สวัสดีค่ะ เราเพิ่งหัดตั้งกระทู้นะคะ ทำเพราะความชอบส่วนตัวจริงๆและวิธีที่ใช้คือลองผิดลองถูกด้วยตัวเองค่ะ เราอยากตั้งกระทู้นานแล้วและเห็นว่ายังไม่มีกระทู้แนะนำAnime สำหรับเรียนภาษาอังกฤษ เลยมาตั้งค่ะ

เราไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษนะคะ มีหลายจุดที่ยังต้องพัฒนาไม่ว่าจะเป็นแกรมม่าหรือการพูด แค่ชอบที่จะเรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะทำได้นานและได้ความรู้ไปด้วย เลยอยากแบ่งปัน กำลังพัฒนาค่ะ และมุ่งหวังที่จะพัฒนาไปให้สูงกว่านี้ ดังนั้นมีข้อแนะนำหรือติชมยังไง ยินดีรับฟังนะคะ อยากรู้วิธีของหลายๆท่านเช่นเดียวกัน

กระทู้นี้เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเรียนภาษาอังกฤษ
โดยที่อาจจะ : ชอบดูAmime
                      เพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้การฟัง (เพราะถ้าฟังเก่งๆแล้วไปเรียนจากหนังก็ดีนะคะ สำหรับเราหนังแนวที่เราชอบนั้นยากเกินไปค่ะ ฟังไม่ออกเลย และเสียอารมณ์เวลาดูไม่รู้เรื่อง ถ้ามีพอทนก็Game of Throne พูดช้าดี)

เนื้อหาในกระทู้นี้คงเป็นการแนะนำAnimation น่าดูสำหรับเราไปในตัว ซึ่งจะแบ่งระดับความยากสำหรับ Eng dub (การพากษ์ภาษาอังกฤษเอาไว้) โดยใช้เกณฑ์ตัวเองค่ะ       
             
Animation แนวที่เราชอบได้แก่ Fantasy , Dark , Action , Comedy ,Slice of life ,Romance เป็นส่วนมากนะคะ  อาจไม่ตรงกับบางคนก็ต้องขออภัย

สำหรับคนที่ยังฟังไม่ค่อยเก่ง เราแนะนำว่าให้ดูเป็น English subtitle หรือซับไทย ไปก่อนนะคะ พอเข้าใจเนื่อเรื่องคร่าวๆแล้วก็ดูเป็นภาษาอังกฤษล้วน ไม่งั้นถ้าดูไม่รู้เรื่องมันจะน่าเบื่อแล้วไม่อยากดูค่ะ
ข้อดีของการฝึกจากAnimation นะคะ
1.    เราชอบค่ะ 555
2.    ภาษาที่พากษ์ฟังง่ายกว่าการดูจากภาพยนต์มาก ตัวละครจะพูดชัดเจน ฟังง่ายกว่ามากค่ะ
ข้อเสีย
1.    ส่วนมากเป็นAnimation ญี่ปุ่นซึ่งฝึกฟังสำเนียงพร้อมอ่านภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ เพราะEng sub ส่วนใหญ่จะไม่ตรงกับสียงพากษ์ค่ะ แต่ถ้าใครหา ที่ตรงกันได้ก็ช่วยแนะนำ จขทก.ทีนะคะ อยากได้เหมือนกัน

ระดับแรกที่เราแนะนำนะคะ

ระดับง่ายค่ะ ง่ายสำหรับเราในที่นี้คือ เป็นคำศัพท์ในชีวิตประจำวันทั่วไป ศัพท์เฉพาะน้อยและตัวละครพูดชัดเจนค่ะ ดูแบบเรื่อยๆไม่ต้องเปิดกลับไปมาได้ เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนค่ะ เล่นกันตรงๆเลยดูเข้าใจง่ายมากๆ

1.    Gekkan shoujo nozaki-kun
เนื้อเรื่องสนุกเป็นแนว Romantic comedy เล็กน้อย เกี่ยวกับความรักของ ซากุระที่หลงรัก โนซากิคุงที่เป็นนักเขียนการูตูนผู้หญิงโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวซักทีค่ะ คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตลกมากๆ ตลกที่สุดในเรื่องทั้งหมดที่เราเคยดู เราดูไปหัวเราะไปอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะแบบหัวเราะดังๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมากๆค่ะ สนุกมากจริงๆแนะนำว่าถ้ายังไม่เคยดู ก็ดูเถอะค่ะ ใครเริ่มต้นก็ดูเรื่องนี้ค่ะ ศัพท์ในโรงเรียน (ปล.ดนตรีประกอบเพลงเพราะสุดยอดจริงๆ ฟังแล้วเราประทับใจเพราะเพลงตั้งแต่แรกเลยค่ะ)



