สวัสดีค่ะ กระทู้แรกของเรา ภาษาอาจะไม่สวยไม่สุภาพพิมพ์ผิดบ้าง ต้องขอโทษด้วยนะคะ แนะนำตัวก่อนปัจจุบันเราอายุ 25 ปี เรียนจบมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในเชียงใหม่ ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2552 เราก็เป็นเฟรชชี่เด็กปี1 ใสๆ บ้านๆ ตัวดำๆ มาจากชุมชนรอบนอกของจังหวัด มีเพื่อนสนิทอยู่ 1 คน จบ รร.เดียวกัน แต่เพื่อนสวย น่ารักมาก เดินไปไหนมาไหนคนรู้จักเราเพราะคนนี้เลย ตัวติดกันตลอด เพื่อนเราก็ดาวรุ่ง ตัวท๊อบในรุ่นปี 1 เลย มีแต่รุ่นพี่จีบ แซว ขอเบอร์กันเป็นแถว คนชอบเยอะมาก เราก็อิจฉาเบาเพราะไม่มีคนมาจีบเราเลย555+ เข้าเรื่องๆ คือสมัยปี1 เค้าก็จะมีกิจกรรมให้น้องปี 1 ขึ้นสแตนเพื่อแข่งขันกันแต่ละคณะในงานกีฬาสีของมหาลัย ซ้อมกันเกือบทุกเย็น คณะที่เราเรียนมี 3 สาขา ตอนขึ้นสแตนก็คละๆปนกันไปไม่ได้แบ่งสาขา วันแรกก็ให้แนะนำปกติ ตัวเรากับเพื่อนก็นั่งติดกัน แต่เพื่อนเรานั่งข้างผู้ชายคนนึง เห็นแว๊บแรก เฮ้ย!! น่ารักอะ (คิดในใจ) ได้ยินเสียงแนะนำนี่รีบตั้งใจฟังเลย ต่อมเผือกอยากรู้เค้าเป็นคน จ.อะไร จบที่ไหนยังไง555 เพราะชื่อรู้อยู่แล้วดูป้ายห้อยคอเอา สมมุติชื่อ พี แต่เราก็ไม่เคยบอกใครแม้แต่เพื่อนสนิท ไม่เคยแสดงออกว่าชอบ เพราะเราขี้เหล่มาก ดำไม่พอฟันเหยิน ไม่มีคิ้ว แต่งหน้าไม่เป็น ใส่แต่แป้งฝุ่นจอร์นสันบ้าง นาทีฟบ้าง แตะด้วยอุทัยทิพนิ่ดๆ โหน่ยๆ คือตอนนั้นคิดว่าสวยสุดแล้วแหละ ระหว่างซ้อมเชียร์ก็เจอกันคุยกันบ้างตามประสาเด็กใหม่ เพราะเค้าเป็นคนตลก เฮฮา ร่าเริง มีมุขให้ขำตลอด จนบางครั้งก็คิดว่า "ถ้าได้คนนี้เป็นแฟนคงจะดีนะ" เพราะปกติเราเป็นคนพูดน้อย เราเป็นคนฟังเค้าเป็นคนพูดคงก็ดี ทุกอย่างคือเรื่องที่คิดในใจ... เพราะในความจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นจ้ะ หลังกิจกรรมจบก็แยกย้าย เรียนใครเรียนมัน
จนเรียนปี4 เชื่อมั้ยว่าเรียนคณะเดียวกัน ตึกเดียวกัน แต่คนละโซนเพราะคนละสาขาไม่เคยเจอกันเลย! จบไป1ปี รอรับปริญญาก็ไม่เจอ แต่บอกก่อนว่าช่วงเรียนเราก็มีแฟนคบมา4ปี จนเลิกกันก่อนรับปริญญา3เดือน ไอ้เราก็เฮริทไป3เดือนซิค่ะ รออะไร บอกว่าไม่ได้รัก ความรู้สึกก็ไม่ได้รักเช่นกัน อาจจะเพราะความเหงาความผูกพันธ์มากกว่าทำให้เกิดความเคว้งคว้าง (เขียนถูกมั้ยค่ะ--*) ช่วงนั้นเริ่มทำงานครั้งแรกเด็กจบ เอาอารมณ์ไปลงที่งานหมด ทำงาน กลับหอ กินข้าวคนเดียว นอนตื่น วันหยุดเที่ยวเมากับเพื่อนสนิทบ้าง อยากจะบอกว่ามีผู้ชายเข้ามาเยอะมากเราก็งง เหมือนกัน เมื่อถึงวันรับปริญญาเค้าก็จะให้ซ้อมประมาณ 2-3 วันก่อนรับจริง 2วันแรกซ้อมย่อย วันที่3 ซ้อมใหญ่ วันที่4 รับจริง ซึ่งวันที่3เค้าจะให้แต่งชุดครุยจริงแต่งหน้าจริงเพราะต้องถ่ายรูปรวมคณะ คณาจารย์ เราก็ตื่นตี4 เพราะนอนกับเพื่อนอีก2คนผลัดกันแต่งหน้า