บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๑๐)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ Lady Star 919, คุณซูซี่ Susisiri, จารย์จี GTW, คุณ สายป่านสีชมพู, น้องนุ้ย ณวลี, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
ถึงบทที่ 10 แล้ว บทต่อๆ ไปจะลงห่างขึ้นนะคะ ประมาณอาทิตย์ละ 2 บทค่ะ

บทก่อนๆ ค่ะ

บทนำ - บทที่ ๑  http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓  http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔  http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕  http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖  http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗  http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘  http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙  http://ppantip.com/topic/35407698



บทที่ ๑๐


    
    "วางไว้ที่นั่นเถอะ ไม่ต้องถึงกับป้อนกันหรอก ฉันไม่ได้เป็นไรมากมายถึงขนาดกินข้าวเองไม่ได้"

    คนดูแลผู้ป่วยยิ้ม วางถ้วยข้าวต้มลงบนตั่งเล็กๆ ซึ่งยกมาวางไว้ให้ข้างเตียง แล้วกลับลงนั่งพับเพียบบนพื้นไม้ตามเดิม

    "ถักอะไรละนั่นน่ะ" หล่อนพยักพเยิดไปที่กลุ่มไหมพรมซึ่งทอลวดลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว หากยังบอกยากว่าเป็นอะไรแน่

    "ถักเสื้อกันหนาวให้พี่ประพันธ์ค่ะ"

    คำตอบนั้นทำให้สร้อยมองเสื้อไหมพรมตัวนั้นอย่างสนอกสนใจขึ้นอีกนิด

    "ดีนะ ประพันธ์คงชอบที่หล่อนเป็นคนทำให้"

    ไอรีนได้แต่ยิ้ม รีบวางกลุ่มไหมและเข็มลงดังเดิมเมื่อเห็นมารดาเลี้ยงขยับจะลุก แล้วคลานเข่าเข้าไปหาเพื่อจะช่วย

    "ว่าจะไปอาบน้ำเสียหน่อย ร้อนเต็มที"

    ร่างซึ่งเคยอวบท้วม...แต่บัดนี้ผ่ายผอมลงไปมาก...หยัดตัวขึ้นนั่ง ลูกเลี้ยงสาวน้อยจึงตรงรี่เข้าประคอง

    "โชคยังไม่กลับอีกรึ" เสียงถามนั้นแหบแห้ง ทำท่าจะลุกยืน แต่เข่าอ่อนจนต้องกลับนั่งลงอีก วิงเวียนเพราะนอนอยู่นาน ทั้งวันเลยทีเดียว

    "ยังค่ะ ดิฉันเช็ดตัวให้คุณแม่ใหญ่ดีกว่านะคะ ถ้าคุณแม่ใหญ่ลงไปอาบน้ำข้างล่างดีไม่ดีลื่นล้ม"

    ภรรยาเอกพระพินิจมองไม่เห็นความจำเป็นอันใดที่จะให้ใครเช็ดตัวให้ แน่ใจว่าลงเรือนไปอาบน้ำเองได้ อีกอย่าง ในความคิดของหล่อนการเช็ดตัวไม่ให้ความรู้สึกว่าสะอาดจริงๆ เหมือนอาบน้ำ

    "ไม่ต้องหรอก อยู่ดีๆ เวียนหัวขึ้นมาอีก นอนอีกสักพัก ประเดี๋ยวก็ลุกลงไปอาบเองได้ หล่อนช่วยเอาผ้านุ่งกับเสื้อตามลงไปให้ด้วยก็แล้วกัน"

    สาวน้อยจึงประคองคนป่วยให้กลับนอนลงตามเดิม

    "ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะลงไปเช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้งไว้นะคะ คุณแม่ใหญ่จะได้ไม่ลื่นล้ม แล้วจะขึ้นมาพาคุณแม่ใหญ่ลงไป"

พอเห็นนัยน์ตาจรัสแสงของสาวน้อยชำเลืองดูถ้วยข้าวต้ม สร้อยก็เข้าใจ

    "เอาเถอะ เอาเถอะ หล่อนไปเถอะ หายเวียนหัวแล้วฉันจะกินเอง"

    ไอรีนจึงผละมาที่ประตูซึ่งแง้มไว้เพียงครึ่งๆ พอจะดึงให้กว้างขึ้นเพื่อออกไปจากห้องก็ชะงัก  ร่างสันทัดของพี่ชายมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น

