หยุดยาวเที่ยวไหนดี??? คำถามนี้เกิดขึ้นเสมอที่มีวันหยุดเกิดขึ้นกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ
แต่สำหรับทริปนี้ไม่ได้เกิดเพราะวันหยุดยาวนะคะ มันเกิดเพราะความอยากเที่ยว หยุดไม่ยาว ก็ลาพักร้อนสิค่ะ
ทริปนี้ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าเลยค่ะ ไปตายเอาดาบหน้าอย่างเดียว รู้แค่เพียงว่าพวกเราจะไปหมู่บ้านอีต่องกัน ก็เลยกะจะเที่ยวตามทางผ่านไปเรื่อยๆค่ะ ที่พักเราก็โทรจองกันตอนเช้าวันที่ออกเดินทางนั้นแหละ 5555555
หยุดยาวขนาดนี้คนต้องเยอะแน่ๆ?? ตอบว่า ใช่ค่ะ คนเยอะแต่ไม่ถึงขั้นที่แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวจนหมดสนุกนะ
เยอะแค่พอให้รู้ ว่าเป็นวันเที่ยวแหละค่ะ อิอิ
เริ่มเลยเนอะ เกริ่นมาซะยาวววววว 55555
ทริปเราไปกัน 4 คน มีผู้หญิงโสด ที่อยู่ในโหมดอยากผจญภัย 3 นาง แล้วก็มีเฮียเล็ก ชายโสดคนเดียวในทุกทริปที่เราไป เป็นทั้งตากล้องและคนขับรถเลยค่ะ เราไปกันในช่วงวันที่ 17-19 ก.ค. 59 ที่ผ่านมาค่ะ
ออกเดินทางจากจังหวัดนครสวรรค์สู่จังหวัดกาญจนบุรีใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงค่ะ
สถานที่แรกหลังจากที่เราแวะกินข้าวข้างทางกันเสร็จเรียบร้อยก็ที่นี่เลยค่ะ
>>>ทางรถไฟสายมรณะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ (อ่านเป็นเสียงเอคโค่เพื่อเพิ่มอรรถรสนะคะ) 555555<<<
ที่นี่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้ค่ะ
เราเดินทางมาถึง ทางรถไฟสายมรณะกันเวลาประมาณ 8 โมงเช้า กะจะมานั่งรถไฟข้ามสะพานชมวิวกันแต่แช้าๆค่ะ
แต่ปัญหามันอยู่ที่รถไฟเที่ยวแรกจะมาประมาณ 10 โมงเช้า!!!! ด้วยความที่เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลการเที่ยวอะไรกันมาเลย
จึงไม่รู้ว่ารถไฟมันจะมาเวลานี้ 5555 ซวยละค่ะ ถ้าจะรอต่อไปคงไม่ไหว เลยไปถ่ายรูปเล่นกันสักพัก แล้วตกลงกันว่าจะมุ่งหน้ากันต่อค่ะ
ถ้าเจอที่เที่ยวไหนเป็นทางผ่านก่อนที่จะขึ้นไปถึงบ้านอีต่อง เราจะแวะกันไปเรื่อยๆ เป็นทัวร์นกขมิ้น ค่ำไหนนอนนั้นกันเลยค่ะ
ตอนนี้ก็ถ่ายรูปวนไปค่ะ 55555
หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อ สรุปได้ว่าเราจะไปเดินบนรางรถไฟที่ถ้ำกระแซกันแทนการขึ้นรถไฟค่ะ
ไปลุยถ้ำกระแซโลดดดดดด
ถึงแล้วค่ะ สถานีรถไฟถ้ำกระแซ แวะไหว้พระในถ้ำกันก่อนค่ะ
เสร็จแล้วก็มาชมวิวที่รางรถไฟกันค่ะ สวยม๊ากมากกกก 5555
เฮียเล็ก ตากล้องสุดหล่อ สปอร์ต ใจดี แถมโสดดดดด อีกนะคะ 55555
ท่ายากก็มา แพลงกิ้งบนรางรถไฟกันทีเดียวเชียว
หลังจากที่แวะถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ก็มาแวะช๊อปซะหน่อย ก่อนจะไปกันต่อ
แดดร้อนจัด แก๊งค์ชะนีทนไม่ไหวล่ะค่ะ เลยออกเดินทางต่อกันเลยยยยย
สถานที่ต่อไปก็คือ >>>พิพิธภัณฑ์สถานแห่งความทรงจำ<<< หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ช่องเขาขาดนั่นเองค่ะ
ไปกันเลยยยยย
จอดรถเสร็จเรียบร้อยเราก็ เดิน เดิน เดิน แล้วก็ เดินนนนนน ระยะทางแบบว่า......เอิ่มมมมม
เฮียเล็กแทบเดินไม่ไหวอ่ะค่ะ 555555
ถ้าเฮียเล็กหมดแรง ใครจะแบกกกก พูด!!!!
