คำถามนี้มีสองนัยยะใหญ่ๆ :-
-ถามเพื่อการเหน็บแนม เยาะเย้ยหรือถากถาง คำตอบที่ได้รับก็คือสายลมและความสะใจของผู้ถาม
-ถามเพื่อค้นหาความจริงหรือเพื่อที่จะเข้าใจว่าทำไมต้องหนี ถ้าคนถามสนใจที่จะรู้ตรงนี้ ก็จะได้รับคำตอบที่ยาวเฟื้อยเลื้อยซอกซอนจากกลุ่มคน สู่องค์กร และสถาบันเหลายสถาบันลยทีเดียว เป็นคำถามสั้นๆ ที่น่าขุดคุ้ยหาตอบ เสียดาย...ที่คำถามอย่างนี้มักจะถูกถามเพื่อความสะใจให้แก่คนถาม
ถ้าคนถามลองเปลี่ยนจากเอาใจเราไปใส่ใจเขา มาเป็นเอาใจเขามาใส่ใจเราดู ฉากและมโนทัศน์เกี่ยวกับการหนีของทักษิณอาจจะเป็นคนละอย่างที่ได้ตั้งธงเอาไว้ก็ได้ ยิ่งในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ก็ยิ่งต้องมองการหนีให้หลายชั้น แค่มองชั้นเดียวว่าที่หนีนั้นเพราะกลัวการลงโทษ(ผิด)ก็คงจะได้แต่ความสาแก่ใจของผู้ถาม
ถ้าเป็นคุณ คุณกำลังตกอยู่ในสถาการณ์ถูกปองร้ายและหมายหัว และการโดนลอบสังหารได้เกิดขึ้นแล้ว ต่อมาโดนอำนาจทหารปฏิวัติขนาดนั้นเป็นคุณๆ จะหนีไหมล่ะครับ? จริงๆ แล้วคุณคิดว่าคุณทักษิณเขาอยากจะหนีไหมล่ะครับ? โดนยึดเงินไปเป็นหมื่นๆ ล้านขนาดนั้น?? บางคนแค่โดนฉกกระเป๋ามีเงินไม่กี่พันบาทยังกล้าเสี่ยงชีวิตที่จะชิงกระเป๋ากลับมา ทักษิณก็ปุถุชนคนธรรมดานี่แหละ มีหรือจะไม่เสียดายเงินเป็นหมื่นๆ ล้านที่โดนยึดไป แต่ถ้านั่นหมายการเสี่ยงต่อชีวิตแล้วล่ะก้อ คนฉลาดก็ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน ส่วน “ความผิด” คดีที่ดินรัชดาที่หลายๆ คนเยาะเย้ยว่าทำไมต้องหนีนั้น? มันก็เป็นแค่เครื่องมือที่ถูกใช้ไปจับตัวเขาเท่านั้น(อย่าถามหาเลยความยุติธรรม?)
ถึงตรงนี้แล้วก็นึกอยากจะย้อนถามเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ “หนี”เหมือนกัน
“คุณอภิสิทธ์ครับไหนบอกว่ารักชาติๆๆๆๆ แต่ทำไมต้องหนี(ทหาร) ล่ะครับ”? ไม่ปิดบังเจตนาคำถามของผมตรงนี้นะครับมีสองนัยยนะ คือ
๑. ถามเพราะสะใจ มันน่าชังหนังหน้านัก! คนประเภทปากอย่างใจอย่าง ตัวเองหนีทหารกลับชี้ความผิดไปที่สัสดี
๒. ถามเพราะอยากรู้จริงๆ ลองเอาใจอภิสิทธิ์มาใส่ใจวัชรานนท์ดู ยังไงๆ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องหนี(ทหาร)?
...ทักษิณไม่ผิด ทำไมต้องหนี??...
-ถามเพื่อการเหน็บแนม เยาะเย้ยหรือถากถาง คำตอบที่ได้รับก็คือสายลมและความสะใจของผู้ถาม
-ถามเพื่อค้นหาความจริงหรือเพื่อที่จะเข้าใจว่าทำไมต้องหนี ถ้าคนถามสนใจที่จะรู้ตรงนี้ ก็จะได้รับคำตอบที่ยาวเฟื้อยเลื้อยซอกซอนจากกลุ่มคน สู่องค์กร และสถาบันเหลายสถาบันลยทีเดียว เป็นคำถามสั้นๆ ที่น่าขุดคุ้ยหาตอบ เสียดาย...ที่คำถามอย่างนี้มักจะถูกถามเพื่อความสะใจให้แก่คนถาม
ถ้าคนถามลองเปลี่ยนจากเอาใจเราไปใส่ใจเขา มาเป็นเอาใจเขามาใส่ใจเราดู ฉากและมโนทัศน์เกี่ยวกับการหนีของทักษิณอาจจะเป็นคนละอย่างที่ได้ตั้งธงเอาไว้ก็ได้ ยิ่งในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ก็ยิ่งต้องมองการหนีให้หลายชั้น แค่มองชั้นเดียวว่าที่หนีนั้นเพราะกลัวการลงโทษ(ผิด)ก็คงจะได้แต่ความสาแก่ใจของผู้ถาม
ถ้าเป็นคุณ คุณกำลังตกอยู่ในสถาการณ์ถูกปองร้ายและหมายหัว และการโดนลอบสังหารได้เกิดขึ้นแล้ว ต่อมาโดนอำนาจทหารปฏิวัติขนาดนั้นเป็นคุณๆ จะหนีไหมล่ะครับ? จริงๆ แล้วคุณคิดว่าคุณทักษิณเขาอยากจะหนีไหมล่ะครับ? โดนยึดเงินไปเป็นหมื่นๆ ล้านขนาดนั้น?? บางคนแค่โดนฉกกระเป๋ามีเงินไม่กี่พันบาทยังกล้าเสี่ยงชีวิตที่จะชิงกระเป๋ากลับมา ทักษิณก็ปุถุชนคนธรรมดานี่แหละ มีหรือจะไม่เสียดายเงินเป็นหมื่นๆ ล้านที่โดนยึดไป แต่ถ้านั่นหมายการเสี่ยงต่อชีวิตแล้วล่ะก้อ คนฉลาดก็ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน ส่วน “ความผิด” คดีที่ดินรัชดาที่หลายๆ คนเยาะเย้ยว่าทำไมต้องหนีนั้น? มันก็เป็นแค่เครื่องมือที่ถูกใช้ไปจับตัวเขาเท่านั้น(อย่าถามหาเลยความยุติธรรม?)
ถึงตรงนี้แล้วก็นึกอยากจะย้อนถามเกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ “หนี”เหมือนกัน “คุณอภิสิทธ์ครับไหนบอกว่ารักชาติๆๆๆๆ แต่ทำไมต้องหนี(ทหาร) ล่ะครับ”? ไม่ปิดบังเจตนาคำถามของผมตรงนี้นะครับมีสองนัยยนะ คือ
๑. ถามเพราะสะใจ มันน่าชังหนังหน้านัก! คนประเภทปากอย่างใจอย่าง ตัวเองหนีทหารกลับชี้ความผิดไปที่สัสดี
๒. ถามเพราะอยากรู้จริงๆ ลองเอาใจอภิสิทธิ์มาใส่ใจวัชรานนท์ดู ยังไงๆ ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องหนี(ทหาร)?