2.    Soul Eater แนว Comedy Action Fantasy เสียงพากษ์อิ้งฮาดีค่ะ ฟังง่าย มีศัพท์เฉพาะเล็กน้อย แต่โดยรวมไม่ยาก ศัพท์เฉพาะก็จะพูดซ้ำๆ มีไม่กี่คำ เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม ของเหล่าโรงเรียนยมฑูตฝึกหัดที่ต้องการทำให้อาวุธ (ในที่นี่คือคนที่แปลงเป็นอาวุธได้) กลายเป็น เดธไซต์ ค่ะ สามตอนแรกบ้าบอไปหน่อยแต่พอเข้าเมนเรื่องจะสนุกค่ะ



3.    Kids on the Slope เป็น Romance , Drama , Slice of life ค่ะ เรื่องของกลุ่มเพื่อนนักเรียนม.ปลายในยุคประมาณหลายสิบปีที่แล้วของญี่ปุ่นมั้งค่ะ โดยเป็นตัวเอกของเรื่องจะตั้งวงดนตรีแจ๊สและมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ ถ้าใครชอบเพลงแจ๊ส เพลงบรรเลงใสๆก็แนะนำค่ะ เพลงเพราะมาก เนื่อเรื่องสำหรับเราก็มีสะดุดบ้างแต่ก็พอดูได้เรื่อยๆค่ะ



4.    Gurren lagan หลายคนคงรู้จักดีนะคะ เป็น Action ,Comedy ,fantasy เนื้อเรื่องดำเนินเร็วดี เกี่ยวกับกลุ่มคนในอุโมงค์ที่จะมาหาความจริงบนพื้นโลกโดยมีการต่อสู้ด้วยหุ่นยนต์ค่ะ เนื้อหาง่าย ศัพท์เฉพาะน้อยค่ะ ดูได้เรื่อยๆสำหรับเรา



5.    Grimgar of fantasy and ash แนว เกมส์ออนไลน์ การผจญภัยและเวทมนต์ แต่เป็นแนวเกมส์ออนไลน์แบบตัวเอกไม่ได้เก่งเว่อ ไม่ได้ตามตบบอส แต่เป็น Slice of life ของเกมส์ ฟังง่ายมาก ดูได้เรื่อยๆค่ะ



6.    Samurai Champloo แนว Action History Comedy เรื่องราวของนักดาบสองคนที่นิสัยต่างกันสุดขั้วและหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินทางด้วยกันเพื่อตามหาซามูไรที่มีกลิ่นดอกทานตะวันค่ะ เรื่องนี้ดูแล้วแนวๆดี เหมือนดูอะไรเกรียนๆมันส์สักอย่าง พูดเร็วแต่ชัดและฟังง่ายมากค่ะ ฉากแอคชั่นสนุกมาก เนื้อเรื่องสนุก



7.    Inuyasha ปีศาจ fantasy drama romance ลูกครึ่งปีศาจตามหาเศษลูกแก้วกับมนุษย์ เนื้อเรื่องสนุกดีแต่ยืดไปหน่อยเหมาะสำหรับฝึกภาษาระยะยาวเพราะเรื่องยาวมากเหลือเกิน ภาษาฟังง่ายมาก มากสุดๆ ใครเริ่มต้นจริงๆก็เรื่องนี้ก็ได้ค่ะ ยาวดี คงดูได้นาน



8.    เกือบทุกเรื่องของ Studio Ghibli ค่ะ ยกเว้น When the wind rise อนิเมชั่นของค่ายนี้ก็อย่างที่รู้กัน เป็นมิตรต่อสุขภาพจิต เนื่อเรื่องทุกเพศทุกวัย ฟังง่าย และสนุกค่ะ แนะนำรวมไปเลยละกัน ส่วนมากเป็นแฟนตาซีเบาๆ ไม่มีปวดตับใดๆ



9.    Death Parade เรื่องเกี่ยวกับการตัดสินว่าวิญญาณหลังตายแล้วจะไปเกิดหรือดับสูญค่ะ โดยตัดสินจากการเล่นเกมส์ในบาร์ เนื้อเรื่องแปลกดี มีความรู้สึกเหมือนแนวปรัชญาและการตั้งคำถามในชีวิตมนุษย์ค่ะ แต่เดาง่ายไปหน่อย ฟังง่ายค่ะ ตัวละครมีเสน่ห์ หลังตอนที่7 สนุกมาก