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เขามีที่นั่งให้นั่งพักกันเป็นระยะๆ
บรรยากาศรอบๆตัว ในช่องเขาขาดนี้ บอกเลยค่ะ ว่าคุ้มค่าที่ได้มาชมมาก ถึงแม้จะเหนื่อยแต่วิวรอบตัวก็สวย เย็นสบายมากกกกก
เผยโฉมหน้าผู้รอดชีวิตที่ได้ไปต่อในทริปนี้ค่ะ 555555
ถึงเหงื่อจะโทรมกาย แต่ก็ไม่หวั่น มุ่งหน้าไปกันต่อเลยค่ะ ตอนนี้ทุกคนเริ่มหิวหนักมากกันล่ะ 5555
ต่อไปเราก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก พร้อมกับแวะหาของกินข้างทางกันต่อค่ะ ไปๆๆๆ
ที่พักที่เราหาได้ จองล่วงหน้าไปประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนเช็คอินค่ะ
ตอนแรกกะจะค่ำไหน นอนนั่นกัน ไม่มีแผน ไม่มีการเตรียมการใดๆทั้งนั้น แต่อยากนอนแพก็เลยโทรสุ่มๆดูในเว็บค่ะ
ปรากฎว่ามีห้องว่างพอดี (แต่ไม่ได้ลงไปนอนในแพนะคะ) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แถมราคาก็ถูก ห้องแอร์ห้องละ 1000 บาท นอนได้ 3-4 คน เราจองไป 2 ห้องค่ะ ให้เฮียเล็กนอนแยกไปอีกห้องนึง เพราะนางเป็นผู้ชายคนเดียวในทริปกลัวจะเป็นข่าวเสียหายค่ะ 555555
>>>แพวังอิงผาค่ะ หรือ ตามป้ายข้างทางเขียนว่า แพวีไอพี<<<
อาหารอร่อย บรรยากาศดี บริการก็ดีค่ะ ประทับใจมากๆ แพจะอยู่เลยเขื่อนวชิราลงกรณ์ขึ้นไปประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ
ห้องพักเรา 2 ห้องติดกันค่ะ สามารถเปิดประตูระเบียงหากันได้ สั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้องได้ หรือจะลงไปทานที่แพใหญ่ก็ได้ค่ะ
เสียดายที่ถ่ายรูปมาแค่นี้ เนื่องจากตอนนั้นแบตหมดทุกอย่างค่ะ ทั้งกล้อง ทั้งมือถือ และทั้งคน หลับ สลบ ชาร์จแบตกันไปเลย
ตื่นมาอีกทีก็ได้เวลามื้อเย็นค่ะ เราลงมาทานมื้อเย็นที่แพใหญ่ของรีสอร์ท
อาหารก็ตามนี้เลยค่ะ ทานกัน 4 คนค่ะ มื้อนี้หมดไปประมาณ800 กว่าบาทค่ะ
ค่ำนั้นหลังจากกินข้าวเย็นกันเรียบร้อย ก็มีไปดริ้งค์ต่อที่ห้องกันอีกนิดหน่อย ก็เตรียมตัวพักผ่อนกันเลยค่ะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า
ขวดเขียวของเฮียเล็ก ขวดชมพูของน้องเอง 55555 (สีชมพูห้ามโชว์แบรนด์ค่ะ ของต้องห้ามของบริษัทเรา) คิคิคิคิ
>>>จุดหมายของเราอยู่ที่ต.ปิล๊อก หมู่บ้านอีต่อง อ่อง อ่อง อ่อง อ่อง (เอคโค่ก็มา) 555555<<<
เช้าวันที่ 18 ค่ะ เปิดด้วยอาหารเช้าของที่พักก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายของเราต่อไป
เติมพลังแพร๊บบบบบ 555555
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ พวกเราก็เก็บของเช็คเอ้าท์แล้วไปต่อกันเลยค่ะ อีกนิดเดียวก็จะถึงปิล๊อกแล้ว ฮึบๆๆๆๆ
ปิล๊อกที่รักเลี้ยวซ้ายโลดดดดดดด 55555
