บ่อยครั้งวารสารศาสตร์พลเมืองดูเหมือนจะเป็นรูปแบบประชาธิปไตย ซึ่งผู้คนสามารถมีส่วนร่วมรายงานข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ ทั้งมีการวิเคราะห์และแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร ทางด้านนักสังคมวิทยาและนักอาชญาวิทยาอย่าง Agneta Maleen แห่งมหาวิทยาลัย Lund ในประเทศสวีเดนได้ทำการศึกษาถึงปรากฎการณ์นี้และแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนบางอย่าง ซึ่งประกอบไปด้วยการคุกคามทางไซเบอร์ในบางช่วงบางเวลา
ไม่กี่ปีมานี้วารสารศาสตร์พลเมืองกลายเป็นปรากฎการณ์ที่แพร่ขยายไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งพลเมืองได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น มีการบันทึกเก็บข้อมูลเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือและทำการแชร์ผ่านสังคมออนไลน์ จึงทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆเพิ่มมากขึ้นที่บ่อยครั้งก็มีการแพร่ภาพเหตุการณ์ต่างๆไปผู้คนรู้เห็นกันทั่วโลก
“วารสารศาสตร์พลเมืองนี้จะทำให้รับรู้ความจริงซึ่งอย่างน้อยก็มีรูปแบบเดียวกับวารสารศาสตร์ทั่วไป” กล่าวโดย Agneta Mallén
เธอได้โต้แย้งว่า ความน่าเชื่อถือจะเพิ่มมากขึ้นจากการบันทึกภาพวีดีโอคุณภาพแย่และรูปภาพที่สั่นๆเบลอๆ ช่วยให้ผู้รับชมรับรู้ข้อมูลดีขึ้น ทำให้พวกเขาไม่วิจารณ์ข้อมูลที่ได้รับมากเท่าไรนัก
“ปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับวารสารศาสตร์พลเมืองก็คือ มีการเปิดกว้างการคุกคามโลกไซเบอร์มากขึ้น” กล่าวโดย Agneta Mallén
จากการศึกษาไม่นานมานี้ เธอได้ทำการวิเคราะห์วีดีโอคลิปว่า ไม่กี่ปีก่อนมีวีดีโอที่ใช้ชื่อ “Crazy Granny” ซึ่งเป็นวีดีโอที่แสดงให้เห็นถึงหญิงสูงอายุที่ดูเหมือนกับว่า เธอกำลังพยายามค่อยๆก้าวออกมาจากรถแท็กซี่โดยที่ไม่จ่ายค่าโดยสาร คลิปนั้นมีผู้ชมเป็นพันๆกว่าคน และก็มีการคอมเม้นท์ด่าทอผู้หญิงไปในทางเสื่อมเสียและเชิงตลก
“คอมเม้นท์ต่างๆที่ต่อต้านผู้หญิงสูงอายุเต็มไปด้วยคำด่าทอมาก พวกเขาส่วนใหญ่มีการคุกคามทางเพศและกระตุ้นให้ใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้นคอมเม้นท์ต่างๆก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการระบุชื่อและที่อยู่ของผู้หญิงคนนั้น” กล่าวโดย Agneta Mallen
Agneta Mallen ได้อ่านรายงานตำรวจเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่ที่ต่อต้านผู้หญิงและก็พบเรื่องราวที่แตกต่างออกไปจากวีดีโอคลิป ซึ่งปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่จ่ายค่าแท็กซี่ แต่เป็นความขัดแย้งจากการที่เธอได้ทำเบาะนั่งแท็กซี่เสียมากกว่า และความจริงแล้วคนขับรถก็ต้องการให้เธอจ่ายค่าเสียหายก่อนที่เธอจะก้าวออกจากรถ ทางด้านตำรวจก็ระบุว่ามันเป็นอุบัติเหตุและมีการสืบสวนมาก่อนหน้านี้แล้ว
“แต่ความเสียหายจากเบาะมันเกิดมาก่อนแล้ว ฝ่ายผู้หญิงก็โดนโลกไซเบอร์คุกคามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่เคยที่จะได้รับโอกาสให้ที่ยืนกับเธอเลย ทางด้านผู้หญิงก็ได้ถูกลงโทษจากสังคมโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรเลย พฤติกรรมก็มีความคล้ายคลึงกับการประจานในช่วงสมัยยุคกลางโดยให้ผู้คนอับอายขายหน้าในที่สาธารณะ” กล่าวโดย Agneta Mallen ที่คิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องมาวิจารณ์ความตกต่ำของวารสารศาสตร์พลเมือง
“แต่ก็มีวีดีโอคลิปหลายอันในมือถือที่สามารถไขคดีอาชญากรรมให้กับตำรวจได้และก็มีหลักฐานมัดตัวคนร้ายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่า วีดีโอต่างๆเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงและคนที่ทำการบันทึกวีดีโอก็ไม่ได้ให้ข้อมูลก่อนที่จะทำการโพสต์บนโลกออนไลน์” กล่าวโดย Mallen
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
เพราะอะไรวารสารศาสตร์พลเมืองถึงนำไปสู่การคุกคามทางไซเบอร์
