้อยจะได้ค้านอีก ร่างสูงหมุนตัว ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องตามประสาคนคิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว และทำอะไรๆ เร็ว
สบโชคเหลือบดูแม่แวบเดียว ก่อนตามออกไป
"ผมพาแม่ไปหาหมอเองดีกว่าขอรับ" บอกผู้บังคับบัญชาด้วยความเกรงอกเกรงใจเมื่อตามมาทันที่บันไดลงเรือน
"ไปเป็นไรหรอก ฉันไปรับมาเอง บ้านหมอเชิพเพิร์ดอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันเท่าไร ไปดูแม่เถอะ ฉันไปไม่นานหรอก"
หันกลับมาตบไหล่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเบาๆ แล้วลงบันไดไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว สอดส่ายสายตามองหาร่างอรชรอ้อนแอ้นนั้นไปด้วยขณะสวมรองเท้า พอดีกับเห็นอ้อมตัวเรือนมาจากครัวไฟทางด้านหลัง ในมือมีถาดใบเล็กๆ กำลังก้มหน้าก้มตาดูทางเดิน จึงตัดสินใจคอย
ไอรีนสะดุดหยุดกึกเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่เชิงบันได พอเงยหน้าขึ้นดูก็อุทานชื่อซึ่งติดตรึงอยู่ในหัวใจมานานวัน
“คุณราม…”
รามเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นสาวน้อยเหมือนจะหยุดยืนอยู่เพียงแค่นั้น
"สบโชคบอกว่าสอบเสร็จแล้ว...กระนั้นหรือ"
คำตอบมีเพียงสั้นๆ "ค่ะ"
"คงกลับมาอยู่บ้านเลยใช่ไหม เรียนจบแล้วนี่นะ"
เขาถามเพียงเพื่อให้มีอะไรมาพูดด้วย ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
และคำตอบก็ยังคงสั้นเหมือนเดิม "ค่ะ"
อะไรบางอย่างซึ่งก่อตัวขึ้นในใจมานานหลายวันแล้วทำให้ประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นเขาในคราวนี้ ไม่ใช่ความประหม่าอย่างเด็กที่กำลังยืนต่อหน้าผู้ใหญ่ทรงอำนาจอย่างเมื่อก่อน แต่เป็นความรู้สึกที่ต่างออกไป จะเป็นอะไร สาวน้อยก็บอกตัวเองไม่ได้ ก็ในเมื่อไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
รามยังคงชวนคุยต่อไปอีก
"อาการคุณสร้อยดูไม่ดีเลยนะ ฉันจะไปรับหมอ"
ไอรีนยิ้มเจื่อน ยังคงเลี่ยงสายตาเขา
"ค่ะ"
"เธอคงไม่ไปไหนจนกว่าฉันจะกลับ อย่างนั้นใช่ไหม"
"ค่ะ ไม่ไปไหน" เสียงตอบเลื่อนลอย
คนช่างถามลดสายตาลงดูถ้วยเคลือบใส่ชาจีนมีฝาปิด จานใบเล็กมีขนมสีเหลืองทอง รูปทรงกลมแบน ทั้งหมดวางมาในถาดไม้
"เอามาให้ฉันหรือ" เสียงที่ถามนุ่มนวลยิ่งนัก "ขนมทองทัตใช่ไหม เธอเคยทำครั้งหนึ่งแล้ว ฉันจำได้"
และคำตอบก็ยังคงเดิม "ค่ะ"
รามหยิบขนมซึ่งตัวรู้ชื่อชิ้นหนึ่งมาจากจานอย่างไม่มีพิธีรีตอง
"แล้วฉันจะกลับมากินต่อ อย่าให้ใครกินเสียก่อนล่ะ” เสียงห้าวๆ กลั้วหัวเราะ ริมฝีปากบางได้รูปเหยียดยิ้ม
ทำเอาสาวน้อยวูบวาบไปทั้งหน้า พึมพำคำตอบอยู่เพียงริมฝีปาก
“ค่ะ”
