สวัสดีค่าาาาาา
ช่วงวันหยุดยาวๆ แบบนี้คนที่นั่งเปื่อยอยู่บ้านเหมือนจขกท.ก็คงจะหนีไม่พ้นการนั่งหาหนังดีๆมานั่งดูใช่มั้ยละคะ?
วันนี้เราเลยอยากให้ทุกๆคนมาช่วยกันแชร์หนังในดวงใจกัน เผื่อคนที่ว่างๆ เหงาๆ จะได้เปิดดูแก้เซ็งแก้เปื่อยกันได้เนาะ
ส่วนหนังที่เราจะมาแชร์ส่วนใหญ่ก็หาดูจากหลายๆกระทู้ในพันทิปนี่แหละค่ะ ใครว่าดีก็ไปหาดูตาม ชอบไม่ชอบก็คงขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนเน้อ
เราพยายามคัดเอาเฉพาะหนังที่เราชอบมากจริงๆมาแชร์ และไม่ขอเรียงตามลำดับนะคะ เพราะมีหลายเรื่องที่จัดอันดับให้ไม่ถูกจริงๆ เรื่องนั้นก็ดีเรื่องนี้ก็โดน เลือกยากจริงๆ แหะๆ เอาเป็นว่านึกเรื่องไหนออกก่อนก็จับใส่เลยแล้วกัน
สำหรับเรื่องแรกที่พอพูดถึงหนังดีที่อยากแนะนำ หนังที่นึกขึ้นได้เรื่องแรกคงหนีไม่พ้น The Shawshank Redemption ค่ะ เรื่องนี้ต้องติดอยู่ในทุกๆกระทู้หนังดีแน่นอน ใครยังไม่เคยดูต้องรีบหาดูกันนะคะ มีครบทุกรสในหนังเรื่องนี้เลย
เรื่องต่อมา สำหรับคนที่รักสัตว์และชอบหนังแนวสงครามค่ะ เรื่องนี้ยอมรับเลยว่าดูเพราะเฮียทอมแม้เฮียจะโผล่มาวับๆแวมๆก็ตาม แต่สุดท้ายก็หลงรักเรื่องนี้หมดใจเพราะความน่ารักของเจ้าโจอี้ ทั้งเอ็นดูทั้งสงสารเลยดูไปซะประมาณ 4-5 รอบได้สำหรับ War Horse
เรื่องที่ 3 The Terminal อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นหนังของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก เช่นเดียวกับ War Horse ค่ะ ปกติไม่เคยสนใจสักเท่าไหร่ว่าใครเป็นผู้กำกับ แต่เวลาดูหนังจบแล้วเห็นชื่อสตีเวน สปีลเบิร์ก ขึ้นมาเนี่ยจะรู้สึกปริ่มทุกที เพราะแทบจะไม่เคยผิดหวังกับหนังที่คุณลุงกำกับเลย
สำหรับ The Terminal เรื่องนี้ก็ดูแล้วรู้สึกปริ่มมากๆ Feel Good สุดๆ และเรื่องนี้ก็ต้องติดในทุกๆกระทู้หนังดีเช่นเดียวกันค่ะ ใครมีหนังแนวๆนี้อีกรบกวนแนะนำด้วยนะคะ
เรื่องที่ 4 อันนี้มาแนวสงครามค่ะ สำหรับ Schindler's list หนังของคุณลุงสตีเวนอีกแล้ว ติดหลายอันดับในใจหนูแล้วนะคะคุณลุง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดูแล้วสะเทือนใจที่สุดสำหรับเราเลย เกิดมาไม่เคยดูหนังที่ทำให้หดหู่ได้ขนาดนี้ จิตตกไปหลายวัน แม้จะเตรียมใจก่อนดูแล้วก็ตาม
ใครที่ชอบหนังเกี่ยวกับนาซีสงครามในยุคนั้นไม่ควรพลาดค่ะ แม้หนังเรื่องนี้จะเป็นภาพขาวดำทั้งเรื่อง (เห็นว่าจะช่วยลดความรุนแรงของฉากโหดร้าย จริงเท็จอย่างไรรบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะคะ) และหนังมีความยาวถึง 3 ชั่วโมงแต่ก็ทำให้เราก็นั่งดูจนจบได้โดยไม่ลุกออกจากเก้าอี้เลย คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการอรรถรสเพิ่มเติม เราแนะนำให้หาซื้อหนังสือ Night (คืนดับ) มาอ่านค่ะ