ระหว่างทางค่ะ ช่วงนี้จะเป็นการขึ้นเขาโดยสมบูรณ์แบบ ทางไม่โหดเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเมารถ มีสิทธิ์อ้วกได้เหมือนกันค่ะ
แวะถ่ายรูปกันตลอดทางอ่ะ บอกเลย!!! อิอิ
ถึงจุดชมวิวแรกแล้วค่ะ แวะแพร๊บบบบบบ 55555
สวยมากค้าาาาา มาเหนือเมฆจริงๆ
เหนือเขา ยังมีเขา
ทางที่ขึ้นมา สวยงามจับตา เวียนหัวนิดหน่อย 5555
ดูแผนที่ก่อนค่ะ ต่อไปจะแวะไหนดี อิอิ
อ้าว รูปเอียง 55555 ดูฮาๆไปนะคะ
ระหว่างทางขึ้นปิล๊อก เราจะผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิกันก่อนค่ะ ด้วยความที่เรามากันแต่เช้า เราก็จะเก็บเที่ยวไปตามทางเรื่อยๆเลยยย
แวะเลยค่ะๆ เสียค่าเข้าชมนิดหน่อยค่ะ (เดี๋ยวรอสรุปค่าใช้จ่ายตอนท้ายนะคะ)
จขกท.กับพี่อีกคนหนึ่งเคยมาที่นี่แล้วหนึ่งครั้งค่ะ แต่ตอนนั้นฝนตก ดินลื่น ประกอบกับรถเก๋เครื่อง 1200 จึงเสียค่าเข้าชม แต่ไม่ได้ชมอะไรเลยเพราะรถติดหล่ม เครื่องดับ ถอยหลังลงมาซะก่อน
แต่ตอนนี้ๆๆๆ รถพร้อม คนพร้อม อากาศเป็นใจ สมหวังล่ะค่ะ ฮิ้วววววว 5555
ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมินะคะ จะสามารถมองเห็นวิวเนินกูดดอยและเนินช้างเผือกอย่างชัดเจนค่ะ
บอกได้คำเดียวว่า ฟินเว่อร์มากกกกกกกก
ชอบมองวิวเขาจากระยะนี้มากๆค่ะ สวยจริง อะไรจริง
ปีหน้าเราสัญญากันไว้ว่าจะไปตะลุยเนินช้างเผือกกันค่ะ ไม่รู้จะไหวกันอยู่ป่าว อิอิ
ในอุทยานนักท่องเที่ยวสามารถมากางเต้นท์พักแรมได้นะคะ หรือจะมาพักบ้านต้นไม้ก็ได้ค่ะ
เมื่อถ่ายรูป ชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์กันอย่างสบายใจ ไทยแลนด์แล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อไปอีกค่ะ
ใกล้ถึงที่หมายของเราแล้ว เย่ๆๆๆ
ขับกันมาเรื่อยๆ ก็แวะอีกค้าาา
>>>น้ำตกจ๊อกกระดิ่น<<<
บรรยากาศรอบตัวค่ะ ภูเขาเต็มไปหมดเลยยยย
ทางเดินไปน้ำตกค่ะ ไม่เสียค่าเข้าแล้วนะคะ เพราะเราเข้าอุทยานมาแล้ว เอาบัตรไปยื่นได้เลยค่ะ
ธารน้ำตกค่ะ ข้ามสะพานไปก็ถึงตัวน้ำตกล่ะค่ะ
ดูสีหน้าสุดลั้ลลาของเฮียเล็ก #หราาาาา 5555
ถึงน้ำตกแล้วค่ะ แต่คนเยอะไปนิด จึงได้แค่เอาขาไปจุ่มๆ ถ่ายรูปเล่นไปสักพักค่ะ
น้ำใสมาก มีคลื่นคล้ายทะเลเลยค่ะ
ของแบบนี้ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ ประทับใจสุดๆ
[CR] กลับไปกอด(ภู)เขา ทริปตะลุยเมืองกาญ บุกบ้านอีต่อง อ.ปิล็อก #3วัน2คืน #งบไม่เกิน2พันบาท
แต่สำหรับทริปนี้ไม่ได้เกิดเพราะวันหยุดยาวนะคะ มันเกิดเพราะความอยากเที่ยว หยุดไม่ยาว ก็ลาพักร้อนสิค่ะ
ทริปนี้ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าเลยค่ะ ไปตายเอาดาบหน้าอย่างเดียว รู้แค่เพียงว่าพวกเราจะไปหมู่บ้านอีต่องกัน ก็เลยกะจะเที่ยวตามทางผ่านไปเรื่อยๆค่ะ ที่พักเราก็โทรจองกันตอนเช้าวันที่ออกเดินทางนั้นแหละ 5555555