ระดับยากปานกลางค่ะ คือมีศัพท์เฉพาะบ้าง ฟังแล้วอาจไม่ชัดเจน ต้องมีการทวนซ้ำ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ดูรู้เรื่องค่ะ เปิดย้อนบ้างไม่เป็นไร เนื้อเรื่องอาจซับซ้อนขึ้นมานิดนึง
1.    Full Metal Alchemist : Brotherhood คิดว่าคนที่ดูAnimation คงรู้จักกันทุกคนนะคะ เพราะดังจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เนื้อเรื่องสนุกมาก ถ้าให้เราจัดอันดับเรื่องที่สนุกที่สุดในใจตลอดกาลก็เรื่องนี้แหละค่ะ ไม่ต้องคิดเลย ภาษาอังกฤษพากษ์ดีมากค่ะ อยากจะเอาไปใส่ในส่วนของง่ายด้วยซ้ำแต่เรื่องมันซับซ้อนหน่อย เลยเอามาไว้ปานกลาง เนื้อเรื่องไว ไม่น่าเบื่อเลย ติดงอมแงมจริงๆ คำเดียวคือ ดูเถอะ!



2.    Acttack on titan แนว Dark fantasy , Action , Drama เนื้อเรื่องสนุก ดำเนินไว คาดเดาเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้ ฉากแอคชั่นเลิศ ภาพงาม ตัวละครมีเอกลักษณ์ เอาเป็นว่าสนุกมาก ภาษาฟังง่าย แต่ตรงอธิบายลักษณะจำเพาะบางอย่างอาจงงต้องกลับมาเปิดฟังซ้ำ แต่เนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ ดูรวดเดียวจบเลย ^^



3.     Maoyuu maou yuusha จอมมารนักเศรษฐศาสตร์กับผู้กล้า ตรงตัวค่ะ เป็นอนิเมชั่นที่ได้รับความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ จากใจ เราดูไม่จบค่ะ ไม่รู้ทำไม แต่คนอื่นบอกสนุกหมดและดังมาก



4.    The devil is a Partimer จอมมารอีกแล้ว ผู้กล้าอีกแล้ว แต่เป็นจอมมารที่ขยันอดทน ไปทำงานหาเลี้ยงตัวเองในโลกมนุษย์หลังจากหนีการตามล่าของผู้กล้า และผู้กล้าก็ตามมาด้วย ตลกดี ดราม่าบ้าง การกระทำตัวละครไร้เหตุผลบ้าง ดูได้เรื่อยๆเน้อ



5.    Mushishi ออกแนวลึกลับ ภาพสวยมากที่สุดในทุกเรื่องที่กล่าวมา เนื้อเรื่องน่าติดตาม เป็น Slice of life เกี่ยวกับเคสต่างๆของสิ่งที่เป็นแมลงกับเหตุการณ์ประหลาดในยุคโบราณของญี่ปุ่น (คล้ายๆวิญญาณสำหรับในเรื่องนี้แต่เรียกเป็นแมลง) ดูสนุก ไม่ได้ฟังยากอะไรมาก ดูนานแล้ว และแนะนำให้ดูค่ะ



6.    B-toom แนวเอาตัวรอดบนเกาะและการฆ่ากันเองของมนุษย์ เนื้อเรื่องน่าติดตาม ระเบิดกันตูมตาม ภาพสวย แอคชั่นมันส์ แนวผู้ใหญ่หน่อยค่ะ โดยรวมสนุก ดูไม่เบื่อ เข้าใจไม่ยาก



7.    When the wind rises ของStudio Ghibli ยากตรงศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับการบินค่ะ เราชอบเรื่องแนวทำตามความฝันอยู่แล้ว โดยใช้เค้าโครงเรื่องจริง ค่ายนี้ไม่ค่อยทำอนิเมะแนวนี้นะคะ




ระดับยากค่ะ (สำหรับเรา) คือเนื้อเรื่องซับซ้อน มีศัพท์เฉพาะเยอะ แต่สนุก เลยพพยายามดูพยายามแปลค่ะ มีเปิดซับอิ้งเพราะไม่เข้าใจเป็นบางช่วง

