สบายดีจ้า นี่เป็นรีวิวการเดินทางแบบจริงๆจังๆครั้งแรกของเรา เย่ เราจะใช้เวลาทั้งหมด 4วัน 3คืน เที่ยวหลวงพระบาง วังเวียง และ เวียงจันทร์ แพลนคืออยู่หลวงพระบาง1คืน วังเวียง2คืน และแวะเที่ยวเวียงจันทร์ด้วยนิดหน่อยวันกลับ งบประมาณที่ใช้อยู่ที่ประมาณคนละ 6,500 รวมค่าเครื่องบินแล้วนะคะ รีวิวนี้รูปเยอะมาก ประมาณ 100กว่ารูป สำหรับใครที่เข้ามาเพื่อดูรูป คุณมาถูกที่แล้วค่ะ
- เราจะสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดกันก่อนเลยนะคะ -
*ค่าเครื่องบิน (ดอนเมือง-หลวงพระบาง) สายการบิน Air asia = 1,800 บาท
*ค่าเครื่องบิน (อุดรธานี-ดอนเมือง) สายการบิน Lion air = 625 บาท
*ค่าที่พัก 3 คืน (หลวงพระบาง 1คืน วังเวียง 2คืน) = 1,000 บาท (ต่อคนนะคะ เราไปกัน3คน จองห้องสำหรับ3คนหารๆกันได้ราคานี้ค่ะ)
*ค่ารถจากสนามบินหลวงพระบางไปที่พัก (อันนี้คนอื่นอาจจะได้ถูกกว่านี้ สำหรับเราคือคิดว่าฟรี แต่ที่จริงไม่ค่ะ 555) = 160 บาท ต่อคน
*ค่ารถจากที่พักไปน้ำตกกวางสี(อาจจะหาได้ถูกกว่าถ้าเดินถามรถสองแถว ของเราไปรถตู้แบบเหมาส่วนตัว) = 340 บาท
*ค่าเข้าน้ำตกกวางสี = 90 บาท
*ค่ารถจากหลวงพระบางไปวังเวียง = 520 บาท
*ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ในวังเวียง (เช่าตอน 8โมงเช้า คืนรถ 2ทุ่ม) = คันละ 300 หารกัน2คน เหลือคนละ 150 บาท
*ค่าข้ามสะพาน (เป็นสะพานสั้นๆ ย้ำว่าสั้นมากๆ ที่นี่เค้าเก็บเงินทุกเม็ดจริงๆค่ะ) = รถมอเตอร์ไซค์คันละ 40 บาท
*ค่าขึ้นผาเงิน = 40 บาท
*ค่าเเข้าบลูลากูน = 40 บาท
*ค่ารถจากวังเวียงไปเวียงจันทร์ = 260 บาท
*ค่ารถจากเวียงจันทร์ไปอุดรธานี = 100 บาท
และอื่นๆคือค่าอาหาร (อาหารที่ลาวแอบแพงอ่ะ ข้าวราดตามสั่งจานนึง 100-150) ซื้ออะไรจิปาถะเล็กๆน้อย รวมๆแล้วงบประมาณที่เราใช้ทั้งสิน 6,500 บาทจ้า
เราเลือกเดินทางโดยนั่งเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองไปลงหลวงพระบางจริงๆต้องได้บินบ่าย2แต่ไฟลท์ถูกเลื่อนออกไป1ชั่วโมง เราเลยเหลือเวลาเที่ยวสำหรับวันแรกน้อยลงไปอีก นั่งเครื่องมาประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงสนามบินหลวงพระบาง เล็กกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
แค่สนามบินก็สวยแล้ว
พอลงจากเครื่องเราก็ต้องเข้าแถวรอตรวจคนเข้าเมือง กว่าจะเสร็จปาเข้าไป5โมงกว่า นัดคนของที่พักมารับตั้งแต่4โมงเย็นเพราะตอนคุยกันไม่รู้ว่าไฟลท์จะโดนเลื่อน จะโดนด่ามั้ยให้ทาย