หยุดยาวขนาดนี้คนต้องเยอะแน่ๆ?? ตอบว่า ใช่ค่ะ คนเยอะแต่ไม่ถึงขั้นที่แย่งกันกินแย่งกันเที่ยวจนหมดสนุกนะ
เยอะแค่พอให้รู้ ว่าเป็นวันเที่ยวแหละค่ะ อิอิ
เริ่มเลยเนอะ เกริ่นมาซะยาวววววว 55555
ทริปเราไปกัน 4 คน มีผู้หญิงโสด ที่อยู่ในโหมดอยากผจญภัย 3 นาง แล้วก็มีเฮียเล็ก ชายโสดคนเดียวในทุกทริปที่เราไป เป็นทั้งตากล้องและคนขับรถเลยค่ะ เราไปกันในช่วงวันที่ 17-19 ก.ค. 59 ที่ผ่านมาค่ะ
ออกเดินทางจากจังหวัดนครสวรรค์สู่จังหวัดกาญจนบุรีใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงค่ะ
สถานที่แรกหลังจากที่เราแวะกินข้าวข้างทางกันเสร็จเรียบร้อยก็ที่นี่เลยค่ะ
>>>ทางรถไฟสายมรณะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ (อ่านเป็นเสียงเอคโค่เพื่อเพิ่มอรรถรสนะคะ) 555555<<<
ที่นี่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้ค่ะ
เราเดินทางมาถึง ทางรถไฟสายมรณะกันเวลาประมาณ 8 โมงเช้า กะจะมานั่งรถไฟข้ามสะพานชมวิวกันแต่แช้าๆค่ะ
แต่ปัญหามันอยู่ที่รถไฟเที่ยวแรกจะมาประมาณ 10 โมงเช้า!!!! ด้วยความที่เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลการเที่ยวอะไรกันมาเลย
จึงไม่รู้ว่ารถไฟมันจะมาเวลานี้ 5555 ซวยละค่ะ ถ้าจะรอต่อไปคงไม่ไหว เลยไปถ่ายรูปเล่นกันสักพัก แล้วตกลงกันว่าจะมุ่งหน้ากันต่อค่ะ
ถ้าเจอที่เที่ยวไหนเป็นทางผ่านก่อนที่จะขึ้นไปถึงบ้านอีต่อง เราจะแวะกันไปเรื่อยๆ เป็นทัวร์นกขมิ้น ค่ำไหนนอนนั้นกันเลยค่ะ
ตอนนี้ก็ถ่ายรูปวนไปค่ะ 55555
หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อ สรุปได้ว่าเราจะไปเดินบนรางรถไฟที่ถ้ำกระแซกันแทนการขึ้นรถไฟค่ะ
ไปลุยถ้ำกระแซโลดดดดดด
ถึงแล้วค่ะ สถานีรถไฟถ้ำกระแซ แวะไหว้พระในถ้ำกันก่อนค่ะ
เสร็จแล้วก็มาชมวิวที่รางรถไฟกันค่ะ สวยม๊ากมากกกก 5555
เฮียเล็ก ตากล้องสุดหล่อ สปอร์ต ใจดี แถมโสดดดดด อีกนะคะ 55555
ท่ายากก็มา แพลงกิ้งบนรางรถไฟกันทีเดียวเชียว
หลังจากที่แวะถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลินแล้ว ก็มาแวะช๊อปซะหน่อย ก่อนจะไปกันต่อ
แดดร้อนจัด แก๊งค์ชะนีทนไม่ไหวล่ะค่ะ เลยออกเดินทางต่อกันเลยยยยย
สถานที่ต่อไปก็คือ >>>พิพิธภัณฑ์สถานแห่งความทรงจำ<<< หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ช่องเขาขาดนั่นเองค่ะ
ไปกันเลยยยยย
จอดรถเสร็จเรียบร้อยเราก็ เดิน เดิน เดิน แล้วก็ เดินนนนนน ระยะทางแบบว่า......เอิ่มมมมม
เฮียเล็กแทบเดินไม่ไหวอ่ะค่ะ 555555
ถ้าเฮียเล็กหมดแรง ใครจะแบกกกก พูด!!!!