“วันนี้เขาสั่งให้พูดได้แค่นี้เท่านั้นหรือ”
อดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่ด้วยความเอ็นดู วัยซึ่งยังอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเด็กและหญิงสาวให้ความรู้สึกเช่นนั้นในบางขณะ
หากก็ไม่คอยคำตอบ เขาหัวเราะหึหึในลำคอ หมุนตัวเดินเร็วรี่ไปทางเรือเร็วซึ่งจอดทิ้งไว้ข้างศาลาท่าน้ำ ไม่รู้ตัวเลยว่ายิ้มกริ่มไปตลอดทาง
ไอรีนจำต้องหอบถาดของว่างกลับไปเก็บไว้ในครัว เพราะกว่าเขาจะกลับชาจีนคงเย็นเสียก่อน คงต้องทำให้ใหม่ แล้วรีบเข้าห้องน้ำพร้อมด้วยผ้าขี้ริ้ว คุกเข่าลงเช็ดพื้นไม้จนแห้งเท่าที่จะแห้งได้
เมื่อกลับขึ้นเรือนไปดูคุณสร้อย ก็เห็นพี่ชายกำลังจะวางถ้วยข้าวต้มซึ่งพร่องไปจนเกือบหมดลงบนตั่งตามเดิม แต่พอเห็นน้องสาวกลับเข้ามาในห้องกลับส่งให้แทน
“แม่อยากอาบน้ำ เหนียวตัวไปหมด วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย อายหมอเขา” สร้อยเปรยกับทั้งลูกจริงลูกเลี้ยงไปพร้อมกัน
นับจากไอรีนกลับมาอยู่บ้าน คุณสร้อยหมดฤทธิ์หมดเดชลงไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่างแบบนี้
‘ดูเอาเถอะ ลูกสาวตัวเองแท้ๆไม่มาเหลียวดูแม่เลย มีก็แต่ลูกเลี้ยงกับลูกสาวคนอื่นที่มาเอาใจใส่อยู่ทุกวัน’ หล่อนเปรยกับลูกชายให้ได้ยินเมื่อค่ำวันวาน
ไอรีนรู้ว่าลูกสาวคนอื่นที่มารดาเลี้ยงพูดถึงนั้นหมายถึงว่าที่เจ้าสาวของพี่ชาย และรู้ต่อไปว่าวันแต่งงานของสบโชคและหญิงสาวผู้นั้นจะจัดให้มีขึ้นในเร็ววัน...เพื่อให้ทันก่อนที่ประพันธ์จะออกเดินทาง
"พื้นห้องน้ำแห้งแล้วค่ะ คุณแม่ใหญ่" ไอรีนบอกให้รู้
สร้อยพยายามยันตัวลุกอีกครั้ง สบโชคเข้าช่วยพยุงลงจากเตียง ยังไม่วายถาม
"เช็ดตัวไม่ดีกว่าหรือครับคุณแม่"
"แม่อยากอาบน้ำมากกว่า เมื่อวานก็ไม่ได้อาบ เช็ดตัวไม่เหมือนอาบน้ำหรอกพ่อโชค" หล่อนยังยืนยันอยู่เช่นเดิม
ไอรีนจึงตรงรี่เข้าไปช่วยประคอง
“ช่วยเอาผ้านุ่งติดมือลงไปให้สักผืนเถอะ ไอรีน แล้วเตรียมสำรับเย็นให้คุณพระอีกที่ด้วย” สร้อยออกปากสั่ง
สาวน้อยจึงผละไปเปิดหีบซึ่งวางอยู่ชิดผนังที่มุมห้อง ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าไม้แดงอยู่หลังหนึ่ง พระพินิจผู้เป็นพ่อเคยใช้ใส่เสื้อผ้าและเครื่องแบบเมื่อครั้งที่ยังคงรับราชการ แต่สร้อยชอบพับเสื้อและผ้านุ่งของตัวเก็บลงหีบมากกว่า
เลือกได้ผ้าพื้นสีเข้ม มีลายขวางเป็นเชิง เสื้อคอกระเช้าสะอาดเอี่ยมอีกตัว แล้วตามสองคนแม่ลูกออกไปจากห้อง
บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๑๐)
ขอบคุณ คุณ Lady Star 919, คุณซูซี่ Susisiri, จารย์จี GTW, คุณ สายป่านสีชมพู, น้องนุ้ย ณวลี, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