บ่อยครั้งวารสารศาสตร์พลเมืองดูเหมือนจะเป็นรูปแบบประชาธิปไตย ซึ่งผู้คนสามารถมีส่วนร่วมรายงานข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ ทั้งมีการวิเคราะห์และแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร ทางด้านนักสังคมวิทยาและนักอาชญาวิทยาอย่าง Agneta Maleen แห่งมหาวิทยาลัย Lund ในประเทศสวีเดนได้ทำการศึกษาถึงปรากฎการณ์นี้และแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนบางอย่าง ซึ่งประกอบไปด้วยการคุกคามทางไซเบอร์ในบางช่วงบางเวลา
ไม่กี่ปีมานี้วารสารศาสตร์พลเมืองกลายเป็นปรากฎการณ์ที่แพร่ขยายไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งพลเมืองได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น มีการบันทึกเก็บข้อมูลเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือและทำการแชร์ผ่านสังคมออนไลน์ จึงทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆเพิ่มมากขึ้นที่บ่อยครั้งก็มีการแพร่ภาพเหตุการณ์ต่างๆไปผู้คนรู้เห็นกันทั่วโลก
“วารสารศาสตร์พลเมืองนี้จะทำให้รับรู้ความจริงซึ่งอย่างน้อยก็มีรูปแบบเดียวกับวารสารศาสตร์ทั่วไป” กล่าวโดย Agneta Mallén
เธอได้โต้แย้งว่า ความน่าเชื่อถือจะเพิ่มมากขึ้นจากการบันทึกภาพวีดีโอคุณภาพแย่และรูปภาพที่สั่นๆเบลอๆ ช่วยให้ผู้รับชมรับรู้ข้อมูลดีขึ้น ทำให้พวกเขาไม่วิจารณ์ข้อมูลที่ได้รับมากเท่าไรนัก
“ปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับวารสารศาสตร์พลเมืองก็คือ มีการเปิดกว้างการคุกคามโลกไซเบอร์มากขึ้น” กล่าวโดย Agneta Mallén
จากการศึกษาไม่นานมานี้ เธอได้ทำการวิเคราะห์วีดีโอคลิปว่า ไม่กี่ปีก่อนมีวีดีโอที่ใช้ชื่อ “Crazy Granny” ซึ่งเป็นวีดีโอที่แสดงให้เห็นถึงหญิงสูงอายุที่ดูเหมือนกับว่า เธอกำลังพยายามค่อยๆก้าวออกมาจากรถแท็กซี่โดยที่ไม่จ่ายค่าโดยสาร คลิปนั้นมีผู้ชมเป็นพันๆกว่าคน และก็มีการคอมเม้นท์ด่าทอผู้หญิงไปในทางเสื่อมเสียและเชิงตลก
“คอมเม้นท์ต่างๆที่ต่อต้านผู้หญิงสูงอายุเต็มไปด้วยคำด่าทอมาก พวกเขาส่วนใหญ่มีการคุกคามทางเพศและกระตุ้นให้ใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้นคอมเม้นท์ต่างๆก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการระบุชื่อและที่อยู่ของผู้หญิงคนนั้น” กล่าวโดย Agneta Mallen
Agneta Mallen ได้อ่านรายงานตำรวจเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่ที่ต่อต้านผู้หญิงและก็พบเรื่องราวที่แตกต่างออกไปจากวีดีโอคลิป ซึ่งปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่จ่ายค่าแท็กซี่ แต่เป็นความขัดแย้งจากการที่เธอได้ทำเบาะนั่งแท็กซี่เสียมากกว่า และความจริงแล้วคนขับรถก็ต้องการให้เธอจ่ายค่าเสียหายก่อนที่เธอจะก้าวออกจากรถ ทางด้านตำรวจก็ระบุว่ามันเป็นอุบัติเหตุและมีการสืบสวนมาก่อนหน้านี้แล้ว
“แต่ความเสียหายจากเบาะมันเกิดมาก่อนแล้ว ฝ่ายผู้หญิงก็โดนโลกไซเบอร์คุกคามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่เคยที่จะได้รับโอกาสให้ที่ยืนกับเธอเลย ทางด้านผู้หญิงก็ได้ถูกลงโทษจากสังคมโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรเลย พฤติกรรมก็มีความคล้ายคลึงกับการประจานในช่วงสมัยยุคกลางโดยให้ผู้คนอับอายขายหน้าในที่สาธารณะ” กล่าวโดย Agneta Mallen ที่คิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องมาวิจารณ์ความตกต่ำของวารสารศาสตร์พลเมือง
“แต่ก็มีวีดีโอคลิปหลายอันในมือถือที่สามารถไขคดีอาชญากรรมให้กับตำรวจได้และก็มีหลักฐานมัดตัวคนร้ายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่า วีดีโอต่างๆเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงและคนที่ทำการบันทึกวีดีโอก็ไม่ได้ให้ข้อมูลก่อนที่จะทำการโพสต์บนโลกออนไลน์” กล่าวโดย Mallen
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com