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เขามีที่นั่งให้นั่งพักกันเป็นระยะๆ
บรรยากาศรอบๆตัว ในช่องเขาขาดนี้ บอกเลยค่ะ ว่าคุ้มค่าที่ได้มาชมมาก ถึงแม้จะเหนื่อยแต่วิวรอบตัวก็สวย เย็นสบายมากกกกก
เผยโฉมหน้าผู้รอดชีวิตที่ได้ไปต่อในทริปนี้ค่ะ 555555
ถึงเหงื่อจะโทรมกาย แต่ก็ไม่หวั่น มุ่งหน้าไปกันต่อเลยค่ะ ตอนนี้ทุกคนเริ่มหิวหนักมากกันล่ะ 5555
ต่อไปเราก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก พร้อมกับแวะหาของกินข้างทางกันต่อค่ะ ไปๆๆๆ
ที่พักที่เราหาได้ จองล่วงหน้าไปประมาณ 4 ชั่วโมงก่อนเช็คอินค่ะ
ตอนแรกกะจะค่ำไหน นอนนั่นกัน ไม่มีแผน ไม่มีการเตรียมการใดๆทั้งนั้น แต่อยากนอนแพก็เลยโทรสุ่มๆดูในเว็บค่ะ
ปรากฎว่ามีห้องว่างพอดี (แต่ไม่ได้ลงไปนอนในแพนะคะ) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แถมราคาก็ถูก ห้องแอร์ห้องละ 1000 บาท นอนได้ 3-4 คน เราจองไป 2 ห้องค่ะ ให้เฮียเล็กนอนแยกไปอีกห้องนึง เพราะนางเป็นผู้ชายคนเดียวในทริปกลัวจะเป็นข่าวเสียหายค่ะ 555555
>>>แพวังอิงผาค่ะ หรือ ตามป้ายข้างทางเขียนว่า แพวีไอพี<<<
อาหารอร่อย บรรยากาศดี บริการก็ดีค่ะ ประทับใจมากๆ แพจะอยู่เลยเขื่อนวชิราลงกรณ์ขึ้นไปประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ
ห้องพักเรา 2 ห้องติดกันค่ะ สามารถเปิดประตูระเบียงหากันได้ สั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้องได้ หรือจะลงไปทานที่แพใหญ่ก็ได้ค่ะ
เสียดายที่ถ่ายรูปมาแค่นี้ เนื่องจากตอนนั้นแบตหมดทุกอย่างค่ะ ทั้งกล้อง ทั้งมือถือ และทั้งคน หลับ สลบ ชาร์จแบตกันไปเลย
ตื่นมาอีกทีก็ได้เวลามื้อเย็นค่ะ เราลงมาทานมื้อเย็นที่แพใหญ่ของรีสอร์ท
อาหารก็ตามนี้เลยค่ะ ทานกัน 4 คนค่ะ มื้อนี้หมดไปประมาณ800 กว่าบาทค่ะ
ค่ำนั้นหลังจากกินข้าวเย็นกันเรียบร้อย ก็มีไปดริ้งค์ต่อที่ห้องกันอีกนิดหน่อย ก็เตรียมตัวพักผ่อนกันเลยค่ะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า
ขวดเขียวของเฮียเล็ก ขวดชมพูของน้องเอง 55555 (สีชมพูห้ามโชว์แบรนด์ค่ะ ของต้องห้ามของบริษัทเรา) คิคิคิคิ
>>>จุดหมายของเราอยู่ที่ต.ปิล๊อก หมู่บ้านอีต่อง อ่อง อ่อง อ่อง อ่อง (เอคโค่ก็มา) 555555<<<
เช้าวันที่ 18 ค่ะ เปิดด้วยอาหารเช้าของที่พักก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายของเราต่อไป
เติมพลังแพร๊บบบบบ 555555