ถึงบทที่ 10 แล้ว บทต่อๆ ไปจะลงห่างขึ้นนะคะ ประมาณอาทิตย์ละ 2 บทค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ - บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙ http://ppantip.com/topic/35407698
"วางไว้ที่นั่นเถอะ ไม่ต้องถึงกับป้อนกันหรอก ฉันไม่ได้เป็นไรมากมายถึงขนาดกินข้าวเองไม่ได้"
คนดูแลผู้ป่วยยิ้ม วางถ้วยข้าวต้มลงบนตั่งเล็กๆ ซึ่งยกมาวางไว้ให้ข้างเตียง แล้วกลับลงนั่งพับเพียบบนพื้นไม้ตามเดิม
"ถักอะไรละนั่นน่ะ" หล่อนพยักพเยิดไปที่กลุ่มไหมพรมซึ่งทอลวดลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว หากยังบอกยากว่าเป็นอะไรแน่
"ถักเสื้อกันหนาวให้พี่ประพันธ์ค่ะ"
คำตอบนั้นทำให้สร้อยมองเสื้อไหมพรมตัวนั้นอย่างสนอกสนใจขึ้นอีกนิด
"ดีนะ ประพันธ์คงชอบที่หล่อนเป็นคนทำให้"
ไอรีนได้แต่ยิ้ม รีบวางกลุ่มไหมและเข็มลงดังเดิมเมื่อเห็นมารดาเลี้ยงขยับจะลุก แล้วคลานเข่าเข้าไปหาเพื่อจะช่วย
"ว่าจะไปอาบน้ำเสียหน่อย ร้อนเต็มที"
ร่างซึ่งเคยอวบท้วม...แต่บัดนี้ผ่ายผอมลงไปมาก...หยัดตัวขึ้นนั่ง ลูกเลี้ยงสาวน้อยจึงตรงรี่เข้าประคอง
"โชคยังไม่กลับอีกรึ" เสียงถามนั้นแหบแห้ง ทำท่าจะลุกยืน แต่เข่าอ่อนจนต้องกลับนั่งลงอีก วิงเวียนเพราะนอนอยู่นาน ทั้งวันเลยทีเดียว
"ยังค่ะ ดิฉันเช็ดตัวให้คุณแม่ใหญ่ดีกว่านะคะ ถ้าคุณแม่ใหญ่ลงไปอาบน้ำข้างล่างดีไม่ดีลื่นล้ม"
ภรรยาเอกพระพินิจมองไม่เห็นความจำเป็นอันใดที่จะให้ใครเช็ดตัวให้ แน่ใจว่าลงเรือนไปอาบน้ำเองได้ อีกอย่าง ในความคิดของหล่อนการเช็ดตัวไม่ให้ความรู้สึกว่าสะอาดจริงๆ เหมือนอาบน้ำ
"ไม่ต้องหรอก อยู่ดีๆ เวียนหัวขึ้นมาอีก นอนอีกสักพัก ประเดี๋ยวก็ลุกลงไปอาบเองได้ หล่อนช่วยเอาผ้านุ่งกับเสื้อตามลงไปให้ด้วยก็แล้วกัน"
สาวน้อยจึงประคองคนป่วยให้กลับนอนลงตามเดิม
"ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะลงไปเช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้งไว้นะคะ คุณแม่ใหญ่จะได้ไม่ลื่นล้ม แล้วจะขึ้นมาพาคุณแม่ใหญ่ลงไป"
พอเห็นนัยน์ตาจรัสแสงของสาวน้อยชำเลืองดูถ้วยข้าวต้ม สร้อยก็เข้าใจ
"เอาเถอะ เอาเถอะ หล่อนไปเถอะ หายเวียนหัวแล้วฉันจะกินเอง"
ไอรีนจึงผละมาที่ประตูซึ่งแง้มไว้เพียงครึ่งๆ พอจะดึงให้กว้างขึ้นเพื่อออกไปจากห้องก็ชะงัก ร่างสันทัดของพี่ชายมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"แม่เป็นอย่างไรบ้าง" เขาเอ่ยปากถาม พลางผลักประตูให้กว้างขึ้น
"คุณแม่ใหญ่กำลังจะลงไปอาบน้ำค่ะ คุณแม่ใหญ่…"
ประโยคหลังค้างอยู่เพียงครึ่งเดียวเมื่อเห็นร่างใหญ่ๆ ที่ตามหลังพี่มาด้วย
"เชิญขอรับคุณพระ"
นายร้อยตรีหนุ่มหลีกทางให้ผู้บังคับบัญชาเข้ามาในห้องก่อน