1.    Tokyo ghoul ค่ะ แนวDark fantasy drama ปวดใจ เรื่องราวของหนุ่มอับโชคที่เกือบโดนผีดิบกินแล้วรอดตายมาได้โดยถูกปลูกถ่ายผีดิบเข้ามในตัวทำให้ต้องกินมนุษย์เพื่อเอาชีวิตรอดโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องการ เนื้อเรื่องสนุก แปลกใหม่ ตัวละครมีมิติมาก ดูแล้วอิน จริงๆภาษาไม่ได้ยากมาก แต่มีตรงศัพท์พลังเฉพาะ และเนื้อเรื่องที่มันซับซ้อนหน่อย คือดูแล้วต้องดูใหม่สำหรับคนไม่เคยรู้เนื้อเรื่องค่ะ งงๆบ้าง แต่ก็เห็นหลายคนบอกว่าอนิเมะตัดรายละเอียดเยอะเลยดูแล้วงง ก็คงจริงค่ะ แต่สนุกมากๆแนะนำให้ดูจริงๆค่ะ



2.    Spice and wolf การเดินทางของเทพเจ้าหมาป่ากับพ่อค้าค่ะ จริงๆภาษาไม่ได้ยากมาก ภาคแรกดูแล้วเข้าใจทั้งหมด แต่พอภาคสองเอาหลักการค้ามาอธิบายแล้วงงค่ะ ดูนานแล้วยังไม่ได้ดูซ้ำ เลยให้อยู่หมวดนี้ไปก่อน โดยรวมสนุกดีค่ะ



3.    Stein-gate ภาษายากค่ะ เป็นไซไฟ สนุกดีแต่ตอนดูเราดูซับสลับกันไปค่ะ เรื่องของการย้อนเวลา และบทพูดที่ฟังดูฉลาดๆ สนุกค่ะ
คิดไม่ออกแล้วอะค่ะ จริงๆก็ดูตามคนอื่นแนะนำ ถ้าไม่สนุกจริงๆ ระดับยากก็ไม่ค่อยจะทนดู



อันนี้แถม ระดับปราบเซียนสำหรับเรา คือเนื้อเรื่องสนุกมาก จะดูนานแล้วแต่ฟังไม่ออกจริงๆ หลังๆเลยดูซับเลย ซึ่งตอนแรกๆดูซับอิ้งก็ไม่เข้าใจ ต้องดูซับไทยก่อนไปดูซับอิ้งแล้วถึงดูแบบไร้ซับรู้เรื่อง เรื่องที่ว่าได้แก่



Psycho-pass สนุกมากจริงๆค่ะ ตอนนี้ดูจบแล้ว รวดเดียวสามวันครบทุกภาค เข้าใจแจ่มแจ้งทุกรายละเอียด สนุกจนหยุดไม่ได้ เนื้อเรื่องมีความคม และเล่าเรื่องอย่างชาญฉลาด บทของตัวละครสมเหตุสมผล ดูแล้วไม่มีความขัดแย้งกับการกระทำของตัวละครเลย เป็นเรื่แงที่ดูแล้วมีเหตุผลและการกรทำ ภาพดี บทพูดฉลาด แต่ภาษาอังกฤษนี่ก็ยากสุดๆแบบแปรผันตามกัน!!!

ถ้าดูรู้เรื่องรอบแรกภาษาอังกฤษของคุณคงดีแบบไปดูหนังได้สบายแล้วหละค่ะ และภาษาอังกฤษต้องดีกว่าเรามาก (หรือจริงๆเราก็อังกฤษห่วยแหละ คุณอาจจะไม่ได้เก่งมากก็ได้นะ 555)

สรุปสำหรับเรานะคะ เราใช้วิธีดูอนเมชั่นเพื่อฝึกภาษาแล้วเรารู้สึกว่าได้ผลเพราะเราชอบดูอยู่แล้วค่ะ เป็นใจรักที่สามารถพัฒนากับความรู้ไปได้พร้อมกัน แต่ถ้าใครไม่ชอบดูจะฝืนดูสิ่งที่ไม่ชอบเราว่าก็คงไม่ดีค่ะ สิ่งที่ดีสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน การฝึกวิธีอื่นอาจจะได้ผลดีแตกต่างกันแต่ละคน แต่นี่ก็เป็นแค่หนทางหนึ่งค่ะ

จริงๆอยากรีวิวเพิ่มแต่ตัวอักษรเกิน งั้นเอาแค่นี้ก่อนก็ดีค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ถ้าอะไรผิดไปก็ขอโทษด้วยนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ง่วง