    "แม่เป็นอย่างไรบ้าง" เขาเอ่ยปากถาม พลางผลักประตูให้กว้างขึ้น

    "คุณแม่ใหญ่กำลังจะลงไปอาบน้ำค่ะ คุณแม่ใหญ่…"

ประโยคหลังค้างอยู่เพียงครึ่งเดียวเมื่อเห็นร่างใหญ่ๆ ที่ตามหลังพี่มาด้วย

    "เชิญขอรับคุณพระ"

    นายร้อยตรีหนุ่มหลีกทางให้ผู้บังคับบัญชาเข้ามาในห้องก่อน

    รามสบตาสาวน้อยซึ่งถอยออกห่าง พรายยิ้มจางๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก คิดถึงนั้นแน่ล่ะ แต่ที่ไม่ได้ไปเยี่ยมที่คอนแวนต์เลยก็เพราะไม่อยากให้เสียสมาธิในการเรียน รู้ว่ากำลังเตรียมตัวสอบ และเป็นการสอบสำคัญเสียด้วย ถ้าวันนี้ไม่ถามสบโชค และรู้ว่าไปรับน้องสาวกลับมาบ้านแล้ว ก็คงยังหาโอกาสแวะมาที่นี่ไม่ได้เหมือนเดิม

    ไอรีนหลบวูบ วาบไหวกับประกายระยิบระยับในดวงตาคมลึกคู่นั้น จึงได้เสไปมองมารดาเลี้ยงแทน พอเห็นว่ากำลังยันตัวจะกลับขึ้นนั่ง ก็ตรงรี่เข้าไปประคอง คว้าหมอนตั้งขึ้นเพื่อหนุนหลังให้

    “ผมเพิ่งรู้จากสบโชคว่าคุณสร้อยป่วยมาหลายวันแล้ว ก็เลยเพิ่งได้มาเยี่ยมวันนี้”

    คนมาเยี่ยมเอ่ยขึ้นก่อน ร่างใหญ่โตเข้ามาหยุดยืนข้างเตียง ปิดกั้นช่องทางซึ่งสาวน้อยจะเลี่ยงหลบไปเสีย

    เธอจึงจำต้องยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงนั้นเอง สบช่องก็เมื่อเห็นพี่ชายกลับออกไปจากห้อง จึงรวบรวมความกล้ายอบตัวจะขอผ่านหน้าเพื่อไปที่ประตู

    รามยอมถอยห่างออกมาแต่โดยดี กรุ่นกลิ่นหอมของแป้งร่ำสารภีแผ่วจางเมื่อร่างน้อยๆ เฉียดผ่านไปจนใกล้…ก็จงใจเปิดช่องให้เพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง

    "ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะคุณพระ ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเท่านั้นเอง" สร้อยตอบเสียงแหบแห้ง เกรงอกเกรงใจ

    "คุณสร้อยผอมไปนะครับ ให้ผมพาหมอฝรั่งมาดูดีไหม หมอเชพเพิร์ดเคยสนิทกับคุณพ่อ เวลาใครที่บ้านเจ็บป่วยก็มักจะไปตรวจให้ถึงบ้าน"

    "จะรบกวนคุณพระนะคะ อิฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้ไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้ก็ดีขึ้น เป็นอยู่แบบนี้มาเป็นเดือนแล้วละค่ะ"

    "ให้หมอมาดูดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าเป็นอะไรแน่" รามยังคงคะยั้นคะยอ ไม่เห็นหญิงสูงวัยเพียงเดือนเดียว ถ้าหล่อนซูบผอมลงได้เร็วขนาดนี้ ต้องไม่ใช่อาการเจ็บป่วยธรรมดาแน่นอน

    สบโชคกลับเข้ามาในห้องพร้อมด้วยเก้าอี้ซึ่งไปยกมาจากห้องโถง วางลงให้ทางด้านหลังเพื่อจะให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองได้นั่ง

บ้านหลังนี้จัดแบบไทยครึ่งฝรั่งครึ่ง ห้องซึ่งพระพินิจเคยใช้รับแขก อย่างห้องโถงทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีโต๊ะเก้าอี้แบบฝรั่งเพียบพร้อม แต่ห้องนอนทุกห้องไม่มีเก้าอี้ ในเมื่อใครๆ ก็นั่งกับพื้นกัน จะมีก็เพียงเตียงและหีบหรือตู้ใส่เสื้อผ้าเท่านั้นเอง