คุณลุงที่มารับถือป้ายชื่อเรายืนรออยู่ พอขึ้นรถได้ลุงแกก็ทำหน้าที่ประหนึ่งไกด์ทัวร์ ชี้ให้ดูนู่นดูนี่ เราพูดภาษาไทย ส่วนลุงพูดภาษาลาว รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่หนักไปทางไม่รู้เรื่อง ลุงแวะให้ซื้อซิมด้วย ซิมลาวอยู่ได้7วัน ราคา 10,000กีบ แล้วซื้อโปรอินเตอร์เน็ตเติมอีก20,000 กีบ ได้มา2gb. ตอนซื้อคนขายถามเอา3จีหรือ4จี เราเลือกเอา4จีมาเพื่อความแรง ยอมจ่ายแพงกว่า สุดท้ายสัญญาณมีให้แค่3จีจ้าาาา ฝากถึงใครที่กำลังจะมาเที่ยว ซื้อซิม3จีก็ได้ ถูกกว่าด้วยค่า
ถึงที่พักแล้ว
ที่หลวงพระบางเราเลือกพักที่ สุทธิกรเกสเฮ้าส์ 1 จองจาก booking ราคา600นิดๆ เป็นห้องสำหรับ3คน มี1เตียงคู่กับ1เตียงเดี่ยว ห้องพักเล็กไปหน่อย แต่แอร์เย็น น้ำไหลแรง ยุงไม่เยอะ ถือว่าโอเค คุ้มราคา แต่! เราต้องจ่ายค่ารถที่คุณลุงไปรับที่สนามบิน100,000กีบ! (ประมาณ4-500บาท) ทั้งที่ระยะทางไม่ได้ไกลเลย ตอนคุณป้าเจ้าของบอกนี่เราเงิบกันมาก55555 เห็นบอกมีบริการรับ ส่ง สนามบินนี่ก็นึกว่าฟรี เซอร์ไพรส์ไปอีกกก
แม่น้ำคานเป็นสีโอวัลตินเลยค่ะ เดินจากที่พักไม่กี่ก้าวก็ถึงเลย บรรยากาศตอนเย็นๆที่เราไปถึงเงียบสงบมากๆ
หลังจากนั่งเล่นริมน้ำได้สักพักเราก็ออกเดินตามหา Night market หรือที่คนลาวเรียกว่าตลาดมืด
เดินมาเรื่อยๆ เราก็ถึงทางเข้าตลาดมืด ตลาดจะตั้งอยู่แถวๆ วัดนะคะ วันที่เราไปอากาสร้อนอบอ้าวมากๆ ยิ่งเข้าไปเดินในตลาดที่เป็นเต้นท์แดงๆ ยิ่งร้อน
ภายในตลาดก็มีเป็นพวกของฝาก งานฝีมือ เสื้อผ้าต่างๆ ของหลายอย่างก็พบเห็นได้บ่อยตามจตุจักรบ้านเรา
ที่หลวงพระบางมีแบบนี้หลายร้านเลย เป็นบุฟเฟ่ต์ตักเองได้1กล่องโฟม เป็นพวกผัดผัก ผักต้ม ผักทอด อาหารเส้นๆไม่เน้นเนื้อสัตว
หลังจากเดินตลาดจนสุด เราก็ทะลุมาซอยที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านของฝาก เครื่องประดับต่างๆ
เราเลือกฝากท้องมื้อแรกที่ร้านข้างทางแห่งหนึ่ง ด้วยความที่สภาพร้านไม่ได้หรูนัก เลยคิดไปเองว่ามันจะถูก แต่ไม่จ้าาา ข้าวตามสั่งราคาอยู่ที่25,000-35,000กีบ
อันนี้สั่งผัดเนื้อวัว สั่ง Beef แต่เหมือนจะได้Bufแทนนะ กลิ่นแปลกๆ สีดำมาก สภาพเหมือนเนื้อควาย
อันนี้สั่งผัดกระเพราะ ผัดได้มั่วมากกก จานนี้ไม่น่าเกิดเป็นกระเพราได้อ่ะจริงๆ
อันนี้ข้าวผัดกุ้ง มั่วไม่ต่างกัน ใส่ใบกระเพรามาด้วย รสชาตออกจืดๆไปด้วยสำหรับเรา
เช้าวันที่2 เราตื่นกันตั้งแต่6โมงเช้า เพื่อออกมาเก็บบรรยากาศ และหาข้าวเช้ากิน จริงๆอยากมาตักบาตรข้าวเหนียวนะ แต่เค้าตักกันตั้งแต่ตี5 ตื่นไม่ไหวอ่ะ55555
ภาษาเค้าคล้ายเรามาก อ่านรู้เรื่องแบบงงๆ
ถนนเส้นเดียวกับเมื่อคืน แต่ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย
ออนนี่ทดลองเลิกเป็นบิวตี้บลอกเกอร์ มาเป็นฮิปสะเต้อแทน
เราแวะกินอาหารเช้าที่ร้านอาหารหนึ่งในไม่มากนักที่เปิดเวลานี้ ราคาไม่แรงมากถูกกว่าที่คิดไว้พอสมควร
อันนี้สั่งข้าวผัดเนื้อวัว แต่น่าจะเป็นเนื้อควายเช่นเคย
มื้อนี้หมดไปคนละประมาน3หมื่น ราคานี้รวมซื้อแซนวิสกลับไปไว้กินบนรถด้วยนะ
หลังจากหาอะไรกินเสร็จเราก็เดินทางไปน้ำตกตาดกวางสีกัน โดยเราเหมารถคุณลุงเจ้าของที่พักคนเดิมนั่นแหละ ระหว่างทางลุงก็ยังทำหน้าที่เป็นไปไกด์ที่ดีเหมือนเคย ลุงแกเล่าประวัติศาสตร์ลาวให้ฟังด้วยนะ แล้วยังบอกอีกว่าคนไทยโชคดี ที่มีในหลวงที่ทำนู่นทำนี่พัฒนาประเทศ ประเทศเราก็เลยเจริญกว่ามาก พอได้ฟังอย่างนี้แล้วชื่นใจมาก ภูมิใจมาก ที่เรามีในหลวงที่ดี เป็นที่ชื่นชมไม่ใช่แค่สำหรับคนไทย
ระหว่างทางมีวิวสวยๆเป็นระยะๆ เลยไม่ได้วางกล้องกันเลยจ้า
ถึงแล้ว โดนไปอีกคนละ 20,000กีบค่าเข้าค่ะ
เดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอกับน้ำตกชั้นล่าง เราไปถึงกลุ่มแรกๆของวันเลยเงียบสงบ
น้ำเป็นสีฟ้าน่าเล่นมากกกกกก คือฟ้าที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาเลยอ่ะ
อันนี้เดินขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนใหญ่คนนิยมเล่นกันตรงนี้ แต่น้ำลึกมากกกก เย็นมากเช่นกัน
หลังจากกลับจากน้ำตกตาดกวางสี เราก็ขึ้นรถที่จองไว้เพื่อเดินทางไปยังวังเวียง เวลาประมาณบ่ายสอง เป็นรถมินิแวน นั่งค่อนข้างสบาย คนขับบอก4ชั่วโมงถึง
วิวข้างทางระหว่างไปวังเวียงดีมากกกก คือแทบไม่ได้หลับเลยเพราะวิวสวยตลอดทาง ภูเขาเยอะมากๆ คือเราว่าลาวเหนือนี่เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่สีเขียวอ่ะ มาแล้วคงฟิน
ตลอดทางก็จะเจอกับวัวที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ เดินกันให้ทั่วไปหมด คนที่นี่นิยมเลี้ยงวัว ตอนเราไปคงเป็นเวลาที่วัวต้องเดินกลับคอกพอดี การจราจรก็ติดขัดเพราะน้องวัวพวกนี้แหละ55555
บ้านแถวนั้นไม่ค่อยทาสีนะ ปล่อยเป็นอิฐเปลือยๆซะส่วนใหญ่ และมีชั้นเดียวด้วย เก๋ดี วิวรอบบ้านก็ดีเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ เราว่าเนี่ยแหละวิถีสโลวไลฟ์ของจริง