พร้อมแล้ว 6โมงก็แว้นมอไซค์ซ้อนสามคนเข้ามอ แกเอ้ยยย ชุดคลุยนี่ไหวพริ้วกลางถนนเลยอะ555+ ยังกะแฮรี่พอตเตอร์เลยแก ทำไงได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ชะนีไม่มีผู้มาเกย และช่วงรอเข้าหอประชุมใหญ่แต่ละคณะก็รอเข้า เชคชื่อ ซึ่งเราจะไม่ได้อยู่ลำดับติดเพื่อนสนิทหรอกเพราะมันเรียงตามตัวอักษร ก-ฮ ไม่ว่าจะข้างหน้าข้างหลังก็ไม่รู้จักเพราะเราเรียนคนละสาขา คนละสาขา! อีกแล้วคุ่นๆมั้ยเหมือนปี1เลย ลำดับชื่อเราอยู่ท้ายๆ เพราะชื่อ นำหน้า ส. ก็ยืนเหงาอยู่ข้างหลังโน้นแหละ ระหว่างยืนเวิ่นๆ หันซ้ายขวา เงยหน้ามาเท่านั้นแหละ เฮ้ยไม่รู้จะคุยกับใคร --* รู้แต่ว่ามีคนเม้าเราอยู่ เพราะหางตาคนเรามันก็เห็นได้แม้ไม่ได้มองตรงๆใช่ป่ะ เราก็คิดในใจ หึมองกุเม้ากุเรื่องไรว้า หรือเราเขียนคิ้วมาข้างเดียว ก็ไม่นะ?? มีสะกิดให้เพื่อนอีกคนมองเราอีก อะไรนักหนา อารมณ์เริ่มขุ่น แต่กลุ่มที่เม้าเป็นผู้ชายไงก็คิดอีกอย่างว่า มันคงชอบเราแหละ คิดว่าชั้นสวยอะซิ หึหึ ค่อยข้างมั่นหน้ากว่าตอนปี1เยอะ เพราะเราทำจมูก ดัดฟัน และผอมลง 5 โล ขาวขึ้นเพราะช่วงอกหัก 3 เดือนไม่ได้แต่งตัวใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวถุงเท้าตลอดเวลา ทำงานห้องแอร์ด้วย เป็นฤดูหนาวและปีนั้นเป็นปีที่เชียงใหม่หนาวมากไม่ได้โดนแดดเป็นเดือนๆ ทำให้ได้ผลพลอยได้จากตรงนั้นมา ระหว่างเชิ่ดหน้าขึ้นมาด้วยคำถามว่าจะเอาไง สายตาฟาดไปเจอผู้คนนึง พร้อมกับแววตาที่ไม่ใช่เพื่อน ใช่! คนนั้นคือพี มันก็คือคนในกลุ่มนั้นที่ยืนสะกิดเพื่อนในกลุ่มให้มองเรา แต่ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้อะไรมากมายเพราะปกติไม่ชอบสายตาผู้ที่ตรง ชอบสายตาแอบมองแล้วหลบตามากกว่า พียิ้มมาเราก็ยิ้มตอบแล้วเราก็หลบตาไป สักพักรุ่นพี่ผู้ชายคนนึงที่อยู่ข้างหน้าก็มาขอถ่ายรูปด้วยเพราะเค้าจ้างตากล้องมา ตอนเขาเรียก "น้องๆมาถ่ายกับพี่หน่อย" ไอ้เราก็งงถามย้ำไปว่าหนูหรอก?พร้อมชี้ตัวเอง เขาก็พยักหน้า เราก็เดินไปแบบงงเพราะซ้อมมาด้วย2วันไปเคยคุยกันเลย จังหวะที่เดินไปหารุ่นพี่เขาก็เรียกอีกคนมาถ่ายด้วยนั่นคือพี แต่พีไม่มารุ่นพี่ก็เซงๆเหมือนกับว่าอุตส่าชวนเรามารูปด้วยเพื่อพีเลย เพราะคนที่พีสะกิดเม้าเราคือรุ่นพี่คนนี้ สุดท้ายก็เลยได้ถ่าย2คน 12แชะ จบไป
เคยมั้ย ? ฝันถึง นึกถึงคนๆนึงตลอด แม้ไม่ได้เจอกันเป็นปี หรือความรักไม่ต้องการเวลาจริงๆ
