สวัสดีสมาชิกเว็บบอร์ดพันทิปที่เคารพทุกท่านค่ะ
เราเป็นนักศึกษามหาลัยฯปี 6
ตามหลักสูตรที่เรียนคือ 4 ปี ค่ะ
ปัจจุบันยังเรียนไม่จบ เพราะไม่สามารถเปิดรายวิชาสายภาษาที่เชื่อมโยงกับคณะได้
หรือก็คือ ภาษาอังกฤษเพฉาะสายคณะที่เรียนนั่นเองค่ะ
เนื่องจากเพื่อนผ่านกันหมดแล้ว ส่วนเราไม่ผ่าน Eng 2 สักที เลยต่อยอดไปไม่ถึง วิชาภาษาอังกฤษแบบเฉพาะทางสาขาวิชา ค่ะ
ช่วงแรกก็มีติดวิชาอื่นอยู่ เลยลงไปช่วงปีที่ 5
ความจริงอยากลง Eng 2 ตั้งแต่เทอม 1 ปี 5 แต่ปรากฏว่าคนลงเต็มเอี๊ยด ไม่มีถอน
เลยได้ลงเทอม 2 ของปี 5
ก็ผ่านมันมาได้แล้วค่ะ เหลือแค่หาหนทางเปิดรายวิชา
แต่ปัญหาก็คือ มันต้องผ่านการอนุมัติเปิดรายวิชา ของคณะศิลป์ศาสตร์ก่อน
แล้วทางนั้นเขาไม่อนุมัติด้วยเหตุผล 3 ข้อ
1. มีคนเรียนแค่ 1 คน
2. ไม่อยากให้นักศึกษาจบไปแล้วไม่มีคุณภาพ (อันนี้ไม่ค่อยเก็ทความหมาย แต่ฟังแล้วเหมือนโดนตบหน้า)
3. เมื่อครบ 4 ปี จะมีการเปลี่ยนหลักสูตร และด้วยหลักสูตรเปลี่ยน จึงไม่สามารถเทียบโอน เพื่อเรียนวิชาภาษาอังกฤษเฉพาะสาขาวิชาชีพนี้ได้ เนื่องจากชื่อวิชาไม่ตรงกัน จำเป็นต้องเปิดรายวิชาขึ้นเองเท่านั้น
ทีนี้
สรุปคือ
ไม่ให้อีนี่จบ
ไม่ได้ไล่มันออก
แต่ก็จะไม่เปิดรายวิชาให้
....
คือเราเคยเป็นโรคซึมเศร้า ช่วงเทอม 1 ปี 5
เครียดมากว่าตัวเองล้มเหลว โง่ และไม่มีทางผ่านอิ้ง 2 ต้องเป็นขยะสังคม ภาระพ่อแม่ อยากตายๆไปซะ ร้องไห้เสียใจ เกลียดตัวเอง
จนได้ไปโรงพยาบาลทางจิตเวช ได้กินยา ได้รับการรักษา ถึงมีกำลังใจขึ้นมาว่า
ถ้าตั้งใจก็ทำได้ อาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่ก็ต้องผ่านไปได้แน่
พยายามทำความเข้าใจ งงตรงไหนก็ยกมือถาม ท่องศัพท์ จนสอบผ่านมาได้
เพื่อมาโดนตบหน้าด้วยคำว่าคำร้องที่ทางคณะส่งไป ไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะศิลป์ศาสตร์ฯ
....
อยากทราบว่า ควรจะทำยังไงดี
1. จ่ายเงินค่าดรอปให้มหาลัยฯ สูบ ปีหน้าพยายามเปิดใหม่ ไม่ได้อีกก็ดรอปอีก จนถึงปี 8 แล้วสุดท้ายก็ปล่อยให้ถูกไล่ออก (เสียดายหน่วยกิตที่เก็บมาและวิทยานิพนธ์ที่ลงทุนไปตั้งมาก)
2. ลาออก ลองหางานที่รับคนไม่จบมหาลัยฯ ดูสักงาน เกาะพ่อแม่กินไปก่อน (ทิ้งทุกอย่างแล้วลองเริ่มต้นใหม่)
3. ตายๆไปซะ อยู่ไปก็รกโลก รบกวนพ่อแม่ ลำบากมหาลัยฯ เป็นภาระของสังคมและครอบครัว
ข้อสามละไว้ รู้อยู่ว่าคนที่จะเสียใจที่สุดคือพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาจนโต
คือ
มันจะไม่เจ็บปวดมากขนาดนี้เลย
ถ้าเราได้พยายามตั้งใจเรียนอย่างสุดกำลังแล้ว
แต่นี่เปิดวิชาไม่ได้ เลยไม่ได้เรียน
อีกแค่ไม่ถึงสิบหน่วยกิตเอง
อีกแค่นิดเดียวแท้ๆ
ทำไมมันถึงยากขนาดนี้
ควรจะทำยังไงดีคะ
คือไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว
มันเหนื่อยจริงๆ ทั้งที่ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย
ขอถามความคิดเห็นทุกท่านด้วยนะคะ เรื่องระบบการศึกษาของมหาลัยฯค่ะ
เราเป็นนักศึกษามหาลัยฯปี 6
ตามหลักสูตรที่เรียนคือ 4 ปี ค่ะ
ปัจจุบันยังเรียนไม่จบ เพราะไม่สามารถเปิดรายวิชาสายภาษาที่เชื่อมโยงกับคณะได้
หรือก็คือ ภาษาอังกฤษเพฉาะสายคณะที่เรียนนั่นเองค่ะ
เนื่องจากเพื่อนผ่านกันหมดแล้ว ส่วนเราไม่ผ่าน Eng 2 สักที เลยต่อยอดไปไม่ถึง วิชาภาษาอังกฤษแบบเฉพาะทางสาขาวิชา ค่ะ
ช่วงแรกก็มีติดวิชาอื่นอยู่ เลยลงไปช่วงปีที่ 5
ความจริงอยากลง Eng 2 ตั้งแต่เทอม 1 ปี 5 แต่ปรากฏว่าคนลงเต็มเอี๊ยด ไม่มีถอน
เลยได้ลงเทอม 2 ของปี 5
ก็ผ่านมันมาได้แล้วค่ะ เหลือแค่หาหนทางเปิดรายวิชา
แต่ปัญหาก็คือ มันต้องผ่านการอนุมัติเปิดรายวิชา ของคณะศิลป์ศาสตร์ก่อน
แล้วทางนั้นเขาไม่อนุมัติด้วยเหตุผล 3 ข้อ
1. มีคนเรียนแค่ 1 คน
2. ไม่อยากให้นักศึกษาจบไปแล้วไม่มีคุณภาพ (อันนี้ไม่ค่อยเก็ทความหมาย แต่ฟังแล้วเหมือนโดนตบหน้า)
3. เมื่อครบ 4 ปี จะมีการเปลี่ยนหลักสูตร และด้วยหลักสูตรเปลี่ยน จึงไม่สามารถเทียบโอน เพื่อเรียนวิชาภาษาอังกฤษเฉพาะสาขาวิชาชีพนี้ได้ เนื่องจากชื่อวิชาไม่ตรงกัน จำเป็นต้องเปิดรายวิชาขึ้นเองเท่านั้น
ทีนี้
สรุปคือ
ไม่ให้อีนี่จบ
ไม่ได้ไล่มันออก
แต่ก็จะไม่เปิดรายวิชาให้
....
คือเราเคยเป็นโรคซึมเศร้า ช่วงเทอม 1 ปี 5
เครียดมากว่าตัวเองล้มเหลว โง่ และไม่มีทางผ่านอิ้ง 2 ต้องเป็นขยะสังคม ภาระพ่อแม่ อยากตายๆไปซะ ร้องไห้เสียใจ เกลียดตัวเอง
จนได้ไปโรงพยาบาลทางจิตเวช ได้กินยา ได้รับการรักษา ถึงมีกำลังใจขึ้นมาว่า
ถ้าตั้งใจก็ทำได้ อาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่ก็ต้องผ่านไปได้แน่
พยายามทำความเข้าใจ งงตรงไหนก็ยกมือถาม ท่องศัพท์ จนสอบผ่านมาได้
เพื่อมาโดนตบหน้าด้วยคำว่าคำร้องที่ทางคณะส่งไป ไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะศิลป์ศาสตร์ฯ
....
อยากทราบว่า ควรจะทำยังไงดี
1. จ่ายเงินค่าดรอปให้มหาลัยฯ สูบ ปีหน้าพยายามเปิดใหม่ ไม่ได้อีกก็ดรอปอีก จนถึงปี 8 แล้วสุดท้ายก็ปล่อยให้ถูกไล่ออก (เสียดายหน่วยกิตที่เก็บมาและวิทยานิพนธ์ที่ลงทุนไปตั้งมาก)
2. ลาออก ลองหางานที่รับคนไม่จบมหาลัยฯ ดูสักงาน เกาะพ่อแม่กินไปก่อน (ทิ้งทุกอย่างแล้วลองเริ่มต้นใหม่)
3. ตายๆไปซะ อยู่ไปก็รกโลก รบกวนพ่อแม่ ลำบากมหาลัยฯ เป็นภาระของสังคมและครอบครัว
ข้อสามละไว้ รู้อยู่ว่าคนที่จะเสียใจที่สุดคือพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาจนโต
คือ
มันจะไม่เจ็บปวดมากขนาดนี้เลย
ถ้าเราได้พยายามตั้งใจเรียนอย่างสุดกำลังแล้ว
แต่นี่เปิดวิชาไม่ได้ เลยไม่ได้เรียน
อีกแค่ไม่ถึงสิบหน่วยกิตเอง
อีกแค่นิดเดียวแท้ๆ
ทำไมมันถึงยากขนาดนี้
ควรจะทำยังไงดีคะ
คือไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว
มันเหนื่อยจริงๆ ทั้งที่ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย