วันนี้เราจะมารีวิวร้านทำผม Red Cheli Hair กันค่ะ


เรื่องของเรื่องคือเราอยากดัดผม ไปดัดที่ร้านในห้างดังตรงจุดเปลี่ยนสาย BTS มาแล้วผิดหวังมากค่ะ ด้วยราคาที่แพงพอสมควรและรีวิวว่าดีมีผู้เชี่ยวชาญด้านทรงผม แต่พอกลับมาถึงบ้านผมก็เริ่มคลาย ตื่นเช้ามาผมนี่กลายเป็นผมตรงที่มีคลื่นเล็กน้อยไปเลย ไม่ว่าจะพยายามเซ็ตก็แล้ว เอานิ้วม้วนตามที่ช่างสอนก็แล้ว ก็ไม่สามารถขึ้นลอนได้เลย เราจึงหอบหัวใจที่บอบช้ำไปซบอกอาจารย์หนุ่มชาวญี่ปุ่น ณ ร้าน Red Cheli Hair แทนค่ะ

จากการอ่านรีวิวตามเว็บที่มีอยู่น้อยนิด และเข้าไปส่องๆหน้าเพจ ด้วยราคาที่ถูกกว่าร้านเก่าแบบครึ่งต่อครึ่ง แถมกระทู้หนึ่งใน pantip ยังกล่าวเอาไว้ว่าร้านนี้บริการดี ใส่ใจ สไตล์ญี่ปุ่น ลอนสวยเด้ง เราก็ไม่รอช้าวันต่อมารีบอาบน้ำแต่งตัวไปเลยค่ะ (มีความใจร้อนและอยากจะโปรยเงินที่มีแรงมาก ยังโมโหร้านเก่าที่ไปดัดมาไม่หาย ชิชะ)


เริ่มจากวิธีเดินทางไปร้านกันเลยค่ะ
การเดินทางก็ง่ายแสนง่ายด้วย BTS ลงที่สถานีอโศก ออกทางออกที่ 1 ก็สามารถต่อวินมอเตอร์ไซต์มาได้เลยประมาณ 3-5 นาทีถึงร้านเลยจ้า แต่ก่อนไปควรโทรจองก่อนนะคะ เพราะร้านคิวแน่นมากกก(เรื่องฝีมือนี่ยังไม่คอนเฟิร์มเพราะยังไม่ได้ลอง แต่คิวแน่นจริงอะไรจริงค่ะ เราทักแชทเพจร้านไปสอบถามก่อน ขนาดทักไปแต่เช้ายังว่างอีกแค่ 2 คิว)

ลงจาก BTS เราก็เดินมาขึ้นวินมอเตอร์ไซต์ที่ซอยสุขุมวิท 23 เดินทะลุตึก Exchange Tower ไปค่ะ ค่าวินแค่ 10 บาท ใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น!!!

มาถึงด้วยความป้ำๆเป๋อๆก็หลงทิศหลงทางเลยจ้า~ หมุนคว้างอยู่สามรอบ เพื่อความชัวร์ก็โทรเข้าร้านสอบถามเลยค่ะ
เรา: สวัสดีค่ะ ร้านRed Cheli Hair ใช่ไหมคะ
พนักงาน: ใช่ค่า
เรา: พี่คะะะ ร้านพี่อยู่ตรงไหนคะ หนูอยู่หน้าป้าย Young Place ค่ะ
พนักงาน: คุณผู้หญิงเดินตรงเข้ามาเลยค่ะ เห็นบรรไดซ้ายมือหรือยังคะ...ขึ้นมาเลยค่ะ แล้วเดินเข้ามาเลย...คุณผู้หญิงเห็นป้ายชื่อร้านเราหรือยังคะ นั่นแหละค่ะ มาถูกไหมคะ เดี๋ยวออกไปรับได้นะคะ..

...จากเด็กเด๋อๆกระโปโล ฉันกลายเป็นคุณผู้หญิงแหละแก...


(ภาพหน้าร้านค่ะ ไปถึงให้กดออดแล้วจะมีคนเปิดประตูต้อนรับจ้า)


เข้าร้านมาพี่เขาก็พาเราไปนั่ง มีการผายมือพร้อมพูดด้วยเสียงนุ่มนวล
พนักงาน: คุณผู้หญิงคะ เดี๋ยวเชิญนั่งตรงนี้ก่อนนะคะ นั่งรอแป๊บนึงนะคะ

โอ้โหหห ถึงจะเขินๆบ้างที่โดนเรียกว่าคุณผู้หญิง แต่นาทีนั้นนี่รู้สึกเหมือนตัวเองมีพรมแดงปูรอไปจนถึงเก้าอี้เลยค่ะ! (เวอร์ไป)


ระหว่างรอก็มีน้ำมาเสิร์ฟ มีลูกอมให้ ช่วงที่เราไปคนกำลังเยอะพอดีค่ะ ช่างทุกคนกำลังวุ่นวาย แต่รอแป๊บเดียวค่ะ ไม่นาน อาจารย์คนญี่ปุ่นก็เข้ามาดูผมเรา จับๆสองสามทีก็คว้ากรรไกรขึ้นมาทันที

เดี๋ยวค่ะอาจารย์!! หนูมาดัดผมค่ะ ไม่ใช่ตัดดดด
แต่อาจารย์กับคุณพี่ก็บอกว่าให้เล็มสักหน่อยผมจะได้เข้าทรงแล้วก็เล็มปลายผมที่เสียๆออกด้วย เราก็แบบ อ๋อ โอเค ได้ค่ะ

เล็มผมเสร็จ คุณพี่ก็เข้ามาถามว่าต้องการดัดแบบไหน มีทรงผมที่ต้องการหรือยัง มีแบบมาไหมคะ บลาๆ พร้อมกับแนะนำให้เราดัดแบบ GTM Digital ราคา 2,000 บาท เพิ่มจากดัดน้ำยาปกติ 250 บาท (ราคาดัดดิจิตอลปกติ 1,750 บาท) เนื่องจากผมเราผ่านการทำสีมา มีการโดนสารเคมีจาการทำสี น้ำยาแบบ GTM จะช่วยให้ผมที่เสียแข็งแรงพอที่จะดัดไหว แต่สุดท้ายเราเลือกแบบที่ 3 ค่ะ เป็นตัว SPT Digital ราคา 2,500 บาท ตัวนี้จะได้ลอนที่ชัดนุ่ม ทนนาน(เขาว่างั้น)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้**หมายเหตุ**
- สภาพผมเราคือ ผมเส้นเล็ก ไม่มีน้ำหนัก แห้งปลายค่ะ
- การดัดผมของทางร้านมี 3 แบบคือ CST(ปกติ), GTM(สำหรับผมเสีย ผมเคยทำสี เคยยืด เคยผ่านสารเคมี) และ SPT(สำหรับคนต้องการความแน่น นุ่ม นาน) ซึ่งราคาจะต่างกันไป


หลังจากเลือกแบบ เลือกทรงผมเสร็จ อาจารย์แกก็ไปผสมน้ำยาเลยจ้า ไม่มีสระก่อนหรือใดๆทั้งสิ้น แล้วก็มาป้ายๆปาดๆกับผมเรา ทิ้งไว้สักพักใหญ่ๆถึงกลับมาดู ระหว่างนั้นลูกค้ายังคงเต็มร้าน อาจารย์และช่างอีก 2 คนก็วนเวียนกันไปดูแลลูกค้าแต่ละคนอย่างรวดเร็ว

ในร้านจะมีช่าง 3 คน มีคุณพี่ที่คุยกับเรา(พี่เขาเป็นผู้ชายฟรุ้งฟริ่งค่ะ) พี่ผู้หญิงอีก1คน แล้วก็อาจารย์จากญี่ปุ่น(พูดไทยได้นิดหน่อย แต่เขาฟังเรารู้เรื่องนะคะ แม้จะตอบกลับมาเป็นภาษาญี่ปุ่นบ้างอังกฤษบ้างก็ตาม 55555 ที่สำคัญชมเราว่าน่ารักด้วย ก๊ากกกก //เท้าเอวแหงนหน้าหัวเราะสาแก่ใจ คนหล่อชมนี่เราช๊อบชอบ >\\<)

ผ่านไปสักพักคุณพี่ผู้ชายก็มาพาเราไปล้างผมค่ะ ล้างด้วยน้ำเปล่าธรรมดา ตอนนอนลงมีผ้าปิดตาให้เราด้วยค่ะ แล้วก็มีผ้าคลุมกันหวอออก 555

ล้างเสร็จกลับมานั่ง ทีนี้ก็ได้เวลาม้วนๆแล้วค่า
ระหว่างนั้นเราก็นั่งจิ้มนู่นเล่นนี่ กินลูกอม ดื่มน้ำรอไปค่ะ ครบเวลาเมื่อไรเขาจะมาปลดเครื่องดัดออกให้

แล้วในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง!!!