เรื่องที่ 5 ไหนๆก็มาแนวสงครามยุคนาซีแล้ว อีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด คือ The Boy in the striped pajamas เห็นภาพหน้าปกอย่าคิดเชียวว่าเป็นหนังเด็กๆใสๆ คิขุอาโนเนะ เพราะเรื่องนี้สำหรับความสะเทือนใจแล้วมีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หากคุณผ่าน Schindler's list มาก่อนแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องนี้เป็นหนังที่ทำให้เราสนใจศึกษาเรื่องสงครามในยุคนาซีจนถึงขั้นไปหาซื้อหนังสือมาอ่านรวมถึงยอมดู Schindler's list เพราะเรื่องนี้ด้วย
เรื่องที่ 6 About time เรื่องนี้ติดทุกกระทู้หนังดีเช่นกันค่ะ ดูแล้วปริ่มมากเช่นกันคือมัน feel good สุดๆ ดูไปสองรอบแล้วก็แอบปาดน้ำตาเบาๆ กับฉากเดิมๆ
ฉากนั้นคือน้ำตาเราไหลไม่รู้ตัวตอนที่พระเอกย้อนเวลากลับไปหาพ่อ อยากให้ทุกคนได้ดูมาก เรื่องนี้ทำให้เราได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ
เรื่องที่ 7 เรื่องนี้พลาดไม่ได้เช่นกันค่ะสำหรับ Intouchables หนังดีสุดๆ คุณแม่เราชอบมากๆ มีครบรสทั้งซึ้ง ตลก เศร้า ใครไม่ดูนี่พลาดอย่างแรงเลยนะคะ
ใครมีหนังแนวนี้อีกช่วยแนะนำ จขกท. ด้วยนะคะ
เรื่องที่ 8 The Martian เรื่องนี้ก็ให้อารมณ์ Feel good ค่ะ แม้พระเอกจะติดอยู่บนดาวอื่นเพียงลำพังแต่เขาก็ไม่ย่อท้อ พยามยามคิดหาหนทางเอาชีวิตรอดบนดาวดวงนี้ให้ได้นานที่สุด แอบลุ้นเอาใจช่วยพระเอกตลอดเลย ตอนที่เพื่อนๆของเขามาช่วยชีวิตนี่เรานี่แอบน้ำตาซึมเลยค่ะ ไม่ควรพลาดอย่างแรงเช่นกันค่ะเรื่องนี้
เรื่องที่ 9 Aftershock เรื่องนี้แหวกแนวจากเรื่องอื่นๆที่เราแนะนำนิดนึงค่ะเพราะเรื่องนี้เป็นหนังจากจีน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 1976 ที่เมืองถางซาน ประเทศจีน ปกติแล้วเราชอบดูหนังแนวภัยธรรมชาติอยู่แล้วแต่หาที่ถูกใจได้น้อยค่ะ ยกเว้นเรื่องนี้ คือสะเทือนอารมณ์มาก แม้จะมีฉากแผ่นดินไหวอยู่เพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ของเรื่องก็ตาม แต่มันทำให้เราเห็นเรื่องราวหลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่าสลดนั้นค่ะ เรื่องนี้ทำให้เราร้องไห้โฮเลยทีเดียว
เรื่องสุดท้าย เรื่องนี้เราเพิ่งได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ไม่รู้ไปอยู่หลุมไหนมาถึงพลาดหนังดีๆเรื่องนี้จากค่าย Walt Disney เรื่องนี้ชื่อ The odd life of Timothy Green เป็นเรื่องราวที่น่ารักมากๆ หนูน้อย Timothy หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ดูแล้วยิ้มทั้งเรื่องไปกับความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กชายจากสวรรค์คนนี้ (มีแอบเศร้าเล็กๆตอนท้ายๆเรื่องค่ะ)
จริงๆแล้วเรายังมีอีกหลายเรื่องที่เราชอบ อย่าง Just go with it
-Chef (ดูแล้วหิวตามเลยค่ะเรื่องนี้ หนังก็ดีมากๆเช่นกัน)
- Blended (เรื่องนี้ก็คล้ายๆ Just go with it ค่ะ ตลกดี น่ารักดีด้วย)
-Imitation Game (เรื่องนี้ดีมากๆค่ะ แม้จะเริ่มดูเพราะเฮียเบนก็ตาม กร๊ากๆ
)
-Harry Potter ทุกภาคเลยค่ะ เป็นหนังที่เรารักและดูบ่อยที่สุด ภาคละไม่ต่ำกว่า 5 รอบ โดยเฉพาะ ภาค 3
