เตือนภัย!! ระวังมิจฉาชีพล้วงมือถือย่านพาต้า

สวัสดีค่ะ มีเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นกับพี่สาวเราไม่นานมานี้เองค่ะ
เหตุเกิดที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามห้างพาต้า ปิ่นเกล้า พี่สาวเราพึ่งกลับจากหอเพื่อขนของกลับบ้านด้วยตนเอง โดยถือของยืนรอรถเมล์สาย 509 ระหว่างรอก็กดมือถือคุยกับเราซึ่งเป็นน้องสาวอยู่ เมื่อรถเมล์มาจอดที่ป้าย พี่สาวเราก็รีบเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา
แล้วเมื่อพี่สาวเรากำลังจะขึ้นรถเมล์ ก็มีผู้หญิง 2 คนวิ่งขึ้นตัดหน้าพี่สาวเรา พี่สาวเราจึงให้ขึ้นไปก่อนและยังอยู่ที่ป้าย
และมีผู้ชายอีกคนที่ยังยืนอยู่ที่ป้ายข้างพี่สาวเรา(ยืนด้านซ้ายของพี่เรา)ตะโกนถามกระเป๋ารถเมล์ว่า "ผ่านเดอะมอลล์บางแคไหม"
กระเป๋ารถเมล์จึงตอบว่า "ผ่าน" แต่ผู้ชายคนนั้นกลับตะโกนบอกผู้หญิงทั้ง2 (ที่ก่อนหน้านี้แย่งพี่สาวเราขึ้นโดยการวิ่งตัดหน้า)
ว่า "ไปเหอะไม่ไปเดอะมอลล์" (ซึ่งมันค่อนข้างแปลกที่ถามสถานที่ที่ไม่ได้ไป) จังหวะนั้นเองพี่สาวเราก็ขึ้นรถพอดี แล้วผู้หญิง 2 คนนั้นเดินสวนและชน กระแทกพี่สาวเรา แล้วพี่สาวเราก็ได้ขึ้นรถแล้วหันไปมอง 3 คนนั้น ทั้ง3ทำทีท่ารีบไปขึ้นรถด้านหลังพี่สาวเรา รถที่พี่สาวเราก็เคลื่อนไปแล้ว พี่สาวจึงคลำหาโทรศัพท์และพบว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว


วินาทีนั้นพี่สาวได้ยืมมือถือคนข้างๆโทรหาเรา(คนข้างๆก็แสนจะมีน้ำใจให้ยืม คนไทยมีน้ำใจชอบช่วยเหลือกันจริงๆ) เราเองเมื่อฟังก็ตกใจมากจึงได้หาใน Google เผื่อจะมีวิธีการใดใช้ได้บ้าง ลืมบอกค่ะ ก่อนโทรหาเราพี่สาวเราได้โทรเข้าเครื่องตัวเองและพบว่าไม่สามารถโทรได้เหมือนถูกปิดเครื่องไปแล้ว!!!
ต่อค่ะ


เราจึงได้เจอวิธีนึงจากกระทู้ http://ppantip.com/topic/34258773 ความคิดเห็นที่ 3 ของคุณ intelligence ว่า
"...ผม ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ กรณีที่มือถือหายหรือถูกขโมย ผมขอแนะนำติดต่อสถานีตำรวจเพื่อติดต่อพนักงานสอบสวนออกหนังสือตราครุฑ เพื่อขอทราบข้อมูลผู้จดทะเบียนเลขหมายโทรคมนาคมมายังกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียล มูฟ จำกัด ทั้งนี้ข้อมูลที่คุณต้องเตรียมไปด้วยขณะที่ติดต่อพนักงานสอบสวน ดังนี้ครับ
1. เบอร์โทรศัพท์ที่หาย
2. เลขที่ IMEI 15 หลัก
3. ชื่อผู้แจ้งความ
4. วัน เวลา และสถานที่ที่เกิดเหตุ