รามสบตาสาวน้อยซึ่งถอยออกห่าง พรายยิ้มจางๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก คิดถึงนั้นแน่ล่ะ แต่ที่ไม่ได้ไปเยี่ยมที่คอนแวนต์เลยก็เพราะไม่อยากให้เสียสมาธิในการเรียน รู้ว่ากำลังเตรียมตัวสอบ และเป็นการสอบสำคัญเสียด้วย ถ้าวันนี้ไม่ถามสบโชค และรู้ว่าไปรับน้องสาวกลับมาบ้านแล้ว ก็คงยังหาโอกาสแวะมาที่นี่ไม่ได้เหมือนเดิม
ไอรีนหลบวูบ วาบไหวกับประกายระยิบระยับในดวงตาคมลึกคู่นั้น จึงได้เสไปมองมารดาเลี้ยงแทน พอเห็นว่ากำลังยันตัวจะกลับขึ้นนั่ง ก็ตรงรี่เข้าไปประคอง คว้าหมอนตั้งขึ้นเพื่อหนุนหลังให้
“ผมเพิ่งรู้จากสบโชคว่าคุณสร้อยป่วยมาหลายวันแล้ว ก็เลยเพิ่งได้มาเยี่ยมวันนี้”
คนมาเยี่ยมเอ่ยขึ้นก่อน ร่างใหญ่โตเข้ามาหยุดยืนข้างเตียง ปิดกั้นช่องทางซึ่งสาวน้อยจะเลี่ยงหลบไปเสีย
เธอจึงจำต้องยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงนั้นเอง สบช่องก็เมื่อเห็นพี่ชายกลับออกไปจากห้อง จึงรวบรวมความกล้ายอบตัวจะขอผ่านหน้าเพื่อไปที่ประตู
รามยอมถอยห่างออกมาแต่โดยดี กรุ่นกลิ่นหอมของแป้งร่ำสารภีแผ่วจางเมื่อร่างน้อยๆ เฉียดผ่านไปจนใกล้…ก็จงใจเปิดช่องให้เพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะคุณพระ ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเท่านั้นเอง" สร้อยตอบเสียงแหบแห้ง เกรงอกเกรงใจ
"คุณสร้อยผอมไปนะครับ ให้ผมพาหมอฝรั่งมาดูดีไหม หมอเชพเพิร์ดเคยสนิทกับคุณพ่อ เวลาใครที่บ้านเจ็บป่วยก็มักจะไปตรวจให้ถึงบ้าน"
"จะรบกวนคุณพระนะคะ อิฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้ก็ดีขึ้น เป็นอยู่แบบนี้มาเป็นเดือนแล้วละค่ะ"
"ให้หมอมาดูดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าเป็นอะไรแน่" รามยังคงคะยั้นคะยอ ไม่เห็นหญิงสูงวัยเพียงเดือนเดียว ถ้าหล่อนซูบผอมลงได้เร็วขนาดนี้ ต้องไม่ใช่อาการเจ็บป่วยธรรมดาแน่นอน
สบโชคกลับเข้ามาในห้องพร้อมด้วยเก้าอี้ซึ่งไปยกมาจากห้องโถง วางลงให้ทางด้านหลังเพื่อจะให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองได้นั่ง
บ้านหลังนี้จัดแบบไทยครึ่งฝรั่งครึ่ง ห้องซึ่งพระพินิจเคยใช้รับแขก อย่างห้องโถงทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีโต๊ะเก้าอี้แบบฝรั่งเพียบพร้อม แต่ห้องนอนทุกห้องไม่มีเก้าอี้ ในเมื่อใครๆ ก็นั่งกับพื้นกัน จะมีก็เพียงเตียงและหีบหรือตู้ใส่เสื้อผ้าเท่านั้นเอง
หากทว่านายพันโทหนุ่มก็ยังคงยืนอยู่เช่นนั้น เหลือบไปเห็นเข็มถักนิตติ้งและไหมพรมวางอยู่บนพื้นข้างตั่งซึ่งมีถ้วยข้าวต้มและแก้วน้ำ พอเดาได้ว่าเป็นของใคร สาวน้อยคงกำลังถักเสื้อให้ใครอีกอย่างแน่นอน เหลียวไปดูข้างหลังซึ่งร่างบอบบางยืนอยู่เมื่อครู่ก็ไม่เห็นเสียแล้ว