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ พวกเราก็เก็บของเช็คเอ้าท์แล้วไปต่อกันเลยค่ะ อีกนิดเดียวก็จะถึงปิล๊อกแล้ว ฮึบๆๆๆๆ
ปิล๊อกที่รักเลี้ยวซ้ายโลดดดดดดด 55555
ระหว่างทางค่ะ ช่วงนี้จะเป็นการขึ้นเขาโดยสมบูรณ์แบบ ทางไม่โหดเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเมารถ มีสิทธิ์อ้วกได้เหมือนกันค่ะ
แวะถ่ายรูปกันตลอดทางอ่ะ บอกเลย!!! อิอิ
ถึงจุดชมวิวแรกแล้วค่ะ แวะแพร๊บบบบบบ 55555
สวยมากค้าาาาา มาเหนือเมฆจริงๆ
เหนือเขา ยังมีเขา
ทางที่ขึ้นมา สวยงามจับตา เวียนหัวนิดหน่อย 5555
ดูแผนที่ก่อนค่ะ ต่อไปจะแวะไหนดี อิอิ
อ้าว รูปเอียง 55555 ดูฮาๆไปนะคะ
ระหว่างทางขึ้นปิล๊อก เราจะผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิกันก่อนค่ะ ด้วยความที่เรามากันแต่เช้า เราก็จะเก็บเที่ยวไปตามทางเรื่อยๆเลยยย
แวะเลยค่ะๆ เสียค่าเข้าชมนิดหน่อยค่ะ (เดี๋ยวรอสรุปค่าใช้จ่ายตอนท้ายนะคะ)
จขกท.กับพี่อีกคนหนึ่งเคยมาที่นี่แล้วหนึ่งครั้งค่ะ แต่ตอนนั้นฝนตก ดินลื่น ประกอบกับรถเก๋เครื่อง 1200 จึงเสียค่าเข้าชม แต่ไม่ได้ชมอะไรเลยเพราะรถติดหล่ม เครื่องดับ ถอยหลังลงมาซะก่อน
แต่ตอนนี้ๆๆๆ รถพร้อม คนพร้อม อากาศเป็นใจ สมหวังล่ะค่ะ ฮิ้วววววว 5555
ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมินะคะ จะสามารถมองเห็นวิวเนินกูดดอยและเนินช้างเผือกอย่างชัดเจนค่ะ
บอกได้คำเดียวว่า ฟินเว่อร์มากกกกกกกก
ชอบมองวิวเขาจากระยะนี้มากๆค่ะ สวยจริง อะไรจริง
ปีหน้าเราสัญญากันไว้ว่าจะไปตะลุยเนินช้างเผือกกันค่ะ ไม่รู้จะไหวกันอยู่ป่าว อิอิ
ในอุทยานนักท่องเที่ยวสามารถมากางเต้นท์พักแรมได้นะคะ หรือจะมาพักบ้านต้นไม้ก็ได้ค่ะ
เมื่อถ่ายรูป ชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์กันอย่างสบายใจ ไทยแลนด์แล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อไปอีกค่ะ
ใกล้ถึงที่หมายของเราแล้ว เย่ๆๆๆ
ขับกันมาเรื่อยๆ ก็แวะอีกค้าาา
>>>น้ำตกจ๊อกกระดิ่น<<<
บรรยากาศรอบตัวค่ะ ภูเขาเต็มไปหมดเลยยยย
ทางเดินไปน้ำตกค่ะ ไม่เสียค่าเข้าแล้วนะคะ เพราะเราเข้าอุทยานมาแล้ว เอาบัตรไปยื่นได้เลยค่ะ
ธารน้ำตกค่ะ ข้ามสะพานไปก็ถึงตัวน้ำตกล่ะค่ะ
ดูสีหน้าสุดลั้ลลาของเฮียเล็ก #หราาาาา 5555
ถึงน้ำตกแล้วค่ะ แต่คนเยอะไปนิด จึงได้แค่เอาขาไปจุ่มๆ ถ่ายรูปเล่นไปสักพักค่ะ
น้ำใสมาก มีคลื่นคล้ายทะเลเลยค่ะ
ของแบบนี้ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ ประทับใจสุดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น