เมื่อคุณได้รับหนังสือตราครุฑแล้วสามารถนำส่งทางไปรษณีย์ที่ กองงานกฎหมาย อาคาร True tower ชั้น 28 เลขที่ 18 ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขว้าง กทม. 10310 หรือนำส่งด้วยตนเองได้ที่ทรูช้อปทุกสาขา ทั้งนี้ขอให้คุณทำสำเนาเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย เอกสารที่ต้องนำส่งมี ดังนี้ครับ
1. หนังสือตราครุฑ ขอตรวจสอบเครื่องโทรศัพท์
2. สำเนาบัตรประชาชน เซ็นต์สำเนาถูกต้อง..." ขออนุญาติก๊อปความคิดเห็นทั้งหมดของเจ้าของนะคะ เพื่อความสะดวกของผู้เข้ามาอ่านกระทู้นะคะ


เราจึงรีบโทรหาพี่สาวเรา(โดยโทรหาเบอร์คนข้างๆที่พี่สาวเรายืมมือถือมา)แล้วบอกกับพี่สาวเราให้รีบหาเลข IMEI จากกล่องโทรศัพท์ตอนซื้อเครื่องมา (เราก็พึ่งรู้มือถือมันตามกันได้!?)
ท่านใดอยากศึกษา อ่านได้จากลิงก์ทั้ง 2 นี้เลยนะคะ https://www.advice.co.th/it-news/683 http://www.acerspace.com/imei/


เมื่อพี่สาวเรากลับมาถึงบ้าน เราจึงถามไถ่พี่สาวเรา พี่สาวเราบอกได้ไปแจ้งความกับทางตำรวจแล้ว
เจ้าหน้าที่เป็นผู้กอง ร้อยตำรวจเอก ได้บอกกับพี่สาวเราว่า วันนี้(วันเดียวกันกับที่พี่สาวเราถูกล้วงมือถือ)ก็ได้มีคนมาร้องทุกข์เวลาเกิดเหตุใกล้เคียงกันกับพี่สาวเรา แต่สถานที่เดียวกัน!!!
และแนะนำว่าเอกสารที่ได้ออกให้ควรไปยื่นหลังวันเกิดเหตุ 1 เดือน เนื่องจากคนร้ายมักจะยังไม่ใช้มือถือทันทีทันใดเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามไม่ได้
และเจ้าหน้าที่(บริษัทที่ต้องไปยื่น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจนะคะ) มักจะตรวจสอบเพียงครั้งเดียว ซึ่งหมายถึงถ้ายื่นเอกสารเลย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบครั้งเดียวแต่คนร้ายยังไม่เปิดเครื่อง = ตรวจหาไม่ได้เลยนะคะ


และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกว่า คนที่ได้โทรศัพท์คืนมีนะครับ แต่ได้รับคืน 2 คน จาก 200 คน!! (โอ้วแม่เจ้า) ผู้กองจึงบอกต่ออีกว่า
มิจฉาชีพมักจะทำเป็นกลุ่ม อาศัยคนเยอะๆเพื่อบังไม่ให้มีใครเห็น และส่งมือถือกันมือต่อมือเพื่อไม่ให้รู้ว่าวัตถุนั้นอยู่กับผู้ใดแล้วกระจายตัวกันไป
ทางที่ดีควรถือโทรศัพท์ไว้กับมือดีที่สุดครับ

ตอนนี้พี่สาวเราได้แต่ทำใจค่ะ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้กับใครอีก เราเลยมาเขียนกระทู้เพื่อให้คนอื่นๆระวังตัวให้หนักค่ะ เพราะจากคำของผู้กองบอกว่ามีคนที่โดนแบบเดียวกันวันเดียวกันเวลาใกล้เคียงกัน แต่สถานที่เดียวกันเลย!!
จึงอยากให้ระวังกันมากๆนะคะ เป็นหูเป็นตากัน และอาจจะเกิดกับที่ที่มีผู้คนเยอะๆนะคะ ขอให้อย่ามีใครโดนลักษณะเดียวกันกับพี่เราอีกเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่