    หากทว่านายพันโทหนุ่มก็ยังคงยืนอยู่เช่นนั้น เหลือบไปเห็นเข็มถักนิตติ้งและไหมพรมวางอยู่บนพื้นข้างตั่งซึ่งมีถ้วยข้าวต้มและแก้วน้ำ พอเดาได้ว่าเป็นของใคร สาวน้อยคงกำลังถักเสื้อให้ใครอีกอย่างแน่นอน เหลียวไปดูข้างหลังซึ่งร่างบอบบางยืนอยู่เมื่อครู่ก็ไม่เห็นเสียแล้ว

    "ไม่เป็นไรหรอก สบโชค กำลังจะไปรับหมอมาดูคุณสร้อย" เขาหันกลับไปทางคนป่วย "ผมจะรีบกลับมาครับ คุณสร้อย ให้หมอดูเสียเถอะนะครับ เป็นอะไรแน่ก็จะได้รู้ไปเสีย"

    ไม่ทันที่สร้อยจะได้ค้านอีก ร่างสูงหมุนตัว ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องตามประสาคนคิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว และทำอะไรๆ เร็ว

    สบโชคเหลือบดูแม่แวบเดียว ก่อนตามออกไป

    "ผมพาแม่ไปหาหมอเองดีกว่าขอรับ" บอกผู้บังคับบัญชาด้วยความเกรงอกเกรงใจเมื่อตามมาทันที่บันไดลงเรือน

    "ไปเป็นไรหรอก ฉันไปรับมาเอง บ้านหมอเชิพเพิร์ดอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันเท่าไร ไปดูแม่เถอะ ฉันไปไม่นานหรอก"

    หันกลับมาตบไหล่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเบาๆ แล้วลงบันไดไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว สอดส่ายสายตามองหาร่างอรชรอ้อนแอ้นนั้นไปด้วยขณะสวมรองเท้า พอดีกับเห็นอ้อมตัวเรือนมาจากครัวไฟทางด้านหลัง ในมือมีถาดใบเล็กๆ กำลังก้มหน้าก้มตาดูทางเดิน จึงตัดสินใจคอย    

ไอรีนสะดุดหยุดกึกเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่เชิงบันได พอเงยหน้าขึ้นดูก็อุทานชื่อซึ่งติดตรึงอยู่ในหัวใจมานานวัน

“คุณราม…”

รามเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นสาวน้อยเหมือนจะหยุดยืนอยู่เพียงแค่นั้น

"สบโชคบอกว่าสอบเสร็จแล้ว...กระนั้นหรือ"

คำตอบมีเพียงสั้นๆ "ค่ะ"

"คงกลับมาอยู่บ้านเลยใช่ไหม เรียนจบแล้วนี่นะ"

เขาถามเพียงเพื่อให้มีอะไรมาพูดด้วย ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว

และคำตอบก็ยังคงสั้นเหมือนเดิม "ค่ะ"

อะไรบางอย่างซึ่งก่อตัวขึ้นในใจมานานหลายวันแล้วทำให้ประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นเขาในคราวนี้ ไม่ใช่ความประหม่าอย่างเด็กที่กำลังยืนต่อหน้าผู้ใหญ่ทรงอำนาจอย่างเมื่อก่อน แต่เป็นความรู้สึกที่ต่างออกไป จะเป็นอะไร สาวน้อยก็บอกตัวเองไม่ได้ ก็ในเมื่อไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

    รามยังคงชวนคุยต่อไปอีก

    "อาการคุณสร้อยดูไม่ดีเลยนะ ฉันจะไปรับหมอ"

    ไอรีนยิ้มเจื่อน ยังคงเลี่ยงสายตาเขา

"ค่ะ"

    "เธอคงไม่ไปไหนจนกว่าฉันจะกลับ อย่างนั้นใช่ไหม"

    "ค่ะ ไม่ไปไหน" เสียงตอบเลื่อนลอย

    คนช่างถามลดสายตาลงดูถ้วยเคลือบใส่ชาจีนมีฝาปิด จานใบเล็กมีขนมสีเหลืองทอง รูปทรงกลมแบน ทั้งหมดวางมาในถาดไม้

    "เอามาให้ฉันหรือ" เสียงที่ถามนุ่มนวลยิ่งนัก "ขนมทองทัตใช่ไหม เธอเคยทำครั้งหนึ่งแล้ว ฉันจำได้"

    และคำตอบก็ยังคงเดิม "ค่ะ"

    รามหยิบขนมซึ่งตัวรู้ชื่อชิ้นหนึ่งมาจากจานอย่างไม่มีพิธีรีตอง

    "แล้วฉันจะกลับมากินต่อ อย่าให้ใครกินเสียก่อนล่ะ” เสียงห้าวๆ กลั้วหัวเราะ ริมฝีปากบางได้รูปเหยียดยิ้ม