ระหว่างทางอยู่ๆรถเราก็เข้าสู่ช่วงหมอกหนา คือมันหนาจนแบบกระจกหน้ารถมองไม่เห็นอะไรเลย เป็นสีขาวไปหมด ทุกคนในรถตื่นหมดด้วยความกลัวตาย คนขับก็ค่อยๆไปช้าๆ เรานี่นั่งสวดมนต์ในใจตลอดทาง
หลังจากหมอกฝนก็ตก
(ต่อข้างล่างเด้อ)
[CR] ไป "ลาว" อ๊ะป่าว? 4วัน 3คืน หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทร์
- เราจะสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดกันก่อนเลยนะคะ -
*ค่าเครื่องบิน (ดอนเมือง-หลวงพระบาง) สายการบิน Air asia = 1,800 บาท
*ค่าเครื่องบิน (อุดรธานี-ดอนเมือง) สายการบิน Lion air = 625 บาท
*ค่าที่พัก 3 คืน (หลวงพระบาง 1คืน วังเวียง 2คืน) = 1,000 บาท (ต่อคนนะคะ เราไปกัน3คน จองห้องสำหรับ3คนหารๆกันได้ราคานี้ค่ะ)
*ค่ารถจากสนามบินหลวงพระบางไปที่พัก (อันนี้คนอื่นอาจจะได้ถูกกว่านี้ สำหรับเราคือคิดว่าฟรี แต่ที่จริงไม่ค่ะ 555) = 160 บาท ต่อคน
*ค่ารถจากที่พักไปน้ำตกกวางสี(อาจจะหาได้ถูกกว่าถ้าเดินถามรถสองแถว ของเราไปรถตู้แบบเหมาส่วนตัว) = 340 บาท
*ค่าเข้าน้ำตกกวางสี = 90 บาท
*ค่ารถจากหลวงพระบางไปวังเวียง = 520 บาท
*ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ในวังเวียง (เช่าตอน 8โมงเช้า คืนรถ 2ทุ่ม) = คันละ 300 หารกัน2คน เหลือคนละ 150 บาท
*ค่าข้ามสะพาน (เป็นสะพานสั้นๆ ย้ำว่าสั้นมากๆ ที่นี่เค้าเก็บเงินทุกเม็ดจริงๆค่ะ) = รถมอเตอร์ไซค์คันละ 40 บาท
*ค่าขึ้นผาเงิน = 40 บาท
*ค่าเเข้าบลูลากูน = 40 บาท
*ค่ารถจากวังเวียงไปเวียงจันทร์ = 260 บาท
*ค่ารถจากเวียงจันทร์ไปอุดรธานี = 100 บาท
และอื่นๆคือค่าอาหาร (อาหารที่ลาวแอบแพงอ่ะ ข้าวราดตามสั่งจานนึง 100-150) ซื้ออะไรจิปาถะเล็กๆน้อย รวมๆแล้วงบประมาณที่เราใช้ทั้งสิน 6,500 บาทจ้า
ภายในตลาดก็มีเป็นพวกของฝาก งานฝีมือ เสื้อผ้าต่างๆ ของหลายอย่างก็พบเห็นได้บ่อยตามจตุจักรบ้านเรา
อันนี้สั่งผัดเนื้อวัว สั่ง Beef แต่เหมือนจะได้Bufแทนนะ กลิ่นแปลกๆ สีดำมาก สภาพเหมือนเนื้อควาย
อันนี้สั่งผัดกระเพราะ ผัดได้มั่วมากกก จานนี้ไม่น่าเกิดเป็นกระเพราได้อ่ะจริงๆ
อันนี้ข้าวผัดกุ้ง มั่วไม่ต่างกัน ใส่ใบกระเพรามาด้วย รสชาตออกจืดๆไปด้วยสำหรับเรา
เช้าวันที่2 เราตื่นกันตั้งแต่6โมงเช้า เพื่อออกมาเก็บบรรยากาศ และหาข้าวเช้ากิน จริงๆอยากมาตักบาตรข้าวเหนียวนะ แต่เค้าตักกันตั้งแต่ตี5 ตื่นไม่ไหวอ่ะ55555
ภาษาเค้าคล้ายเรามาก อ่านรู้เรื่องแบบงงๆ
ถนนเส้นเดียวกับเมื่อคืน แต่ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย
ออนนี่ทดลองเลิกเป็นบิวตี้บลอกเกอร์ มาเป็นฮิปสะเต้อแทน
เราแวะกินอาหารเช้าที่ร้านอาหารหนึ่งในไม่มากนักที่เปิดเวลานี้ ราคาไม่แรงมากถูกกว่าที่คิดไว้พอสมควร
อันนี้สั่งข้าวผัดเนื้อวัว แต่น่าจะเป็นเนื้อควายเช่นเคย
มื้อนี้หมดไปคนละประมาน3หมื่น ราคานี้รวมซื้อแซนวิสกลับไปไว้กินบนรถด้วยนะ
หลังจากหาอะไรกินเสร็จเราก็เดินทางไปน้ำตกตาดกวางสีกัน โดยเราเหมารถคุณลุงเจ้าของที่พักคนเดิมนั่นแหละ ระหว่างทางลุงก็ยังทำหน้าที่เป็นไปไกด์ที่ดีเหมือนเคย ลุงแกเล่าประวัติศาสตร์ลาวให้ฟังด้วยนะ แล้วยังบอกอีกว่าคนไทยโชคดี ที่มีในหลวงที่ทำนู่นทำนี่พัฒนาประเทศ ประเทศเราก็เลยเจริญกว่ามาก พอได้ฟังอย่างนี้แล้วชื่นใจมาก ภูมิใจมาก ที่เรามีในหลวงที่ดี เป็นที่ชื่นชมไม่ใช่แค่สำหรับคนไทย
ระหว่างทางมีวิวสวยๆเป็นระยะๆ เลยไม่ได้วางกล้องกันเลยจ้า
ถึงแล้ว โดนไปอีกคนละ 20,000กีบค่าเข้าค่ะ
เดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอกับน้ำตกชั้นล่าง เราไปถึงกลุ่มแรกๆของวันเลยเงียบสงบ
น้ำเป็นสีฟ้าน่าเล่นมากกกกกก คือฟ้าที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาเลยอ่ะ
อันนี้เดินขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนใหญ่คนนิยมเล่นกันตรงนี้ แต่น้ำลึกมากกกก เย็นมากเช่นกัน
หลังจากกลับจากน้ำตกตาดกวางสี เราก็ขึ้นรถที่จองไว้เพื่อเดินทางไปยังวังเวียง เวลาประมาณบ่ายสอง เป็นรถมินิแวน นั่งค่อนข้างสบาย คนขับบอก4ชั่วโมงถึง
วิวข้างทางระหว่างไปวังเวียงดีมากกกก คือแทบไม่ได้หลับเลยเพราะวิวสวยตลอดทาง ภูเขาเยอะมากๆ คือเราว่าลาวเหนือนี่เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่สีเขียวอ่ะ มาแล้วคงฟิน
ตลอดทางก็จะเจอกับวัวที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ เดินกันให้ทั่วไปหมด คนที่นี่นิยมเลี้ยงวัว ตอนเราไปคงเป็นเวลาที่วัวต้องเดินกลับคอกพอดี การจราจรก็ติดขัดเพราะน้องวัวพวกนี้แหละ55555
บ้านแถวนั้นไม่ค่อยทาสีนะ ปล่อยเป็นอิฐเปลือยๆซะส่วนใหญ่ และมีชั้นเดียวด้วย เก๋ดี วิวรอบบ้านก็ดีเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ เราว่าเนี่ยแหละวิถีสโลวไลฟ์ของจริง
ระหว่างทางอยู่ๆรถเราก็เข้าสู่ช่วงหมอกหนา คือมันหนาจนแบบกระจกหน้ารถมองไม่เห็นอะไรเลย เป็นสีขาวไปหมด ทุกคนในรถตื่นหมดด้วยความกลัวตาย คนขับก็ค่อยๆไปช้าๆ เรานี่นั่งสวดมนต์ในใจตลอดทาง
หลังจากหมอกฝนก็ตก
(ต่อข้างล่างเด้อ)