จนเรียนปี4 เชื่อมั้ยว่าเรียนคณะเดียวกัน ตึกเดียวกัน แต่คนละโซนเพราะคนละสาขาไม่เคยเจอกันเลย! จบไป1ปี รอรับปริญญาก็ไม่เจอ แต่บอกก่อนว่าช่วงเรียนเราก็มีแฟนคบมา4ปี จนเลิกกันก่อนรับปริญญา3เดือน ไอ้เราก็เฮริทไป3เดือนซิค่ะ รออะไร บอกว่าไม่ได้รัก ความรู้สึกก็ไม่ได้รักเช่นกัน อาจจะเพราะความเหงาความผูกพันธ์มากกว่าทำให้เกิดความเคว้งคว้าง (เขียนถูกมั้ยค่ะ--*) ช่วงนั้นเริ่มทำงานครั้งแรกเด็กจบ เอาอารมณ์ไปลงที่งานหมด ทำงาน กลับหอ กินข้าวคนเดียว นอนตื่น วันหยุดเที่ยวเมากับเพื่อนสนิทบ้าง อยากจะบอกว่ามีผู้ชายเข้ามาเยอะมากเราก็งง เหมือนกัน เมื่อถึงวันรับปริญญาเค้าก็จะให้ซ้อมประมาณ 2-3 วันก่อนรับจริง 2วันแรกซ้อมย่อย วันที่3 ซ้อมใหญ่ วันที่4 รับจริง ซึ่งวันที่3เค้าจะให้แต่งชุดครุยจริงแต่งหน้าจริงเพราะต้องถ่ายรูปรวมคณะ คณาจารย์ เราก็ตื่นตี4 เพราะนอนกับเพื่อนอีก2คนผลัดกันแต่งหน้า พร้อมแล้ว 6โมงก็แว้นมอไซค์ซ้อนสามคนเข้ามอ แกเอ้ยยย ชุดคลุยนี่ไหวพริ้วกลางถนนเลยอะ555+ ยังกะแฮรี่พอตเตอร์เลยแก ทำไงได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ชะนีไม่มีผู้มาเกย และช่วงรอเข้าหอประชุมใหญ่แต่ละคณะก็รอเข้า เชคชื่อ ซึ่งเราจะไม่ได้อยู่ลำดับติดเพื่อนสนิทหรอกเพราะมันเรียงตามตัวอักษร ก-ฮ ไม่ว่าจะข้างหน้าข้างหลังก็ไม่รู้จักเพราะเราเรียนคนละสาขา คนละสาขา! อีกแล้วคุ่นๆมั้ยเหมือนปี1เลย ลำดับชื่อเราอยู่ท้ายๆ เพราะชื่อ นำหน้า ส. ก็ยืนเหงาอยู่ข้างหลังโน้นแหละ ระหว่างยืนเวิ่นๆ หันซ้ายขวา เงยหน้ามาเท่านั้นแหละ เฮ้ยไม่รู้จะคุยกับใคร --* รู้แต่ว่ามีคนเม้าเราอยู่ เพราะหางตาคนเรามันก็เห็นได้แม้ไม่ได้มองตรงๆใช่ป่ะ เราก็คิดในใจ หึมองกุเม้ากุเรื่องไรว้า หรือเราเขียนคิ้วมาข้างเดียว ก็ไม่นะ?? มีสะกิดให้เพื่อนอีกคนมองเราอีก อะไรนักหนา อารมณ์เริ่มขุ่น แต่กลุ่มที่เม้าเป็นผู้ชายไงก็คิดอีกอย่างว่า มันคงชอบเราแหละ คิดว่าชั้นสวยอะซิ หึหึ ค่อยข้างมั่นหน้ากว่าตอนปี1เยอะ เพราะเราทำจมูก ดัดฟัน และผอมลง 5 โล ขาวขึ้นเพราะช่วงอกหัก 3 เดือนไม่ได้แต่งตัวใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวถุงเท้าตลอดเวลา ทำงานห้องแอร์ด้วย เป็นฤดูหนาวและปีนั้นเป็นปีที่เชียงใหม่หนาวมากไม่ได้โดนแดดเป็นเดือนๆ ทำให้ได้ผลพลอยได้จากตรงนั้นมา ระหว่างเชิ่ดหน้าขึ้นมาด้วยคำถามว่าจะเอาไง สายตาฟาดไปเจอผู้คนนึง พร้อมกับแววตาที่ไม่ใช่เพื่อน ใช่! คนนั้นคือพี มันก็คือคนในกลุ่มนั้นที่ยืนสะกิดเพื่อนในกลุ่มให้มองเรา แต่ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้อะไรมากมายเพราะปกติไม่ชอบสายตาผู้ที่ตรง ชอบสายตาแอบมองแล้วหลบตามากกว่า พียิ้มมาเราก็ยิ้มตอบแล้วเราก็หลบตาไป สักพักรุ่นพี่ผู้ชายคนนึงที่อยู่ข้างหน้าก็มาขอถ่ายรูปด้วยเพราะเค้าจ้างตากล้องมา ตอนเขาเรียก "น้องๆมาถ่ายกับพี่หน่อย" ไอ้เราก็งงถามย้ำไปว่าหนูหรอก?พร้อมชี้ตัวเอง เขาก็พยักหน้า เราก็เดินไปแบบงงเพราะซ้อมมาด้วย2วันไปเคยคุยกันเลย จังหวะที่เดินไปหารุ่นพี่เขาก็เรียกอีกคนมาถ่ายด้วยนั่นคือพี แต่พีไม่มารุ่นพี่ก็เซงๆเหมือนกับว่าอุตส่าชวนเรามารูปด้วยเพื่อพีเลย เพราะคนที่พีสะกิดเม้าเราคือรุ่นพี่คนนี้ สุดท้ายก็เลยได้ถ่าย2คน 12แชะ จบไป