    ทำเอาสาวน้อยวูบวาบไปทั้งหน้า พึมพำคำตอบอยู่เพียงริมฝีปาก

    “ค่ะ”

    “วันนี้เขาสั่งให้พูดได้แค่นี้เท่านั้นหรือ”

    อดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่ด้วยความเอ็นดู วัยซึ่งยังอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเด็กและหญิงสาวให้ความรู้สึกเช่นนั้นในบางขณะ

    หากก็ไม่คอยคำตอบ เขาหัวเราะหึหึในลำคอ หมุนตัวเดินเร็วรี่ไปทางเรือเร็วซึ่งจอดทิ้งไว้ข้างศาลาท่าน้ำ ไม่รู้ตัวเลยว่ายิ้มกริ่มไปตลอดทาง

    ไอรีนจำต้องหอบถาดของว่างกลับไปเก็บไว้ในครัว เพราะกว่าเขาจะกลับชาจีนคงเย็นเสียก่อน คงต้องทำให้ใหม่ แล้วรีบเข้าห้องน้ำพร้อมด้วยผ้าขี้ริ้ว คุกเข่าลงเช็ดพื้นไม้จนแห้งเท่าที่จะแห้งได้

    เมื่อกลับขึ้นเรือนไปดูคุณสร้อย ก็เห็นพี่ชายกำลังจะวางถ้วยข้าวต้มซึ่งพร่องไปจนเกือบหมดลงบนตั่งตามเดิม แต่พอเห็นน้องสาวกลับเข้ามาในห้องกลับส่งให้แทน

    “แม่อยากอาบน้ำ เหนียวตัวไปหมด วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย อายหมอเขา” สร้อยเปรยกับทั้งลูกจริงลูกเลี้ยงไปพร้อมกัน

    นับจากไอรีนกลับมาอยู่บ้าน คุณสร้อยหมดฤทธิ์หมดเดชลงไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่างแบบนี้

    ‘ดูเอาเถอะ ลูกสาวตัวเองแท้ๆไม่มาเหลียวดูแม่เลย มีก็แต่ลูกเลี้ยงกับลูกสาวคนอื่นที่มาเอาใจใส่อยู่ทุกวัน’ หล่อนเปรยกับลูกชายให้ได้ยินเมื่อค่ำวันวาน

    ไอรีนรู้ว่าลูกสาวคนอื่นที่มารดาเลี้ยงพูดถึงนั้นหมายถึงว่าที่เจ้าสาวของพี่ชาย และรู้ต่อไปว่าวันแต่งงานของสบโชคและหญิงสาวผู้นั้นจะจัดให้มีขึ้นในเร็ววัน...เพื่อให้ทันก่อนที่ประพันธ์จะออกเดินทาง

    "พื้นห้องน้ำแห้งแล้วค่ะ คุณแม่ใหญ่" ไอรีนบอกให้รู้

    สร้อยพยายามยันตัวลุกอีกครั้ง สบโชคเข้าช่วยพยุงลงจากเตียง ยังไม่วายถาม

    "เช็ดตัวไม่ดีกว่าหรือครับคุณแม่"

    "แม่อยากอาบน้ำมากกว่า เมื่อวานก็ไม่ได้อาบ เช็ดตัวไม่เหมือนอาบน้ำหรอกพ่อโชค" หล่อนยังยืนยันอยู่เช่นเดิม

    ไอรีนจึงตรงรี่เข้าไปช่วยประคอง

    “ช่วยเอาผ้านุ่งติดมือลงไปให้สักผืนเถอะ ไอรีน แล้วเตรียมสำรับเย็นให้คุณพระอีกที่ด้วย” สร้อยออกปากสั่ง

    สาวน้อยจึงผละไปเปิดหีบซึ่งวางอยู่ชิดผนังที่มุมห้อง ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าไม้แดงอยู่หลังหนึ่ง พระพินิจผู้เป็นพ่อเคยใช้ใส่เสื้อผ้าและเครื่องแบบเมื่อครั้งที่ยังคงรับราชการ แต่สร้อยชอบพับเสื้อและผ้านุ่งของตัวเก็บลงหีบมากกว่า

    เลือกได้ผ้าพื้นสีเข้ม มีลายขวางเป็นเชิง เสื้อคอกระเช้าสะอาดเอี่ยมอีกตัว แล้วตามสองคนแม่ลูกออกไปจากห้อง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่