"ไม่เป็นไรหรอก สบโชค กำลังจะไปรับหมอมาดูคุณสร้อย" เขาหันกลับไปทางคนป่วย "ผมจะรีบกลับมาครับ คุณสร้อย ให้หมอดูเสียเถอะนะครับ เป็นอะไรแน่ก็จะได้รู้ไปเสีย"
ไม่ทันที่สร้อยจะได้ค้านอีก ร่างสูงหมุนตัว ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องตามประสาคนคิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว และทำอะไรๆ เร็ว
สบโชคเหลือบดูแม่แวบเดียว ก่อนตามออกไป
"ผมพาแม่ไปหาหมอเองดีกว่าขอรับ" บอกผู้บังคับบัญชาด้วยความเกรงอกเกรงใจเมื่อตามมาทันที่บันไดลงเรือน
"ไปเป็นไรหรอก ฉันไปรับมาเอง บ้านหมอเชิพเพิร์ดอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันเท่าไร ไปดูแม่เถอะ ฉันไปไม่นานหรอก"
หันกลับมาตบไหล่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเบาๆ แล้วลงบันไดไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว สอดส่ายสายตามองหาร่างอรชรอ้อนแอ้นนั้นไปด้วยขณะสวมรองเท้า พอดีกับเห็นอ้อมตัวเรือนมาจากครัวไฟทางด้านหลัง ในมือมีถาดใบเล็กๆ กำลังก้มหน้าก้มตาดูทางเดิน จึงตัดสินใจคอย
ไอรีนสะดุดหยุดกึกเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่เชิงบันได พอเงยหน้าขึ้นดูก็อุทานชื่อซึ่งติดตรึงอยู่ในหัวใจมานานวัน
“คุณราม…”
รามเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นสาวน้อยเหมือนจะหยุดยืนอยู่เพียงแค่นั้น
"สบโชคบอกว่าสอบเสร็จแล้ว...กระนั้นหรือ"
คำตอบมีเพียงสั้นๆ "ค่ะ"
"คงกลับมาอยู่บ้านเลยใช่ไหม เรียนจบแล้วนี่นะ"
เขาถามเพียงเพื่อให้มีอะไรมาพูดด้วย ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
และคำตอบก็ยังคงสั้นเหมือนเดิม "ค่ะ"
อะไรบางอย่างซึ่งก่อตัวขึ้นในใจมานานหลายวันแล้วทำให้ประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นเขาในคราวนี้ ไม่ใช่ความประหม่าอย่างเด็กที่กำลังยืนต่อหน้าผู้ใหญ่ทรงอำนาจอย่างเมื่อก่อน แต่เป็นความรู้สึกที่ต่างออกไป จะเป็นอะไร สาวน้อยก็บอกตัวเองไม่ได้ ก็ในเมื่อไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
รามยังคงชวนคุยต่อไปอีก
"อาการคุณสร้อยดูไม่ดีเลยนะ ฉันจะไปรับหมอ"
ไอรีนยิ้มเจื่อน ยังคงเลี่ยงสายตาเขา
"ค่ะ"
"เธอคงไม่ไปไหนจนกว่าฉันจะกลับ อย่างนั้นใช่ไหม"
"ค่ะ ไม่ไปไหน" เสียงตอบเลื่อนลอย
คนช่างถามลดสายตาลงดูถ้วยเคลือบใส่ชาจีนมีฝาปิด จานใบเล็กมีขนมสีเหลืองทอง รูปทรงกลมแบน ทั้งหมดวางมาในถาดไม้
"เอามาให้ฉันหรือ" เสียงที่ถามนุ่มนวลยิ่งนัก "ขนมทองทัตใช่ไหม เธอเคยทำครั้งหนึ่งแล้ว ฉันจำได้"
และคำตอบก็ยังคงเดิม "ค่ะ"
รามหยิบขนมซึ่งตัวรู้ชื่อชิ้นหนึ่งมาจากจานอย่างไม่มีพิธีรีตอง
"แล้วฉันจะกลับมากินต่อ อย่าให้ใครกินเสียก่อนล่ะ” เสียงห้าวๆ กลั้วหัวเราะ ริมฝีปากบางได้รูปเหยียดยิ้ม
ทำเอาสาวน้อยวูบวาบไปทั้งหน้า พึมพำคำตอบอยู่เพียงริมฝีปาก
“ค่ะ”
“วันนี้เขาสั่งให้พูดได้แค่นี้เท่านั้นหรือ”
อดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่ด้วยความเอ็นดู วัยซึ่งยังอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเด็กและหญิงสาวให้ความรู้สึกเช่นนั้นในบางขณะ
หากก็ไม่คอยคำตอบ เขาหัวเราะหึหึในลำคอ หมุนตัวเดินเร็วรี่ไปทางเรือเร็วซึ่งจอดทิ้งไว้ข้างศาลาท่าน้ำ ไม่รู้ตัวเลยว่ายิ้มกริ่มไปตลอดทาง
ไอรีนจำต้องหอบถาดของว่างกลับไปเก็บไว้ในครัว เพราะกว่าเขาจะกลับชาจีนคงเย็นเสียก่อน คงต้องทำให้ใหม่ แล้วรีบเข้าห้องน้ำพร้อมด้วยผ้าขี้ริ้ว คุกเข่าลงเช็ดพื้นไม้จนแห้งเท่าที่จะแห้งได้
เมื่อกลับขึ้นเรือนไปดูคุณสร้อย ก็เห็นพี่ชายกำลังจะวางถ้วยข้าวต้มซึ่งพร่องไปจนเกือบหมดลงบนตั่งตามเดิม แต่พอเห็นน้องสาวกลับเข้ามาในห้องกลับส่งให้แทน
“แม่อยากอาบน้ำ เหนียวตัวไปหมด วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย อายหมอเขา” สร้อยเปรยกับทั้งลูกจริงลูกเลี้ยงไปพร้อมกัน
นับจากไอรีนกลับมาอยู่บ้าน คุณสร้อยหมดฤทธิ์หมดเดชลงไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่างแบบนี้
‘ดูเอาเถอะ ลูกสาวตัวเองแท้ๆไม่มาเหลียวดูแม่เลย มีก็แต่ลูกเลี้ยงกับลูกสาวคนอื่นที่มาเอาใจใส่อยู่ทุกวัน’ หล่อนเปรยกับลูกชายให้ได้ยินเมื่อค่ำวันวาน
ไอรีนรู้ว่าลูกสาวคนอื่นที่มารดาเลี้ยงพูดถึงนั้นหมายถึงว่าที่เจ้าสาวของพี่ชาย และรู้ต่อไปว่าวันแต่งงานของสบโชคและหญิงสาวผู้นั้นจะจัดให้มีขึ้นในเร็ววัน...เพื่อให้ทันก่อนที่ประพันธ์จะออกเดินทาง
"พื้นห้องน้ำแห้งแล้วค่ะ คุณแม่ใหญ่" ไอรีนบอกให้รู้
สร้อยพยายามยันตัวลุกอีกครั้ง สบโชคเข้าช่วยพยุงลงจากเตียง ยังไม่วายถาม
"เช็ดตัวไม่ดีกว่าหรือครับคุณแม่"
"แม่อยากอาบน้ำมากกว่า เมื่อวานก็ไม่ได้อาบ เช็ดตัวไม่เหมือนอาบน้ำหรอกพ่อโชค" หล่อนยังยืนยันอยู่เช่นเดิม
ไอรีนจึงตรงรี่เข้าไปช่วยประคอง
“ช่วยเอาผ้านุ่งติดมือลงไปให้สักผืนเถอะ ไอรีน แล้วเตรียมสำรับเย็นให้คุณพระอีกที่ด้วย” สร้อยออกปากสั่ง
สาวน้อยจึงผละไปเปิดหีบซึ่งวางอยู่ชิดผนังที่มุมห้อง ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าไม้แดงอยู่หลังหนึ่ง พระพินิจผู้เป็นพ่อเคยใช้ใส่เสื้อผ้าและเครื่องแบบเมื่อครั้งที่ยังคงรับราชการ แต่สร้อยชอบพับเสื้อและผ้านุ่งของตัวเก็บลงหีบมากกว่า
เลือกได้ผ้าพื้นสีเข้ม มีลายขวางเป็นเชิง เสื้อคอกระเช้าสะอาดเอี่ยมอีกตัว แล้วตามสองคนแม่ลูกออกไปจากห้อง