-Iron man เรื่องนี้เราก็ดูบ่อยมากๆ อันนี้ก็ไม่ต่ำกว่าภาคละ 5 รอบเช่นกัน
คือเราดูได้หลายแนวไม่ค่อยยึดกับแนวไหนเป็นพิเศษ ยกเว้นหนังผีที่เราไม่กล้าดูเลย เพราะฉะนั้นใครมีหนังดีๆ เด็ดๆ มาแนะนำกันได้เลยนะคะ
หากเราพิมพ์ตก พิมพ์ผิด หรือใส่ข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
มาช่วยกันแชร์หนังดีในดวงใจของทุกคนกันค่ะ
วันนี้เราเลยอยากให้ทุกๆคนมาช่วยกันแชร์หนังในดวงใจกัน เผื่อคนที่ว่างๆ เหงาๆ จะได้เปิดดูแก้เซ็งแก้เปื่อยกันได้เนาะ
ส่วนหนังที่เราจะมาแชร์ส่วนใหญ่ก็หาดูจากหลายๆกระทู้ในพันทิปนี่แหละค่ะ ใครว่าดีก็ไปหาดูตาม ชอบไม่ชอบก็คงขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนเน้อ
เราพยายามคัดเอาเฉพาะหนังที่เราชอบมากจริงๆมาแชร์ และไม่ขอเรียงตามลำดับนะคะ เพราะมีหลายเรื่องที่จัดอันดับให้ไม่ถูกจริงๆ เรื่องนั้นก็ดีเรื่องนี้ก็โดน เลือกยากจริงๆ แหะๆ เอาเป็นว่านึกเรื่องไหนออกก่อนก็จับใส่เลยแล้วกัน
สำหรับเรื่องแรกที่พอพูดถึงหนังดีที่อยากแนะนำ หนังที่นึกขึ้นได้เรื่องแรกคงหนีไม่พ้น The Shawshank Redemption ค่ะ เรื่องนี้ต้องติดอยู่ในทุกๆกระทู้หนังดีแน่นอน ใครยังไม่เคยดูต้องรีบหาดูกันนะคะ มีครบทุกรสในหนังเรื่องนี้เลย
เรื่องต่อมา สำหรับคนที่รักสัตว์และชอบหนังแนวสงครามค่ะ เรื่องนี้ยอมรับเลยว่าดูเพราะเฮียทอมแม้เฮียจะโผล่มาวับๆแวมๆก็ตาม แต่สุดท้ายก็หลงรักเรื่องนี้หมดใจเพราะความน่ารักของเจ้าโจอี้ ทั้งเอ็นดูทั้งสงสารเลยดูไปซะประมาณ 4-5 รอบได้สำหรับ War Horse
เรื่องที่ 3 The Terminal อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นหนังของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก เช่นเดียวกับ War Horse ค่ะ ปกติไม่เคยสนใจสักเท่าไหร่ว่าใครเป็นผู้กำกับ แต่เวลาดูหนังจบแล้วเห็นชื่อสตีเวน สปีลเบิร์ก ขึ้นมาเนี่ยจะรู้สึกปริ่มทุกที เพราะแทบจะไม่เคยผิดหวังกับหนังที่คุณลุงกำกับเลย
สำหรับ The Terminal เรื่องนี้ก็ดูแล้วรู้สึกปริ่มมากๆ Feel Good สุดๆ และเรื่องนี้ก็ต้องติดในทุกๆกระทู้หนังดีเช่นเดียวกันค่ะ ใครมีหนังแนวๆนี้อีกรบกวนแนะนำด้วยนะคะ
เรื่องที่ 4 อันนี้มาแนวสงครามค่ะ สำหรับ Schindler's list หนังของคุณลุงสตีเวนอีกแล้ว ติดหลายอันดับในใจหนูแล้วนะคะคุณลุง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดูแล้วสะเทือนใจที่สุดสำหรับเราเลย เกิดมาไม่เคยดูหนังที่ทำให้หดหู่ได้ขนาดนี้ จิตตกไปหลายวัน แม้จะเตรียมใจก่อนดูแล้วก็ตาม
เรื่องที่ 5 ไหนๆก็มาแนวสงครามยุคนาซีแล้ว อีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด คือ The Boy in the striped pajamas เห็นภาพหน้าปกอย่าคิดเชียวว่าเป็นหนังเด็กๆใสๆ คิขุอาโนเนะ เพราะเรื่องนี้สำหรับความสะเทือนใจแล้วมีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หากคุณผ่าน Schindler's list มาก่อนแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องนี้เป็นหนังที่ทำให้เราสนใจศึกษาเรื่องสงครามในยุคนาซีจนถึงขั้นไปหาซื้อหนังสือมาอ่านรวมถึงยอมดู Schindler's list เพราะเรื่องนี้ด้วย