อาจารย์เดินเข้ามาปลดเครื่องดัด(เขาเรียกเครื่องอะไรไม่รู้ เราเป็นคนไม่ค่อยเข้าร้านทำผม ไม่รู้จักค่ะ) เทน้ำยาแช่ผมเราทิ้งไว้แป๊บนึง แล้วพาเราไปสระ
ตอนสระผมดีงามมากค่ะ มีนวดมีคลึง สบายหัวสุดๆ

ในตอนที่จะเอาโฟมอะไรสักอย่างมานวดผมให้เรา อาจารย์แกเปิดผ้าปิดตาแล้วบอกประมาณว่า ผมจะเอาอันนี้ใส่นะครับ ทำให้สบาย เราก็ อือๆ ออๆ ไปค่ะ เป็นความใส่ใจเล็กๆน้อยๆต่อลูกค้าของทางร้านค่ะ น่ารักดี

โฟมเป็นโฟมเย็นๆ นวดแล้วสบายหัวมากๆ รู้สึกเย็นแบบเฟรชแอนท์คูล ขนาดตอนล้างออกไปแล้วหนังหัวยังเย็นอยู่เลย 5555555

สระเสร็จอาจารย์ก็พาเรามานั่งแล้วเป่าค่ะ ก่อนเป่าใส่น้ำมันบำรุงผมขยำๆ เราแอบจำยี่ห้อมาขวดส้มๆ ของ L'oreal ค่ะ
(ที่จำมาไม่ใช่อะไร จะไปซื้อมาใช้บ้าง)

ขั้นตอนการเป่านี่ไดร์เป่าผมธรรมดาล้วนๆค่ะ เราก็แบบ โอ้ว เป่าขนาดนี้มันจะเป็นลอนไหมคะเนี่ย!!


แต่!!! นี่คือผลลัพธ์ที่ได้ค่ะทุกคนนนน



เป็นลวนสวยเด้งและมีความนุ่ม เมื่อลองเอามือสางเบาๆจะได้แบบนี้




เพียงแค่เป่า แล้วจับผมเราพลิกไปพลิกมาบนฝ่ามือ เอานิ้วม้วนๆสักสองสามที ขยำๆอีกสักที เป็นอันเรียบร้อย...ฟังดูง่าย ถ้าเราไปทำที่บ้านจะง่ายแบบนี้ไหมเนี่ย


ก่อนออกจากร้าน พี่ผู้หญิงได้เข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับผมดัด ว่าสามารถสระได้หลังจากนี้อีก 3 วัน หลังสระให้ลองเอานิ้วม้วนๆ ถ้าผมคลายหรือไม่เป็นลอนติดต่อมาได้เลย เดี๋ยวให้อาจารย์ดูแลและแก้ไขให้ มีบัตรสะสมเต้มด้วยนะคะ ทุกๆ 500 บาท ได้ 1 เต้ม สะสมครบ 1 แถวแรก รับทรีทเม้นผมฟรี และสะสมครบแถวที่ 2 ตัดผมฟรี 1 ครั้งค่ะ

บัตรสะสมแต้มน่ารักกก




ดัดผมครั้งนี้สรุปว่าโดยรวมแล้วประทับใจมากค่ะ เดี๋ยวเรามาดู 3 วันหลังจากนี้กัน เดี๋ยวรู้เลยว่าไอ้ม้วนๆเป่าๆแบบที่อาจารย์ทำให้นี่ง่ายหรือไม่ง่าย



แต่นแต๊น!!



หลังสระผมหมาดๆใส่ออยบำรุงแล้วม้วนๆทิ้งไว้ให้แห้งเองค่ะ พอผมแห้งก็ลองเซ็ตด้วยโฟมแล้วใช้นิ้วสางเบาๆสัก 1 ที



อืม...เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับเพื่อนๆ พอจะได้ไหม แต่เราโอเคอยู่นะ ถือว่าสวยใช้ได้(ที่ไม่สวยนี่เพราะเราเซ็ตไม่เป็นเองล้วนๆ 5555)
ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจลองโทรหรือทักแชทของเพจร้านไปสอบถามก่อนได้นะคะ แต่อาจจะตอบช้านิดนึงโทรไปน่าจะไวกว่า เบอร์โทรศัพท์อยู่ในรูปบัตรสะสมแต้มแล้วค่ะ


ขอบคุณมากค่าที่อ่านจนจบ เราอยากให้ร้านนี้มีรีวิวเยอะๆกับเขาบ้าง เพราะตอนเราหาดูรีวิว ร้านนี้น้อยเหลือเกิน แต่เห็นมีคนบอกว่าเซอร์วิสมายดี บริการใส่ใจ เราเลยมาลองดูค่ะ และถือโอกาสพิสูจคำอวดอ้างในรีวิวด้วยว่าดีจริงไหม 5555