เรื่องที่ 6 About time เรื่องนี้ติดทุกกระทู้หนังดีเช่นกันค่ะ ดูแล้วปริ่มมากเช่นกันคือมัน feel good สุดๆ ดูไปสองรอบแล้วก็แอบปาดน้ำตาเบาๆ กับฉากเดิมๆ
ฉากนั้นคือน้ำตาเราไหลไม่รู้ตัวตอนที่พระเอกย้อนเวลากลับไปหาพ่อ อยากให้ทุกคนได้ดูมาก เรื่องนี้ทำให้เราได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ
เรื่องที่ 7 เรื่องนี้พลาดไม่ได้เช่นกันค่ะสำหรับ Intouchables หนังดีสุดๆ คุณแม่เราชอบมากๆ มีครบรสทั้งซึ้ง ตลก เศร้า ใครไม่ดูนี่พลาดอย่างแรงเลยนะคะ
ใครมีหนังแนวนี้อีกช่วยแนะนำ จขกท. ด้วยนะคะ
เรื่องที่ 8 The Martian เรื่องนี้ก็ให้อารมณ์ Feel good ค่ะ แม้พระเอกจะติดอยู่บนดาวอื่นเพียงลำพังแต่เขาก็ไม่ย่อท้อ พยามยามคิดหาหนทางเอาชีวิตรอดบนดาวดวงนี้ให้ได้นานที่สุด แอบลุ้นเอาใจช่วยพระเอกตลอดเลย ตอนที่เพื่อนๆของเขามาช่วยชีวิตนี่เรานี่แอบน้ำตาซึมเลยค่ะ ไม่ควรพลาดอย่างแรงเช่นกันค่ะเรื่องนี้
เรื่องที่ 9 Aftershock เรื่องนี้แหวกแนวจากเรื่องอื่นๆที่เราแนะนำนิดนึงค่ะเพราะเรื่องนี้เป็นหนังจากจีน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 1976 ที่เมืองถางซาน ประเทศจีน ปกติแล้วเราชอบดูหนังแนวภัยธรรมชาติอยู่แล้วแต่หาที่ถูกใจได้น้อยค่ะ ยกเว้นเรื่องนี้ คือสะเทือนอารมณ์มาก แม้จะมีฉากแผ่นดินไหวอยู่เพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ของเรื่องก็ตาม แต่มันทำให้เราเห็นเรื่องราวหลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่าสลดนั้นค่ะ เรื่องนี้ทำให้เราร้องไห้โฮเลยทีเดียว
เรื่องสุดท้าย เรื่องนี้เราเพิ่งได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ไม่รู้ไปอยู่หลุมไหนมาถึงพลาดหนังดีๆเรื่องนี้จากค่าย Walt Disney เรื่องนี้ชื่อ The odd life of Timothy Green เป็นเรื่องราวที่น่ารักมากๆ หนูน้อย Timothy หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ดูแล้วยิ้มทั้งเรื่องไปกับความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กชายจากสวรรค์คนนี้ (มีแอบเศร้าเล็กๆตอนท้ายๆเรื่องค่ะ)
จริงๆแล้วเรายังมีอีกหลายเรื่องที่เราชอบ อย่าง Just go with it
-Chef (ดูแล้วหิวตามเลยค่ะเรื่องนี้ หนังก็ดีมากๆเช่นกัน)
- Blended (เรื่องนี้ก็คล้ายๆ Just go with it ค่ะ ตลกดี น่ารักดีด้วย)
-Imitation Game (เรื่องนี้ดีมากๆค่ะ แม้จะเริ่มดูเพราะเฮียเบนก็ตาม กร๊ากๆ
-Harry Potter ทุกภาคเลยค่ะ เป็นหนังที่เรารักและดูบ่อยที่สุด ภาคละไม่ต่ำกว่า 5 รอบ โดยเฉพาะ ภาค 3
-Iron man เรื่องนี้เราก็ดูบ่อยมากๆ อันนี้ก็ไม่ต่ำกว่าภาคละ 5 รอบเช่นกัน
คือเราดูได้หลายแนวไม่ค่อยยึดกับแนวไหนเป็นพิเศษ ยกเว้นหนังผีที่เราไม่กล้าดูเลย เพราะฉะนั้นใครมีหนังดีๆ เด็ดๆ มาแนะนำกันได้เลยนะคะ
หากเราพิมพ์ตก พิมพ์ผิด หรือใส่ข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